“เทคโนโลยี... กำลังได้รับความนิยมในตลาดโลก สร้างประโยชน์มากมายให้กับ ประเทศนั้นประเทศนี้ หรือองค์กรนั้นองค์กรนี้ ดังนั้นเราจึงควรลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างเร่งด่วน”
เหตุผลในทำนองข้างต้น เป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าได้ยินอยู่เป็นประจำ จากผู้มีอำนาจตัดสินใจในระดับนโยบาย ขององค์กรระดับต่างๆในประเทศไทย เพื่อนำเทคโนโลยีอันทันสมัย เข้ามาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีทางด้าน ICT
การที่องค์กรในระดับต่างๆ กระโจนเข้าใส่เทคโนโลยีอันทันสมัยหนึ่งๆ โดยใช้เหตุผลข้างต้น สะท้อนให้เห็นว่าคนส่วนใหญ่ ยังมีมุมมองที่ค่อนข้างแคบ เกี่ยวกับเทคโนโลยีต่างๆ คือมองว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ได้ อย่างที่เทคโนโลยีในอดีตไม่สามารถทำได้ สามารถสร้างประโยชน์อย่างนั้นอย่างนี้ ให้กับประเทศหรือองค์กรอื่นๆ ดังนั้นเทคโนโลยีดังกล่าว ต้องทำให้ประโยชน์อย่างเดียวกัน เกิดขึ้นกับประเทศหรือองค์กรของเรา เลยกระโจนเข้าใส่อย่างไม่รั้งรอ
นอกจากนั้นยังสะท้อนให้เห็นว่า การตัดสินใจลงทุนทางเทคโนโลยีในระดับองค์กร ส่วนใหญ่ถูกผลักดันโดยเหตุผลฉาบฉวย คือไม่อยาหล้าหลังและเสียหน้า มากกว่าที่จะวิเคราะห์ถึงความต้องการที่แท้จริง หรือความพร้อมขององค์กรตน
ผลที่ตามมาคือ องค์กรซึ่งดำเนินนโยบายตามแห่ นอกจากจะไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่คาดคิดแล้ว กลับประสบปัญหาต่างๆมากมาย
ผลลัพธ์ดังกล่าว มีสาเหตุสำคัญมาจาก การมองถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีนั้นเพียงอย่างเดียว โดยขาดการศึกษาถึงผลกระทบของเทคโนโลยีดังกล่าว ที่มีต่อองค์กรในด้านต่างๆอย่างรอบด้าน
เนื่องจากเทคโนโลยีแต่ละตัว ต้องการความพร้อมของปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งไม่ได้มีปัจจัยทางด้านเทคโนโลยีเพียงเท่านั้น หากแต่ต้องการความพร้อมของทั้งองค์กร ไม่ว่าจะเป็นความรู้พื้นฐานของสมาชิกภายในองค์กร เพื่อการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดังกล่าว การพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างเพียงพอ ทั้งในแง่ของความรู้ความสามารถและปริมาณ เพื่อรองรับการขยายตัวของเทคโนโลยีดังกล่าว และการมีเครื่องมือทางการบริหารองค์กรที่เหมาะสม ในวันที่เทคโนโลยีดังกล่าวเริ่มเข้ามามีบทบาทกับการดำเนินกิจกรรมขององค์กร เช่น การมีการดำเนินนโยบายที่คลอบคลุม สอดคล้อง และต่อเนื่อง เพื่อให้การพัฒนา การใช้ประโยชน์ รวมถึงการแก้ปัญหาอันสืบเนื่องจากเทคโนโลยีนั้น เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การที่ ICT เป็นเทคโนโลยีซึ่งมีความยืดหยุ่นสูง หมายถึง ICT ถูกใช้เป็นเครื่องมือ เพื่อพัฒนาระบบหรือวิธีการดำเนินการต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์และความสามารถของผู้ที่นำมันไปใช้ จึงทำให้มันเป็นเทคโนโลยี ซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของมนุษย์อย่างมหาศาล
หรือมองในมุมกลับ ICT คือเทคโนโลยีที่คนจำนวนมาก เข้าไปมีบทบาทและร่วมกันปั้นแต่ง ให้เป็นไปในลักษณะที่สังคมนั้นๆต้องการ
นั่นหมายความว่า สังคมสองสังคม ซึ่งสมาชิกมีความแตกต่างกัน ในหลากบริบท เช่น ประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ และพื้นฐานการศึกษา ย่อมมีการยอมรับ มีการใช้ประโยชน์ และมีมุมมอง ในการปั้นแต่งเทคโนโลยี ICT ที่แตกต่างกันไป ซึ่งหมายรวมถึง การมีสภาพปัญหาและความต้องการวิธีการแก้ปัญหา ที่แตกต่างกันไปอีกด้วย
ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาทั้งหมดข้างต้น จึงทำให้ข้าพเจ้าเชื่อว่า การที่องค์กรหนึ่งๆนั้น จะกระโจนเข้าหาเทคโนโลยีหนึ่งๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ICT ย่อมไม่สามารถรองรับด้วยเหตุผลที่ฉาบฉวย หรือด้วยเหตุผลที่มองแต่ประโยชน์เพียงด้านเดียว หากแต่ต้องคำนึงถึงผลกระทบของมันอย่างรอบด้าน ควบคู่ไปกับการมีความพร้อม ในส่วนของปัจจัยพื้นฐาน และความเข้าใจถึงคุณลักษณะเฉพาะของ ICT ที่กล่าวไว้ข้างต้น
การโยนเม็ดเงินลงทุนในเทคโนโลยีอันทันสมัย เพื่อหวังว่ามันจะช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่ เพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์ในด้านต่างๆ อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน และเพื่อรับประโยชน์เฉกเช่นเดียวองค์กรอื่นๆ โดยไม่ได้ศึกษาและเข้าใจอย่างถ่องแท้และรอบด้าน ไม่เพียงจะไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวัง หากแต่จะนำไปสู่สภาพปัญหาใหม่ ซึ่งหากไม่สามารถแก้ไขได้ทันท่วงที มีแต่จะนำไปสู่สภาวะที่ย่ำแย่กว่าเดิม
การลงทุนทางเทคโนโลยีแบบตามแห่...นอกจากองค์กรผู้ดำเนินนโยบาย จะต้องเผชิญกับความลำบาก อย่างที่ข้าพเจ้าได้ให้ความเห็นไว้ในเบื้องต้น ผลประโยชน์ที่เกิดจากการลงทุน กลับไม่ได้ตกอยู่กับองค์กรตนเอง
ผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการตามแห่ในครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นบริษัทผู้ผลิตและผู้ขายเทคโนโลยี ซึ่งได้รับประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนในทันที
ผลประโยชน์ของการลงทุนทางเทคโนโลยีแบบตามแห่ นอกจากจะตกอยู่กับผู้ผลิตและผู้ขายเทคโนโลยีแล้ว ในหลายๆครั้ง ผู้ที่ได้รับประโยชน์ อาจหมายรวมถึงปัจเจกบุคคล ผู้ผลักดันให้โครงการลงทุนทางเทคโนโลยีต่างๆเกิดขึ้น
โดยไม่ได้ขึ้นกับว่า สุดท้ายโครงการจะสำเร็จหรือไม่ ก่อโทษมากกว่าประโยชน์อย่างไร ปัจเจกบุคคลดังกล่าวก็ได้รับผลตอบแทนส่วนบุคคล จากบริษัทผู้ขายหรือผู้ผลิตเทคโนโลยี หรือเป็นการผลักดันโครงการเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง ซึ่งนั่นโยงไปถึงสภาวะปัญหา การคอรัปชั่นเชิงนโยบาย
ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จากนี้
หากองค์กรที่ท่านเป็นสมาชิกอยู่ กำลังมีความพยายามผลักดันโครงการทางICT ใดๆ หวังว่าทุกท่านจะตระหนักถึงประเด็นนำเสนอในวันนี้ และสามารถนำไปใช้สอดส่อง เพื่อทำให้แน่ใจว่า การลงทุนในครั้งนี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ กับกับองค์กรของท่าน ไม่ใช่ไปตกกับบริษัทผู้ผลิตหรือผู้ขายเทคโนโลยี อีกทั้งประโยชน์จากการลงทุนนี้ ต้องตกอยู่กับคนส่วนใหญ่ขององค์กรอย่างแท้จริง ไม่ใช่ผู้ที่พยายามผลักดันโครงการ