Skip to main content

เรื่องนี้เป็นสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้แรงงานในยามที่เจอกับภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด เราคงได้ยินเสียงผู้ประกอบการบ่นให้ฟังว่า ยอดสั่งซื้อตก กำไรหด ต้องลดกำลังการผลิตเพื่อให้บริษัทอยู่รอดกันใช่ไหมครับ  แต่ทราบไหมครับว่า ทุกครั้งที่บอกว่าขาดทุนและต้องลดต้นทุนหรือกำลังการผลิตนั้น มันหมายถึงการปรับลดจำนวนคนงานออกจากตำแหน่ง   ทั้งที่ตอนผลิตแล้วมีกำไรมากมายคนงานก็ไม่ได้อะไรเพิ่มขึ้นนอกจากค่าจ้างตามจำนวนชั่วโมงและชิ้นงานที่ผลิต   แต่เมื่อเกิดวิกฤตกับเป็นคนงานที่ต้องเสียสละทุกสิ่งไปเป็นกลุ่มแรก   ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วโลกจนต้องมีการพยายามวางมาตรการรองรับคนทำงานไม่ให้ตกอยู่ในภาวะเสี่ยงที่จะต้องตกงานกะทันหันโดยไม่ทันตั้งตัว   ด้วยระบบการสร้างอำนาจต่อรองให้แรงงานรวมตัวกันตั้งสหภาพเพื่อศึกษาต้นทุนการผลิตและต่อรองให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ใช้แรงงานที่เป็นผู้สร้างผลผลิตบ้างเช่นกัน   แต่ในหลายครั้งการต่อรองของผู้ใช้แรงงานก็ต้องเผชิญกับกระบวนการต่อต้านและสลายอำนาจในการเจรจาด้วยอวิชชาหลายรูปแบบโดยเฉพาะมาตรการทางกฎหมายที่จะเห็นได้จากประสบการณ์ของพี่น้องผู้ใช้แรงงานกลุ่มนี้ครับ

“ในช่วงที่เศรษฐกิจทั่วโลกตกต่ำ มีโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสาขาของบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ดังระดับโลกได้เริ่มทยอยปลดคนงานในประเทศต่างๆลง  โดยยังคงคนงานในประเทศไทยไว้เพราะเป็นแรงงานมีฝีมือพิเศษประณีตกว่าที่อื่นและยังมีค่าแรงถูกกว่าในประเทศที่มีคุณภาพใกล้เคียงกัน    จนมาถึงช่วงหนึ่งซึ่งบริษัทเริ่มปรับมาใช้วิธีลดชั่วโมงการทำงานของโรงงานสาขาหนึ่งจนพนักงานจำนวนหนึ่งมีรายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย เนื่องจากไม่ได้ทำโอที และไม่มีโบนัสรางวัลในการสะสมชิ้นงานที่ทำได้มากอย่างเช่นแต่ก่อน   จนคนงานลาออกกันไปล็อตใหญ่ รวมถึงมีการเลิกจ้างพนักงานบางส่วนที่มีอายุมากด้วยโดยบอกว่าบริษัทมีปัญหาทางเศรษฐกิจ  แต่บริษัทกลับเพิ่มปริมาณงานให้กับคนงานที่อยู่ในโรงงานอีกสาขาหนึ่งเต็มกำลังการทำงาน คือ 12 ชั่วโมงต่อวัน แถมยังนำระบบโบนัสจำนวนชิ้นงานต่อหนึ่งชั่วโมงมาล่อให้คนงานทำอย่างเต็มกำลังจนถึงขนาดไม่ลุกไปดื่มน้ำหรือเข้าห้องน้ำกันเลยทีเดียว   และได้มีการสลับการเพิ่มลดชั่วโมงการทำงานไปมาระหว่างสาขาจนนำมาซึ่งการลาออกของคนงานในอีกสาขาหนึ่งเช่นกัน

หลังจากที่คนงานได้พบกับเจ้าหน้าที่ของกรมแรงงาน และมีเพื่อนผู้ใช้แรงงานจากที่อื่นมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และเสนอแนะวิถีทางในการสร้างความมั่นคงในชีวิตให้ จึงตัดสินใจว่าจะมีการรวมกลุ่มคนงานในโรงงานขึ้นเป็นสหภาพแรงงานประจำบริษัทแห่งนี้ เพื่อจะได้มีพื้นที่ในการพูดคุยสถานการณ์ต่างๆ และหาทางพัฒนาคุณภาพชีวิตของเพื่อนๆผู้ใช้แรงงานร่วมกันในบริษัท เพราะจากประสบการณ์การลดชั่วโมงที่ผ่านมาทำให้เห็นว่า บางทีการไม่ได้คุยกัน พบปะปรึกษาหารือ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ก็ทำให้ไม่เข้าใจภาพรวมของสถานการณ์ทั้งหมด แค่เรื่องของคนงานบริษัทเดียวกันแต่ต่างสาขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนทำให้เกิดการลาออกด้วยวิธีการง่ายๆอย่างที่ว่ามาข้างต้น  จนบริษัทแห่งนี้มีสหภาพแรงงานขึ้นมาเป็นตัวแทนของลูกจ้างเพื่อพูดคุยปัญหาในการทำงานและสวัสดิการต่างๆที่พึงได้รับตามกฎหมาย และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนงานให้มีขวัญกำลังใจในการทำงานมากขึ้น

ผ่านมาได้สักระยะหนึ่ง ทางบริษัทก็ได้ปรับตัวครั้งใหญ่โดยได้ปรับลดสวัสดิการของคนงานลง  และพยายามคัดคนงานที่ไม่จำเป็นออก อีกทั้งยังใช้มาตรการลดเงินเดือนของคนงานลงด้วย เมื่อมีมาตรการดังกล่าวออกมาจึงเป็นเหตุทำให้มีคนงานบางส่วนทยอยลาออกจากโรงงาน ซึ่งการลาออกของคนงานจะทำให้นายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินค่าชดเชย เวลาผ่านไป 1 เดือนมีผู้ใช้แรงงานลาออกจากโรงงานเหลือคนงานแค่สามส่วนสี่จากจำนวนเดิม จึงเป็นเหตุทำให้คนงานที่เหลือจะต้องทำงานหนักมากขึ้น อีกทั้งยังไม่มีการเพิ่มเงินเดือนให้อีก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเหตุให้คนงานโรงงานที่ทำงานในโรงงานดังกล่าวเป็นเวลา 5 ปีทนไม่ไหวจึงต้องลาออกจากโรงงานเดิม ทั่งทีไม่มีงานใหม่มารองรับ แต่ตนเองก็ทนรับภาระงานที่หนักอึ้งต่อไปไม่ได้ โดยการลาออกดังกล่าวก็ไม่ได้รับเงินชดเชยใดๆ นอกจากเงินเดือนเดือนสุดท้าย

นอกจากนั้นทางพี่น้องผู้ใช้แรงงานที่เข้ามาปรึกษายังพบว่า คนงานที่ถูกคัดออกส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในสหภาพแรงงาน โดยคนที่ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องจะโดนปรับออกแทบทั้งสิ้น   จึงได้เข้ามาปรึกษาว่าจะหาทางแก้ไขอย่างไรไม่ให้สหภาพแรงงานที่เป็นตัวแทนในการเจรจาต่อรองถูกทำลายลงไป เพราะในขณะนี้คนงานที่เหลือไม่มีที่พึ่งใดๆ มากนัก เพราะผู้นำสหภาพโดนไล่ออกไปเกือบหมดแล้ว   บางกรณีสมาชิกสหภาพไปร้องเรียนกับกรมแรงงาน ก็จะโดนข้อกล่าวหานินทาว่าร้ายต่างๆ รวมไปถึงเชื่อมโยงว่ากิจกรรมของสหภาพทำลายชื่อเสียงของบริษัท เช่น การเอาชื่อบริษัทไปเข้าร่วมการทำกิจกรรมแรงงานประจำปี หรือมีหัวหน้าสหภาพบางคนไปเคลื่อนไหวประเด็นทางสังคม เช่น หัวหน้าสหภาพแรงงานหญิงคนหนึ่งซึ่งไปเรียกร้องสิทธิในการทำแท้งอย่างปลอดภัยและเป็นการตัดสินใจอนาคตของแรงงานที่มีฐานะยากจนเลี้ยงลูกไม่ไหว ก็ถูกกล่าวหาว่าทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหายที่ไปสนับสนุนการทำแท้ง เป็นต้น”

วิเคราะห์ปัญหา

1.             บริษัทสามารถเลิกจ้างลูกจ้างด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจหรือไม่

2.             หากบริษัทจะเลิกจ้างจะต้องมีการดำเนินการอย่างไรก่อน หรือชดเชยอย่างไรหลังเลิกจ้างบ้าง

3.             ในช่วงที่ผู้ใช้แรงงานว่างงานจะมีสิทธิแต่อย่างใดบ้าง

4.             แรงงานมีสิทธิรวมกลุ่มเป็นสหภาพและต่อรองกับบริษัทหรือไม่ การเปลี่ยนสภาพการจ้างงานโดยไม่ตกลงกับสหภาพก่อนจะมีผลบังคับทางกฎหมายหรือไม่

5.             บริษัทสามารถเลิกจ้างลูกจ้างที่มีตำแหน่งบริหารในสหภาพแรงงานทันทีหรือไม่

การนำกฎหมายมาแก้ไข

1.             บริษัทอาจเลิกจ้างลูกจ้างด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจตามสภาพความเป็นจริงทางธุรกิจ

2.             หากบริษัทจะเลิกจ้างจะต้องมีการแจ้งล่วงหน้าในลูกจ้างรู้ล่วงหน้าเพื่อเตรียมตัวก่อน และต้องจ่ายค่าชดเชยหลังเลิกจ้างตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนด โดยคำนวณตามระยะเวลาที่เคยทำงานมา

3.             ในช่วงที่ผู้ใช้แรงงานว่างงานจะมีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนสวัสดิการสังคมที่เคยจ่ายสมทบไว้

4.             แรงงานในสถานประกอบการมีสิทธิรวมกลุ่มเป็นสหภาพและต่อรองกับบริษัทได้ การเปลี่ยนสภาพการจ้างงานจะต้องตกลงกับสหภาพก่อนจึงจะมีผลบังคับทางกฎหมาย

5.             บริษัทไม่อาจเลิกจ้างลูกจ้างที่มีตำแหน่งบริหารในสหภาพแรงงานตามอำเภอใจ นายจ้างต้องร้องขอต่อศาลแรงงานโดยให้ผลในการเลิกจ้างตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดเท่านั้น เช่น กรณีนี้ต้องพิสูจน์ได้ว่าลูกจ้างทำให้ผลประกอบการของบริษัทเสียหายจริงจากการกระทำของสมาชิกสหภาพ

ช่องทางเรียกร้องสิทธิ

1.             ลูกจ้างอาจเข้าเจรจากับนายจ้างได้ในเบื้องต้น

2.             ลูกจ้างอาจรวมตัวกันโดยให้สหภาพสถานประกอบการเป็นตัวแทนในการเจรจากับนายจ้าง

3.             ลูกจ้างอาจร้องเรียนต่อกระทรวงแรงงาน หรือสำนักงานแรงงานประจำจังหวัด

4.             การฟ้องร้องคดีทั้งหลายต้องดำเนินการในศาลแรงงานกลางหรือศาลแรงงานจังหวัด โดยศาลจะใช้ระบบไตรภาคีมีตัวแทนนายจ้าง ลูกจ้าง และผู้พิพากษาอาชีพ

สรุปแนวทางแก้ไข

ใช้หลักกฎหมาย สัญญาจ้างแรงงานและกฎหมายสวัสดิการสังคมของแรงงาน ซึ่งกรณีนี้แม้นายจ้างอาจเลิกจ้างด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจก็ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และจ่ายค่าชดเชยให้กับคนงาน   รวมถึงช่วงว่างงานก็สามารถได้รับเงินจากกองทุนสวัสดิการสังคมที่เคยจ่ายสมทบไว้   การปรับสภาพการจ้างต้องทำร่วมกันโดยนายจ้างเปลี่ยนเองฝ่ายเดียวไม่ได้   นอกจากนี้แรงงานยังมีสิทธิในการรวมกลุ่มกันตั้งสหภาพในสถานประกอบการได้โดยนายจ้างจะไล่สมาชิกสภาพระดับบริหารโดยพลการไม่ได้ต้องขออำนาจศาลแรงงานก่อน

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
ตลอดระยะเวลาแห่งความขัดแย้งทางการเมือง ได้มีกลุ่มต่างๆ เสนอทางออกของปัญหาด้วยการใช้กฎหมายมากมายหลายมาตรา   แต่มาตราหนึ่งซึ่งเป็นข้อถกเถียงมาก คือ การใช้รัฐธรรมนูญ ม.7 ตั้งแต่เมื่อคราวที่ยังใช้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 เรื่อยมาจนถึง ฉบับปี 2550   คนจำนวนไม่น้อยคงสงสัยมากว่า มาตรา 7
ทศพล ทรรศนพรรณ
เอาล่ะครับ พ่อแม่พี่น้อง เรื่องถัดไปนี่คงเป็นความสนใจของเพื่อนพ้องหลายๆพื้นที่นะครับ ผมได้รับแจ้งเข้ามาว่า  เจ้าพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่หนึ่งมีการเพิกเฉย ละเลย ดูแลปัญหาความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ แถมยังมีเรื่องราวกินสินบาทคาดสินบนทำให้ชาวบ้านจนปัญญาจะหาทางแก้ไขเข้าไปอีก&n
ทศพล ทรรศนพรรณ
พลังเหนือมนุษย์ ที่จะพูดถึงในครั้งนี้ประกอบไปด้วยสองส่วน คือ พลังธรรมชาติ และพลังลี้ลับ   ซึ่งกฎหมายก็ได้พูดถึงสองสิ่งนี้อยู่ไม่น้อยทีเดียว
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องนี้เป็นสารพัดปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้ใช้แรงงานในยามที่เจอกับภาวะเศรษฐกิจตกสะเก็ด เราคงได้ยินเสียงผู้ประกอบการบ่นให้ฟังว่า ยอดสั่งซื้อตก กำไรหด ต้องลดกำลังการผลิตเพื่อให้บริษัทอยู่รอดกันใช่ไหมครับ  แต่ทราบไหมครับว่า ทุกครั้งที่บอกว่าขาดทุนและต้องลดต้นทุนหรือกำลังการผลิตนั้น มันหมายถึงการป
ทศพล ทรรศนพรรณ
             กฎหมายสมัยใหม่ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้ มีสิ่งที่ต้องเข้าใจร่วมกันว่า ได้ให้อำนาจเด็ดขาดแก่รัฐในการบีบบังคับประชาชนในรัฐ และลงโทษผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายโดยการใช้ความรุนแรงนับตั้งแต่ การประหารชีวิต การจำคุก การควบคุมตัว ริบทรัพย์ ในระบบกฎหมายอาญา  ไ
ทศพล ทรรศนพรรณ
ทุกท่านคงทราบกันแล้วนะครับว่าปัจจุบันกฎหมายไทยเกี่ยวกับเรื่องข่มขืนได้มีการปรับปรุงแก้ไขไปให้ทันกับสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นจริง เพราะมิใช่เพียง
ทศพล ทรรศนพรรณ
คงมีหลายคนสงสัยว่าทำไมนักกฎหมายมักย้ำเสมอว่าปัญหาทางกฎหมายต้องตอบในลักษณะ “หนึ่งคำถาม หนึ่งคำตอบ”    กล่าวคือ ในปัญหาเรื่องนั้นจะต้องมีคำชี้ขาดขององค์กรตุลาการหรือองค์กรวินิจฉัยชี้ขาดที่ชัดเจนแน่นอนเพียงหนึ่งเดียว   ห้ามมีคำตอบแตกต่างหลากหลาย   เช่น  
ทศพล ทรรศนพรรณ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งกับผู้ใช้รถใช้ถนนทั้งในเมืองและต่างจังหวัด เนื่องจากในบางเส้นทางจะมีด่านตรวจของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อถูกกักตัวหรือขอตัวค้นรถตอนถึงด่าน   ทั้งยังสงสัยกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตรงด่านว่าใช่ตำรวจหรือไม่ มีอำนาจหน้าที่อะไ
ทศพล ทรรศนพรรณ
       หลายครั้งที่เราสงสัยกันว่าทำไมเรื่องที่เค้าเถียงกันแทบเป็นแทบตายไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสักที ตำรวจก็บอกว่าต้องทำตามกฎหมายข้อนี้ นักกฎหมายก็อ้างว่าไม่ได้ต้องดูกฎหมายอีกฉบับด้วย แล้วพอไปออกรายการทีวีเถียงกันก็ยังไม่ค่อยจะรู้เรื่อง เพราะปัญหาเดียวกันไหงมีกฎหมายมาเกี่ยวข้องต้อง
ทศพล ทรรศนพรรณ
ปัจจุบันมีคนจำนวนมากเข้าไปทำงานตามร้านอาหารหรือสถานบริการต่างๆมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ตามจำนวนร้านรวงที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด จุดไหนมีคนทำงานหรือเรียนหนังสือเยอะๆก็จะมีร้านตั้งมาดักไว้เต็มไปหมด ก็มีคนพูดไว้เยอะว่าร้านอาหารที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นแหล่งมั่วสุมของนักศึกษาหรือว่าคนทำงานในวัยหนุ่มสาว&
ทศพล ทรรศนพรรณ
ตอนนี้เราจะมาดูกันนะครับว่า ทำไมเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นมาในสังคม เราจึงต้องใช้กฎหมายมายุติความขัดแย้ง   เหตุผลของเรื่องนี้ก็ต่อมาจากตอนที่แล้วซึ่งเราบอกว่า กฎหมาย คือ กติกา ที่สังคมกำหนดขึ้นมาร่วมกัน เพื่อชี้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ต่างๆขึ้น แล้วตกลงกันไม่ได้ จะ “ยุติ” ความขัดแย้งอย่างไรใ
ทศพล ทรรศนพรรณ
เรื่องที่ผมจะเอามาเล่าสู่กันฟังเป็นความเดือดร้อนแสนสาหัสของน้องสองคนซึ่งได้รับผลกระทบจากการประกาศภาวะฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ในช่วงที่มีการปราบปรามและสลายการชุมนุม   ซึ่งมันเกี่ยวพันกับชีวิตคนธรรมดาอย่างเราๆท่านๆมากขึ้น เพราะสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2