Skip to main content


Canto

คือยอดของภูเขาน้ำแข็ง

ที่โผล่ออกมาให้เราเห็นนิดเดียวบนพื้นผิวของมหาสมุทร


Canto

คือการเปิดประตูเพื่อให้คนเดินเข้าไป

คือการเปิดหน้าต่างเพื่อให้คนมองออกไป – สู่จินตนาการเสรี


Canto

คือการลงมือเขียนถ้อยคำจากความรู้สึกประทับใจจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

อย่างฉับพลัน 3 บรรทัดสั้นๆ จบ


Canto

คือการลดละการแสดงความคิดเห็น ความรู้ ความเฉลียวฉลาด ของผู้เขียน

ออกไปให้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น


Canto

คือการเก็บเม็ดทรายเม็ดเล็กๆของถ้อยคำ

มารวมกันจนเกิดเป็น มวล ที่มีน้ำหนักและพลัง - ที่ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้


Canto

คือการเขียนเพื่อให้คนอื่นคิด

มิใช่เขียนเพื่อคิดแทนคนอื่น


Canto

ที่มีพื้นที่ว่างกว้างที่สุด

คือ Canto ที่ไม่มี อัตตา ของผู้เขียนปรากฏอยู่


Canto

ไม่น่าจะเขียนยากไม่น่าจะเขียนง่าย

ช่างเถิด ยากหรือว่าง่าย ไม่สำคัญเท่ากับการลงมือเขียน ลองผิดลองถูก


เขียน เขียน เขียน เขียน เขียน เขียน เขียน เขียน Canto

ตามกติกาที่ยืดหยุ่นได้สัก 1,000 บท

ยังไงๆก็ต้องมีสักบทหนึ่งแหละ ( ว่ะ ) ที่เป็น Canto


ข้อสำคัญ - คุณจำเอาไว้ให้ดีนะ หลังจากเข้าใจกติกาการเขียน Canto แล้ว

ทันทีที่ลงมือเขียน Canto

จงลืม กติกาการเขียน ที่รกรุงรังและน่าเบื่อทุกข้อเหล่านี้ ให้หมดสิ้น


เอาละนะท่านผู้ชม

ข้าพเจ้ามือใหม่ขอลงมือเขียน Canto

เป็นตัวอย่างของผู้กล้าเสี่ยงตาย ( แต่เพียงผู้เดียว ) ดังต่อไปนี้


1.

ความผิดพลาดในชีวิตซ้ำๆซากๆของข้า

คือการรักที่จะเห็นความสำเร็จในสิ่งที่ตัวเองทำ

แทนที่จะรักในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำ


2.

ความกลัว

ข้าพยายามทำความรู้จักและเข้าใจเจ้าอยู่เสมอ

เพื่อปลดปล่อยตัวเองออกมาจากชีวิตที่มีแต่ความกลัวของข้า


3.

ใครคนหนึ่งบอกแก่ข้าว่า

การค้นพบสิ่งที่เรารักอย่างแท้จริงเท่านั้น

ที่จะทำให้เรายืนหยัดอยู่ในโลกนี้อย่างมีความหมาย


4.

ไม่มีอะไรง่าย

ไม่มีอะไรได้มาโดยปราศจากการแลกเปลี่ยน

ไม่มีอะไรคงอยู่ชั่วนิรันดร์


5.

อย่าถามถึงความสำเร็จในชีวิตของข้า

เพียงแค่มีชีวิตอยู่รอดมาถึงวันนี้

ก็นับเป็นโชคดีมหาศาล


6.

วันอีกวันผ่านไป

คืนอีกคืนผ่านไป

ข้ายังวนเวียนอยู่กับความทุกข์สุข ดังเดิม


7.

สะดุ้งตื่นจากความฝันยามดึก

ท่ามกลางความมืดและความเงียบสงัด

ข้ามองเห็นโฉมหน้าความลึกลับของชีวิตปรากฏตัว


8.

ดอกไม้

อำนาจศักดิ์สิทธิ์ใดออกแบบเจ้า

งดงามถึงเพียงนี้


9.

ดอกไม้

ข้ายังไม่เคยพบดอกไม้ใด

ไม่งดงาม


10.

ดอกไม้

ดอกเล็กๆกลุ่มหนึ่ง

ผลิบานริมทางสว่างไสว


11.

ดอกไม้

ในแจกันบนโต๊ะแห้งเหี่ยวคาแจกันมาหลายวันแล้ว

ตั้งแต่แขกคนสำคัญจากไป


12.

ดอกไม้

โชคดีที่เจ้าเกิดมาเป็นดอกไม้ ไม่สวยบาดใจ ดั่งดอกกุหลาบ

ชะตากรรมของเจ้า จึงมิได้ถูกกำหนดไว้ในแจกัน - ตั้งแต่แรกผลิ


13.

ข้าดื่มเหล้า ข้าสูบบุหรี่ ข้าเที่ยวกลางคืน

ลดน้อยลงทุกวัน

ด้วยความสมัครใจของตัวเองที่รอมานานนับสิบกว่าปี


14.

ข้ารู้สึกว่าตัวเองทำสิ่งที่ถูกต้องดีแล้ว

ที่ไม่ยอมพูดเรื่องที่พูดออกมาแล้ว

ทำให้ใครคนหนึ่งเขาต้องอับอายขายหน้า


15.

ช่างเป็นสิ่งที่ยากเย็นแหลือเกิน

ที่จะมองดูความผิดและความชั่วร้ายของตัวเอง

และยอมรับมัน


16.

การเกิดคือการเริ่มต้นของชีวิต

การตายคือการสิ้นสุดของชีวิต

ชีวิต คือสิ่งที่ยังมีอยู่ในระหว่างการเกิดและการตาย


17.

ข้าสูญเสีย

คนที่ข้ารักมาหลายครั้ง

แต่กระนั้น ข้าก็ยังคงอ่อนแอและหวั่นไหว


18.

ข้าเชื่อ

ในความไม่แน่นอนของชีวิต

และความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นกับตัวข้า เสมอ


19.

วันหนึ่ง

ทุกคนในบ้านออกไปข้างนอกกันหมด

ข้าจึงรู้ซึ้ง ถึงคุณค่าความรักของหมาตัวเล็กๆสองตัว ที่ชอบมานอนหมอบนิ่งอยู่แทบเท้าของข้า


20.

หลักศีลธรรมที่ดีที่สุดในโลก คือ

มนุษย์ไม่ควรเบียดเบียนตัวเองและมนุษย์ด้วยกัน ตลอดจนถึงทุกสรรพสิ่งในโลก

ยังคงเป็นหลักศีลธรรมที่ดีที่สุดในโลก ที่ควรจะมีและควรจะเป็นจริงในโลก - ดังเดิม


21.

ข้ามาที่นี่ทำไม

ที่นี่มีแต่ความเกลียดชัง

มีแต่ความแตกแยกขัดแย้ง และการทำร้ายกันระหว่างผู้คน ข้ามาที่นี่ทำไม


22.

หัวใจไม่เป็นสุข

ทุกข์ทรมานเหมือนหมาขี้เรื้อน

เดินหนีไปทางใดก็ไม่หายคัน

 


23.

ความเห็นไม่ใช่ความจริง

ความเห็นคือการมองเห็นบางสิ่งบางอย่างของคนแต่ละคน

ความเห็นจึงเต็มไปด้วยความคิดที่แตกต่าง แต่บางสิ่งบางอย่างที่ถูกมองยังเป็นอย่างที่มันเป็น


24.

ความโลภ

คือความหิวทางใจที่ไม่รู้จักอิ่ม

คือความหิวอย่างยิ่งอยู่ตลอดเวลา - ที่มีอยู่ในมนุษย์ เท่านั้น


25.

เขาเป็นคนจน หาเช้ากินค่ำ มีรายได้เพียงน้อยนิด

ผิดด้วยหรือ...ที่เขาคิดแบบคนจน

โดยเลือกซื้อแต่อาหารเลวๆราคาถูก แต่ได้ปริมาณมาก ไปบำบัดความหิวของลูกเมีย


26.

ชายหนุ่ม

คิดดูให้ดี ก่อนจะเล่าความล้มเหลวในชีวิตของเธอให้ใครสักคนหนึ่งฟัง

ระวัง เธอจะถูกซ้ำเติม...มากกว่าได้รับความเห็นใจและปลอบโยน


27.

ช่างเป็นความโง่บัดซบอะไรอย่างนั้น

ที่ข้ามัวแต่หมกมุ่นครุ่นคิด

ถึงชีวิตในแง่ร้ายแต่เพียงด้านเดียว


28.

ผู้หญิงคนหนึ่ง ฝากถ้อยคำให้คนมาหักล้าง ปรัชญาการมองโลกในแง่ร้ายของข้าว่า

โลกนี้เป็นอย่างไรก็ช่างหัวมัน แต่ชีวิตคือน้ำแข็งก้อนหนึ่ง

เราต้องสนุกกับมัน - ก่อนที่มันจะละลายหายไปหมด สิ้น ”


29.

ภาษาเขียนที่ดีที่สุดโลก

คือ ภาษาเขียนที่สามารถเข้ากับคนได้ทุกชนชั้น

โดยไม่มีใครรังเกียจ



30.

เป้าหมายสูงสุดในการต่อสู้ของพันธมิตร

คือ การทำให้ ทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ร้ายที่ต้องได้รับการลงโทษ

เท่านั้นเองหรือ


31.

พลบค่ำวันนั้น ข้ามีเงินติดตัวเพื่อออกไปกินแหล้าทั้งหมด 30 บาท กำลังจะออกจากบ้าน

พอดี หล่อนทำหน้าเศร้าตาแดงเข้ามาขอยืมเงิน 30 บาท เพื่อซื้อข้าวสาร เพราะทนเห็นลูกร้องหิวข้าวไม่ไหว

ข้าต่อสู้กับตัวเองอย่างดุเดือด ประมาณ 2 นาที จึงตัดใจให้เงินหล่อนไปทั้งหมด ด้วยความเซ็งสุดขีด


32.

ความอ่อนแอ

ออกไปให้พ้นๆจากชีวิตข้าเดี๋ยวนี้นะ

ข้าเบื่อเจ้าเหลือเกิน


33.

โอ้ ดึกแล้ว คืนนี้

กลับบ้านกันเถิด

ลืมแล้วหรือไร งานเลี้ยงต้องมีการเลิกรา


34.

ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลา ลาก่อน

พรุ่งนี้ หากเราต่างยังมีชีวิตอยู่

เราคงจะได้พบกันใหม่ ทั้งมวลมิตรและศัตรูของข้า.


ครับ Canto มือใหม่หัดเขียน ขอจบพอหอมปากหอมคอเพียงแค่นี้ ถึงแม้ว่าหลายบทอ่านๆ ดูแล้ว น่าจะเป็น อีโต้ แหละมากกว่า เพราะประโยคสั้นๆ ตามกติกาที่ไม่เคร่งครัดของผมเริ่ม - ยาวขึ้นๆ แต่ก็เป็นช่องทางสื่อสารพิเศษที่ทำให้ผมพบว่า มันสามารถทำให้เราสื่อสารได้หลากหลายเรื่องราวในคราวเดียวกัน ถ้าคุณอ่าน Canto ที่ไม่น่าจะเป็น Canto ของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว แล้วหัวใจของคุณเกิดอาการฮึดฮัดนึกอยากเขียน Canto ติดหมัดขึ้นมา ลงมือเขียนได้เลยครับ เขียนแล้วอย่าลืมส่งมาให้ผมอ่านบ้างนะ


อ้อ ข้อแนะนำสำคัญก่อนลงมือเขียนอีกประการหนึ่งที่ผมเพิ่งนึกออก นั่นคือ อย่ามัวคิดกังวลว่าเขียนออกมาแล้วจะดีหรือไม่ดี มีคุณค่าหรือไม่มีคุณค่า เพราะความคิดแบบนี้จะกลายเป็นกำแพงของความกลัวกีดกันคุณไม่ให้เขียนอะไรออกมาได้เลย


อย่ากังวลไปเลยครับ ถ้าคุณมิได้เขียนเพื่อหวังให้ใครมายอมรับและยกย่องเชิดชู หรือเขียนเพื่อส่งไปประกวดชิงรางวัลซีไรท์ แต่เขียนเพราะหัวใจของคุณอยากจะเขียน เขียน เขียน เขียน...


คุณรู้ไหม งานเขียนที่ออกมาจากหัวใจ อย่างที่เขาเรียกกันเป็นสำนวนกำลังภายในว่า กระบี่อยู่ที่ใจนี่แหละ ที่สยบมือชั้นเซียนมามากต่อมาก และเป็นงานที่โลกศิลปะเขาชื่นชมกัน


ด้วยคารวะ ฟ้า พูลวรลักษณ์ ต้นแบบของกวี Canto และขอบคุณ ชามกลางคืน ที่ส่ง Canto กระแสอักษรเดินทางกลางอากาศ มาเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Canto มือใหม่หัดเขียน และส่งต่อ...เพื่อการเกิด Canto คนต่อๆไป ราตรีสวัสดิ์ครับ.


กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่


บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
บุญญฤทธิ์ ตุลาพันธ์พงศ์นามนี้เป็นที่รู้จักกันมานาน และยังเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในวงการสื่อมวลชนภาคเหนือตอนบน ในฐานะนักหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นอาวุโสของจังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน แต่โดยส่วนตัวแล้ว ผมรู้จักเขามานาน ก่อนที่เขาจะเป็นนักหนังสือพิมพ์เสียอีกนั่นคือ รู้จักเขาตั้งแต่เขายังเป็นเด็กหนุ่มเอวบางร่างน้อย จากดินแดนแห่งขุนเขาและม่านหมอกอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ที่เดินทางจากบ้านเกิดหน้าที่ว่าการอำเภอ ไปบวชเรียนเป็นเณรอยู่ที่วัดธรรมมงคล ถนนสุขุมวิท ต.บางจาก อ.พระโขนง กรุงเทพฯ ภายใต้ร่มเงาพุทธธรรมของท่านอาจารย์วิริยังค์ ซึ่งเป็นพระนักปฏิบัติชื่อเสียงโด่งดัง สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เมื่อคนสองคนหรือผู้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือสังคมใดสังคมหนึ่ง ที่เคยมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ได้เกิดความขัดแย้งกัน  ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด ๆ ก็แล้วแต่ แล้วต่อมา ความขัดแย้งนี้ได้ลุกลามถึงขั้น โกรธ เกลียด และแตกแยกกันเป็นฝักเป็นฝ่าย แล้วต่างฝ่ายต่างก็ตั้งหน้าตั้งตา ดุด่า ใส่ร้ายป้ายสี ทะเลาะวิวาทกัน  เพื่อเอาชนะคะคานกัน เพื่อทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่งเมื่อปรากฏการณ์ที่เลวร้ายนี้ได้เกิดขึ้น แทนการยุยงส่งเสริม หรือเข้าไปร่วมถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างที่พวกเรามักจะเป็นกันเพราะมีอคติ รักหรือว่าชอบ-คนนั้นพวกนั้น  ผิด ถูก ชั่ว ดี อย่างไร ก็ขอเข้าข้างกันเอาไว้ก่อนแต่เรื่องนี้…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
   
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ภาพจาก http://gotoknow.org/file/i_am_mana/DSC04644.1.jpg คุณที่รักผมลงมือเขียนต้นฉบับนี้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550 ซึ่งนับจากวันนี้ไปอีก 3-4 วันก็จะถึงวันเลือกตั้ง แต่จนป่านนี้ ผมซึ่งเป็นประชาชนคนหนึ่งของประเทศที่มีสิทธิไปลงคะแนนเสียงให้กับผู้สมัคร ส.ส.ในเขต 2 อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ยังนึกไม่ออกเลยว่าควรจะใช้สิทธิอันชอบธรรมนี้ไปเลือกใครหรือพรรคใด หรือว่า...ควรจะโนโหวต คือไม่เลือกใครเลยเหตุที่เป็นเช่นนี้ เนื่องจากเป็นเพราะว่า ผมเป็นคนที่หน่อมแน้มในเรื่องการเมืองจริง ๆ  จึงไม่สามารถวิเคราะห์และตัดสินด้วยตัวเองได้อย่างเชื่อมั่น ว่าใครหรือพรรคการเมืองใดเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเป็นคนที่วิตกกังวลกับทุกสิ่งทุกอย่าง ผมวิตกว่าตัวผมผอมไป วิตกว่าผมจะร่วงจนหมดศีรษะ กลัวไปว่าแต่งงานแล้วจะหาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ไม่พอ กลัวว่าจะเป็นพ่อที่ดีของลูก ๆ ไม่ได้ และเพราะเหตุที่ตัวผมเองมีชีวิตไม่ค่อยเป็นสุขนัก ผมจึงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาพพจน์ของตัวเองที่ปรากฏต่อคนอื่นเพราะความวิตกกังวล ทำให้ผมเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ผมทำงานไม่ไหวอีกต่อไปต้องหยุดงานอยู่กับบ้าน ผมวิตกกังวลมากเกินไปจนเลยขีดขั้นจำกัด คล้ายกับหม้อน้ำเดือดที่ปราศจากวาล์วปิดกั้น จนทำให้ผมต้องเป็นโรคประสาทอย่างหนัก ผมไม่สามารถพูดกับใครได้เลย แม้แต่กับคนในครอบครัวของผมเอง ผมควบคุมความคิดของตัวเองไม่อยู่ และรู้สึกหวาดกลัวไปหมด…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
โอ้ นางฟ้าของคนยากจากไปแล้วดั่งดวงแก้วตกต้องแผ่นผาจากไปไกลลิบลับไม่กลับมาจากไปแล้วหนา...วนิดา คนดีคนดีของคนยากของแผ่นดินยุคทมิฬ รัฐ บรรษัท ทำบัดสีถืออำนาจอยุติธรรมคอยย่ำยีขยำขยี้คนจนปล้นทรัพยากรสารพัดในนามของความผิดที่เขาคิดมากล่าวหามาถอดถอนเพื่อขับไล่ไสส่งจากดงดอนจากสิงขร จากน้ำฟ้า ป่าบรรพชนด้วยกฎหมายที่เขาตราขึ้นมาเองใช้เป็นเหตุยำเยงทุกแห่งหนที่มาดหมายครอบครองเป็นของตนขับไล่คนเหมือนหมูหมาเหมือนกาไก่เธอจึงเกิดขึ้นมาเพื่อต่อสู้อยุติธรรมแด่ผู้ที่ยากไร้ทั้งชีวิตอุทิศทั้งกายใจควรกราบไหว้ควรเชิดชู ควรบูชาโอ้ นางฟ้าของคนยากจากไปแล้วดั่งดวงแก้วตกต้องแผ่นผาจากไปแล้วคุณคนดี วนิดาต่อแต่นี้น้ำตา...…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
- สวัสดีครับ- สวัสดีค่ะ- ต้องการพูดกับใครไม่ทราบครับ- ดิฉันต้องการพูดกับ คุณแดนทิวา คนที่เป็นนักเขียนบทกวีค่ะ- ผมกำลังพูดกับคุณอยู่พอดีครับ- โอ๋ ดีจังเลย- เอ...ผมรู้สึกว่า ผมไม่เคยได้ยินน้ำเสียงนี้ทางโทรศัพท์มาก่อนเลยนะ - ถูกต้องค่ะ- ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่าคุณกับผมเคยเป็นคนรู้จักกันมาก่อนหรือเปล่านะ- คุณไม่รู้จักดิฉันหรอกคะ แต่ดิฉันบังเอิญรู้จักคุณจากหนังสือรวมบทกวีเล่มหนึ่งของคุณ ที่ดิฉันได้มาจากร้านขายหนังสือเก่าแห่งหนึ่ง พร้อมกับเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของคุณค่ะ- (หัวเราะ) แค่นี้เองหรือครับที่คุณรู้จักผม- ค่ะ แค่นี้เองค่ะ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
คนที่ผ่านโลกและชีวิตมาอย่างโชกโชนถึงขั้นที่เรียกได้ว่า เป็นคนที่เข้าใจมนุษย์ พวกเขามักจะมีคำตอบที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างง่าย ๆ สั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง ชนิดที่เราฟังแล้ว...บางทีถึงกับสะอึก และต้องจดจำไปจนชั่วชีวิต เพราะมันเป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยพลังทะลุทะลวงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจวันหนึ่งนานมาแล้วผมขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเข้าเมือง ไปส่งคุณแพรจารุ พูดคุยเรื่องงานกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ในซอยที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะคุณแพรและอาจารย์เลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งในห้องรับแขก ผมก็นั่งดูหนังจาก ยูบีซี ที่ท่านอาจารย์เปิดค้างไว้  รู้สึกว่าจะเป็นหนังจากยุโรป เรื่องอะไร…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
หลังจากที่ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาได้จากไป เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2544 ตราบจนกระทั่งถึงวันนี้เป็นเวลา 6 ปีเต็ม ๆ ผมคิดว่านอกจากบทเพลงที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวามากมายหลายชุด ที่เขาทิ้งไว้เป็นมรดกทางศิลปวัฒนธรรมอันล้ำค่า ที่ทำให้เราคิดถึงถึงเขา ยามได้ยินบทเพลงของเขา ณ ที่แห่งใดแห่งหนึ่งแล้ว ยังมีสถานที่และผู้คนที่เคยเกี่ยวข้องผูกพันกับชีวิตของเขา บางสถานที่บางบุคคล ที่ทำให้เราคิดถึงเขา ยามได้ไปเยือนสถานที่แห่งนั้น และได้พบใครบางคนดังกล่าว เช่นร้านอาหาร สายหมอกกับดอกไม้ที่ตั้งอยู่ริมถนนเชียงใหม่ 700 ปี หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มีใครต่อใครมากมายหลายคนบอกผมเป็นเสียงเดียวกันว่า…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ทำไมนะคนเราจึงมักมองเห็นแต่ความผิดพลาดของคนอื่นและชอบกล่าวคำประณามตัดสินลงโทษเขาราวกับว่าตัวเองไม่เคยทำความผิดบาปใด ๆครั้งหนึ่งเมื่อองค์พระคริสต์ทรงเสด็จประทับสอนฝูงชนอยู่ ณ มหาวิหารของกษัตริย์ซาโลมอนราชโอรสของกษัตริย์ดาวิด ผู้ที่มีความชอบเฉพาะพระเจ้าพวกธรรมาจารย์และพวกฟาริซายซึ่งต่อต้านคำสอนของพระองค์ด้วยความเชื่อที่ต่างกันว่า-พระเจ้าของเขาคือการแก้เเค้นตามคำสอนดั้งเดิมของโมเสสณ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมมีความเชื่อว่าคนที่เป็นนักปฏิบัติธรรมตามหลักธรรมคำสอนทางพุทธศาสนาบ้านเรา ถ้าหากไม่หลงไปปฏิบัติผิดที่ผิดทาง ท่านคงจะรู้กันดีทุกคนนะครับ ว่าเป้าหมายสูงสุดในการปฏิบัติธรรม คือการปฏิบัติเพื่อลดละและปล่อยวาง  ความยึดมั่นถือมั่นว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ เป็นตัวของเรา – เป็นของของเรา ซึ่งทางพุทธบ้านเราถือว่าเป็นต้นตอรากเหง้าของความทุกข์ทางใจทั้งหลายทั้งปวงส่วนจะเป็นทุกข์มากหรือน้อย ย่อมขึ้นอยู่กับใจของเรา ที่เข้าไปยึดเอาสิ่งนั้นสิ่งนี้เป็นตัวกำหนด พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเข้าไปยึดถือมากก็ย่อมเป็นทุกข์มาก ถ้าเข้าไปยึดถือน้อยก็เป็นทุกข์น้อยนั่นเองครับนี่เป็นเรื่องที่เป็นนามธรรมที่เข้าใจได้ยาก…