Skip to main content


เราไม่รู้ว่า

รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
คิดผิดหรือคิดถูก

ที่ใช้อำนาจนิติรัฐสั่งยึดทรัพย์ ทักษิณ ชินวัตร

แล้วยังหมายมาดจะใช้อำนาจนี้

ขย้ำขยี้ด้วยคดีอาญาอีกมายหลายคดี

เพื่อทำลาย ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวแบบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด

ราวกับว่ารัฐบาลนี้จะยึดกุมอำนาจการบริหารประเทศแต่เพียงผู้เดียว

โดยไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้อง

ไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย

เราไม่รู้ว่า
อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

คิดผิดหรือว่าคิดถูก

ที่ไม่ยอมรับคำพิพากษาใดๆทั้งสิ้นจากสถาบันศาลสถิตยุติธรรมของสังคมไทย

ที่เขามองว่ามีอำนาจการเมืองของรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ที่เกิดมาจากกลุ่มอำนาจเก่าใช้กองทัพทำการปฏิวัติรัฐประหารรัฐบาลของเขา

ชักใยอยู่บื้องหลัง...

โดยอ้างว่าเพื่อแก้ปํญหาคอรัปชั่นของนักการเมืองและข้าราชการ

ในยุครัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร

เราไม่รู้ว่า
มวลชนคนเสื้อแดง
นับเป็นแสนๆคน
ที่ส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัด
และเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศนี้

ที่กำลังจะพากันหลั่งไหลติดตามแกนนำที่เป็นตัวแทนของ ทักษิณ ชินวัตร

ตามคำสั่งรุกฆาตของ
ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นขวัญใจของพวกเขา
ให้ออกไปเผชิญหน้ากับอำนาจนิติรัฐ

และกองทัพทหาร ตำรวจ ที่เพียบพร้อมด้วยยุทธวิธี

และอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัย

ในนามฝ่ายรักษาและป้องกันความมั่นคงของประเทศ

เพื่อเข้าไปกดดันรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ยุบสภา

เพื่อให้เกิดการเลือกตั้งใหม่

และมาดหมายจะกลับคืนมาสู่อำนาจใหม่

เพื่อปลดเปลื้องข้อกล่าวหาที่เขาไม่ยอมรับ

โดยผ่านพรรคการเมืองของเขา

เป็นเป้าหมายสุดยอด

ถ้าหากไม่เกิดการรัฐประหาร

ที่สามารถอ้างอย่างสมเหตุสมผลได้ว่า

เพื่อสกัดกั้นความรุนแรง...เข้ามาเบี่ยงเบน

หนทางต่อสู้...

ที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นในชัยชนะของพวกเขา


เราไม่รู้ว่า

การต่อสู้กันระหว่าง อำนาจเก่า และ อำนาจใหม่ ในประเทศนี้

ที่มีผลประโยชน์ ได้เสีย ขัดแย้งกันเป็นมูลค่ามหาศาล

ที่ไม่อาจประนีประนอมกันได้

ไม่ว่าจะโดยสันติวิธีใดๆ

นอกจากการเอาชนะและทำลายกันให้พินาศไปข้างหนึ่ง

เมื่อกองทัพและผู้นำกองทัพของทั้งสองฝ่าย

ที่ต่างมากด้วยไพร่พลจำนวนมหาศาลต้องเผชิญหน้ากัน

จนยากที่จะบอกได้ในวันนี้

ว่าฝ่ายใดเป็นต่อและฝ่ายใดเป็นรอง

และยากแก่การควบคุมให้อยู่ในกฎกติกา

แถมยังมีมือที่สาม สี่ห้า ที่มองไม่เห็นที่มาที่ไป

คอยฉวยโอกาสแทรกแซงก่อวินาศกรรม

จะผ่านไปโดยราบรื่น...

โดยมิเกิดความรุนแรงใดๆเกิดขึ้นหรือไม่

ใครเลยจะรู้ได้...

ตราบใดที่ยังไม่ถึงวันที่ ทักษิณ ชินวัตร

ประกาศรุกฆาต รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตัวแทนของอำนาจเก่า

ในวันที่
12 มีนาคม พรุ่งนี้ไปจนถึงวันที่ 14

ใช่
เรายากที่จะล่วงรู้

ความเป็นไปของการเมืองสมัยใหม่

ที่เต็มไปด้วยเรื่อง ลับ ลวง พราง และเล่ห์กลอันสลับซับซ้อน
แต่เรารู้อย่างแน่ชัด

และรู้กันอย่างซ้ำๆซากๆมานานแล้วตั้งแต่ยุค ตุลามหาวิปโยค

เมื่อความรุนแรงทางการเมืองได้เกิดขึ้นในสังคมไทย

ความสูญเสียและโศกนาฎกรรมอันใหญ่หลวง

จะตกแก่ผู้ใดในประเทศนี้ เท่านั้น
!

9 - 10 มีนาคม 2553
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
"นางแบบภาพประกอบ สุธาทิพย์ โมราลาย คอลัมนิสต์วรรณกรรมกุลสตรี ถ่ายโดยผู้เขียน" สมัยหนึ่ง ขงจื๊อกับศิษยานุศิษย์เดินทางไปรัฐชี้ เส้นทางผ่านป่าใหญ่เชิงภูเขาไท้ซัว ได้ยินเสียงร่ำไห้ของสตรีนางหนึ่งแว่วมาแต่ไกล ขงจื๊อหยุดม้า นิ่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “เสียงร้องไห้ฟังโหยหวนน่าเวทนานัก หญิงผู้นั้นคงได้รับทุกข์แสนสาหัสเป็นแน่” จื๊อกุงศิษย์ผู้ใกล้ชิดรับอาสาไปถามเหตุ หญิงนั้นกล่าวแก่จื๊อกุงว่า “น้าชายของฉันถูกเสือขบตายไม่นานมานี้ ต่อมาสามีของฉันก็ถูกเสือกินอีก บัดนี้เจ้าวายร้ายก็คาบเอาลูกชายตัวเล็กๆของฉันไปอีก” จื๊อกุงถามว่า “ทำไมท่านไม่ย้ายไปอยู่เสียที่อื่นเล่า” เธอตอบสะอื้น “ฉันย้ายไม่ได้ดอก” “…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเกาะติดสถานการณ์ ความขัดแย้งทางการเมืองครั้งนี้มาแบบวันต่อวัน ตั้งแต่นปช.คนเสื้อแดงเคลื่อนขบวนเข้ากรุงเทพมาเผชิญหน้ากับรัฐบาลเมื่อกลางเดือนมีนา และเป็นเสียงเล็กๆเสียงหนึ่งในหน้าบล็อกกาซีนของเว็บประชาไท ที่คอยประสานเสียงกับผู้คนอีกมากมายหลายฝ่ายในสังคม ที่พยายามตะโกนบอกทั้งฝ่ายคนเสื้อแดงและรัฐบาลให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง ที่จะทำให้ผู้คนล้มลงตายและบาดเจ็บ เพราะเชื่อกันว่า ยังมีทางเลือกที่สามารถตกลงกันได้ โดยไม่ทำให้ผู้คนต้องเสียชีวิตและเลือดเนื้อ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของคนทุกคน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหน... จนกระทั่งเว็บถูกฝ่ายควบคุมสื่อมวลชนของรัฐเข้ามาบล็อกเว็บ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
หลังจากการเจรจากัน เรื่องการยุบสภาระหว่างรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กลุ่ม นปช. - คนเสื้อแดง ที่ขัดแย้งกันเพราะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องเงื่อนไขของเวลา ที่ฝ่ายคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะต้องยุบสภาภายในเวลา 15 วัน และฝ่ายรัฐบาลบอกว่ายุบสภาก็ได้แต่ต้องรออีก 9 เดือน ผ่านไปสองครั้ง และยังไม่สามารถตกลงกันได้
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเกาะติดสถานการณ์ การชุมนุมเรียกร้องของมวลชนคนเสื้อแดง ที่พยายามกดดันเรียกร้องให้รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคม 53 เรื่อยมาจนถึงวันนี้ (24 มีนา 53) ซึ่งทีแรก หลังจากที่รัฐบาลถูกราดเลือดตอบโต้คำปฏิเสธแล้ว ต่างฝ่ายต่างมีทีท่าว่า จะหันหน้ามาเจรจาตกลงกันด้วยสันติ แต่พอเอาเข้าจริงๆก็ล้มเหลว เพราะต่างฝ่ายต่างก็ไม่สามารถจะยอมรับกันได้ ด้วยเหตุผลที่เป็นหลักใหญ่ที่ขัดแย้งอย่างสุดๆ  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ใช่หรือมิใช่ นอกจากอำนาจนิติรัฐ และอำนาจจากกองทัพทหารตำรวจ ที่คอยแวดล้อมปกป้องครองรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังมีอำนาจที่น่ากลัวอีกอำนาจหนึ่ง ที่สามารถกำหนดชัยชนะและความพ่ายแพ้ของมวลชนคนเสื้อแดง นั่นคือ อำนาจ ของสื่อมวลชนกระแสหลัก ที่ได้รับความเชื่อถือจากผู้คนส่วนใหญ่ในสังคม  
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
เราไม่รู้ว่า รัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คิดผิดหรือคิดถูก ที่ใช้อำนาจนิติรัฐสั่งยึดทรัพย์ ทักษิณ ชินวัตร แล้วยังหมายมาดจะใช้อำนาจนี้ ขย้ำขยี้ด้วยคดีอาญาอีกมายหลายคดี เพื่อทำลาย ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวแบบไม่ให้ได้ผุดได้เกิด ราวกับว่ารัฐบาลนี้จะยึดกุมอำนาจการบริหารประเทศแต่เพียงผู้เดียว โดยไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะต้อง ไปจนตราบชั่วฟ้าดินสลาย
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  อ่าน ดู และฟัง เรื่องราว ของ ทักษิณ ชินวัตร จากมุมมอง คนรัก ทักษิณ ชินวัตร สื่อสาร อ่าน ดู และฟังแล้ว ก็น่าเชื่อถือว่าเป็นความจริง ตามที่เขาว่า ทักษิณ ชินวัตร มิได้เป็นคนโกง แต่ถูกเขากลั่นแกล้งทำลาย
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  26 ก.พ. 53 พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ ของ ทักษิณ ชินวัตร คน คน คน คน คนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอดู ชะตากรรม ชะตากรรม ชะตากรรม ชะตากรรม ชะตากรรม ของ ทักษิณ ชินวัตร ภายใต้อำนาจศาลสถิตยุติธรรมของสังคมไทย ว่าเขาจะถูกศาลพิพากษาตัดสินอย่างไร ถูกยึดเอาทรัพย์ทั้งหมด ถูกยึดเอามากเหลือไว้แต่น้อย ถูกยึดเอาไปเพียงบางส่วน หรือไม่ถูกยึดเลยแม้แต่สลึงเดียว... คน คน คน คน คนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอดู
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  “ความเจ็บปวดเป็นเรื่องเฉพาะตัว” ใครคนหนึ่งนิยามในเชิงสรุปเรื่องนี้ขึ้นมาลอยๆ หลังจากนั่งพูดคุยกันมามากมายหลายเรื่อง แล้วมาลงเอยที่เรื่องราวความเจ็บปวดในชีวิต ที่เราซึ่งต่างโตเป็นผู้ใหญ่ ต่างก็ได้ประสบกันมาคนละมิใช่น้อย จากประสบการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในชีวิต เช่น ความรัก ความหวัง ความฝัน ความทะเยอทะยาน หน้าที่การงาน อุบัติเหตุ การถูกทำร้าย ความเจ็บไข้ได้ป่วย หนี้สิน หรือแม้กระทั่งเรื่องราวบางเรื่อง ที่ทำให้เราขัดแย้งกับตัวเอง ฯลฯ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมจำได้ว่า ผมเคยเขียนเรื่องเกี่ยวกับการ “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” ซึ่งเป็นเรื่อง “กฎแห่งกรรม” ตามหลักของพุทธศาสนาในระดับศีลธรรม ด้วยความเชื่อว่ามันเป็นสัจธรรมของชีวิต แล้วมีผู้แย้งมาในทำนองที่ว่า ไม่อยากจะเชื่อว่ามันเป็นกฎอันเฉียบขาดของโลกและชีวิตมนุษย์ เพราะบ่อยครั้งที่เขาทำดี...แล้วไม่เห็นได้ดี จนเขานึกท้อที่จะทำความดี
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  คุณค่าผลงานวรรณกรรม 'รงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นนักเขียนที่มีผลงานหลากหลายประเภท นับตั้งแต่ข้อเขียนบรรยายภาพ คอลัมน์ในนิตยสาร เรื่องสั้น นวนิยาย และงานเขียนปกิณกะอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีงานร้อยแก้วที่มีลักษณะลีลาของร้อยกรองปลอดฉันทลักษณ์ หรือร้อยกรองรูปแบบอิสระปรากฏอยู่ เป็นช่วงสั้นๆในนวนิยายบางเรื่องด้วย ผลงานหลากประเภทดังกล่าวมีจำนวนมากมาย เฉพาะงานเขียนที่รวมเล่มแล้วมีจำนวนประมาณ 100 เล่ม ส่วนใหญ่เป็นเรื่องสั้น บทความ และข้อเขียนจากคอลัมน์ต่างๆ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมนึกแปลกใจ ที่งานเขียนนวนิยายหลายเล่มของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ ไม่ว่าจะเป็นนักอ่าน นักเขียน นักวิเคราะห์วรรณกรรม หรือแม้กระทั่งคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ที่ประกาศยกย่องเชิดชูให้เขาเป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณกรรม ปี 2538 ต่างมีความเห็นตรงกันว่า นวนิยายที่เป็นงานโดดเด่น หรือที่ภาษาทางศิลปะเรียกกันว่าเป็นงานมาสเตอร์พีซของ ’รงค์ วงษ์สวรรค์ คือ นวนิยายเรื่องสนิมสร้อย ใต้ถุนป่าคอนกรีท เสเพลบอยชาวไร่ ผู้มียี่เกในหัวใจ ฯลฯ โดยเฉพาะสนิมสร้อยนั้น ดูเหมือนจะถูกยกย่องไว้สูง จนไม่มีเรื่องใดมาเทียบได้ และหลงลืมหรืออาจจะจงใจหลงลืม นวนิยายเรื่องหนึ่งของเขาที่ชื่อว่า “คืนรัก”