Skip to main content

การเลือกตั้งท้องถิ่นในแคว้นคาตาลุนญ่า ราชอาณาจักรสเปน จะเกิดขึ้นในวันที่ 27 กันยายน 2015 ก่อนหน้าการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศสเปนประมาณ 2 เดือน ความตื่นตัวของประชาชนสูงเพราะอยู่ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่ประชาชนได้รับผลกระทบกันไปทั่ว

สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ กระแสแบ่งแยกดินแดนมาแรงมากถึงขนาด เช่น คณะกรรมการเลือกตั้งประกาศห้ามหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นติดธงสัญลักษณ์แคมเปญประกาศอิสรภาพคาตาลัน ซึ่งหมายความว่า การติดธงสัญลักษณ์จะช่วยให้พรรคที่ใช้ประเด็นแบ่งแยกดินแดนหาเสียงได้ประโยชน์จากตราสัญลักษณ์นี้   และก่อนหน้านี้ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำพิพากษาว่า โรงเรียนที่อยู่ในการบริหารของรัฐบาลท้องถิ่นคาตาลุนญ่าบังคับใช้ภาษาคาตาลันสอนวิชาต่างๆมากไป ต้องใช้ภาษาสเปนมากขึ้น ด้วย

คำถาม คือ ทำไมรัฐที่มั่นคงและมีบูรณภาพแห่งดินแดนมาช้านานจึงยังหลงเหลือไฟครุกรุ่นเกี่ยวกับความขัดแย้งทางเชื้อชาติ หรือชาติพันธุ์

หากวิเคราะห์จากฟากประชาชน สเปนก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นในยุโรปนัก คือ พรรคฝ่ายขวาสมาทานนโยบายเศรษฐกิจแบบลดรายจ่ายภาครัฐ ส่งเสริมบรรษัทและนายทุน   ส่วนพรรคมวลชนฝ่ายซ้ายก็ดูแลสมาชิกสหภาพรุ่นเก๋าจนคนรุ่นใหม่เสื่อมศรัทธาในพรรค 

ความล้มเหลวของพรรคการเมืองระดับชาติสเปน ทำให้คนผิดหวัง จึงถวิลหา "พรรคทางเลือกที่สาม" จนสเปนเกิดพรรคใหม่ที่ชื่อว่า “Podemos” (เราทำได้) ขึ้นมา

พรรค Podemos นี้เน้นโจมตีนโยบายพรรคเก่าๆที่คงนโยบายสร้าง ความเหลื่อมล้ำ รัดเข็มขัด และผูกขาดอำนาจในหมู่ชนชั้นนำ   แล้วมามุ่งตอบสนองมวลชนอย่างถูกที่ถูกเวลา ตามความต้องการของมวลชน   กระแสตอบรับ Podemos จึงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในแคว้นที่ไม่มีปัญหา "ชาติพันธุ์" ถึงขั้นเป็นความขัดแย้งอยากแยกดินแดน   

แต่ในแคว้นที่มีรากเหง้าความขัดแย้งจากปัญหาชาติพันธุ์ ความอ่อนด้อยของพรรคทั้งสองทำให้เกิด “ความแหลมคม” ของสถานการณ์ เนื่องจากในแคว้นเหล่านี้ไม่น้อยมีความรู้สึกว่าไม่ด้อยกว่า คนคาสตีญ่า(แถบเมืองหลวงมาดริด) หรือคนอัลดาลูซ(แคว้นใหญ่สุดทางตอนใต้ใกล้อัฟริกา) และรู้สึก “แปลกแยก” จากคนสเปน มิได้มีสำนึกว่าเป็นคนชาติ เอสปันญ่อล เหมือนคนสเปนทั่วไป   จึงอยากจะออกแยกดินแดนออกไปบริหารงานเองดีกว่ากอดคอล่มสลายไปพร้อมกับเศรษฐกิจที่ร่อแร่ของสเปนในภาพรวม

สิ่งที่ต้องระลึกอย่าง คือ 19 เขตปกครองท้องถิ่นของสเปน มีความหลากหลายทางการเมืองมาก สเปนน่าจะถือว่าเป็นประเทศยุโรปที่มีการรวมศูนย์อำนาจน้อยสุด เนื่องจากมีการออกแบบเขตการปกครองระดับท้องถิ่นที่มีอำนาจการในการปกครองตนเองสูง สามารถบริหารจัดการนโยบายต่างๆได้อย่างเป็นอิสระมาก ริเริ่มโครงการและสวัสดิการทั้งหลายต่างไปจากเขตปกครองอื่นได้   หากจะเทียบเคียงก็ใกล้กับมลรัฐต่างๆในสหรัฐอเมริกา   โดยทั้งหมดอยู่ในร่มของระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขภายใต้รัฐธรรมนูญ

ความต้องการอิสระและการปกครองตนเองสูงมีที่มา สืบเนื่องจากความเจ็บปวดในช่วงสงครามกลางเมืองที่นายพลฟรังโกที่ใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามกลุ่มอุดมการณ์ฝ่ายสาธารณรัฐประชาธิปไตยลง แล้วสถาปนารัฐชาตินิยมฟาสซิสต์ขึ้นมา กดความแตกต่างหลากหลายในทุกภูมิภาคไว้ใต้ท้อปบู้ธนานนับ 40 ปี หลังจากระบอบเผด็จการล่มไปพร้อมกับความตายของฟรังโกในปี 1975 กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญจึงได้มีการคิดค้นการสร้างสมดุลระหว่าง “อำนาจรัฐบาลส่วนกลาง” กับ “อำนาจรัฐบาลเขตปกครองท้องถิ่น” ให้เกิดความสมดุลเพื่อลดความตึงเครียดและความขัดแย้งภายในประเทศไว้เป็นสำคัญ จนกระทั่งประกาศใช้ในปี1978 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน   รัฐธรรมนูญสเปนจึงเป็นการลดความขัดแย้งของคนในชาติด้วยการ ขีดแบ่ง และจัดความสัมพันธ์ระหว่างคนที่มีความแตกต่างหลากหลายได้ลงตัว

แต่เมื่อถึงระยะเปลี่ยนผ่านที่สำคัญในยุคนี้ที่ เศรษฐกิจกลายเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายในชีวิตประจำวันของทุกคน การเกิดวิกฤตเศรษฐกิจที่ประชาชนพุ่งเป้าไปที่ความล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งขั้ว ซ้าย-ขวา ทำให้ประชาชนในแคว้นที่มีสำนึกเรื่องชาติที่แปลกแยกไปจากส่วนกลางอยู่แล้ว เริ่มหวนกลับมาคิดว่า จะฝากอนาคตไว้กับชนชั้นนำสเปน หรือจะแยกออกมาแล้วจัดการกันเอง ให้รอดพ้นวิกฤตเศรษฐกิจที่โหมซัดไปทั่วยุโรปใต้ได้อย่างไร

ดังนั้นชนชั้นนำและนักการเมืองท้องถิ่นในแคว้นที่มีประเด็นเรื่องชาติพันธุ์อยู่แล้ว เลยถือโอกาสเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสในการปลุกกระแสแยกดินแดนไปเลย   ซึ่งก็ทำอย่างเป็นเรื่องเป็นราวเปิดเผยเลยทีเดียว  อย่าง คาตาลุนญ่า บาสก์ และกาลีเซียง พรรคมวลชนที่มีกระแสดีระดับประเทศอย่าง Podemos ก็ยังพ่ายแพ้ให้กับ กระแส "แยกดินแดน" หรือ "ชาติพันธุ์นิยม" ซึ่งมาแรงกว่า เพราะสามารถเชื่อมกลับไปยังรากเหง้าทางประวัติศาสตร์ได้

การผลักดันแคมเปญโดยรัฐบาลแคว้นและนักการเมืองท้องถิ่นทำกันมาต่อเนื่อง โดยเฉพาะเมื่อสิ้นสุดระบอบเผด็จการ ก็มีการใช้จ่ายเพื่อสร้างการเรียนรู้วัฒนธรรมของชาติพันธุ์ตนสูงมากขึ้นเรื่อยๆ อีกเช่นกัน  

การเมืองท้องถิ่น เลยใช้ประเด็นแยกดินแดนนี้มาหาเสียงแทนนโยบายอื่นๆ โดยผลักดันว่า ถ้าแยกมาบริหารเองจะดีกว่าไปผูกติดกับรัฐบาลกลางมาดริด และกลบความเน่าในที่เกิดจากการบริหารระดับท้องถิ่นเองด้วย

การเล่นเรื่องแยกดินแดน ได้ผลเนื่องจาก ประชาชนเบื่อหน่ายการบริหารงานแบบรวมศูนย์ของรัฐราชการสเปน และนักการเมืองท้องถิ่นก็เบี่ยงความเกลียดชังของประชาชนในแคว้นให้มุ่งไปโจมตีรัฐบาลกลาง พรรคระดับชาติ โดยฉวยใช้นโยบายชาตินิยมมาเป็นกุญแจสู่ชัยชนะ

การปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐราชการ และการตอบสนองความต้องการของมวลชนจึงเป็นวิธีการป้องกันกระแสแบ่งแยกดินแดนที่ยั่งยืน

 

ผู้เขียน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ทศพล ทรรศนกุลพันธ์
 

บล็อกของ ทศพล ทรรศนพรรณ

ทศพล ทรรศนพรรณ
การนำ คำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 205/2549 มาตราเป็นพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร  โดยแฝงนัยยะของการสร้าง “รัฐทหาร” ด้วยการขยับขยายขอบเขตอำนาจแก่เจ้าหน้าที่ กอ. รมน.
ทศพล ทรรศนพรรณ
หลังสิ้นสุดยุคสมัยสงครามเย็น หนึ่งในมรดกตกทอดจากยุคนั้น ได้แก่ หน่วยงานความมั่นคงของรัฐไทยที่มีอำนาจหน้าที่อย่างเข้มข้นในการเฝ้าระวัง สอดส่อง ควบคุมการสื่อสารและการกระทำต่าง ๆ ของประชาชนที่ผู้มีอำนาจเห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง และส่งผลเสียต่อการยืนหยัดสู้เพื่ออุดมการณ์ทางการเมืองช่วงนั้น อาทิ กอง
ทศพล ทรรศนพรรณ
คนไร้บ้านจัดเป็นกลุ่มที่เสี่ยงที่จะถูกละเมิดสิทธิและด้อยโอกาสในการเข้าถึงบริการสาธารณะ สวัสดิการ และหลักประกันด้านต่าง ๆ ด้วยเหตุที่เป็นกลุ่มซึ่งต้องปะทะโดยตรงกับการพัฒนาเมืองอย่างไม่ยั่งยืนทั้งที่สาเหตุของการออกมาอยู่ในพื้นที่สาธารณะนั้นเกี่ยวข้องกับความเหลื่อมล้ำทางสังคมอันเป็นผลลัพธ์ของนโยบายส
ทศพล ทรรศนพรรณ
คนไร้บ้านตกอยู่ในสถานะของกลุ่มเสี่ยงที่อาจต้องเผชิญจากการเหยียดหยามศักดิ์ความเป็นมนุษย์โดยตรงจากการละเมิด และยังอาจไม่ได้รับการดูและแก้ไขปัญหาเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ยุ่งยากต่าง ๆ เพราะถูกจัดให้อยู่ในสถานะต่ำต้อยเสี่ยงต่อการเลือกประติบัติจากรัฐ จนไปถึงการเพิกเฉย ละเลย ไม่ใส่จะแก้ปัญหาให้คนไร้บ้
ทศพล ทรรศนพรรณ
คนไร้บ้านเป็นเสียงที่ไม่ถูกนับ การใช้พลังในลักษณะกลุ่มก้อนทางการเมืองเพื่อเรียกร้องประโยชน์จากผู้มีอำนาจให้จัดสรรทรัพยากรให้จึงเป็นเรื่องยาก ด้วยสาเหตุหลัก 2 ประการ คือ
ทศพล ทรรศนพรรณ
การคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของคนไร้บ้านจำเป็นต้องยืนอยู่บนฐานของกฎหมายที่ประกันสิทธิของบุคคลโดยมิคำนึงถึงความแตกต่างหลากหลายทางสถานภาพใด ๆ แม้คนไร้บ้านจะเป็นปัจเจกชน หรือกลุ่มคนที่มีปริมาณน้อยเพียงไร รัฐก็มีพันธกรณีในการเคารพ ปกป้อง และส่งเสริมสิทธิให้กลุ่มเสี่ยงนี้โดยเหตุแห่งความเป็นสิทธิมนุษยชนที่ร
ทศพล ทรรศนพรรณ
หากต้องกำหนดยุทธศาสตร์ของประเทศไทยในการเข้าร่วมตลาดดิจิทัลที่มีเข้มข้นของกิจกรรมข้ามพรมแดนตลอดเวลา เพื่อแก้ไขปัญหาศักยภาพของรัฐในการบังคับใช้กฎหมายขยายไปเหนือหลักเขตอำนาจศาลเหนือดินแดนของตนแบบเก่า เมื่อต้องกำกับกิจกรรมของบรรษัทข้ามชาติที่อยู่ในการบังคับของกฎหมายรัฐอื่นซึ่งมีบรรทัดฐานในหลายประเด็น
ทศพล ทรรศนพรรณ
การวิเคราะห์กฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับลักษณะความสัมพันธ์ของนิติบุคคลเจ้าของแพลตฟอร์มที่มักเป็นบรรษัทข้ามชาติกับรัฐ จะกระทำใน 3 ประเด็นหลัก คือ ใครเป็นเจ้าของข้อมูล ใครมีสิทธิใช้ประโยชน์จากข้อมูลมากน้อยอย่างไร หรือแบ่งปันกันอย่างไร อันเป็นการเตรียมความพร้อมของกฎหมายในการรองรับปรากฏการณ์การใช้ข้อมูล
ทศพล ทรรศนพรรณ
บทความนี้จะทำการรวบรวมข้อเสนอทางกฎหมายในระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับลักษณะความสัมพันธ์ของนิติบุคคลเจ้าของแพลตฟอร์มที่มักเป็นบรรษัทข้ามชาติ กับรัฐและองค์การระหว่างประเทศ อันเป็นการเตรียมความพร้อมของกฎหมายในการรองรับปรากฏการณ์การใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มดิจิทัล ว่าสามารถบริหารจัดการให
ทศพล ทรรศนพรรณ
บทความนี้จะทำการทบทวนข้อกฎหมายทั้งในระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับลักษณะความสัมพันธ์ของนิติบุคคลเจ้าของแพลตฟอร์มที่มักเป็นบรรษัทข้ามชาติ เรื่อยมาจนถึงสำรวจความพร้อมของกฎหมายในการรองรับปรากฏการณ์การใช้ข้อมูลจากแพลตฟอร์มดิจิทัล ว่าสามารถบริหารจัดการให้เกิดการแบ่งปันข้อมูลดิจิทัลระหว
ทศพล ทรรศนพรรณ
ประเด็นพื้นฐานที่รัฐต้องคิด คือ จะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อสะสมความมั่งคั่งได้อย่างไร แล้วจึงจะไปสู่แนวทางในการแบ่งปันความมั่งคั่งให้กับบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้อมูลขึ้นมาในแพลตฟอร์ม
ทศพล ทรรศนพรรณ
Kean Birch นำเสนอปัญหาของข้อมูลส่วนบุคคลในฐานะสินค้าของตลาดนวัตกรรมเทคโนโลยีจำนวน 5 ประเด็น คือ1.ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นทรัพย์สินส่วนตัวของแพลตฟอร์มในฐานะเจ้าของข้อมูลทึ่ถูกรวบรวมโดยนวัตกรรม,