Skip to main content

 

จากที่สัญญาว่าในบทความนี้ ข้าพเจ้าจะมาต่อยอดบทความจากครั้งที่แล้วในหัวข้อ “ความร่ำรวยข้อมูล” ด้วยการวิเคราะห์ความจำเป็น ที่เราจักต้องพัฒนาทั้ง 3 ส่วนประกอบสำคัญ อันได้แก่ ความอุดมทางด้านข้อมูล ความยากง่ายในการเข้าถึงข้อมูล และมุมมองที่มีในการวางแผนโครงสร้างข้อมูลบนเว็บ ไปพร้อมๆกัน เพื่อทำให้ทุกท่านเข้าใจประเด็นดังกล่าวนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น

\\/--break--\>

ข้าพเจ้าต้องขอขั้นด้วยบทความซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่ค่อนข้างมาแรงในช่วงหนึ่งเดือนหลังมานี้ นั่นก็คือประเด็นการเปิดประมูลใบอนุญาติผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ในย่านความถี่ซึ่งรองรับเทคโนโลยียุค 3G

โดยในช่วงที่ผ่านมาประเด็นดังกล่าวถูกวิพากวิจารณ์อย่างกว้างขวางและจากหลายฝ่าย โดยเท่าที่ข้าพเจ้าติดตามนั้น 3 ประเด็นเกี่ยวเนื่องที่ถูกวิพากษ์อย่างมาก คือ

  1. การเปิดบริการ 3G ของเมืองไทยของเราล่าช้าและล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ ควรจะมีการเร่งให้เกิดขึ้นอย่างเร็วที่สุด

  2. กทช. ซึ่งกำลังทำหน้าที่สำคัญในการเป็นผู้ควบคุมการเปิดประมูลใบอนุญาติผู้ให้บริการ 3G มีอำนาจถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่อย่างไร

  3. การรประมูลดังกล่าวควรเปิดอย่างเสรีและอย่างเร็วที่สุด หรือ ควรตระหนักถึงความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานทางด้านโทรคมนาคมของรัฐเช่น ทีโอที และ ซีเอที และวิเคราะห์อย่างรอบคอบที่สุดก่อนการเปิดประมูล

อย่างไรก็ดีประเด็นที่ข้าพเจ้าขอพูดถึงในวันนี้ เป็นประเด็นเกี่ยวเนื่องซึ่งแตกต่างออกไปจากประเด็นต่างๆข้างต้น และข้าพเจ้าคิดว่ามีประโยชน์หากถูกนำมาวิพากษ์ นั่นคือ คนไทยจำนวนมากมีความต้องการใช้บริการต่างๆบนเครือข่าย 3G แล้วจริงหรือ และ ประโยชน์ของการเปิดเครือข่าย 3G ในขณะนี้ตกอยู่กับใคร

โดยส่วนตัวของข้าพเจ้ามีความเห็นว่าก่อนตอบคำถามอื่นๆข้างต้น  ข้าพเจ้าเห็นว่าควรมีการศึกษาและตอบคำถามที่ข้าพเจ้าตั้งขึ้นมาในวันนี้เสียก่อน

เพื่อตอบคำถามที่ข้าพเจ้าตั้งในวันนี้ ข้าพเจ้าขอเริ่มต้นด้วยการชี้ให้เห็นประโยชน์สูงสุด ซึ่งเทคโนโลยีเครือข่าย 3G มีต่อเราๆท่านๆโดยทั่วไป นั่นคือเทคโนโลยี 3G อนุญาตให้เราสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เนตผ่านโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้อย่างต่อเนื่องมากขึ้นและด้วยอัตราการเชื่อมต่อที่สูงขึ้นหรือรวดเร็วขึ้น ซึ่งหมายความว่าเราๆท่านๆสามารถบริโภคข้อมูลผ่านโครงข่ายโทรศัพท์มือถือได้มากขึ้นและในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น วิดีโอและภาพเคลื่อนไหวต่างๆ มากกว่าจะเป็นเพียงแค่ข้อความหรือภาพนิ่ง

นั่นหมายความว่าประโยชน์ของเทคโนโลยี 3G ที่เป็นหัวใจสำคัญคือ การอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลซึ่งสามารถถูกส่งผ่านทางอินเตอร์เนตได้จากทุกที่ ทุกเวลา และในทุกรูปแบบข้อมูล หากบริเวณที่ผู้ใช้งานอยู่ภายในพื้นที่ซึ่งโครงข่ายโทรศัพท์มือถือ 3G เข้าถึง

จากประโยชน์ที่มีข้างต้นหากอ่านดูแบบผิวเผินแล้ว  ทำให้เราๆท่านๆเชื่อได้อย่างง่ายดายว่าผู้ใช้เทคโนโลยี 3G จะได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากการเข้าถึงข้อมูลที่ตนต้องการได้ในทุกครั้งที่ต้องการ

ซ้ำความเชื่อดังกล่าวยังได้รับแรงสนับสนุนจากผลการสำรวจในหลายๆประเทศที่บ่งชี้ว่า  การลงทุนทางด้านโทรคมนาคมซึ่งรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยี  3G เป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่ผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมหาศาล

ข้าพเจ้าก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อในประโยชน์ที่การลงทุนทางด้านโทรคมนาคมมีต่อการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ หากแต่ข้าพเจ้าเลือกที่จะไม่เชื่อในแนวคิดดัวกล่าวอย่างผิวเผิน โดยพยายามคิดต่อว่าผลลัพธ์แห่งการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ได้รับโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการลงทุนในเทคโนโลยี 3G นั้น สุดท้ายผลประโยชน์ไปตกอยู่กับใคร

ในการนำเทคโนโลยี 3G มาใช้ ไม่ว่าผู้ประกอบการรายใดจะประมูลได้ แน่นอนว่าต้องใช้งบลงทุนมหาศาล และเพื่อให้ได้มาซึ่งผลตอบแทนการลงทุนอย่างรวดเร็วที่สุด ผู้ประกอบการทุกรายจะมุ่งเน้นไปที่การทุ่มทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างกระแสความต้องการใช้งานเทคโนโลยี 3G ให้เกิดขึ้น ซึ่งจักทำให้ video streaming กลายเป็นบริการหลักของโครงข่ายเทคโนโลยี 3G หากไม่นับบริการการโทรศัพท์ โดยผู้ที่ต้องการใช้งานเทคโนโลยี 3G จักต้องมีเครื่องโทรศัพท์มือถือที่ทำงานในช่วงความถี่ซึ่งรองรับเทคโนโลยี 3G

จากสถานการณ์ทั้งหมดที่มีแนวโน้มเกิดขึ้นข้างต้น ไม่ต้องสงสัยว่าเศรษฐกิจต้องมีการเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากการลงทุนมหาศาลในเทคโนโลยี 3G การทำการตลาดและโฆษณา การผลิตเนื้อหาเพื่อธุรกิจ video streaming และการผลิตและการบริโภคอุปกรณ์โทรศัพท์อันเกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยี 3G

แต่สิ่งที่ข้าพเจ้ามองเห็น คือการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบไม่ยั่งยืน เนื่องจากข้าพเจ้าเชื่อว่าประชาชนจะใช้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการใช้งานเทคโนโลยี 3G เพื่อประโยชน์ทางด้านความบันเทิงเป็นส่วนใหญ่เท่านั้น และความต้องการใช้งานนี้ส่วนใหญ่เกิดจากผลของการทุ่มทำการตลาดและโฆษณาของผู้ให้บริการโทรศัพท์และผู้ประกอบการต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในที่สุดเม็ดเงินที่เกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจข้างต้น จักตกไปสู่นักลงทุนเพียงไม่กี่กลุ่มซึ่งได้แก่ กลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการโทรศัพท์ กลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์ กลุ่มธุรกิจโฆษณา และกลุ่มธุรกิจด้านความบันเทิงซึ่งเป็นผู้ผลิตเนื้อหา video streaming

ในทัศนะของข้าพเจ้าแล้ว ประโยชน์ที่ประชาชนได้รับเพิ่มจากเทคโนโลยี 3G เมื่อเปรียบเทียบกับเทคโนโลยี 2.5 G ที่เรามีใช้กันในปัจจุบัน หากไม่นับรวมด้านความบันเทิงแล้ว มีเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่เทคโนโลยี 3G น่าจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือมากกว่า ในวันที่กำไรจากบริการเดิมๆบนเทคโนโลยี 2.5 G เริ่มน้อยลงทุกทีๆ

สาเหตุที่ข้าพเจ้าเชื่อเช่นนั้น เนื่องจากธรรมชาติการใช้งานโทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงข้อมูลทุกที่ ทุกเวลา และในทุกรูปแบบข้อมูลนั้น จักถูกจำกัดด้วยสภาวะในการใช้งานของผู้ใช้ที่กำลังเคลื่อนที่ และด้วยลักษณะของอุปกรณ์มือถือที่มีขนาดเล็ก ซึ่งด้วยเงื่อนไขข้างต้นทำให้การใช้งานโทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงข้อมูล โดยปกติมีระยะเวลาไม่นาน และมักใช้กับกิจกรรมที่ไม่ต้องการการจัดการกับข้อมูลมากนัก

ซึ่งตรงนี้เองทำให้การใช้งานโทรศัพท์มือถือเพื่อเข้าถึงข้อมูลทุกค่อนข้างเหมาะกับการอ่านข่าวและเอกสารสั้นๆ การอ่านและตอบอีเมล์ การโต้ตอบทางข้อความ การดูวีดิโอและทีวี โดยเมื่อพิจารณาให้ดีจะพบว่าเทคโนโลยี 2.5 G ที่มีอยู่ในปัจจุบันก็ให้การตอบสนองกับกิจกรรมข้างต้นได้ค่อนข้างดีอยู่แล้ว ยกเว้นการดูวีดิโอและทีวี ที่ต้องการความเร็วในการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยี 3G

กระนั้นก็ดี หลายคนอาจอ้างถึงประโยชน์จากการลงทุนในเทคโนโลยี 3G ในแง่ที่ว่าจักทำให้การขยายตัวของอินเตอร์เนตความเร็วสูงเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยสามารถนำไปใช้ทดแทนการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตความเร็วสูงในบริเวณที่การเชื่อมต่อทางสายไม่สามารถขยายได้ทันตามความต้องการ ซึ่งตรงจุดนี้ข้าพเจ้ามีทัศนะว่าในเบื้องต้นเทคโนโลยี 3G อาจเข้ามาช่วยหรือทดแทนการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตความเร็วสูงทางสายได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าระดับความเร็วในการรับส่งข้อมูลของเทคโนโลยี 3G ไม่อาจรรองรับรูปแบบกิจกรรมต่างๆซึ่งต้องการการเชื่อมต่อทางสายมากกว่า และต้องไม่ลืมว่าในพื้นที่ห่างไกลซึ่งการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตความเร็วสูงทางสายขยายไปไม่ถึง ผู้ให้บริการโทรศัพท์ด้วยเทคโนโลยี 3G จะมีแรงจูงใจเพียงพอให้ไปลงทุนในพื้นที่เช่นนั้นหรือ

นอกจากนี้จากประสบการณ์ตรงที่ข้าพเจ้าได้ไปใช้ชีวิตอยู่ที่ประเทศอังกฤษ  ซึ่งเป็นประเทศที่เปิดให้มีการลงทุนในเทคโนโลยี  3G มาระยะหนึ่ง ข้าพเจ้ายังไม่เห็นประโยชน์ของเทคโนโลยี 3G ที่มีกับประชาชน และไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับระบบเศรษฐกิจอย่างชัดเจน ภายหลังจากการเปิดให้บริการโทรศัพท์มือถือด้วยเทคโนโลยี 3G

ดังนั้นเมื่อลองพิจารณาถึงเหตุผลต่างๆอย่างรอบด้านแล้ว  ข้าพเจ้ามีความเห็นส่วนตัวว่าเทคโนโลยี  3G อาจจะสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่างๆได้จริง แต่ไม่ใช่ในระยะเวลาอันใกล้ อีกทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจเดินหน้าลงทุนทางด้านเทคโนโลยี 3G คงต้องคิดอย่างถี่ถ้วนอีกครั้งหนึ่งว่า ในที่สุดแล้วผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการลงทุนในครั้งนี้ คือประชาชนและประเทศชาติจริงหรือ และจะทำให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์จากเทคโนโลยี 3G ได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่ได้อย่างไร

 

ติดตามบทความทั้งหมดได้ที่ www.thesensemaker.org หรือติดต่อข้าพเจ้าได้ที่ sensemaking.writer at gmail dot com


 

บล็อกของ SenseMaker

SenseMaker
Digital Divide คือ คำในภาษาอังกฤษที่ใช้เรียกสภาวะ ที่ซึ่งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ICT เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้ช่องว่างและความแตกต่างในสังคมเกิดขึ้นและขยายตัวในขณะที่ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญกับ ICT ในฐานะที่เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยเห็นได้จากแนวนโยบายของรัฐบาลในหลายประเทศทั่วโลก ที่มุ่งสร้างโครงสร้างพื้นฐาน ทาง ICT เพื่อให้บริการต่างๆของภาครัฐ ผ่านเครื่องมือที่เรียกว่า“รัฐบาลอิเลคทรอนิค” หรือ e-government ทั่วโลกก็กำลังเผชิญหน้ากับการขยายตัวของปัญหา ช่องว่างและความแตกต่างในสังคม ไปพร้อมกัน
SenseMaker
ปัจจุบันความก้าวหน้าทาง ICT อนุญาตให้ประชาชนทุกคน สามารถแสดงออกทางความคิดเห็น ได้อย่างกว้างขวาง ผ่านความหลากหลายของช่องทางการติดต่อสื่อสาร และความอุดมสมบูรณ์ของสื่อ ไม่เพียงเท่านั้น ICT ยังอนุญาตให้เราสามารถ จัดการกับข้อมูลและเนื้อหาของการแสดงออกทางความคิด เพื่อใช้สำหรับการเข้าถึงในวงกว้างโดยผู้คนอื่นต่อไปได้อีกด้วยด้วยความสามารถของ ICT ข้างต้น ทำให้ประชาชนเริ่มมองเห็น และตระหนักในศักยภาพ ของการนำICT มาใช้เพื่อสะท้อนสภาพปัญหาที่แต่ละบุคคลประสบ มองหาผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกัน และมองหาผู้อื่นที่เต็มใจให้ความช่วยเหลือ เพื่อร่วมคิด แสดงความเห็น ให้คำปรึกษา และช่วยกันหาทางบรรเทาหรือแก้ไขปัญหานั้นๆ…
SenseMaker
ความเคลื่อนไหวล่าสุดของโครงการจัดทำ แผนแม่บททางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารฉบับที่ 2 ของประเทศไทย เพื่อประกาศใช้ระหว่าง พ.ศ. 2552 – 2556 ยังอยู่ในระหว่างการเร่งจัดทำร่าง เพื่อประกาศใช้ให้ทันการเริ่มต้นใช้งานในปีหน้าข้าพเจ้ามีโอกาสได้อ่านแผนแม่บทฉบับร่างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้เตรียมเพื่อใช้ประกอบการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ ระหว่างวันที่ 4-13 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งข้าพเจ้าคิดว่าน่าจะเป็นฉบับล่าสุด ที่กระทรวงฯเปิดเผยและประชาสัมพันธ์ต่อสาธารณะ (ท่านผู้อ่านสามารถอ่านข้อมูลของโครงการจัดทำแผ่นแม่บทนี้ เพิ่มเติม รวมทั้ง download เอกสารประกอบต่างๆได้ที่ http…
SenseMaker
หากท่านผู้อ่านได้อ่านบทความก่อนๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความเรื่อง “การเข้าถึงเทคโนโลยี ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความแตกต่างทางสังคม และสังคมในแนวขนาน” หรือเรื่อง “เว็บยุค2.0 สื่อพลเมือง และการท้าทายกระแสหลัก” และเรื่อง “ICT ตัวการแห่งการเปลี่ยนแปลง และผลลัพท์ทางสังคมที่ย้อนแย้ง” ข้าพเจ้าเชื่อว่าบทความเหล่านี้ จะทำให้ทุกท่านที่อ่านเริ่มตระหนัก ข้อเท็จจริงที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นของความเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ว่า สังคมของเราทุกวันนี้ มีความหลากหลายทางระบบความคิด ความเชื่อ และมีความแตกต่างทางด้านค่านิยมมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมข้างต้น แน่นอนว่าไม่ได้ถูกผลักดัน ด้วยความก้าวหน้าทางด้าน ICT…
SenseMaker
“คนไทยลืมง่าย” คือคำนิยามหนึ่งที่อธิบายลักษณะความคิดและนิสัยของคนไทย ได้เป็นอย่างดี คนไทยเรามักเลือกที่จะลืมและให้อภัย กับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นจะสร้างความเดือดร้อนใหญ่หรือเล็กเพียงใดหลายคนแสดงความเห็นว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเรามีอุปนิสัยเช่นนี้ เนื่องจากคนไทยเราส่วนใหญ่ ได้รับอิทธิพลทางด้านความคิดจากพุทธศาสนา ซึ่งปลูกฝังให้คนเรารู้จักให้อภัยกันและกัน ทำให้คนในสังคมของเรา อยู่กันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยและเกื้อกูลกัน ซึ่งนี้คือสิ่งที่หลายคนเห็นว่า “การลืมง่าย” ก่อให้เกิดผลดีกับบ้านเมืองของเราอย่างไรก็ดีธรรมชาติของเหรียญย่อมต้องมีสองด้าน...…
SenseMaker
เป็นความตั้งใจของข้าพเจ้า ที่ปล่อยให้บทความที่แล้ว ยึดพื้นที่คอลัมน์ยาวกว่าปกติสักหน่อย เพื่อดึงความสนใจจากผู้อ่าน และอยากให้ทุกท่านตระหนักว่า แนวโน้มการ Outsourcing ขององค์กรต่างๆ กำลังส่งผลกระทบสำคัญ กับแนวทางการดำเนินชีวิตของทุกคน บทความวันนี้ ให้ความสนใจกับปัญหาความล้มเหลวของโครงการด้าน ICT ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญที่องค์กรต่างๆกำลังเผชิญหน้าอยู่ โดยมีจุดประสงค์เพื่อมุ่งค้นหาส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งสามารถช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ ในการดำเนินโครงการด้าน ICT
SenseMaker
ต้องขอโทษท่านผู้อ่าน ที่ติดตามคอลัมน์กรองกระแส ICT ที่บทความสำหรับอาทิตย์นี้ต้องล่าช้าสักหน่อย เนื่องจากข้าพเจ้าไม่ใคร่สบายเล็กน้อย ในช่วงวันเวลาที่จัดไว้สำหรับเขียนบทความในบทความที่แล้ว ข้าพเจ้าพยายามชี้ให้ทุกท่านเห็น ปรากฏการณ์ที่ว่า ICT เป็นตัวแปรต้นที่สำคัญ ซึ่งสร้างความเปลี่ยนแปลงมากมาย ให้กับองค์กรต่างๆ ทั้งในบริบทของผลกระทบจากภายนอกองค์กร ในรูปแบบของ การทำให้สภาพแวดล้อมในการแข่งขันเปลี่ยนแปลง และในบริบทของผลกระทบที่เกิดภายในองค์กร ในลักษณะของการทำให้ รูปแบบการทำงานและแนวการบริหารทรัพยากรองค์กร ต้องเปลี่ยนไปบทความในวันนี้…
SenseMaker
ICT ตัวแปรต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กร ที่ไม่ควรถูกมองข้าม ก่อนเข้าสู่บทความอาทิตย์นี้ ข้าพเจ้าขอประณามการกระทำ ของผู้ที่ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย อยู่ในขณะนี้ เนื่องจากข้าพเจ้าถือว่า ใครก็ตามที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในบ้านเมือง ไม่มีความรักชาติอย่างจริงจัง และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน มากกว่าประโยชน์ส่วนรวม หากทุกคน เล็งเห็นความสงบสุขและประโยชน์ ของประเทศเป็นสำคัญ จะต้องใช้วิธีประนีประนอม เพื่อหาหนทางแก้ปัญหา ความขัดแย้งทางความคิด ร่วมกัน มากกว่าการยึดเอาความคิดของตนเป็นใหญ่ มองความคิดของอีกฝ่ายว่าไม่ถูกต้อง และมุ่งล้มล้างฝ่ายตรงข้าม…
SenseMaker
หลังจากที่ได้ขีดๆเขียนๆบทความ ในด้านที่ข้าพเจ้าเชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับสังคมไทย และอยู่ในความสนใจของตัวเอง เป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เป็นเวลาอันสมควร ที่ควรจะทำความเข้าใจ กับผู้ให้ความกรุณาแวะเวียนเข้ามาอ่าน ทั้งขาประจำและขาจร ซึ่งมีอยู่จำนวนหนึ่ง ถึงที่มาของคอลัมน์ “กรองกระแส ICT”จุดเริ่มต้นของคอลัมน์นี้ เกิดจากการที่ข้าพเจ้ามีความสนใจ และมีโอกาสศึกษาหาความรู้ทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ Information Technology (IT) และ ทางด้านระบบข้อมูลสารสนเทศ หรือ Information System (IS) ประกอบกับประสบการณ์ในการทำงาน ในอุตสหกรรมโทรคมนาคม จนถือได้ว่า ข้าพเจ้าโชคดีที่มีความคุ้นเคยกับ ICT…
SenseMaker
บทความในวันนี้ เป็นผลสืบเนื่องมาจาก การได้รับทราบสองข่าว ซึ่งในความเห็นของข้าพเจ้า เป็นข่าวที่ไม่ได้อยู่ในกระแสความสนใจ ของคนไทยทั่วไปแต่อย่างไร แต่เป็นข่าวที่ข้าพเจ้า อยากเรียกร้องให้ทุกคน หันมาตระหนักถึงความน่ากลัว ของการถูกคุกคามโดย "Identity thief"Identity thief คือ กลุ่มคนที่มุ่งขโมยข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลที่ใช้แสดงตัวตน ของบุคคลต่างๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อ ใช้ข้อมูลดังกล่าวปลอมแปลงตนเป็นบุคคลผู้นั้น เพื่อหาประโยชน์อื่นๆต่อไปข่าวแรกที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ผู้หญิงคนหนึ่ง ถูกวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ ภายหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่งข้าพเจ้าเจ้าจำได้ไม่แน่นอนว่านานเท่าไหร่…
SenseMaker
“คู่แข่งกำลังลงทุนในเทคโนโลยี... เราจะรอช้าอยู่ไม่ได้ ต้องรีบดำเนินการผลักดันโครงการแบบเดียวกัน ให้เกิดขึ้นในทันที เพื่อตามให้ทัน และไม่ให้เราสูญเสียโอกาสทางการแข่งขัน"“เทคโนโลยี... กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก สร้างประโยชน์มากมายให้กับ ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือองค์กรนั้นองค์กรนี้ ดังนั้นเราจึงควรลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างเร่งด่วน”เหตุผลในทำนองข้างต้น เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าได้ยินอยู่เป็นประจำ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบาย ขององค์กรระดับต่างๆในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน ICT
SenseMaker
เช้ามา...เปิดคอม เปิดเนต เช็คตารางนัด เช็คเมล ตอบเมล ล็อคอินเข้า MSN เอาไว้คุยกับเพื่อน หาข้อมูลจาก Google และ Wikipedia เข้าไปดูว่าเพื่อนๆทำอะไรกันบ้าง พร้อมกับอัพเดตของมูลตัวเองบน MySpace, Hi5 หรือ Facebook เข้าไปอ่านข่าว บทความ หรือกระทู้ จากแหล่งข้อมูลเฉพาะด้าน จาก Blog หรือสังคมออนไลน์ต่างๆ ที่สนใจ เข้าไปดูวิดีโอแปลกๆ หรืออัพโหลดวิดีโอฝีมือตนเองบน Youtube เข้าไปอัพเดตรูปตัวเองหรือหารูปสวยๆบน Flickr และโทรหาใครหลายคน ไม่ว่าอยู่มุมไหนของโลกผ่าน Skypeชีวิตที่ดำเนินไปข้างต้น คงมีส่วนคล้ายกับชีวิตใครหลายคนในปัจจุบัน ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 30…