Skip to main content

 

ตาน้ำ ลูกรู้สึกอย่างไรบ้างไหมขณะที่ลูกบินอยู่บนฟ้า
ตาน้ำ ลูกดูดนมแม่แล้วหลับปุ๋ยขณะแม่กอดลูกไว้แนบอก แม่เหม่อมองท้องฟ้า เห็นเพียงปุยเมฆขาวฟูฟ่อง บนฟ้าช่างเวิ้งว้าง บ่อยครั้งที่แม่ไม่มั่นใจเลยว่าแม่จะเป็นแม่ที่ดีไหม แม่จะเลี้ยงลูกได้คู่ควรหรือไม่ แม่รู้สึกว่าแม่ต่ำต้อยเสมอเมื่อนึกถึงความไว้วางใจจากสวรรค์ให้ดูแลบุตรีน้อยๆ คนนี้

ตาน้ำ แม่กอดลูกแน่นด้วยอยากขอพลังจากลูก ในวันที่แม่อุ้มลูกขึ้นแนบอกและตระหนักว่าแม่มีหน้าที่ต้องปกป้องเด็กหญิงคนนี้ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ ใจหนึ่งแม้จะปลื้มปีติที่ได้รับภารกิจนี้ แต่อีกใจหนึ่งแม่ก็รู้สึกได้ถึงความหนักหน่วงกับบทบาทความเป็นแม่ เพราะลูกสำคัญเหลือเกิน แม่ไม่ค่อยมั่นใจ และเมื่อไหร่ที่ไม่มั่นใจ แม่จะกอดลูก ช่วยถ่ายเทพลังมาให้แม่บ้าง

ตาน้ำ แม่เติบโตขึ้นบ้างไหมเมื่อมีลูก ?

เพื่อนคนหนึ่งของแม่ถามเช่นนี้
‘เธอคงเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก’ แม่หัวเราะ จริงๆ คำถามนี้น่าจะเหมาะกับคนที่อายุไม่ถึงสามสิบที่กำลังจะข้ามผ่านไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าคนอายุขนาดแม่ที่ป่านนี้ใครต่อใครเขามีลูกเต้าโตเป็นหนุ่มสาว มีบ้านมีรถ มีชีวิตอยู่อย่างมั่นคงทั้งกายภาพและชีวภาพ แต่ว่าแม่ช่างเปล่าเสียกระไร แต่...

ก็คงเพราะชีวิตแม่มันเบาโหวงมากกระมัง พอมีลูก คำถามนี้จึงถูกเปรยขึ้นมาเบาๆ ด้วยความรักและห่วงใย แม่ตอบเพื่อนไปว่า ฉันไม่ค่อยโตเท่าไหร่ ฉันยังเหมือนเดิม ขี้โมโหในบางครั้ง ยังคงไม่รอบคอบ และทำอะไรผิดพลาดบ่อยๆ เหมือนเดิม การเลี้ยงลูกของฉันก็เหมือนฉันเขียนหนังสือ-ดูแลต้นฉบับ คือ พยายามทำดีให้ได้มากที่สุด เต็มที่ที่สุด ประณีตที่สุด ไม่ละเลยกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ แม่ไม่ค่อยฉลาด ไม่เก่ง ต้องอาศัยความขยัน ไม่ย่อท้อเข้าว่าเท่านั้น และบ่อยครั้งก็กลายเป็นว่าแม่จดจ้อง คร่ำเคร่ง ระมัดระวังมากเกินไปด้วย

ตอบไม่ค่อยตรงคำถามเลย
แม่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นไหมนะ ตาน้ำ?
.......

ตาน้ำ
ลูกรู้อะไรไหม? แม่กลัวเครื่องบิน
ไม่จำเป็นแม่ไม่อยากนั่ง แม่ยังจำตอนนั่งเครื่องบินครั้งแรกได้ มันเป็นเฮลิคอปเตอร์น่ะ มันไม่ได้ค่อยๆ เชิดหัวพุ่งขึ้นฟ้า แต่จู่ๆ มันก็ลอยขึ้นไปดื้อๆ ตอนนั้นแม่ยังเป็นนักศึกษา เรียนอยู่ปีสามมั้ง แม่เป็นอาสาสมัครองค์กรกลางที่อมก๋อยกับเพื่อนๆ (หลังพฤษภาทมิฬ เรามีการเลือกตั้งครั้งใหม่ และมีองค์กรอิสระอย่างองค์กรกลางเกิดขึ้น) เราไปสังเกตการณ์เลือกตั้งของชาวบ้านที่นั่น ตอนไปแม่นั่งรถโดยสารไป แต่ตอนกลับแม่กับเพื่อนๆ กลับพร้อมหีบบัตรเลือกตั้งที่ขนขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ตอนที่เจ้าแมลงปอเหล็กพาแม่ลอยขึ้น ตัวแม่ชาวูบ จิกเบาะแน่น เหงื่อเปียกมือชื้น ก้มมองลงพื้น แม่เห็นไฟป่า ควันไฟสีจางอยู่ข้างล่างที่เราบิน ไฟไหม้บนดอยเป็นเส้นสีแดง ทอดยาวดั่งรากไม้

ส่วนการนั่งเครื่องบินโดยสารครั้งแรกนั้น แม่ยิ่งกลัวหนักขึ้นไปอีก เพราะมันพุ่งตัวขึ้นสูงกว่าเฮลิคอปเตอร์หลายเท่า การนั่งครั้งแรกแม่นั่งระยะใกล้ๆ จากกรุงเทพฯ ไปโคราชแค่นี้เอง แต่มันทำให้แม่หัวใจแทบวาย เหงื่อเปียกมือแม่หนักยิ่งกว่าตอนนั่งเฮลิคอปเตอร์ โชคดีที่แม่มีเพื่อนนั่งข้างๆ มันทำให้แม่พออุ่นใจบ้าง แม้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้น เพื่อนก็คงช่วยอะไรไม่ได้หรอก

ตาน้ำ แม่คงไม่ใช่คนเดียวที่กลัวเครื่องบิน ในโลกนี้มีคนที่กลัวการนั่งเครื่องบินหลายคน
ทำไมแม่ถึงกลัว
ตาน้ำ ทุกครั้งที่แม่บินอยู่บนฟ้า แม่สำเหนียกว่าชีวิตนั้นช่างเปราะบางและไร้ความมั่นคงใดๆ ทั้งสิ้น คำกล่าวที่ว่า ‘ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย’ ดูไม่มีความหมายเลยเมื่ออยู่บนนี้ ด้ายเส้นเดียวก็ไม่มีให้เกาะจากสวรรค์ บนนี้สูงเกินไป และเราไม่มีปีก

แม่กลัว
แต่ก็ยังต้องอาศัยเจ้านกเหล็กพาแม่ไปสู่จุดหมายในยามที่เห็นว่าต้องพึ่งพามัน อย่างครั้งนี้ การเดินทางจากอุบลฯ มาเชียงใหม่ ไม่ใช่ระยะทางใกล้ๆ ถ้าต้องพาลูกนั่งรถไม่ว่ารถทัวร์หรือรถไฟลูกจะเหนื่อยเกินไป แม่ขอดเงินเท่าที่มีซื้อตั๋วเครื่องบินราคาประหยัดสำหรับเราสองแม่ลูก (เราต้องบินสองต่อ คือ จากอุบลฯ-สุวรรณภูมิ และจาก สุวรรณภูมิ-เชียงใหม่) ตา ยาย ป้าและน้า ของลูกรออยู่ ทุกคนอยากพบลูกและอยากเจอแม่หลังจากแม่จากเชียงใหม่ไปนานร่วมปี

ตาน้ำ แม่มองหมู่เมฆและในใจก็ครุ่นคิดอะไรมากมาย แม่หวนคะนึงถึงหนทางหลายสายที่แม่เคยสัญจรร่อนเร่ ราชบุรี สุรินทร์ กรุงเทพฯ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และอุบลฯ

วันอันเก่าก่อนยังเปี่ยมพลังของคนสาว
วันอันเก่าก่อนยังอ่อนเยาว์และแจ่มใส
วันอันเก่าก่อนนอกจากดวงใจซื่อตรงและกระทำทุกอย่างอย่างทุ่มเท แม่ก็มองไม่เห็นอื่นใดอีก ดังนั้นความผิดพลาดจึงเกิดขึ้นอย่างมากมายรายรอบเส้นทางที่แม่ก้าวผ่าน ความโง่เขลา ความเร่าร้อน ความเอาแต่ใจ ดื้อดึง ทำให้หลายสิ่งหลายอย่างพังครืนไม่เป็นท่า สิ่งเดียวเท่านั้นที่ทำให้แม่ยังคงให้อภัยตัวเอง พยายามลืมทุกอย่างและเริ่มต้นใหม่ยามที่ล้มเหลว พ่ายแพ้ ก็คือ แม่ไม่มีเจตนาร้าย แต่ผลที่มันออกมาร้าย เป็นเพราะแม่ไม่รู้ แม่บอกตัวเองยามปาดน้ำตาว่า ไม่เป็นไร ตราบใดที่เรายังคงใฝ่ดี อยากทำดี และอยากได้ดี สักวันเมื่อเรียนรู้ได้ เราคงจะทำได้

เธอคงเป็นผู้ใหญ่ขึ้น
แม่ทวนคำพูดของเพื่อนหลายๆ ครั้ง
แม่รักลูกเหลือเกิน ตาน้ำ แม่ไม่รู้ว่าแม่เป็นผู้ใหญ่ขึ้นไหม แต่แม่จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดเท่าที่ประสบการณ์หกล้มหกลุกของชีวิตที่แม่เคยก้าวผ่านจะสอนแม่ได้

ตาน้ำ นุ่มนวลของแม่เอ๋ย ยามแม่มองนอกหน้าต่างขณะเครื่องบินพาเราสองแม่ลูกเดินทางสู่มาตุภูมิ เมฆขาวข้างหน้าต่างฟูฟ่อง ฟ้าเบื้องหน้าเวิ้งว้าง แม่รู้สึกอีกแล้วว่าชีวิตช่างไร้ความมั่นคงใดๆ ทั้งสิ้น สิ่งที่มี มีเพียงความเวิ้งว้างกว้างไกลเป็นเอนกอนันต์เท่านั้น แม่ถามตัวเองอย่างเลื่อนลอยว่า นี่เรากำลังอยู่ในสถานที่แห่งใด มนุษย์มาจากหนไหน ไฉนเราจึงมาดำรงอยู่ภายในแรงดึงดูดของดาวเคราะห์เล็กๆ สีฟ้าใบนี้

ถามไปอย่างที่ไม่รู้คำตอบ -- ยิ่งมอง สายตายิ่งพร่า ไกลออกไปจากนี้แม่ก็มองไม่เห็นอะไรอีกแล้วนอกจากดวงใจแม่

แม่มองหน้าเล็กๆ แสนบริสุทธิ์ของลูกแล้วก็กระชับลูกแนบชิดอกยิ่งขึ้น
แม่รักลูก
 
แม่สร้อย
๒๘ กันยายน ๒๕๕๒

 

บล็อกของ สร้อยแก้ว

สร้อยแก้ว
  ๑.ผูกพัน เป็นชื่อเพลงเพลงหนึ่งไม่บ่อยนักที่ฉันจะได้ฟังเพลงสักเพลงแล้วมันตรึงเราให้อยู่นิ่งๆ ตั้งอกตั้งใจฟังจำได้ว่า วันนั้นฉันนอนเปลที่ผูกเข้ากับเสาอาคารและต้นไม้ข้างศูนย์ฯ มีกิจกรรมค่ายของน้องๆ วัยมัธยมและมหาวิทยาลัยราวสี่สิบคน บรรดาพี่เลี้ยงเป็นคนทำงานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนล้วนฝีมือฉกาจฉกรรจ์ โดยเฉพาะ แคน และน้องผู้ชายอีกคนจำชื่อไม่ได้ (มาจากแก่งเสือเต้น) ดำเนินกิจกรรมให้กับเด็กๆ ได้อย่างมีสาระและสนุกสนาน เรียกว่าเอาอยู่ เก่งมากๆ
สร้อยแก้ว
 หน้าบ้านดอกโมกบานก่อนเพื่อนดอกมะลิตามมาดอกคูนเริ่มผลิไสวลั่นทมสี่ต้นที่เคยปลูกเองกับมือก็ผลิดอกให้ชมเร็วทันใจปีที่แล้วนี้เอง, ตอนนั้นเอามาปลูกกับเด็กหญิงไพจิตรพายุคะนองทำให้กิ่งก้านใหญ่ของลั่นทมหน้าศูนย์ฯ หักฉันแบ่งออกเป็นสี่กิ่งปลูกรอบบ้านดินไม่คิดว่าวันหนึ่งจะได้มาอยู่บ้านหลังนี้ลั่นทมกลิ่นหอม ชอบเด็ดมาดมดอกพุก ไม้ยืนต้นก็บานแล้วสีขาวดอกยอกขี้หมาส่งกลิ่นหอมจากคืนถึงเช้ามันเป็นดอกที่ชื่อกับตัวไม่เข้ากันเลยยอกขี้หมาสีขาวร่วงหล่นบนพื้นสีขาวเกลื่อนทางเดินดูสวยดียามเช้าตื่นมาเดินเล่น สูดดมกลิ่นหอมของดอกไม้แสนสดชื่นเย็นวันนี้…
สร้อยแก้ว
แม้ม็อบเสื้อสีๆ จะซาลงไปแล้ว (ซาแต่นามภาพ-รูปธรรม แต่ในความรู้สึกนั้นยังคงไหลแรง) แต่ฉันก็ยังเชื่อว่าคนที่เข้าร่วมแต่ละกลุ่มย่อมมีความคิด มีทัศนคติที่ชัดเจนของตนเอง อย่างที่ทิ้งท้ายไว้ในตอนที่แล้วว่าฉันจะนำความคิดของ ไม้หนึ่ง ก.กุนที มานำเสนอ เพราะเห็นว่าวิธีคิดของเขาน่าสนใจมาก ซึ่งแม้ปัจจุบันฉันจะยังอยู่ขอบปลายชายแดนอีสาน ไม่มีโอกาสได้เจอหรือพูดคุยกับตัวตนจริงๆ ของเขา และบทสัมภาษณ์ที่คัดลอกมาฝากนี้ก็เคยผ่านหน้านิตยสารมาบางส่วนแล้ว แต่ฉันก็ยังอยากให้ใครอีกหลายๆ ที่อาจยังไม่ได้ผ่านตากับความเห็นเหล่านี้ได้ลองอ่านเล่นๆ ดูบ้าง
สร้อยแก้ว
ไม้หนึ่ง ก. กุนที - เป็นใคร? สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานเขียนประเภทกวีนิพนธ์หรืองานวรรณกรรม ก็มีความเป็นไปได้สูงที่อาจจะตั้งคำถามนี้ แต่สำหรับแวดวงนักเขียนหรือคนที่สนใจงานวรรณกรรม ย่อมรู้จักเขาดีว่าเขาคือหนึ่งในกวีหัวก้าวหน้าที่มีความสามารถสูงในด้านฉันทลักษณ์จนก้าวพ้นกรอบกฎเกณฑ์ของฉันทลักษณ์ไปได้อย่างสง่างามและพยายามที่จะให้ฉันทลักษณ์รับใช้ศิลปะ มีชีวิตชีวา มากกว่าเพียงแค่ถ้อยคำไพเราะเพราะพริ้ง
สร้อยแก้ว
แมนยูฯ คือ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ศูนย์ฯ คือ ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูนฉันย้ายจากบ้านเช่าในเมืองโขงเจียมมาอยู่บ้านดินของศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านปากมูน ได้ ๑ เดือนเต็มๆ แล้วและนับตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ภายในบ้านที่มีโทรทัศน์ใส่กล่องกระดาษตั้งอยู่ มันก็มีหน้าที่เป็นพนักพิงยามเขียนหนังสือ (กับโต๊ะญี่ปุ่น) ให้เท่านั้น ฉันขอความร่วมมือจากคนร่วมชายคาบ้านว่าหากอยากดูข่าวสารจากโทรทัศน์ก็ช่วยออกแรงเดินสักร้อยกว่าเมตรไปดูในห้องทำงานของศูนย์ฯ เถอะนะ ซึ่งที่นั่นจะมีน้องชายอ้วนดูอยู่เป็นประจำ (และนอนที่นี่) คนอาศัยชายคาเดียวกันก็นับว่ามีน้ำใจยิ่ง ให้ความร่วมมือกับคนเรื่องมากอย่างฉันโดยดี
สร้อยแก้ว
ไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงเล้ยยยยย... จริงๆ พับเผื่อยซิ วันประชุมสมัชชาคนจน ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากการสร้างเขื่อน ได้มาประชุมปรึกษาหารือกันที่ศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้าน เจ้าแมวตัวนี้นอนซุกอยู่ในรองเท้าเจ้าอ้วน - เด็กอ้วนแห่งรายการวิทยุชุมชน เด็กๆ แถวนี้บอกว่าพี่น้องมันตายไปหมดแล้ว หมาฟัดเรียบฉันได้แต่ฟังเขาพูด ไม่ได้ขึ้นไปฟังเขาประชุมด้วย เลยไม่รับรู้ต่อการมีอยู่ของมันแต่ว่าพอบ่ายแก่ๆ ก็มีมือดีจับใส่กระเป๋าเสื้อเดินมาให้ที่บ้านดิน"อยู่ที่นี่ดีกว่านะ ไม่งั้นเดี๋ยวมันจะถูกหมาฟัดตาย"เจ้าของเสียงดึงมันออกมา ตัวเล็กๆ อยู่ในอุ้งมือเดียวเท่านั้นของชายหนุ่มฉันมองแล้วทั้งยิ้มทั้งถอนใจ
สร้อยแก้ว
ร้อนๆ อย่างนี้ ซื้อน้ำแข็งกินทีไร ก็อดคิดถึงตู้เย็นไม่ได้ทุกที ถ้ามีตู้เย็นฉันคงจะซื้อน้ำแข็งกินไม่เปลืองเท่านี้ เพราะกินเท่าที่ต้องการ เหลือก็ใส่ตู้เย็น หรือบางทีก็ทำน้ำแข็งกินเองก็ได้ ส่วนของสดหรืออาหารที่กินเหลือก็แช่ตู้เย็นไว้ได้ หิวเมื่อไหร่ก็นำมากินได้อีก ไม่เปลือง อืมม์! คิดทีไรก็อยากกลับไปเอาตู้เย็นที่กรุงเทพฯ ทุกที แต่ก็ติดตรงที่ฉันไม่เคยแน่ใจสักทีว่าจะปักหลักที่ไหน การเคลื่อนย้ายบ่อยจึงไม่เหมาะที่จะมีสัมภาระอะไรมาก นี่ขนาดว่าไม่มาก ฉันก็ยังซื้อโทรทัศน์ (ไว้ดูข่าวสารบ้านเมือง) เครื่องซักผ้า (แก่แล้ว นั่งซักปวดหลัง) หนังสืออีกหนึ่งเข่งและข้าวของจิปาถะอีกสองเข่งกับอีกสองลังเสื้อผ้า…
สร้อยแก้ว
ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการสร้างเขื่อนสิรินธรเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๔ ได้จัดงานรำลึก ๑๕ ปีในการต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ในบริเวณแถบอีสานใต้นี้ นับว่ามีปัญหาของชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของภาครัฐอยู่หลายโครงการ เอาแค่ใกล้ๆ ที่ฉันอยู่ มีปัญหาจากการสร้างเขื่อนอยู่สามโครงการคือ เขื่อนสิรินธร เขื่อนปากมูน และเขื่อนราษีไศล
สร้อยแก้ว
  "ท่านเป็นเจ้านาย มีเงินเดือนกิน ท่านบ่ได้เป็นแม่ค้าหาเช้ากินค่ำ ท่านจะเว้าจังได๋ก็ได้"คำพูดของแม่ค้าคนหนึ่งดังอยู่ข้างหูเมื่อทุกคนมายืนรอฟังคำตอบจากการไปเจรจากับทางเทศบาลมาเสียงโทรศัพท์ที่ดังแต่เมื่อคืนบอกถึงเจตจำนงในการจะยึดพื้นที่ค้าขายกลับคืนมาในช่วงเวลาราวตีหนึ่งเศษทำให้เพื่อนบางคนที่ทำงานในศูนย์ภูมิปัญญาไทบ้านต้องรีบออกไปดูแต่เช้า และแน่นอนด้วยความอยากรู้อยากเห็นฉันก็ขอกระเตงติดรถไปด้วยคน
สร้อยแก้ว
ฉันมีโอกาสไปดูงานรณรงค์เลิกเหล้าของหมู่บ้านคำกลาง ตำบลโนนหนามแท่ง อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ เมื่อหลายเดือนก่อน ตำบลนี้มีกำนันคนเก่งเป็นผู้หญิงชื่อ รัตนา สารคุณ ก่อนนี้แม่กำนันเคยเป็นนักเลงสุรา ดื่มเหล้าหนัก แม่กำนันดื่มเหล้าเพียวและดื่มน้ำตบตูดแบบเดียวกับที่ผู้ชายพื้นบ้านนิยมดื่มกัน และแม่คอแข็งชนิดผู้ชายต้องยอมแพ้ แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป กาลเวลาสามารถพิสูจน์ความสามารถของเธอได้มากกว่าการพิสูจน์ความกินทนกินนาน ใจป้ำ ใจแกร่ง ในวงสุรา แม่กำนันก็เห็นโทษของการดื่มสุรา และหันมารณรงค์ให้ลูกบ้านลดละเลิกเหล้า
สร้อยแก้ว
  นึกไม่ออกแล้วว่าเคยไปร่วมงานวันเด็กครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่พยายามนึก...ลูกก็ยังไม่มี หลานรึ ก็ไม่เคยได้พาไป เพราะไม่ค่อยได้อยู่บ้านงานวันเด็กครั้งสุดท้ายของตัวเองน่าจะเป็นตอนที่ยังเรียนอยู่ชั้น ป.๖ นั่นแหละ เพราะหลังจากนั้น พอขึ้นชั้น ม.๑ ความแก่แดดแก่ลมของฉันก็พลันให้รู้สึกว่าตัวเองเป็นสาววัยรุ่นแล้ว ไม่ใช่เด็ก จึงไม่เคยไปวอแวงานวันเด็กอีก ไม่อย่างนั้น เค้าจะหาว่าเด็กจนปีใหม่นี้ฉันมีโอกาสไปนอนมองพระจันทร์กลางทุ่งนา มองฟ้าพร่างดาวเคลื่อนคล้อยข้ามคืนข้ามปีในช่วงปีใหม่ที่อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ก็เลยได้อยู่ยาวมาเรื่อยจนถึงงานวันเด็กของหมู่บ้าน