ขบวนการ “เชียงใหม่จัดการตัวเอง สู่การขับเคลื่อน พ.ร.บ.เชียงใหม่มหานคร” เริ่มออกเดินทาง

 
            ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 
 
 
 
ผมเคยเข้าใจว่า


             ท่านอาจารย์ธเนศวร์ เจริญเมือง อดีตอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาฯ ในปัจจุบัน เป็นคนแรกที่คิดและเสนอให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ แทนผู้ว่าฯที่ส่งมาจากส่วนกลาง เพราะผมเคยอ่านบทความของอาจารย์ไม่ว่าจะพูดเรื่องอะไร...ในที่สุดก็มักจะวกเข้ามาหาเรื่องนี้อย่างเอาจริงเอาจัง ประมาณว่า ผมนึกถึงอาจารย์ธเนศวร์ทีไร ผมก็จะนึกถึงเรื่องผู้ว่าฯจากการเลือกตั้งขึ้นมาพร้อมๆกัน 
 
            แต่เมื่อผมเข้าไปร่วมสัมมนา “เวทีปฏิบัติการ เพื่อขับเคลื่อนร่าง พ.ร.บ. เชียงใหม่มหานคร” ที่คุณสวิง ตันอุด ผู้อำนวยการวิทยาลัยจัดการสังคมภาคเหนือ คุณชัชวาลย์ ทองดีเลิศ อดีต ผู้อำนวยการ “โฮงเฮียนสืบสานล้านนา” เชียงใหม่ และตัวแทนองค์กรภาคประชาชนระดับผู้นำ 10 กว่าองค์กรร่วมกันจัด ณ ที่ห้องประชุม ภูอิงฟ้ารีสอร์ท ต.โป่งแยง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 - 31 พฤษภาคม 2555 เพื่อเตรียมตัวปฏิบัติการขับเคลื่อนนำเรื่องนี้ ที่ค่อยๆพัฒนาอย่างเงียบๆ เหมือนหน่อไม้ที่ค่อยๆเติบโตภายใต้พื้นดิน จนแทงหน้าดินทะลุโผล่ยอดแหลมๆออกมา - เป็นร่าง พ.ร.บ. เพื่อนำไปยื่นเสนอรัฐสภาให้พิจารณา
 
          ในงานนี้เองแหละครับ ที่ผมได้ข้อมูลใหม่ท่านอาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง ซึ่งเป็นผู้ตั้งต้น ร่าง พรบ.ฉบับนี้ และเป็นวิทยากรผู้บรรยายคนสำคัญในขณะบรรยายท้าวความหลังเรื่องนี้ว่า - ผู้ที่เป็นต้นคิดและออกมาพูดเรื่องนี้เป็นคนแรก ซึ่งเป็นเวลานานมาแล้วถึงสามสิบกว่าปี คือ คุณไกรสร ตันติพงศ์ อดีต ส.ส. หลายสมัยของจังหวัดเชียงใหม่ แต่ไม่ได้รับการขานรับจากภาคประชาชน 
 
          ต่อมา ท่านอาจารย์ธเนศวร์ เจริญเมือง จึงได้ลุกขึ้นมาพูดและเสนอให้มีผู้ว่าฯ มาจากการเลือกตั้งเมื่อปี  2533 ซึ่งว่ากันว่า นอกจากเสียงของอาจารย์จะไม่ได้รับการขานรับจากภาคประชาชนแล้ว อาจารย์ยังถูกคัดค้านต่อต้านแบบรุมกินโต๊ะกันอย่างเอร็ดอร่อยจากนักวิชาการทางรัฐศาสตร์ด้วยกันอีก
     
            จึงพอสรุปได้ว่า ณ ห้วงเวลานี้ เรื่องที่เคยแสลงใจใครต่อใครในเรื่องนี้ ได้รับการขานรับแล้วจากภาคประชาชนและแทบทุกภาคในสังคม ด้วยเหตุผลมากมายจากความเปลี่ยนแปลงของสังคม และการเมืองตั้งแต่ปี 2547 มาจนถึงปัจจุบันที่ยังอึมครึมอยู่
 
 
สิ่งที่บ่งบอกก็คือ 
 
       ร่างพรบ.ฉบับนี้ ที่อาจารย์ชำนาญ จันทร์เรือง อาจารย์ผู้สอนกฎหมายจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้ตั้งต้นร่าง พรบ.ฉบับนี้ได้ให้รายละเอียดที่มาของ พรบ.เอาไว้ว่า “ปรับแก้เนื้อหา จากประชาชน นักวิชาการ ข้าราชการ องค์กรปกครองท้องถิ่น ในการประชุมกว่า 40 เวที จากเวทีอำเภอ 25 เวที และจากเวทีการประชุมตรวจการสอบ และการออกแบบที่ประชาชนมีส่วนร่วมอีก 10 กว่าครั้ง” โดยสรุปสาระสำคัญของ ร่าง พรบ.เชียงใหม่มหานคร  เอาไว้ 3 แนวทางด้วยกันคือ
 
      1. ยกเลิกการบริหารราชการส่วนภูมิภาค เหลือเพียงราชการส่วนกลางและราชการท้องถิ่นเต็มพื้นที่ และมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีอำนาจในการกำหนดแนวนโยบาย ระเบียบ ข้อบัญญัติ การจัดงบประมาณ การคลัง การจัดการบริหารบุคลากร กลไกโครงสร้างการบริหารงานภายในท้องถิ่น เพื่อการบริหารราชการท้องถิ่นได้ โดยไม่ขัดต่อ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนท้องถิ่นให้ครอบคลุมทุกเรื่อง ยกเว้น 4 เรื่องหลัก คือ การทหาร ระบบเงินตรา การต่างประเทศ และการศาล
 
        โดยแบ่งการปกครองเป็น 2 ระดับ คือ ระดับบน (เชียงใหม่มหานคร) และระดับล่าง (เทศบาล) ทำให้สามารถดูแลครอบคลุมพื้นที่โดยทั้ง 2 ระดับมีการบริหารที่อิสระต่อกัน เป็นลักษณะการแบ่งหน้าที่การทำงานให้ชัดเจน
 
      2. ทำให้การเมืองมีความโปร่งใส มีคุณธรรม จริยธรรม ทำให้ระบบตรวจสอบมีความเข้มแข็ง และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการสร้างดุลภาพ 3 คือ ผู้ว่าราชการเชียงใหม่มหานคร สภาเชียงใหม่มหานคร และสภาพลเมือง
 
        รวมถึงการสนับสนุนให้ประชาชนสามารถใช้อำนาจโดยตรงในการกำหนดทิศทางการพัฒนาตรวจสอบการทำงานของหน่วยงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ และเข้าถึงการใช้งบประมาณ ผ่านกระบวนการกลไกต่างๆ เช่น สภาพลเมือง การไต่สวนสาธารณะ กรรมาธิการด้านต่างๆ เช่น  การศึกษา เกษตร ซึ่งมีการรับรองการใช้อำนาจ และมีงบประมาณกระบวนการดังกล่าว
 
      3. การปรับโครงสร้างด้านภาษี โดยภาษี โดยภาษีทุกชนิดที่เก็บได้ในพื้นที่จะส่งคืนรัฐบาลส่วนกลางร้อยละ 30 และคงไว้ที่จังหวัดร้อยละ 70
 
      และจากสาระสำคัญของ ร่างพรบ.ทั้ง 3 ประการนี้ ได้แตกรายละเอียดออกไปเป็นมาตราต่างๆ 4 หมวด รวมกันทั้งหมด 157 มาตรา (ที่ผมต้องกลับบ้านมานั่งอ่านจนเกือบป่วย)
     ครับ นี่คือที่มาและภาพรวมทั้งหมดของ ร่าง พรบ. ที่ผมเข้าไปร่วมในงานสัมมนาที่เพิ่งผ่านพ้นไป
 

ส่วนการขับเคลื่อน พรบ.สืบเนื่องต่อจากนี้ไป

 
       เป็นเรื่องของผู้นำองค์กรแต่ละท้องถิ่นจะทำการประชาสัมพันธ์แก่ประชาชนในท้องถิ่นของตนเอง พร้อมกับรวบรวมรายชื่อผู้ร่วมสนับสนุนทุกองค์กรรวมกันไปจนถึงปลายเดือนมิถุนาให้ได้ตามเป้าหมายในขั้นตอนนี้ไม่ต่ำกว่า 10,000 คนหรือ 15,000 คน เพื่อเปิดเวทีประกาศเจตนารมณ์ “เชียงใหม่จัดการตนเอง สู่การขับเคลื่อน พรบ.เชียงใหม่มหานคร” ในวันที่ 24 มิถุนายน 2555 ที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาลตรียมตัวรับการยื่นรายชื่อผู้สนับสนุน ร่าง พรบ.นี้ในช่วงเวลาระหว่างปลายเดือนกรกฏาถึงต้นเดือนสิงหา
 
        หลังจากยื่นรายชื่อแล้ว พวกเขายังจะจัดงานเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกที่อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ติดต่อกันทุกวัน ไปจนถึงเดือนพฤศจิกายนเป็นเวลา 120 วัน (โอ พระเจ้า ผมฟังแล้วตกใจจนหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เพราะคิดไม่ถึงว่าเขาจะเล่นกันหนักถึงขนาดนี้)
 
 
นี่คือ 


         การเริ่มต้นเคลื่อนไหวของพลังการเมืองอันมหึมาอีกแนวทางหนึ่งจากส่วนภูมิภาค ที่ผมยังพบว่าในการรวมกันเป็นองค์ประกอบของพลังนี้ ยังมีกลุ่มคนเสื้อแดงและคนเสื้อเหลืองจำนวนหนึ่ง ที่ก้าวข้ามความขัดแย้งที่เคยมีต่อกันเข้ามาร่วมขับเคลื่อนด้วย 
 
        พร้อมกับการสรุปบทเรียนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทุกฝ่ายว่า ปัญหาแทบทุกอย่างในท้องถิ่นรวมทั้งปัญหาการแตกแยกเป็นคนเสื้อเหลือง - เสื้อแดงในสังคมไทย ล้วนแล้วแต่มีรากเหง้าต้นตอมาจากการรวมศูนย์อำนาจการบริหารปกครองไปกระจุกไว้ที่ส่วนกลางมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 รวมทั้งความผิดหวังจากรัฐบาลแบบนายทุนที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของทุนที่ชักใยอยู่เบื้องหลังมากกว่าเพื่อชาวบ้านชาวเมืองส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นทุนศักดินาหรือว่าทุนโลกาภิวัตน์ที่ยังคงห้ำหั่นกันไม่รู้จักเลิกรา 
 
      ครับ ก็คงต้องรอดูกันต่อไป ถ้าปัญหา ร่าง พรบ.ปรองดองของรัฐบาลที่ถูกฝ่ายค้าน และกลุ่มพันธมิตรฯ ออกมาคัดค้านแบบเอาเป็นเอาตายในห้วงเวลานี้ ไม่ถูกหยิบขึ้นมาอ้างเป็นเหตุแห่งความชอบธรรมให้ใครสักคนหนึ่ง...ลุกขึ้นมายึดอำนาจให้เสียรังวัดเสียก่อน 
 
       แล้วเราคงจะได้เห็นขบวนการภาคประชาชน “เชียงใหม่จัดการตนเอง สู่การขับเคลื่อน พรบ.เชียงใหม่มหานคร” ขับเคลื่อนไปตามขั้นตอนจนถึงปลายทางที่รัฐสภา ด้วยความระทึกใจ...ในอนาคตอันใกล้นี้.
 
                     *****************************************************************
 
 
หมายเหตุ: ตีพิมพ์ครั้งแรก มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับ 29 มิ.ย. - 5 ก.ค. 2555
 

 

ความเห็น

Submitted by น้ำลัด on

ถ้าทำได้สำเร็จเชียงใหม่ก็จะกลับเป็นเหมือน
เมืองขึ้นของรัตนโกสิมทร์อีกครั้งเช่นในอดีต

ภาษีที่จะต้องส่งส่วนกลาง30%ก็เปรียบเหมือน
เครื่องบรรณาการที่ต้องส่งให้กรุงรัตนโกสินทร์ในอดีต

ซึ่งก็ยังดีกว่าที่กรุงรัตนโกสินทร์ส่งคนของตัวเอง
ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับเชียงใหม่มาปกครองเชียงใหม่

ก็หวังว่าเชียงใหม่คงไม่ต้องจัดหาพระราชธิดาของเจ้าเมือง
ไปถวายให้กับกรุงรัตนโกสินทร์เหมือนครั้งอดีตกันอีกนะครับ

กรุงรัตนโกสินทร์นั้นย่ำยีเมืองเชียงใหม่มาตลอดจนเคยตัว
เชียงใหม่คงไม่ต้องมีเจ้าดารารัศมีองค์ที่สองเกิดขึ้นอีกเนาะ

อย่างน้อยวันนี้ผู้หญิงจากเมืองเชียงใหม่ที่เคยถูกคนกรุงย่ำยีในอดีต
ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทยไปแล้ว

ถึงแม้ชาวกรุงจำนวนหนึ่งจะยังคงเหยีบย่ำเหยียดหยามและทับถมว่าอย่างโน้นว่าอย่างนี้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เธอก็คือนายกรัฐมนตรีที่มีตำแหน่งหน้าที่เหนือกว่าพวกนั้นวันยังค่ำ

Submitted by ronaldo on

โถ่.... ลิเกหลงยุค เอ่ย
รัฐบาลส่วนกลาง ต้องส่งงบโดยตรงไปให่เชียงใหม่บริหารจัดการกับเอง ไม่ไช่เก็บส่วยจากเชียงใหม่
สมอง?

Submitted by ronaldo on

โถ่.... ลิเกหลงยุค เอ่ย
รัฐบาลส่วนกลาง ต้องส่งงบโดยตรงไปให่เชียงใหม่บริหารจัดการกับเอง ไม่ไช่เก็บส่วยจากเชียงใหม่
สมอง?

Submitted by น้ำลัด on

โทดที...ลืมเอาสมองมาด้วย
ปรกติผมก็ไง่บ้างไม่โง่บ้าง
บังเอิญวันนี้ลืมเอาสมองมา

ผมเลยลองใช้หัวแม่มือคิดดู
หัวแม่มือของผมคิดแล้วแต่ก็ยังสงสัย
ว่าทุกวันนี้เขาเก็บภาษีกันยังไงบ้าง
แต่ช่างเหอะ มันจะเก็บยังไงก็ช่างหัวมัน

ถ้ายังคิดไม่ออกอีก...เดี๋ยวจะลองใช้หัวแม่ตีนคิดดู

Submitted by สิงหราช on

จะทำได้จริงหรือ ไอ้เห้ พวกมหาดไทยสมองหมาปัญญาควายงป็นหมาหวงขี้มาตลอด-๒๐๐ปีไม่ใช่หรือความจริงมันผิดมาตั้งแต่โคตรของผู้ว่าคนนี้แล้ วขากๆถุย ๆ บิดาของประวัติศาสตร์ที่จริงมันคือไอ้จอมมั่วแห่งสยามบอกกันต่อไปถ้าไม่อยากโง่อย่าไปอ่านหนังสือของมัน

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ขอบคุณทุกท่าน ที่ช่วยแสดงความคิดเห็นกันในเรื่องนี้ ร่วมกัน แม้บางท่านอาจจะรุนแรงไปหน่อยแบบคุณสิงหราช แต่ก็มีเหตุผลที่ชวนคิดชวนเชื่อ ขอบคุณครับ

Submitted by prince dumrong on

ความจริงคนไทยก็ถนัดที่จะทำตัวแบบขี้ข้านิยม หรือ ทาสที่ไม่ยอมเลิกนาย ระบบการปกครองท้องถิ่น เช่นเท ศบาล อบต อบจมี มานานแล้วแต่องค์กรพวกนี้ก็ทำตัวเหมือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวอย่างเช่นพฤติกรรมองค์กร เคร่องแบบก็เลียนแบบมาจากพวกมหาดไทยพวกนี้คิดไค้แค่ว่า ความเป็นขี้ข้าเขาตลอดไปก็ดีเพราะไม่ต้องใช้สมองซึ่งไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วนี่คืออาชีพที่ถนัดของไอ้พวกสมองหมาปัญญาควาย

Submitted by prince dumrong on

ความจริงคนไทยก็ถนัดที่จะทำตัวแบบขี้ข้านิยม หรือ ทาสที่ไม่ยอมเลิกนาย ระบบการปกครองท้องถิ่น เช่นเท ศบาล อบต อบจมี มานานแล้วแต่องค์กรพวกนี้ก็ทำตัวเหมือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวอย่างเช่นพฤติกรรมองค์กร เคร่องแบบก็เลียนแบบมาจากพวกมหาดไทยพวกนี้คิดไค้แค่ว่า ความเป็นขี้ข้าเขาตลอดไปก็ดีเพราะไม่ต้องใช้สมองซึ่งไม่ค่อยจะมีอยู่แล้วนี่คืออาชีพที่ถนัดของไอ้พวกสมองหมาปัญญาควาย

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

prince อือ มันเป็นเรื่อที่แปลกอย่างที่คุณเดือดดาลจริงๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมเจอด้วยตัวเองมื กับคนที่ผมรู้จัก พอได้เป็น..ได้ยศ ตำแหน่ง หน้ามที่ เงิน เดือน ทำไมต้องกลายเป็นคนอีกชั้นหนึ่งที่เป็นอำมาตย์ที่เราเบื่อแสนเบื่อ...มานานแสนนานก็ไม่รู้ ขอบคุณครับ ผมนึกว่าผมแอบคิดเรื่องนี้เรื่องอยู่เดียว ขอบคุณที่คุณช่วยคิดออกมาดังๆ แบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้า่พรหม

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

prince อือ มันเป็รเรื่องที่แปลกอย่างที่คุณเดือดดาลมาจริงๆ นี่ก็เป็นสิ่งที่ผมเจอมาด้วยตนเอง จากคนหลายคนที่ผมรู้จัก พอได้เป็นโน่นเป็นนี่ มียศ ตำแหน่งหน้าที่ มีเงินเดือน มีอำนาจ ทำไมต้องกลับกลายไปเป็นอำมาตย์เล็กอำมาตย์น้อย ที่เราเบื่อแสนเบื่อ...มานานแสนนาน จนไม่อยากเข้าไปที่ทำการปกครองใดๆ ถ้าหากไม่มีความจำเป็น ผมนึกว่ามีคนเดียวผมแอบคิดขบถกับระบบของท้องถิ่น ที่ทำให้คนสำคัญผิดคิดว่าตนเองเป็นเทวดา ขอบคุณครับ ที่คุณช่วยคิดดังๆออกมาแบบไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม

Submitted by prince dumrong on

ถ้าใครรู้จักตราแผ่นดินรัชกาลที่5จะเห็นว่ามีสัตว์2ตัวคือราชสีห์ซึ่งหมายถึงมหาดไทยและคชสีห์หมายถึงกลาโหมยืนประคองถือฉัตรซึ่งหมายถึงพระราชอำนาจอยู่ข้างละฉัตร ต่อมาตราแผ่นดินนี้เลิกใช้ไปโดยไม่ทราบสาเหตุ มาทราบภายหลังว่าสาเหตุที่ต้องเลิกใช้ตราแผ่นดินดังกล่าวเพราะคันฉัตรทั้ง2ด้านถูกไอ้สัตว์นรก2ตัวกัดแทะจนฉัตรหักโค่นลงมา ถ้าใครพบไอ้สัตว์นรก2ตัวนั่น จับตาย

Submitted by prince dumrong on

บ้านเมืองเราต้องการพลังของประชาชนเพื่อผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตยไม่ว่าจะ ด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคมและอื่นๆ เพื่อประโยชน์สุขของมวลชน ปรากฏการณ์เสื้อแดงน่าจะเป็นโอกาสดีของสังคมไทยที่จะช่วยผลักดันเพื่อให้เกิดสิ่งเหล่านั้น แต่น่าเสียดายเสื้อแดงวันนี้ก็เหมือนกบฏผีบุญในอดีต คิดเองไม่เป็น ชอบถูกปั่นหัวเหมือนจิ้งหรีดโดยนักปลุกระดมไม่กี่คน ทำได้ทุกอย่างแม้กระทั่งเผาบ้านตัวเอง สบายใจ ได้ระบายความเครียด

Submitted by น้ำลัด on

ก็แปลกดีนะครับ เรื่อง อบต.
ธรรมดาผมก็ไม่เคยเข้าสำนักงานอบต.ที่ไหนๆเลย
เคยแต่เข้าไปในสำนักงานเทศบาลนะครับ

ก็เลยไม่รู้ว่าอบต.มันเป็นยังไง เขาทำอะไรกัน
แต่ผมก็รู้สึกอยู่อย่างว่า ไอ้ระบบ อบต. เทศบาล อะไรพวกนี้
เหมือนมันจะซ้ำซ้อนกันกับที่ว่าการอำเภอ ยังไงก็ไม่รู้

มันน่าจะมีอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะเป็นแบบกทม.ซะก็หมดเรื่อง

ภาษีของเราเองมักจะมาสูญเสียกับการสร้างสำนักงานอบต.กันไปจำนวนมาก
ก็สงสัยอยู่ในใจว่ามันมีงานเกี่ยวกับอบต.เยอะแยะขนาดนั้นเชียวหรือ
แต่ละชุมชนในเทศบาลก็ใช่ย่อย ชอบสร้างศาลาประชาคมกันใหญ่โต...งงจริงๆ

คงจะเป็นแบบที่ว่ากันกระมัง ที่คนส่วนใหญ่ยังคงยึดติดกับการปกครองแบบดั้งเดิมกันอยู่

Submitted by น้ำลัด on

ปรากฏการณ์เสื้อเหลืองและเสื้อแดง
ถ้าจะบอกว่ามันไม่มีอะไรซับซ้อนมันก็ไม่ซับซ้อน
ถ้าจะบอกว่ามันซับซ้อนมันก็ซับซ้อน

ทั้งสองเสื้อสร้างความเสียหายมากมายเช่นกัน
ประหนึ่งเป็นการประฝ่ามือกันของสองจอมยุทธ์ใหญ่ในยุทธจักร
ประฝ่ามือกันแต่ละทีสะท้านฟ้าสะเทือนดิน

เราก็ได้แต่เป็นเพียงผู้ชม ใครจะเชียร์ฝ่ายไหนก็เชียร์กันไป
ใครอยากจะด่าฝ่ายไหนก็ด่ากันไป...มันสะใจดีใช่ไหม
บ้านเมืองนี้มันของใครกัน มันใช่ของกูด้วยหรือเปล่าวะ

เอาเหอะกองเชียร์ฝ่ายไหนก็ต้องคิดว่าตัวเองฉลาดอีกฝ่ายหนึ่งโง่
ก็ใครมันจะไปคิดว่าตัวเองโง่คนอื่นฉลาดเล่า...จะบ้าหรือเปล่า
อันที่จริงมันก็โง่บ้างฉลาดบ้างคละเคล้ากันไป

แล้วตกลงเชียงใหม่มหานครจะไปได้แค่ไหน...รอดูอยู่นะ

Submitted by prince dumrong on

-ขณะนี้มีคนรายงานว่าไอ้สัตว์นรก2ตัวนั่นกัดกินตราแผ่นดินจนหมดแล้วมันกำลังจะแดกคนเฝ้าตราแผ่นดินคือประชาชน

Submitted by prince dumrong on

ผมหมายถึงควรใช้พลังเสื้อแดงเพื่อให้เกิดเชียงใหม่มหานคร และมหานครอื่นๆแทนที่เพื่อช่วยทักษิณกลับบ้านทักษิณมันเอาของพวกเราไปเยาะแล้วไม่ต้องห่วงเขาหรอก ห่วงตัวเอง ห่วงลูกหลานดีกว่า จิงก่อป้อใหญ่

Submitted by น้ำลัด on

ใครกัน...เป็นคนเลี้ยงไอ้สัตว์นรก2ตัวนั้นไว้

ใครกันเอาเงินภาษีของประชาชนไปเลี้ยงใช่ไหมละ
แล้วใครกันก็กล่อมไอ้สัตว์นรกนั่นว่าใครกันเป็นคนเลี้ยงเอง
ทั้งๆที่ใครกันไม่ได้จ่ายเงินเองเลยซักบาทเดียว
ใครกันบอกหน้าตาเฉยว่าไอ้สัตว์นรกนั่นเป็นของใครกัน

สรุปว่าไอ้สัตว์นรกนี่มันระยำจริงๆ

Cheap vibram five fingers shoes is selling in our vibram five fingers store with high quality but lowest price. In today's society, with economic and social development, people's personality liberation become the sole direction of the fashion development. Throughout the world, more and more we see people wearing the vibram five fingers shoes. With vibram five fingers' appeared, it has already cause a revolution in the footwear market, and also caused a wave of five fingers shoes in the group of people! Vibram five fingers sale hot not only for it's peculiar personality and fashion, but only for it's versatility. Wether you needs fitness training shoes, yoga shoes, water sports shoes, or some other variety, the vibram five fingers will meet at least one kind of your needs perfectly. Vibram FiveFingers come in many popular types like: vibram five fingers jaya and vibram five fingers treksport for women, including vibram five fingers bikila, vibram five fingers komodosport, vibram five fingers kso and vibram five fingers sprint available for both men and women, and other styles such as vibram five fingers classic and so on available to men. Now, you can find and purchase these amazing vibram five fingers here, such as vibram five fingers bikila ls and vibram five fingers komodosport ls more available for fitness training and competition running, it has already become the athletes' favorite. In the hot summer, people all like cool running shoes which apply for water sports, vibram five fingers flow, vibram five fingers kso trek, vibram five fingers speed, vibram five fingers kso and vibram five fingers sprint were designed for good for doing water sports! Vibram five fingers men and vibram five fingers womens in http://www.stylishvibramshoes.com will be good to meet you!

It is a

Coach Outlet

tricky task to obtain Coach Outlet Coupons. Customers who purchase Coach Purses and bags from the company's stores are sometime gifted with coupons. Normally these Coach Outlet

Coach Outlet Online

Coupons are sent to the customers via mail. This is done at random; not every customer who purchases a bag

Coach Outlet Online

or any other accessory from the Coach stores gets this coupon. There are many customers of these products who have

Coach Outlet Store Online

never gotten this coupon.
The coupons allow

Coach Factory Outlet

the customer to make a further shopping of any other product of this brand at Coach Outlet. The bags offered in the outlet malls of Coach are different as they are the ones that are not selling well or have been discontinued.
Coach Coupons

Coach Outlet Store Online

can be purchased as well. One can also enjoy store merchandise credit. This merchandise credit is given to the customers who have the Coach bag or purse as a gift but are unable to return it from outlet as cash. These customers are then offered a Coach Merchandise credit for the price of their bag.