Skip to main content

1

คนที่ผ่านโลกและชีวิตมาอย่างโชกโชน
ถึงขั้นที่เรียกได้ว่า เป็นคนที่เข้าใจมนุษย์ พวกเขามักจะมีคำตอบที่เกี่ยวกับชีวิตอย่างง่าย ๆ สั้น ๆ แต่ลึกซึ้ง ชนิดที่เราฟังแล้ว...บางทีถึงกับสะอึก และต้องจดจำไปจนชั่วชีวิต เพราะมันเป็นคำตอบที่เต็มไปด้วยพลังทะลุทะลวงไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ

วันหนึ่งนานมาแล้ว
ผมขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านเข้าเมือง ไปส่งคุณแพรจารุ พูดคุยเรื่องงานกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งมีบ้านอยู่ในซอยที่ร่มรื่นด้วยแมกไม้หลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ขณะคุณแพรและอาจารย์เลี่ยงไปคุยกันอีกมุมหนึ่งในห้องรับแขก ผมก็นั่งดูหนังจาก ยูบีซี ที่ท่านอาจารย์เปิดค้างไว้  รู้สึกว่าจะเป็นหนังจากยุโรป เรื่องอะไร ใครเป็นคนแสดง ผมก็ไม่รู้และไม่ค่อยสนใจ เพราะดูเหมือนหนังจะฉายเกือบครึ่งค่อนเรื่องแล้ว ตอนแรกผมก็นั่งๆ ดูแบบฆ่าเวลา และจับต้นชนปลายไม่ถูกไปยังงั้น ๆ

แต่พอผ่านมาถึงฉากหนึ่ง ก็มีเรื่องทำให้ผมเกิดความสนใจขึ้นมา ถึงแม้จะไม่รู้เรื่องราวความเป็นมาทั้งหมด นั่นคือฉากที่มีหญิงสาวคนหนึ่ง ตั้งคำถามกับหญิงวัยกลางคนท่าทางจัดเจนโลกคนหนึ่ง  ซึ่งเธอมีท่าทีเคารพและนับถือว่า เธอไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไม ผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับเธอคนหนึ่ง จึงอดทนมีชีวิตคู่อยู่กับผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งคอยแต่จะทุบตีและรีดไถเงินไปเล่นการพนันและกินเหล้า ผู้ถูกถามหัวเราะอย่างขบขัน ราวกับว่าคำถามนี้ช่างเป็นคำถามของคนที่ไร้เดียงสาต่อชีวิตเหลือเกิน ก่อนจะตอบคำถามนี้ว่า

“อ๋อ ไม่มีอะไรหรอก หนูอย่าไปคิดอะไรเอาเองแทนคนอื่นเขา มันไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องอดทนอะไรหรอก  หนูไม่รู้จริงๆ หรือ ผู้หญิงบางคนเขาก็ชอบผู้ชายเลว ๆ และทำเลว ๆ กับเขาอย่างนี้แหละ เขาจึงจะพอใจและอยู่ด้วยกันได้ยังไงล่ะ”

ครับ ผมดูหนังเรื่องนี้ยังไม่ทันจบ ก็ต้องรีบไปทำธุระ แต่ก็รู้สึกอิ่มใจเหลือเกิน ถึงแม้จะได้ดูหนังเรื่องนี้กุด ๆ สั้น ๆ และรู้เรื่องเพียงแค่นี้

2

แต่เรื่องเพียงแค่นี้ก็ทุบหัวผม ทำให้ผมได้คิดกับตัวเองว่า การมองดูโลกโดยการผ่านกรอบทางจริยธรรมหรือกรอบความรู้ใด ๆ ก็แล้วแต่ กับการมองโลกด้วยหัวใจที่เปลือยเปล่าและตรงไปตรงมา ความเข้าใจในภาพที่มองเห็นมันต่างกัน และประการหลังแลดูน่าเชื่อถือ และตรงกับความเป็นจริงมากกว่า

โดยเฉพาะเรื่องนี้ซึ่งเป็นเรื่องรสนิยมส่วนตัวของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความสลับซับซ้อน เราแทบจะเอาอะไรไปแตะต้องตัดสินเขาไม่ได้เลย

เพราะเขาชอบของเขาอย่างนั้น
ใครจะทำไม.

22 พฤศจิกายน 2550
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

** ขอบคุณภาพประกอบจากเอดส์เน็ท

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
แด่...คนเล็กๆทุกๆคนในสังคมไทย ไม่ว่าจะเป็นคนเสื้อแดง คนเสื้อเหลือง ฯลฯ หรือมิได้เป็นคนเสื้อสีใดๆ ที่ตกเป็นเหยื่อกฎหมายหมิ่นฯ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอำนาจพิเศษกับคนเล็กๆ ที่ขาดอำนาจต่อรองที่เข้มแข็งในการปกป้องและต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้แก่ตนเอง และไม่มีใครสามารถที่จะช่วยเหลือพวกเขาได้ แม้แต่รัฐบาลที่พวกเขาหลายคนได้เลือกเข้าไป นั่งอยู่ในรัฐสภา.
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
พุทธภาษิตที่กล่าวว่า “ธรรมย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม” และ “อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก” ประการแรกยังน่าสงสัยว่าเป็นความจริงโดยหรือไม่ แต่ประการที่สองที่กล่าวว่า อำนาจย่อมเป็นใหญ่ในโลก เป็นความจริงตามพุทธภาษิตได้กล่าวเอาไว้อย่างแน่แท้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
อำนาจ ไม่ว่าอำนาจนั้น จะเป็นอำนาจที่ชอบธรรมหรือไม่ ตราบใดที่อำนาจนั้นยังมีอำนาจอยู่ อำนาจนั้น ย่อมมีอำนาจในการบังคับผู้อยู่ภายใต้อำนาจ ให้เชื่อฟังและปฏิบัติตาม
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ยามเช้า โอ้ ยามเช้าอันมืดมนของข้า ยามเช้าที่ข้ามองไม่เห็นหนทางใดๆ ที่จะนำชีวิตลุล่วงผ่านพ้นวันนี้ไปได้ เพราะข้าได้ใช้ตัวช่วยชีวิตทุกตัว