สายลมหนาวพัดมาพร้อมกับสายฝนที่โปรยสายลงมา ว่ากันว่านี่คือฝนหลงฤดู! กาแฟแก้วของวันเป็นคาปูชิโน่ร้อนสองแก้ว แต่ไม่ใช่ของผมเป็นของลูกค้าต่างชาติ รสชาติของกาแฟเป็นอย่างไรในเช้านี้ ผมไม่อาจรู้ เพราะไม่ได้ชิม หลังสตรีมนมสดจนร้อนได้ที่ กลิ่นกาแฟสดหอมกรุ่นโชยออกมา และพร้อมแล้วสำหรับการดื่ม-กิน
แปลกแต่จริงตั้งแต่เริ่มประกอบอาชีพขายกาแฟตอนเช้า ผมพบว่าคนต่างชาติไม่ค่อยนิยมดื่มกาแฟกับดูดบุหรี่ไปพร้อมๆ กัน อาจเป็นเพราะกลัวรสชาติกาแฟเสีย พอๆ กับการที่คนต่างชาติไม่นิยม และไม่สั่งเอสเปรสโซ่เย็นใส่นมข้นหวาน
ลมจากแม่น้ำโขงพัดมาเย็นฉ่ำ...
เสียงเพลงจากเครื่องเล่นในท่วงทำนองของแจ๊ซแผ่วเบาล่องลอย นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนต่างชาตินั่งจมอยู่ในร้านนานกว่าคนไทย ความเร่งรีบของบางคนถูกหยุดลงในร้านพร้อมๆ กับเสียงแซ๊กโซโฟน
พูดตามความจริง โดยสันดานผมไม่ได้ชื่นชอบเพลงแจ๊ซเท่าใดนัก แต่เพราะหนังสือเล่มหนึ่งของนักเขียนนาม ’รงค์ วงสวรรค์ และเพื่อนคนนหนึ่งทำให้ผมได้ฟัง
เมื่อได้แผ่นซีดีมาครั้งแรก ผมนิ่งฟัง เพื่อหวังจะเข้าถึงอรรถรสของเพลง แต่เพลงบ้าไรวะ...ไม่มีเสียงร้อง มีแต่เสียงแซ๊กโซโฟนอึมครึม ขาดๆ เกินๆ และโดยความที่ไม่ใช่กูรูนักฟังเพลง ผมจึงต้องฟังแผ่นซีดีเพลงของมาย เดวิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อเข้าถึงมัน และอยากรู้ว่าเนื้อในเพลงพูดอะไรกับเรา แต่เปล่าดาย ทุกสิ่งที่หวังมีเพียงความอึมครึม
ลูกค้าต่างชาติคู่แรกลุกเดินออกจากร้านไป และลูกค้าคนใหม่แวะเวียนเข้ามา พร้อมกับนิ่งฟังเสียงแซ๊กโซโฟนอย่างตั้งใจ
เพื่อนคนที่ให้แผ่นซีดีมาเล่าให้ฟังว่า เขาอ่านงานของ ’รงค์ แล้วเจอชื่อ มาย เดวิดบ่อยครั้งจนเขาต้องดิ้นรนไปหาเพลงของผู้ชายผิวดำคนนี้มาฟัง เพื่ออยากรู้ว่านักเขียนในดวงใจของเขาทำไมชื่นชอบบทเพลงหม่นๆ อึมครึมชายผู้มีผิวดำราวเมล็ดของแตงโมคนนี้จัง
เมื่อฟังจบเขาก็ส่งมาให้ฟัง ผมนำมาเปิดที่ร้าน หลายคนเมื่อได้ฟังมักจะพูดทีเล่นทีจริงว่า ทำไมเพลงเหมือนในหนังแผ่นของมายาบิจัง ...บ้าฉิบ! อะไรทำให้เขาคิดเช่นนั้น
หลายๆ ต่อหลายวันที่เปิดเพลงของชายผิวดำคนนี้ในยามเช้าตอนเปิดร้าน ผมรู้สึกถึงความหม่นเหงาที่เดินทางมาเปิดประตูหัวใจทั้งที่ตัวผมเองไม่ได้เชื้อเชิญมันเท่าใดนัก
ถ้าถามว่าอยากแนะนำให้ใครฟังเพลงของชายผิวดำคนนี้ ผมคงนึกถึงคนอื่นๆ ไม่ทันในตอนนี้ นอกจากนึกถึงผู้ชายสองคนนี้คือ โฉน ไพรำ และแจ้ง ใบตอง ผมอยากให้โฉน ไพรำได้ฟังเพลงนี้ตอนที่เขากำลังชั่งใจว่าจะเดินขึ้นไปสู่โลกใหม่อันไม่คุ้นเคย และเป็นโลกแห่งการเรียนรู้ของเขา หากโฉน ไพรำได้ฟังเพลงนี้ เขาคงมีความกล้ามากขึ้น และคงสุขสมกับการไม่หนาวผู้หญิงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแน่
ผมอยากให้แจ้ง ใบตองได้ฟังเพลงชุดนี้ตอนเขากำลังจะดื่มด่ำกับน้ำเมา เขาคงรื่นรมย์อยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่ก็เป็นที่น่าเสียดาย เพราะแจ้ง ใบตอง และโฉน ไพรำ เกิดมาในยุคสมัยที่แผ่นเพลงหาฟังยาก พอๆ กับการหาคนมีน้ำใจจากใต้ถุนป่าคอนกรีทนั่นแหละ
เขียนมาถึงตอนจบของบทนี้ ผมเองยังไม่รู้เลยว่า โลกยามเช้ากับเรื่องราวของมาย เดวิด ในร้านกาแฟริมฝั่งโขง มันเชื่อมโยง และยึดโยงรูหูของคนฟังเพลง และคนดื่ม-กินกาแฟได้อย่างไร แต่ที่ผมรู้ บทเพลงอันหม่นมัวของชายผิวดำคนนี้ยังคงบรรเลง พอๆ กับโลกยามเช้าของผู้คนที่ผ่านมาผ่านไปในร้านกาแฟยังคงดำเนินไปตามสายลมหนาวที่เวียนผ่านมา....