Skip to main content

  

3 กันยายน 2552 ปีนี้
นอกจากจะเป็นวันรำลึกครบรอบการจากไปของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาแล้ว วันนี้ยังมาตรงกับวันจัดงาน " แอ่วสันป่าตอง " ซึ่งเป็นงานของโครงการย้อนยุคอำเภอสันป่าตอง ที่มีเป้าหมายที่จะแนะนำอำเภอสันป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีสภาวัฒนธรรมอำเภอเป็นตัวหลักในการจัดงาน ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมากมายหลายองค์กร ฯลฯ

\\/--break--\>

ปีนี้

โดยส่วนตัวผม นอกจากควรจะต้องไปงานรำลึกครบรอบการจากไปของคุณจรัลในตัวเมืองเชียงใหม่ เหมือนทุกปีแล้ว ผมยังจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องไปร่วมงาน " แอ่วสันป่าตอง " ซึ่งเป็นงานของอำเภอที่เป็นบ้านเกิดของผม ณ สวนหลวงเฉลิมพระเกียรติ ฯ โรงเรียนสันป่าตองวิทยาคม เนื่องจากปีนี้ ผมได้รับการคัดเลือก และยินยอมพร้อมใจ เป็นบุคคลผู้มีผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมของอำเภอ สาขาวรรณศิลป์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งใน Series ของงานนี้ ร่วมกับมาลา คำจันทร์ นักเขียนนวนิยายรางวัลซีไรท์ และคุณถนอม ปาจา ศิลปินพื้นบ้านผู้เชี่ยวชาญในการเขียนค่าว ( บทกวีพื้นบ้าน ) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในสังคมวรรณกรรมท้องถิ่น ด้วยนามปากกาที่ชื่อว่า " รสสุคนธ์ รักษ์กวี "

 

งานนี้มี 2 วันครับ

นอกจากพิธีไหว้ครูและมอบโล่รางวัลประกาศเกียรติคุณแก่ผู้ที่ได้รับรางวัลสาขาต่างๆเกือบ 20 กว่าคนแล้ว ยังมีงานกิจกรรมตลอดวันทั้งสองวันที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ตั้งแต่เวลา 9.00 - 17.00 น. เช่น

  • - นิทรรศการแสดงผลงานของผู้ที่ได้รับรางวัลทุกๆสาขา
  • - กาดหมั้วครัวฮอมจากหมู่บ้านต่างๆ มาร่วมขายอาหารพื้นเมือง
  • - การแสดงซอพื้นเมือง ค่าว จากคณะต่างๆ เช่น จันทร์ทองบันเทิงศิลป์
  • - การแสดงผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลงานของชาวบ้านกลุ่มต่างๆ เช่น บ้านร้องตีมีด กลุ่มจักสานบ้านป่าจู้ กลุ่มไทเขิน ฯลฯ
  • - การแสดงดนตรีของ คำ ปันเกย สะล้อ 2001 และศิลปินรับเชิญ
  • - ร้านมัจฉากาชาด ของเหล่ากาชาดอำเภอสันป่าตอง
  • - ร้านย้อนยุค ของ สโมสรโรตารี่สันป่าตอง
  • - กลุ่มภูมิปัญญาท้องถิ่น ที่เลื่องชื่อร่วมแสดง เช่น พ่อครูเพชร วิริยะ บ้านจ๊างนัก สล่าแดง บ้านน้ำต้น พ่ออุ้ยใจ๋คำ โครงการอุ้ยสอนหลาน สล่านอง หอสมังคีช้าง สล่าสมานบ้านเปียง ฯลฯ


ส่วนงานรำลึกครบรอบการจากไป ของ คุณจรัล มโนเพ็ชร ปีนี้ ผมไม่ได้ข่าวว่าจัดกันกี่ที่กี่แห่ง นอกจากข่าวที่ผมได้รับจากคุณกฤตน ชัยแก้ว เพื่อนนักดนตรี ที่เคยเล่นกีตาร์และร้องเพลงตามห้องอาหารร่วมกันมาหลายแห่ง ชึ่งปัจจุบัน ควบตำแหน่ง ฝ่ายประสานงาน สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ ได้ให้ข่าวแก่ผมมาว่า ปีนี้ โครงการศิลปวัฒนธรรม ในความร่วมมือเพื่อเมืองเชียงใหม่ ได้จัดงานรำลึกถึงคุณจรัล ชื่องานว่า "เรียงร้อยฮ้อยฝัน จรัล มโนเพ็ชร" ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. 3 กันยายน 2552 ณ สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มช. ( หลังหอศิลป์ มช. ) ซึ่งใบปลิวโฆษณาเขาให้รายละเอียดของงานมาว่า

 

ชมฟรี พร้อมรับซีดีผลงานประวัติศาสตร์ พบ สุนทรี เวชานนท์ ปฎิญญา ตั้งตระกูล ไม้เมือง ณัฐ กิตติสาร ณัฐฐา พรหมมินทร์ บฤงคพ วรอุไร วงซึงหลวง ฯลฯ และชาวศิลปินล้านนาอีกมากมาย และทายาท 2 รุ่นของจรัล มโนเพ็ชร เสนอเพลงใหม่ นิทรรศการประวัติผลงาน ละครเวทีที่หาชมที่อื่นไม่ได้ เช่น ศึกรักประกาศิต เปาบุ้นจิ้น บารมีศรีวิชัย และงานสุดท้าย มะเมี๊ยะ วงสนทนาของนักแสดงและทีมงาน กาดหมั้วครัวฮอม ตลาดศิลปะตลอดวัน ฯลฯ

 

ครับ ถือว่างานทั้งสองงานนี้ เป็นงานใหญ่ที่น่าสนใจด้วยกันทั้งสองงาน ถ้าคุณอยากเที่ยวชมงานทั้งสองให้อิ่มอกอิ่มใจครบทุกงานทุกวัน วันแรกควรจะขับรถไปเที่ยวงาน " แอ่วสันป่าตอง" ในช่วงตอนกลางวัน แล้วตอนเย็นไปต่องานรำลึกคุณจรัลที่จัดเพียงวันเดียว แต่จัดยาวนานไปจนถึงเวลา 22 - 00 น. แล้วอีกวันกลับไปเที่ยวงาน " แอ่วสันป่าตอง " อีกวัน ก็ครบทุกงานทุกวัน หรือจะเลือกไปงานสันป่าตองวันหนึ่ง งานรำลึกจรัลวันหนึ่งเพียงงานเดียว ก็ตามแต่สะดวกกันนะครับ...


ส่วนตัวผมนี่ หลังจากรับรางวัลแล้ว ค่อยว่ากันอีกที เพราะผมสังหรณ์ใจว่าตัวเอง คงจะถูกแวดล้อมและมะรุมมะตุ้มด้วยผู้สื่อข่าวที.วี.ทั้งวัน จนออกจากงานไม่ได้ ( ฮา ) เพราะสภาวัฒนธรรมเขาทำโปสเตอร์งานขนาดใหญ่มหึมา ติดตามแยกถนนยังกะงานเปิดตัวดารา เห็นรูปตัวเองแล้วตกใจ ว่าทำไมตัวเองถึงได้หล่อในยามสูงวัยได้ถึงเพียงนี้ - อ่ะจ๊าก !

 

ขอบคุณ พ่อหลวงศิลปิน รุ่งโรจน์ เปี่ยมยศศักดิ์ รองประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอสันป่าตอง คุณกฤตน ชัยแก้ว ฝ่ายประสานงาน สมาคมดนตรีแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ส่งข่าวและรายละเอียดของงานมาให้ประชาสัมพันธ์

 


 

ท่านผู้ใดที่เดินทางแวะเวียนผ่านอำเภอสันป่าตอง ในช่วงวันเวลานี้ ถ้าสนใจของดีจากอำเภอสันป่าตอง ที่สภาวัฒนธรรมนำมาเสนอ เชิญแวะเข้าไปชมงานนี้ได้เลยนะครับ
 

31 สิงหาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตเอย เหตุใดเล่า เจ้าจึงเศร้าโศกเสียใจร้องไห้คร่ำครวญ ให้กับบางสิ่งที่เจ้าได้สูญเสียมันไป เหมือนนมที่หกออกจากแก้วไปแล้ว...ตกลงบนพื้นดิน วันแล้ววันเล่า ไม่รู้จักจบสิ้น  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
12 เมษายน 2545 วันครบรอบวันเกิด...ที่แสนจะเจ็บปวด ขณะนั่งรถจักรยานยนต์ออกตรวจพื้นที่กับคู่หู ขับรถผ่านไปทางบ้านพ่อแม่ผู้พัน นายเก่าที่มาหยิบยืมเงินเราแล้วไม่ยอมใช้คืน เมื่อสองสามปีที่แล้ว พอเจอหน้า จอดรถจะเข้าไปถาม นายกลับรีบเดินหนี อนิจจา ! นายเอ๋ยนาย...ดอกไม่ต้องขอเพียงแค่ต้นคืนได้ไหม...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  7   ครับ รายละเอียดเรื่องราวของเขา ที่ผมอยากรู้อยากเห็นเหลือเกิน เริ่มปรากฏอยู่ในบันทึกหน้านี้นี่เอง และเมื่อหยิบหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ที่เขาถ่ายสำเนาจากหนังสือนิตยสาร “ชีวิตรัก” มาให้ผม ซึ่งเป็นหน้า คอลัมน์ - ในช่วงที่เขาได้แบกเป้ออกไปตะลอนทัวร์ ช่วยคุณวนัสนันท์ ตามที่เขาตั้งปณิธานเอาไว้ออกมาอ่าน เพื่อทำความรู้จักทั้งคอลัมน์และตัวตนของคุณวนัสนันท์ ที่นำมือแห่งความเมตตาของคุณวรรณและคุณแขคนไทยในต่างประเทศ มาฉุดเขาขึ้นมาตจากขุมนรกอันลึกล้ำดำมืดแห่งหนี้สิน และมือแห่งความเมตตาอีกมากมายที่หลั่งไหลติดตามมา... ผมพบว่าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
6 หลังจากงานศพของพ่อแล้ว เขาก็เริ่มตกเข้าไปอยู่ในวังวน - ของการหมกมุ่นครุ่นคิด...เป็นทุกข์อยู่กับหนี้สินอีก และพยายามต่อสู้กับตัวเองอย่างถึงที่สุด ระหว่างการคิดทำลายตัวเองตามพ่อไป เพื่อหนีความทุกข์ปัญหาอันหนักหนาสาหัส และการพยายามคิดหาเหตุผลต่างๆนานาที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป...
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
30 ตุลาคม 2539 วันนี้ นายเรียกข้าราชการตำรวจทั้งโรงพักมาประชุม เพื่อร่ำลาไปรับตำแหน่งใหม่ เห็นพวงมาลัย...ที่นายดาบหัวหน้าสายแต่ละสาย เตรียมมาให้นายแล้ว ได้แต่นึกเสียดาย... ท่านมากอบโกย...แล้วก็ไป
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  3. เขากลับกรุงเทพฯไปได้หนึ่งอาทิตย์กว่าๆ ผมก็ได้รับกล่องพัสดุขนาดใหญ่ หนักเกือบสองกิโลกรัมจากเขา เมื่อแกะกล่องออกมา ผมก็พบแฟ้มเก็บต้นฉบับที่เขาถ่ายสำเนามาจากหน้าคอลัมน์ “สะพานบุญ” ที่เขาเคยเขียนในนิตยสาร “ย้อนรอยกรรม”และ จากหน้าคอลัมน์ “ศาลาแรงบุญ” ในนิตยสาร “แรงบุญแรงกรรม” ที่เขาเขียนอยู่ในปัจจุบัน นับรวมกันได้ 60 กว่าเรื่อง หนาประมาณ 200 กว่าหน้ากระดาษ A4 รวมทั้งสำเนาต้นฉบับที่เขาถ่ายจากหน้าคอลัมน์ “ศาลาคลายร้อน” ของคุณวนัสนันท์ จากหนังสือ “ ชีวิตรัก” 15 แผ่น และจากกรอบหน้าคอลัมน์หนังสือพิมพ์รายวันที่เขียนยกย่องชื่นชมเขา 3 - 4 แผ่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 1.  จินตวีร์ เกียงมี หรือที่มีชื่อเต็มยศว่า จ.ส.ต.จินตวีร์ เกียงมี ซึ่งปัจจุบันรับราชการตำรวจ ตำแหน่ง งานธุรการอำนวยการกองวิจัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ที่ใครต่อใครต่างรู้จักกันทั่วไปทั้งประเทศ และเลื่องลือไปถึงเมืองนอกเมืองนาในวันนี้ ในฐานะ จ่าตำรวจใจบุญ ที่แบกเป้เที่ยวตะลอนๆ ไปช่วยเหลือคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก แทบทุกหนทุกแห่งในประเทศ ที่ส่งเสียงร้องทุกข์โอดโอยมาให้เขาได้ยิน ซึ่งเราได้รับรู้เรื่องราวของเขาจากสื่อต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นสื่อทางวิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร อินเตอร์เน็ต ฯลฯ และที.วี.แทบทุกช่องที่นำเรื่องราวของเขา มาบอกเล่าแก่สาธารณะชน  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
 สมัยที่ผมยังทำงานเป็นนักดนตรีประจำร้าน สายหมอกกับดอกไม้ ของคุณอันยา โพธิวัฒน์ คู่ชีวิตของคุณจรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนา ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก่อนจะออกมาทำงานเขียนและงานเกี่ยวกับหนังสืออย่างเต็มตัวในทุกวันนี้ ผมจำได้อย่างแม่นยำว่า ภายในร้านสายหมอกกับดอกไม้ นอกจากเฟอร์นิเจอร์และเครื่องประดับตกแต่งภายใน ที่ประกอบด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ที่เป็นเครื่องไม้ ภาพเขียน รูปปั้น และ ข้าวของเครื่องใช้ ผลงานเพลงของคุณจรัลในตู้โชว์ ตลอดจนรูปภาพของคุณจรัลตามฝาผนังห้องในอิริยาบถต่างๆแล้ว ยังมีกระจกเงาเก่าแก่บานหนึ่ง กว้างประมาณ สองฟุต สูงท่วมหัว ประดับอยู่ตรงมุมห้องโถงด้านขวามือใกล้ๆกับเวทีเล่นดนตรี…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  3 กันยายน 2552 ปีนี้ นอกจากจะเป็นวันรำลึกครบรอบการจากไปของ จรัล มโนเพ็ชร ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่แห่งล้านนาแล้ว วันนี้ยังมาตรงกับวันจัดงาน " แอ่วสันป่าตอง " ซึ่งเป็นงานของโครงการย้อนยุคอำเภอสันป่าตอง ที่มีเป้าหมายที่จะแนะนำอำเภอสันป่าตองเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยมีสภาวัฒนธรรมอำเภอเป็นตัวหลักในการจัดงาน ร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนอีกมากมายหลายองค์กร ฯลฯ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ก่อนอาทิตย์ตกในไร่ข้าวโพดสีส้มโชติโชนอยู่อีกครู่ใหญ่แผ่ร่มเงาความเวิ้งว้างกว้างออกไปอีกหนึ่งวันกลืนวันวัยในวันนี้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  ฉันเอยฉันทลักษณ์ ยากยิ่งนักจะประดิษฐ์มาคิดเขียน เป็นบทกวีงามวิจิตรสนิทเนียน มิผิดเพี้ยนตามกำหนดแห่งกฎเกณฑ์
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิ่งมิตร เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม