‘โถ่เรบอ’
หนังสือนวนิยายขนาดสั้น เรื่อง “เพลงรักช่อดอกไม้” ของ ‘พิบูลศักดิ์ ละครพล’ ที่เคยตีพิมพ์เป็นตอนๆ ใน ‘สกุลไทย’ เมื่อปี 2520 ก่อนสำนักพิมพ์จันทร์ฉายจะนำมารวมเล่มครั้งแรก ในปี 2521 นั้นเปิดฉากด้วยเนื้อเพลงปกาเก่อญอ ที่ชื่อ “แพลาเก่อปอ”
“แพลาเก่อปอ ในคืนพระจันทร์ส่องแสง
ฉันนั่งเหม่อมอง คอยจ้องแทะนาเต่อกา
ฉันคอยแสนคอย บะฉ่าเตอถี่บะนา
เส่ นอ ถ่อแย เมื่อฉันเคียงคู่กับเธอ
แมแหม่แคอี ฉันต้องอยู่เดียวเปลี่ยวดาย
มองหาคู่เคียง บะฉ่าเตอถี่เลอบา
โอ้ยอดดวงใจ แคอีเนอโอะแพแล
โปรดจงเห็นใจ เกอหน่าเยอพอคีลา”
เพลงนี้ติดหูชาวปกาเก่อญอยาวนานมากว่าสามสิบปี
ถือได้ว่าเป็นเพลงยุคแรกๆ ที่นักร้องชาวปกาเก่อญอนำเพลง มาใส่เนื้อร้อง ทำนองเข้ากับกีต้าร์
แม้เพลงในชุดนี้จะมีเครื่องดนตรีเพียงกีต้าร์ตัวเดียวก็ตาม
แต่เจ้าของเสียงเพลงและเนื้อเพลงในชุดนี้ ผู้ร้องได้ถ่ายถอดออกมาด้วยน้ำเสียงอย่างได้อารมณ์
มีเสน่ห์ครองใจชาวปกาเก่อญอมายาวนาน จนกลายเป็นเพลงอมตะของชนเผ่าไปแล้ว
เพลงในอัลบั้มชุด “ใต้แสงจันทร์” หรือ “แพลาเก่อปอ”
นอกจากเพลงใต้แสงจันทร์ที่มีเนื้อร้องผสมระหว่างภาษาปกาเก่อญอกับภาษาไทย ทำให้คนไทยก็หลายคนชื่นชอบ และยังมีเพลงอื่นๆ อีกหลายเพลง ที่เป็นเพลงรักเพลงอกหัก ซึ่งตรงกับชีวิตผู้ร้อง ซึ่งถูกชายคนรักในเผ่าพันธุ์เดียวกันทอดทิ้ง
การที่ลูกสาวถูกชายคนรักทำให้เจ็บช้ำใจ
ผู้เป็นพ่อจึงต้องพาลูกสาวย้ายจากถิ่นเกิดบ้านน้ำลัด จังหวัดเชียงราย
พาลูกสาวหลบรักษาแผลใจไกลยังเมืองสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ทิ้งไว้เพียงอัลบั้มเพลงชุดเดียวที่ยังมีเปิดให้พี่น้องในเผ่าพันธุ์ได้ฟังกันอยู่จนทุกวันนี้
ที่ สวท.เชียงใหม่ ภาคภาษากะเหรี่ยง
ตอนหัวค่ำวันที่ 8 ธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา
เจ้าของเพลง “ใต้แสงจันทร์ แพลาเก่อปอ” ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่สังขละบุรี
หลังจากต่อสู้กับโรคภัยนานนับปี
มิตรรักแฟนเพลงชาวปกาเก่อญอของ “เส่อหระหมื่อซูกรี”
ขอรำลึกถึงมา ณ ที่นี้ด้วยความอาลัย
* ลาเก่อปอ = แสงจันทร์