Skip to main content


ดื่มเถิดเพื่อน...ถ้าหากเพื่อนต้องการดื่ม
เพื่อให้ลืมแผลพิษชีวิตขม
เพื่อให้ลืมอดีตดั่งมีดคม
ซึ่งสั่งสมอยู่ภายในหัวใจเพื่อน


เมาเถิดเพื่อน...ถ้าหากเพื่อนต้องการเมา
เหล้า เหล้า เหล้า...ในร้านยังมีอยู่กลาดเกลื่อน
พร้อมจะให้เพื่อนดื่มเพื่อลืมเลือน
วัน ปี เดือน เหมือนฝันนั้นเสียที

เพื่อให้ลืมความขมขื่นของชีวิต
เพื่อให้ลืมมิ่งมิตรผู้หน่ายหนี
เพื่อให้ลืมความชอกช้ำคนย่ำยี
เพื่อชีวิตเพื่อชีวี...ที่ย่อยยับ

นอนเถิดเพื่อน...ถ้าหากเพื่อนต้องการนอน
ซบโต๊ะเหล้าต่างหมอนก็นอนหลับ
อีกขวดไหม...หากไม่พอจะเพียบพับ
เพื่อโถมทับชีวิตนี้ ซึ่งมีทุกข์

ดื่มเถิดเพื่อน...ถ้าหากเพื่อนต้องการดื่ม
เพื่อให้ลืมความหลังหวังความสุข
หากไม่พอจะล้ม...จนไม่ลุก
มาเปิดจุกกันอีกขวดดวดให้ล้ม

โว้ย ! ดื่มเข้าไป ดื่มเข้าไป เหล้าคือเหล้า
ดื่ม ดื่ม ดื่ม... ให้เมาจนกว่าจะสาสม
ดื่ม ดื่ม ดื่ม... ให้ลืมอดีตดั่งมีดคม
ลืม ลืม ลืม...ความขมขื่นเกินคนจะทนไหว.



หมายเหตุ
; ผมเขียนกวีบทนี้ไว้นานแล้ว เจตนา - มิได้เขียนเพื่อส่งเสริมให้คนดื่มเหล้า แต่เขียนด้วยความประทับใจในภาษิตคำสอน ของ กษัตริย์โซโลมอน บุตรแห่งเดวิดในตำนานพระคริสต์ ผู้ชื่นชมและศรัทธาในคำสอนของพระคริสต์ ที่พูดถึงโทษแห่งการดื่มไว้มากมาย แต่ก็ยังทรงเล็งเห็นคุณงามความดีของเหล้า...สำหรับคนที่มีความทุกข์หนักในชีวิต "เกินคนจะทนไหว "

ด้วยความเข้าใจมนุษย์เอาไว้ว่า "จงให้สุราแก่คนที่กำลังมีความทุกข์หนักดื่ม ถ้าหากการดื่มจะทำให้เขาลืมความทุกข์นั้นเสียได้ " โดยส่วนตัวผม ผมเคยให้เหล้าดื่มแก่คนที่ทุกข์หนัก ( อย่างที่ผมเขียน ) ถึงขนาดคิด...จะฆ่าตัวตาย รอดตาย...มาแล้วหลายคน ( หลอกให้กินเหล้า เมาแล้วเปลี่ยนใจ เพราะกินเหล้าเมาแล้วสนุก จนลืมคิดจะฆ่าตาย  และเลิกคิดในเวลาต่อมา เพื่อกินเหล้าสนุกๆดีกว่า คิดฆ่าตัวตายให้โง่ ฮา! )

แต่โอ้เอย...ตั้งแต่นี้ต่อไป ผมคงไม่มีโอกาสได้ทำเท่ๆอย่างนี้อีกแล้ว  เพราะภาษีขูดรีดของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ทำให้เหล้าราคาแพงบัดซบ !

เดี๋ยวนี้ อย่าว่าแต่เลี้ยงใครสักคนเลยครับ แม้แต่จะสั่งให้ตัวเองกิน ยังคิดแล้วคิดอีก...จนบางครั้ง...ต้องตัดสินใจกลับบ้านไปดื่มน้ำผสม แอลกอฮอล์ แก้ขัด ( เออ รสชาติไม่เลวเลยนะ สูตรนี้อยากให้คุณรวิวาร กับคุณเจี๊ยบ ลองคูจังเลย )

และเป็นไปได้ว่า ต่อไปนี้ ถ้าใครคิดจะฆ่าตัวตาย ซวนเซ...มาหาผม ผมก็คงจำใจ ต้องปล่อยให้เขาไปฆ่าตัวตาย...ตามบุญตามกรรมแหละครับท่าน เพราะเหล้าได้กลายเป็นจิตแพทย์ราคาแพง จนเราไม่สามารถเข้าไปถึงบริการที่ซื่อสัตย์ที่สุดในโลกนี้เสียแล้ว เศร้า !. 

20 พฤษภาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่  

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตเอย เหตุใดเล่า เจ้าจึงเศร้าโศกเสียใจร้องไห้คร่ำครวญ ให้กับบางสิ่งที่เจ้าได้สูญเสียมันไป เหมือนนมที่หกออกจากแก้วไปแล้ว...ตกลงบนพื้นดิน วันแล้ววันเล่า ไม่รู้จักจบสิ้น  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
12 เมษายน 2545 วันครบรอบวันเกิด...ที่แสนจะเจ็บปวด ขณะนั่งรถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่กับคู่หู ขับรถผ่านไปทางบ้านพ่อแม่ผู้พัน นายเก่าที่มาหยิบยืมเงินเราแล้วไม่ยอมใช้คืน เมื่อสองสามปีที่แล้ว พอเจอหน้า จอดรถจะเข้าไปถาม นายกลับรีบเดินหนี อนิจจา ! นายเอ๋ยนาย...ดอกไม่ต้องขอเพียงแค่ต้นคืนได้ไหม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  7   ครับ รายละเอียดเรื่องราวของเขา ที่ผมอยากรู้อยากเห็นเหลือเกิน เริ่มปรากฏอยู่ในบันทึกหน้านี้นี่เอง และเมื่อหยิบหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ที่เขาถ่ายสำเนาจากหนังสือนิตยสาร “ชีวิตรัก” มาให้ผม ซึ่งเป็นหน้า คอลัมน์ - ในช่วงที่เขาได้แบกเป้ออกไปตะลอนทัวร์ ช่วยคุณวนัสนันท์ ตามที่เขาตั้งปณิธานเอาไว้ออกมาอ่าน เพื่อทำความรู้จักทั้งคอลัมน์และตัวตนของคุณวนัสนันท์ ที่นำมือแห่งความเมตตาของคุณวรรณและคุณแขคนไทยในต่างประเทศ มาฉุดเขาขึ้นมาตจากขุมนรกอันลึกล้ำดำมืดแห่งหนี้สิน และมือแห่งความเมตตาอีกมากมายที่หลั่งไหลติดตามมา... ผมพบว่าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
6 หลังจากงานศพของพ่อแล้ว เขาก็เริ่มตกเข้าไปอยู่ในวังวน - ของการหมกมุ่นครุ่นคิด...เป็นทุกข์อยู่กับหนี้สินอีก และพยายามต่อสู้กับตัวเองอย่างถึงที่สุด ระหว่างการคิดทำลายตัวเองตามพ่อไป เพื่อหนีความทุกข์ปัญหาอันหนักหนาสาหัส และการพยายามคิดหาเหตุผลต่างๆนานาที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
30 ตุลาคม 2539 วันนี้ นายเรียกข้าราชการตำรวจทั้งโรงพักมาประชุม เพื่อร่ำลาไปรับตำแหน่งใหม่ เห็นพวงมาลัย...ที่นายดาบหัวหน้าสายแต่ละสาย เตรียมมาให้นายแล้ว ได้แต่นึกเสียดาย... ท่านมากอบโกย...แล้วก็ไป
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  3. เขากลับกรุงเทพฯไปได้หนึ่งอาทิตย์กว่าๆ ผมก็ได้รับกล่องพัสดุขนาดใหญ่ หนักเกือบสองกิโลกรัมจากเขา เมื่อแกะกล่องออกมา ผมก็พบแฟ้มเก็บต้นฉบับที่เขาถ่ายสำเนามาจากหน้าคอลัมน์ “สะพานบุญ” ที่เขาเคยเขียนในนิตยสาร “ย้อนรอยกรรม”และ จากหน้าคอลัมน์ “ศาลาแรงบุญ” ในนิตยสาร “แรงบุญแรงกรรม” ที่เขาเขียนอยู่ในปัจจุบัน นับรวมกันได้ 60 กว่าเรื่อง หนาประมาณ 200 กว่าหน้ากระดาษ A4 รวมทั้งสำเนาต้นฉบับที่เขาถ่ายจากหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์ จากหนังสือ “ ชีวิตรัก” 15 แผ่น และจากกรอบหน้าคอลัมน์หนังสือพิมพ์รายวันที่เขียนยกย่องชื่นชมเขา 3 - 4 แผ่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 1.  จินตวีร์ เกียงมี หรือที่มีชื่อเต็มยศว่า จ.ส.ต.จินตวีร์ เกียงมี ซึ่งปัจจุบันรับราชการตำรวจ ตำแหน่ง งานธุรการอำนวยการกองวิจัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่ใครต่อใครต่างรู้จักกันทั่วไปทั้งประเทศ และเลื่องลือไปถึงเมืองนอกเมืองนาในวันนี้ ในฐานะ จ่าตำรวจใจบุญ ที่แบกเป้เที่ยวตะลอนๆ ไปช่วยเหลือคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก แทบทุกหนทุกแห่งในประเทศ ที่ส่งเสียงร้องทุกข์โอดโอยมาให้เขาได้ยิน ซึ่งเราได้รับรู้เรื่องราวของเขาจากสื่อต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร อินเตอร์เน็ต ฯลฯ และที.วี.แทบทุกช่องที่นำเรื่องราวของเขา มาบอกเล่าแก่สาธารณะชน  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 สมัยที่ผมยังทำงานเป็นนักดนตรีประจำร้าน สายหมอกกับดอกไม้ ของคุณอันยา โพธิวัฒน์ คู่ชีวิตของคุณจรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก่อนจะออกมาทำงานเขียนและงานเกี่ยวกับหนังสืออย่างเต็มตัวในทุกวันนี้ ผมจำได้อย่างแม่นยำว่า ภายในร้านสายหมอกกับดอกไม้ นอกจากเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับตกแต่งภายใน ที่ประกอบด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ที่เป็นเครื่องไม้ ภาพเขียน รูปปั้น และ ข้าวของเครื่องใช้ ผลงานเพลงของคุณจรัลในตู้โชว์ ตลอดจนรูปภาพของคุณจรัลตามฝาผนังห้องในอิริยาบถต่างๆแล้ว ยังมีกระจกเงาเก่าแก่บานหนึ่ง กว้างประมาณ สองฟุต สูงท่วมหัว ประดับอยู่ตรงมุมห้องโถงด้านขวามือใกล้ๆกับเวทีเล่นดนตรี…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  3 กันยายน 2552 ปีนี้ นอกจากจะเป็นวันรำลึกครบรอบการจากไปของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาแล้ว วันนี้ยังมาตรงกับวันจัดงาน " แอ่วสันป่าตอง " ซึ่งเป็นงานของโครงการย้อนยุคอำเภอสันป่าตอง ที่มีเป้าหมายที่จะแนะนำอำเภอสันป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีสภาวัฒนธรรมอำเภอเป็นตัวหลักในการจัดงาน ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมากมายหลายองค์กร ฯลฯ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ก่อนอาทิตย์ตกในไร่ข้าวโพดสีส้มโชติโชนอยู่อีกครู่ใหญ่แผ่ร่มเงาความเวิ้งว้างกว้างออกไปอีกหนึ่งวันกลืนวันวัยในวันนี้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเอยฉันทลักษณ์ ยากยิ่งนักจะประดิษฐ์มาคิดเขียน เป็นบทกวีงามวิจิตรสนิทเนียน มิผิดเพี้ยนตามกำหนดแห่งกฎเกณฑ์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิ่งมิตร เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม