Skip to main content

 

 

                            “  kasian ”

 

I  am  an  ud – ad   man.

Living    in  ud – ad   Thailand.

I  wonder  why  it  is  so.

 

    Maybe   because  the   general  tell  me  to  go.

 

    I  am  an  ud – ad  man.

He  says   I  don ’t  own  this  land.

It   I’s  alright   if  I  agree  with  him.

Otherwise   my  future   looks  dim.

 

     I  am  an  ud – ad  man.

He  wishes  to  kick  me  out  of  this  land.

Simply   because  I  think   otherwise.

 

   And  he  says  that  isn ’t   right.

 

       I  am  an  ud – ad  man.

Born  and  grow  up  in  ud – ad   land.

It ’s  the  land  of the  free.

So  long  as  you  don’t  talk,  hear   and  see.

 

   This  is  the  ud  -  ad  land.

Bear  it  if  you  can.

Here  love  is   compulsory.

And  hatred    is  given   freely.

 

   Long  live  ud  -  ad – ness!

 

Think   otherwise  and  you   might  be  dead.

Ud – ad  is   uniquely   Thai.

   Freedom   is  a  foreign  vice.

 

* ( งานเขียน ของ “อาจารย์  เกษียร  เตชะพีระ”  เขียนลงใน  Blogazine “ประชาไท” …20  มีนาคม   2013  - 03 . 14 )

 

 

 

    หมายเหตุ :  อ่านแล้วอยากแปล เพราะชอบ  จึงขออนุญาต อาจารย์แปล  งานเขียน (บทกวี ของอาจารย์)  มา ณ ที่นี้ด้วย …คงอาจจะผิดเพี้ยนไปบ้าง ด้วยข้าพระพุทธเจ้า แปลเป็นภาษากวี ตามสไตล์ ของข้าพระพุทธเจ้าเอง และด้วยความอ่อนด้อยในด้านภาษาปะกิต ของข้าพระพุทธเจ้า

 

         … ถ้าจะให้ดี ต้องขอความกรุณา “อาจารย์ เกษียร  เตชะพีระ” แปลให้พวกเราสาธารณชน ฟัง อ่านดูอีกที!

 

             - - -  ค ว ร  - ไม่ – ควร –แล้ว – แต่  - จัก  - โปรด – พ่ะ  - ย่ะ – ฮัฟฟ์.

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

 

                  ข้า คือ  ค น  ที่ แ ส น ที่ จะ  อึ ด อั ด

                @   ข้า   เป็น มนุษย์ ที่  แ ส น จะ อึ ด อั ด

ดำรงชีวิต อยู่ใน  “ ประเทศ อึ ด อั ด ไ ท ย” !

ข้า ก็ ฉงนฉงาย ใจ ว่า …ไยจึงเป็นเช่นนั้น?

อืออมม์  … อาจเป็นเพราะว่า ท่านนายพลผู้ยิ่งใหญ่ ตวาด

-        - -  ต วา ด  บอกให้ เฉดหัว ข้าออกไป

 

           @   ข้า เป็นผู้ชายที่รู้สึกว่า ข้าอึดอัด

นายพล บอกว่า …ข้ามิใช่เจ้าของดินแดนแห่งนี้

อืออม์ … มันอาจจะใช่   ถ้าข้ายอมปรองดอง เห็นด้วยกับเขา

          มิเช่นนั้น อนาคตของข้า จักต้อง ริบหรี่ มืดมนอนทกาล

 

               @  ข้า เป็นคนที่โคตรแสนจะอึดอัด

ก้อ  เค้า อีกนั่น แระ

ที่ต้องการ  เ ตะ โ ด่ ง  ข้า  ออกไปจากดินแดนแห่งนี้

โอ้… ช่างแสนจะปฏิบัติการ ได้ง่ายดาย ซะ เหลือเกิน

-        - -  ด้วยเพราะ ข้า คิดแตกต่างจากเขา

เขา จึงตวาดว่า…ที่ข้าคิดเห็นเช่นนั้น   ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง!

 

          @  ข้า  คือคนที่แสนจะอึดอัดอั้นตันใจ

ที่ได้ กำเนิด  และ เติบโต  ในดินแดนที่  อึ ด อั ด  แห่งนี้!

 

             … มัน จักเป็นดินแดน ที่มี   อิ ส ระ ภา พ    เ ส รี ภา พ

ตราบเท่าที่ เ จ้า ได้  หุ บ  ปา ก ,  อุดหู   และ  บ อ ด ใ บ้

 

             @  นี่คือ ดิ น แ ด น ที่ แ ส น จะ อึ ด อั ด

อดทน  ทนอด เอาไว้…

ถ้า เจ้า สามารถ ทำได้

ความรัก ที่นี่ … แบบนี้

จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่เจ้าจัก ต้อง สนับสนุน ยินยอม แบกรับ ทำตาม

แล้ว  ความน่ารังเกียจ ชิงชัง ที่มีต่อเจ้า

-        - -  ก็จักได้รับการอภัย และ มอบอิสรเสรีให้ ฟรีๆ  (  “พี่นี้มีแต่ให้”)

 

อย่าง…

  “จุงเบย”

  …”บ่อง ต๊ง !”

 

   @   ความ อึด อัด อั้น ตัน ใจ     จ ง เ จ ริ ญ !

         ท ว่า … เมื่อใด หากเจ้าคิดเป็นอื่น

         ค วา ม ตา ย  จักต้องมาเยือนเจ้าอย่าง สวยสด งดงาม!

 

               - - -   โ อ … ช่างสุดแสนวิเศษ เป็นหนึ่งเดียวกันนัก

“ประเทศ อึ ด อั ด ไ ท ย แ ล น ด์ แ ด น ฮิ ฮิ … ฮึ่ม  ฮึ่ม ! แห่งนี้!

         . . .  จ ง จำ เอา ไ ว้

                      “อิสรภาพ  เสรีภาพ”

-       - -  คือ ความชั่วร้าย  เสนียด จังไร…

-       ที่ พวก เจ้า รับเอามาจาก  ต่าง ประ เท ศ @

 

ราตรีดื่นดึกอันมืดดำ : ๒๒  มีนาคม ๒๕๕๖

ฤดูร้อนตับแตก :  ราบสูง หว่าง ดอยเหนือ

ประเทศล้านนาอิสระ ,  เจียงใหม่.

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ฉั น นั่งคุยกับ อ. เปี๊ยก(เพื่อนร่วมชีวิตกับสุดสะแนน) ใต้ร่มต้นมะปราง ลิ้นจี่ ลำใย ฯลฯ ณ ร้าน - บ้าน "สุดสะแนน" ฉั นมักมาพำนักที่นี่เสมอด้วยความกรุณาของผองเพื่อนพีน้องสุดสะแนน ดังที่ฉั น เคยเขียนว่า ที่นี่เป็นป่าในเมือง รายล้อมด้วย ตึก คอนโด เกสต์เฮ้าส์ ฯลฯไก่ชนรูปร่างสง่างามคุ้ยเขี่ยหาอาหารใต้ร่มไม้กะ อ.เปี๊ยก ที่ผูกเปลนอนใต้ร่มไม้ ไก่ชนตัวนี้รอดชีวิตมาได้ เพื่อนๆจะเอาไปต้มกิน แต่ "อ.คิง" เอามาที่สุดสะแนน ก่อนที่เพื่อนๆจากเชียงของ, เชียงราย จะมาบ้าน "อ้ายต้อม และ พี่กบ" ที่สันทรายแม่โจ้, เชียงใหม่....เพื่อนๆ จากเชียงของคือผู้ที่ปกป้องรักษารากเหง้าวิถีชีวิตให้กับโลก แผ่นดิน…
แสงดาว ศรัทธามั่น
เ ดื อ น - ดา ว งามแจ่มฟ้าลาวัณย์แ ร ม - เรืองรองพลันบรรเจิดจ้าป ระ กา ย - เดือนดาวแห่งคืนวันดับวูบ แล้วเฮยเ รื อ ง - เรื่อเหลืองอร่ามแล้วอาบโลก งามนิรันดร์ ฯน้ อ ง ชา ย....ยินข่าวเจ้ากลับคืนสู่ผืนดินข่าวคราวจากผองเพื่อนแห่งล้านนาฉัน งงงวย และใจหายต่อมา... เริ่มเข้าสู่ห้วงภวังค์จิตสมาธิ* " ต ถา ตา .... มันเป็นไปเช่นนั้นเอง "
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1) ธ ร ร ม ชา ติบ่า ยในห้วงฤดูฝนนี้ ณ "สุดสะแนน"ฟ้าครื้มเมฆ ใบไม้ไม่ไหวติง ผีเสื้อยังคงเริงรำร่อนดูดดื่มเกสรดอกไม้ ไก่แจ้บางตัวคุ้ยเขี่ยหาอาหาร บางตัวก็พักผ่อนไซร้ขนนอนหลับ แม่ไก่ที่นี่มีสามสี่ครอก งดงามนักน่าขำและงดงามไก่แจ้ครอกหนึ่งมีแม่สองตัวช่วยกันเลี้ยง ถาม "อ้ายฮวก"เจ้าของร้านสุดสะแนนเธอบอกว่า "แม่ไก่สองตัวช่วยกันฝัก" งดงามมากเลย... ผีเสื้อสีน้ำเงินบินมาเกาะที่แก้วน้ำฉันฉันนั่งอยู่ใต้ร่มไม้มะม่วงอันร่มรื่น มดแดงมาเกาะที่แขนฉันฉันค่อยๆจับเขาไปปล่อยเกาะที่ร่มมะม่วง
แสงดาว ศรัทธามั่น
 (1)พรรษาราตรีพรรษาฤดูฉันนั่ง ณ ลานโล่งกว้างแห่งเมืองใหญ่ยามราตรีนี้ทุ่งฟ้าดูมิสดใสด้วยเมฆฝนทว่า...เป็นครรลองของธรรมชาติที่เป็นไปเช่นนั้นเอง“ตถาตา”
แสงดาว ศรัทธามั่น
( 1 ) พ ลิ้ ว โ ผ แ ล โ อ บ ก อ ดอรุณรุ่ง ฉันนั่งใต้ร่มไม้มะม่วง ณ ที่นี่มีต้นไม้พันธุ์ไม้หลากหลาย ฯลฯทั้งไม้ดอก ไม้แดก ( หมานถึงกินได้ ) เช่น มะม่วง มะปราง ลิ้นจี่ตาขบ ฯลฯ ที่นี่ ถือว่า เป็นป่าในเมือง มีความร่มรื่น มี นก หนูแมลง กระรอก ผีเสื้อ แมลงปอ กบ เขียด ปาด อึ่งอ่างคางคก และไก่แจ้ ฯลฯ ขณะฉันเดินออกกำลังกาย รับแสงตะวันยามเช้าไก่แจ้หลายตัวก็เริงรำย่ำย่างมาหาฉัน ฉันรู้ว่าเขาต้องการอะไรฉันรีบเดินไปเอาข้าวสาร ณ บ้าน - ร้านนี้ มาโปรยปรายให้พวกเธอบ้ า น - ร้านนี้ล้อมรอบไปด้วย ตึก คอนโด ด้านทิศตะวันออก กำลังสร้าง ตึก คอนโด ฉันคำนวณความสูงไม่ต่ำกว่าสิบชั้น...โอ้ ...นกกระจอกมาแล้ว…
แสงดาว ศรัทธามั่น
*1  เรียวนิ้ว บรรเลง เพลง บลูส์ กีร์ต้า     เรียวปาก พริ้ม ฮาร์โมนิการ์ขับขาน*2  กลอง บองโก้ บรรเลง เพลงรัก ฉ่ำชื่นบาน     โอบกอดโลก สุข สราญย์เบิกบาน ชีวี     สาก มือ นิ้ว ด้าน  ด้าน เหนี่ยว ไกปืน      ผงาดยืน สาดกระสุนใส่ ในทุกที่ *3  ระเบิดบาป กระสุนบ้า ณ เพลานี้      ถล่มโลก ให้ป่นปี้ ด้วย ไ ฟ ส ง ค ร า ม*4   เธอ “ผิวปากเป็นบทเพลงแห่งความคิดถึง”      เพราะรักจึงจิตวิญญาณ – หัวใจ มิอาจห้าม     …
แสงดาว ศรัทธามั่น
Up fighting together for "FRIEND OF BURMA" and give power heart hug for.......FRIEND SENDING  STRENGTH TO NAGIS VICTIMS"พ ลั ง ใ จและโอบกอดแด่การ ลุ ก ขึ้ น สู้ของพี่น้องชนเผ่า และป ระ ชา ช น ชา วพ ม่า (มิใช่ชนชั้นปกครองรัฐบาลเผด็จการทหารฟัสซิสม์มิยันม่าร์) และพี่น้องที่ถูกพายุนากิส โหมซัดกระหน่ำทำให้ต้องตายนับแสนๆ คนและสูญหายอักนับหมื่นคน******
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพประกอบจาก http://www.flickr.com/photos/poakpong/2301645201/  ..... เ พ ลง ROCK ผสานเพลง เ ร ก เ ก้"บอบมาเล่ย์" and WE CAN PLAY พริ้งผ่องใสทั้ง ไทย - สากล - ลูกทุ่ง ...COUNTRY SIDEทั้ง เพลง ฉ่ อ ย ชื่นฉ่ำไล้ เพลง ร อ ง เ ง็ งเพลง ลำ เพ ลิ น เพลง จ๊ อย ซ อเพลง ป ว่า เ ก อ ญ อ พลิ้วบรรเลงเพลง รั ก โ ล ก เฉิดเชวงคือ บทเพลง แห่ ง รั ก อั น งด งา ม !!!For Humanity friend on Earth ... We Love Y ou !!!!คิมหันตฤดู, 22 เมษายน 2551"สุดสะแนน", ล้านนาอิสระ , เจียงใหม่
แสงดาว ศรัทธามั่น
* @ " ปุ๋ ย ... นั น ท โ ช ติ  ชั ย รั ต น์ "เพื่อนแจ่มชัด สู้เพื่อโลก - ประชาชนได้สุขสันต์พริ้มบทเพลงกล่อมเห่เป็นนิรันดร์พลิ้วเพลงฝันกล่อมโลก กล่อมชีวี- - - ชั่วชีวาแห่งเธอแกร่งกล้างามเสมอนั้นเหลือที่คุณค่า คงมั่น หยัดยืน ณ ปฐพีร่วม " ลุ ก ขึ้ น สู้ " เพื่อพี่น้องผู้ถูกกดขี่ ... ประชาชน... เ ธ อ มี จิ ตวิ ญ ญา ณ สะอาดสดใสงา ม ด ว ง ใ จ เ จิ ด จ้าแจ่มเหลือล้นแห่งเพื่อนพี่น้อง " ส มั ช ชา ค น จ น "เพื่อ ผู้ทุกข์ทน ทุกข์ยาก ได้กำ ชั ย !!!... พริ้ มตาหลับลงเถิด เพื่อนแก้วเอ๋ยสายลมโชยพัดรำเพย อวยพรให้ผีเสื้อ แมลงปอ แล ดอกไม้โ ล ก เ อ กภ พ จั ก ร วาล ฉ่ำไล้ โอบกอด เ ธ อ** จิ ต วิ ญญา ณ- เ ธ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
"ท่าน ค า ลิ ล ยิ บ ร า น "คือหนึ่งในมหาปราชญ์กวีแห่งโลกหล้าปลุกปลอบเพื่อนมนุษยชาติให้งดงามจิตวิญญาณ์หลอมคุณค่าชีวีโลกให้ ฉ่ำ บา น !
แสงดาว ศรัทธามั่น
*** "มองดูความจริงซีพี่ น้องผองเพื่อน"มองดูแล้วย้ำเตือนคนหนุ่มสาวโลกร้อนแล้งเลวร้ายเนิ่นนานยาวทั้งเหน็บหนาวปวดร้าวทุกคราวครั้ง
แสงดาว ศรัทธามั่น
@ - - - ป รา ก ฏ กา ร ณ์ธรรมชาติดูเหี้ยมโหดเกรี้ยวกราดโกรธทำลายไปทั่วดิน ฟ้า อากาศ ดูน่าสะพรึงกลัวแตกตัว เติบใหญ่ ไปทุกที่ลูกเอ๋ย... แม่ก็รู้ ลูกเจ็บปวดร้าวรวด ทุกข์ทรมาน เหลือที่ก็ แ ม่ ก็ อยู่ ของ แ ม่ อยู่ ดี ดีแล้ว ลู ก อัปรีย์ ไยมาย่ำยีกดขี่ข่มเหง แ ม่ ทำ ไม ?แ ม่ เองก็เจ็บปวดรวดร้าวนักเหน็บหนาว รุ่มร้อนประจักษ์ เจ็บป่วยไข้ไฉนเล่ามาเฆี่ยนโบยตี มาสุมไฟรุกไล่ ทำลาย ล้างผลาญเจ้า ลู ก ริ ยำ เอ๋ย ...ไย เ ธ อ ไม่รู้ ?อวิชชาพรั่งพรูกรูกลบหมดสิ้นโลภ โกรธ หลง เมามัว เข่นฆ่าแ ผ่ น ดิ นพังภินท์ไปหมดทั่วเอกภพ จักรวาลลูกหลานเอ๋ย ... แ ม่ก็ปวดเจ็บ ...หนาวเหน็บเมื่อม า ร ลู ก มาล้างผลาญหยุดเถิดยังมิสาย…