ครับ ผมเชื่อแล้ว



หลังจากการเจรจากัน
เรื่องการยุบสภาระหว่างรัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ กลุ่ม นปช. - คนเสื้อแดง ที่ขัดแย้งกันเพราะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องเงื่อนไขของเวลา ที่ฝ่ายคนเสื้อแดงยืนยันว่าจะต้องยุบสภาภายในเวลา 15 วัน และฝ่ายรัฐบาลบอกว่ายุบสภาก็ได้แต่ต้องรออีก 9 เดือน ผ่านไปสองครั้ง และยังไม่สามารถตกลงกันได้

ผมคาดการณ์ว่า เรื่องนี้น่าจะยืดเยื้อไปอีกนาน และยากที่ใครๆจะทำนายได้ว่าการเจรจานี้จะตกลงด้วยการยินยอมพร้อมใจด้วยการทั้งสองฝ่ายอย่างไร บอกตามตรงนะครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองสักเท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยสนใจเรื่องการเมืองมาก่อน และติดตามการเมืองในปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเรื่อง ลับ ลวง พราง นี้ไม่ค่อยทันและไม่ค่อยเข้าใจนัก...

แต่ก็ได้ถลำตัวเข้ามาเสพติดเรื่องนี้เข้าแล้ว แต่ก็โชคดี ที่ผมเข้ามาในฐานะนักศึกษาที่เฝ้ามองดูปรากฏนี้ และพยายามจะเข้าใจ ว่าอะไรเป็นอะไร โดยเว้นระยะห่าง พอที่จะเห็นอะไรได้ชัดเจนทั้งสองด้าน และไม่เข้าไปใกล้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จนกลายเป็น คนเสื้อเหลือง หรือ เสื้อแดง จนตกหลุมดำ เพราะข้อมูลและตรรก ที่ฟังฝ่ายใดก็อดไม่ได้ที่จะเชื่อและหลงรักฝ่ายนั้นดึงดูดเข้าไปทั้งเนื้อทั้งตัวและหัวใจ (ฮา) ...

 

 

เมื่อสองสามอาทิตย์ก่อน

พี่คนหนึ่งซึ่งเป็นนักปั่นจักรยาน และเพิ่งรู้จักกันได้ไม่นาน ได้แวะมาเยี่ยมผมที่บ้านตามปกติทุกครั้ง เวลาพี่ปั่นรถจักรยานจากบ้านของพี่ที่หมู่บ้านวังตาลอำเภอหางดงมาตามถนนสายเชียงใหม่ - ฮอด ผ่านหมู่บ้านของผมที่อยู่อำเภอสันป่าตอง ล่องใต้ไปตามทิศทางที่ตรงกันข้ามกับตัวเมือง ไม่ขาไปก็ขากลับ พี่จะต้องแวะมาดื่มน้ำและคุยกับผมค่อนข้างนาน...

แต่มาครั้งนี้ พี่นั่งไม่นานก็บอกลาผมว่าจะต้องรีบกลับ เพราะจะต้องไปเยี่ยมเพื่อนที่เรือนจำ เพราะมีคนโทรศัพท์มาบอกพี่ว่า เพื่อนของพี่ที่เป็นช่างปั้นและ เป็นอาจารย์สอนพิเศษเกี่ยวกับงานปั้นอยู่ที่วิทยาลัยเล็กๆแห่งหนึ่ง และเป็นคนที่นิยม คนเสื้อเหลือง อย่างลึกซึ้ง ได้เกิดการถกเถียงกันเรื่องการเมืองกับเด็ก (เข้าใจว่าน่าจะเป็นนักศึกษา) ที่เป็นนิยม คนเสื้อแดง เถียงกันไปเถียงกันมาอย่างไรไม่ทราบ เพื่อนของพี่ซึ่งปกติเป็นคนใจเย็นและสุภาพ ไม่ถือโทษโกรธใครง่ายๆ จู่ๆก็เกิดบันดาลโทสะขึ้นมาอย่างรุนแรงและลืมตัว ควักปืนที่เอามาจากที่ไหนไม่รู้ ยิงเด็ก...ที่คงจะต่อล้อต่อเถียงอย่างไม่ลดละ ล้มคว่ำลงจมกองเลือด ต่อหน้าต่อตาคนหลายคน...

ครับ ผมเชื่อแล้ว ว่าเรื่องศาสนาและการเมืองนั้น ถ้าหากไม่แน่ใจว่าตัวเองใจกว้างพอที่จะรับคนที่เข้ามีความคิดเห็นต่างจากตัวเรา อย่าไปพูดอย่าไปถกเถียงกับใคร โดยเฉพาะคนที่มอบตัวเองให้แก่ความเชื่อที่ตัวเองเลือก และเชื่อจนเข้ากระดูกดำ ว่าตัวเราและพวกเราเท่านั้นที่ถูกต้อง และที่สำคัญที่สุดก็คือ คนที่เลือกจนได้ชื่อว่าเป็นสีนั้นสีนี้ด้วยความภาคภูมิใจ มักจะรู้สึกว่าตัวเองมีพลัง (เพราะมีแนวร่วมมาก) และมักจะคิดกันว่า ตัวเองเป็นคนฉลาดกว่าด้วย ที่ได้เลือกสีที่ตัวเองชื่นชม อันนี้สำคัญมากนะครับ ต้องระวัง เพราะมันทำให้เกิด อัตตา ที่ใครแตะไม่ได้ ตรงนี้แหละที่ผมเรียกว่า หลุมดำ ที่ทำให้คนเสีย self  มามากต่อมาก...

นี่...ผมบอกแก่ตัวเองให้ระมัดระวังตัวด้วยนะครับ เวลาจำเป็นต้องแสดงความคิดเห็นกับใครในเรื่องการเมือง โดยเฉพาะตามร้านขายเหล้า เพราะผมยังอยากเขียนหนังสืออีกหลายเรื่อง - ที่ผมยังไม่ได้เขียน เพราะมัวมาเสพติดเรื่องการเมืองนี่ครับท่าน.


31 มีนาคม 2553
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่  

ความเห็น

Submitted by น้ำลัด on

ข้อมูลด้านที่สาม...จิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญ

สามัญชนคนหนึ่งสร้างความนิยมในหมู่ชนเพียงชั่วข้ามคืน
เขาคนนั้นต้องการตะกายดาว เป็นหุ้นส่วนธุรกิจอันยิ่งใหญ่
เรื่องนี้เคยปรากฏใน Far Eastern Economic Review
บวกกับข่าวลืองานหมั้น การซื้อขายที่ดินที่แม่ริม
การซื้อขายสถานที่ร้างอันสำคัญในเมืองนนท์ ฯลฯ

สภาที่มองไม่เห็นนั้นไม่ค่อยมีเอกภาพภายในมานานแล้ว
นั่นเป็นหนามยอกอกของสภาฯมาเนิ่นนาน
สภาฯตระหนักถึงอันตรายต่อความมั่นคงของตนเอง
ปฏิบัติการ Wag the Dog ได้เริ่มต้นขึ้น
ผู้คนตระหนักว่ามีก้อนมะเร็งร้ายที่ต้องกำจัด

การรักษามะเร็งก้อนนี้อันที่จริงไม่น่าจะยากแต่ต้องอดทนใช้เวลา
สภาฯมั่นใจในอำนาจทางทหาร-ตำรวจ หรือกระทั่งศาล
สภาฯใจร้อนเลือกใช้วิธีการทำคีโม ผลข้างเคียงนั้นมีมหาศาล

ผลข้างเคียงรุนแรงกระทบสู่สภาฯอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผู้คนส่วนหนึ่งเห็นว่าเนื้อก้อนนี้ไม่ใช่มะเร็งแต่มีประโยชน์มากมาย
สภาฯนั้นตระหนักต่อปัญหานี้และกำลังหาทางออก

หรือว่าคำทำนายของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นั้น...?

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ขออภัยท่านผู้อ่าน คำว่า่ "ผ่านไปสองครั้ง" ในพารากราฟแรกในวรรคที่สาม ที่ถูกต้องคำนี้ต้องอยู่ท้ายประโยคที่ว่า "เพราะตกลงกันไม่ได้ใในเรื่องเงื่อนไขของเวลา..." ในวรรคที่สองในพารากราฟเดียวกัน เป็นความผิดพลาดในการวางถ้อยคำไว้ผิดที่...ของผมเองครับ ขออภัย

Submitted by น้ำลัด on

พลังสีแดง : การจัดตั้งของภาคการผลิตไม่เป็นทางการ
http://www.prachatai.com/journal/2010/04/28647

ผมมีความเห็นสอดคล้องกับบทความของ "อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์" ข้างบนนี้ครับ
ในข้อที่ว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความเข้าใจ "ภาคการผลิตที่ไม่เป็นทางการ"
มันเป็นภาคเศรษฐกิจมหึมาที่ซ่อนตัวอยู่ อันยากที่จะประเมินเป็นตัวเลข
มันไม่ถึงกับเป็นเศรษฐกิจใต้ดิน แต่มันแฝงตัวอยู่มาเิ่นิ่นนานแล้ว
หากจะกระตุ้นให้มันเติบโตก็คือต้องให้ทุนสนับสนุนมากกว่าอย่างอื่น

แต่เสียดายที่มันถูกมองว่าเป็น "ประชานิยม" ด้วยวาทกรรมทางการเมือง
รัฐบาลจึงแจก 2000 บาทให้ภาคแรงงาน ซึ่งเป็นเศรษฐกิจคนละส่วนกันโดยสิ้นเชิง
2000 บาทในภาคแรงงานนั้นไม่ค่อยมีความหมายอันใดนัก
มันเหมือนแจก "ปลาไหล" ที่พร้อมจะหลุดมือไปหาผู้ที่มีอุปกรณ์ดักจับเท่านั้น
และกลุ่มผู้ที่มีอุปกรณ์ดักจับนั้นส่วนใหญ่ไม่ใช่ผู้ผลิต หากแต่เป็นเพียงพ่อค้าคนกลาง

Submitted by น้ำลัด on

ประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรจริงหรือ ?
เวลามีการทำสํามะโนประชากร
อาจจะได้ตัวเลขเปอเซ็นต์ครอบครัวเกษตรกรรมตัวเลขหนึ่่ง
แล้วเราก็เชื่อว่าสังคมเราเป็นสังคมเกษตรกรรม
แต่ก็เป็นไปได้ว่าข้อเท็จจริงอาจมีผิดเพี้ยน
ครอบครัวเหล่านั้นอาจพร้อมที่จะกลายพันธุ์ทุกเมื่อทันทีที่มีโอกาส
กลายเป็นภาคอุตสาหกรรมรายย่อยหรือภาคบริการรายย่อย
แต่พวกเขาอาจจะยังคงรักษาอาชีพเกษตกรรมไว้เป็นอาชีพเสริมต่อไป
หรือในครอบครัวหนึ่งก็อาจมีอาชีพผสมผสานกันหลายอย่าง
แต่เวลามีการสำรวจพวกเขาอาจจะบอกว่า
อาชีพเกษตกรรมเป็นอาชีพหลักของพวกเขาด้วยหลายๆเหตุผล

คนกรุงนั้นยากจะเข้าใจในสิ่งเหล่านี้
การสั่งการจากหอคอยให้เดินไปจึงอาจผิดเป้าหมาย
คนที่เคยสัมผัสชีวิตในชนบทมาก่อนเท่านั้น จึงจะเข้าใจสิ่งเหล่านี้
เขาย่อมแก้ัปัญหาได้ตรงจุดและตรงใจผู้คนในชนบทมากกว่า

Submitted by ถนอม ไชยวงษแก้ว on

น้ำลัด ขอบคุณครับ ที่ช่วยแนะนำบทความอาจารย์อรรถจักร สมัยที่ยังอยู่ในเมีอง ผมเคยไปฟังอาจารย์พูดบ่อยทั้งนอกและในมหาวิทยาลัย วันนี้วันที่ 3 ผมกำลังเฝ้ารอดูข่าว ที่ว่ากันว่าวันน้เป็นวันที่สำคัญยิ่ง

Submitted by ถนอม ไฃยวงษ์แก้ว on

ขออภัยอีกครั้ง พารากราฟที่สาม บรรทัดสุดท้ายที่เขียนว่า "เชื่อและหลงรักฝ่ายนั้นดึงดูดเข้าไปทั้งเนี้อทั้งตัวและหัวใจ" ที่ถูกคือ "เชื่อและหลงรักฝ่ายนั้น และถูกดึงดูดเข้าไปทั้งเนื้อทั้งตัวและหัวใจ..."

Submitted by ฉันชอบสีเหลืองม... on

ขอบอกก่อนว่า ฉันเป็นผู้หญิงที่ชอบสีเหลืองเป็นชีวิตจิตใจ
ฉันมีเสื้อผ้าสีเหลืองเต็มตู้ มานานมาก ก่อนที่พวกเสื้อเหลืองเสื้อแดงจะเกิดกันอีก
ภายในหนึ่งเดือนฉันสามารถสวมใส่เสื้อสีเหลืองโดยไม่ไม่ให้ซ้ำตัวกันได้ไปทำงาน
เสื้อสีแดงก็มีบ้าง แต่ไม่มาก เนื่องด้วยชอบมากแต่ไม่กล้าใส่เพราะใส่เหมือนโอ่ง
แต่ก็ต้องมี ด้วยสีประจำสถานที่ทำงาน คือสีแดงขาว
ฉันไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มเสื้อเหลืองหลายกรณี
แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของกลุ่มเสื้อแดงหลายครั้งเช่นกัน
แต่ชีวิตของฉัน รู้สึกว่าขาดสีเหลืองไม่ได้ เหมือนลมหายใจจะหยุด ถ้าไม่ได้ใส่เสื้อเหลือง
สีแดงก็มีความจำเป็นต้องใส่ แต่ขณะนี้ เกิดความรังเกียจ ซะแล้ว
จะใส่แดงก็กลายเป็นพวก นปช. ใส่เหลืองก็รบ กับเสื้อแดง

ใส่เหลือง แดง เดินทางไปไหนๆ ก็กลัวจะถูกฝ่ายสีตรงข้ามทำร้าย

แล้วจะให้ทำยังดีคะ ? ? ? ใครจะช่วยบริจาคเงินตัดเสื้อสีแห่งสันติ ไปไหนปลอดำัย
ที่เขาไม่ทะเลากันได้บ้าง

ถ้าพวกคุณจะทำสงครามสี กรุณาใช้หมวกดีกว่า เว้นเสื้อไว้ให้ให้ฉันสวมใส่เถิด

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

คุณฉันชอบสีเหลือง ฯ ถ้าคุณขาดสีเหลืองไม่ได้ และอยากใส่เหลือเกิน ก็ไม่ยากครับ ไม่ต้องเสียเวลาดิ้นรนไปหาเสื้อสีแห่งสันติ แต่ให้คุณไปว่าจ้างคนทำชิลสกรีนตัวอักษรตัวโตๆหน่อยบนอกเสื้อซ้ายขวา และกลางหลังเสื้อสีเหลืองของคุณว่า "เหลืองนี้ มิใช่เหลืองพันธมิตร" หรือถ้าอยากใส่เสื้อแดง ก็ทำเช่นเดียวกันว่า "แดงนี้ มิใช่แดง นปช." เผลอๆทั้งเสื้อสีเหลืองและแดงจากไอเดียนี้ จะกลายเป็นแฟชั่นที่อินเทรนไปทั่วประเทศ สำหรับคนที่เบื่อ...การเมืองจะพาลุกขึ้นมาใส่แดกดันสีเหลืองสีแดงที่ไม่กินเส้นกัน โดยไม่ต้องพูดให้เปลืองน้ำลาย อย่าเสียเวลาไปหาเสื้อสันติมาใส่เลยครับ เอาอย่างที่ผมว่านี่ ปลอดภัยกว่าเป็นไหนๆ เพราะบอกกันโต้งๆว่าไม่ใช่... ใครที่ไหนเขาจะมาวอแว นอกจากไม่วอแวแล้วยังทำให้เขาเก็บไปคิด... ประมาณว่า ในสายตาของคนที่ไม่ใช่เหลืองพันธมิตร และ แดงนปช. เราไม่น่าเข้าใกล้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ สวัสดีคร้าบ.

Submitted by AAA on

แนะนำให้ติดป้ายหรือสติ๊กเ้ก้อร์แบบเดียวกับรถยนต์ครับ
อย่างเสื้อสีเหลืองก็อาจจะติดว่า "เสื้อตัวนี้สีเทาดำฮิ"
เสื้อสีแดงก็ติดว่า "เสื้อตัวนี้น้ำตาลเจ้าาาา"

Submitted by มิ้ม on

น้ำมะตูมหวาน เย็นๆ สักแก้ว มั้ย จ้า ? ฮิ ฮิ ...แบบว่า การเมืองมันร้อนผ่าวๆ .. แวะ ดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้วก่อนนะ อ้าย ... รักษาสุขภาพด้วยจ้า .

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

มิ้ม ใช่ ร้อนจริงๆทั้งอากาศและการเมือง ที่กำลังเพิ่มดีกรีขึ้นทุกที ขอบคุณคร้าบ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยดื่มแล้ว ค่อยยังชั่ว มีแต่สุขภาพจิตทื่ต้องคอยระวัง สวัสดี

Submitted by อ้ายแสงดาวฯ on

อ้ายหนอม, คับ... อ้ายชอบสีของสายรุ้งและสีหลากสี มีชีวิตจิตวิญญาณดีี ถ้าพูดให้ถึงที่สุดแล้วทุกสีนั้นมีจริงหรือเปล่า หรือเพียงมนุษย์ตั้งขึ้นมา ?ปล่อยว่างเถิดคับพี่น้องเพื่อนร่วมโลก อย่าไปยึดมั่นถือมั่นอะไรมากเกินไป กะเดี๋ยวจะปวดหัวเป็นไข้ไม่สบายหน่ะ และศานติภาพมิมีวันเกิดขึ้นแน่นนอน ปัดธ่อ สีสมมุตติที่คนตั้งขึ้นมานั้น ไม่ว่าสีเหลือง แดง ชมพู น้ำเงิน ขาว ม่วงคราม แสด ฯลน คนเขาชอบ ถ้าเป็นเสื้อผ้าเขาก็สวมใส่กันมานานแล้ว ตั้งแต่ปีพระเจ้าเหา ก่อนที่จะมีการแบ่งสีทางการเมืองในขณะนี้ สีทางโคร้งสร้างสังคมสังคังห่วยแตกนี้สะมะคัญที่สุด ถ้าเราไม่เข้าใจธาตุแท้ของมันที่ครอบงำสังคมไทยแล สังคมโลกแล้ว ชนชั้นผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบ จะเรียกว่าชนชั้นผู้ถูกกดขี้ก็ได้ และชนชั้นผู้รักความเป็นธรรม เมื่อเลือกสีสมมุตติแล้วก้อย่อมตีกันตายแน่นอน เราต้องการเห็นเลือดเนื้อเหรอ หากเราไม่เข้าใจเรื่องโครงสร้างสังคม ศานติภาพไม่มีวันเกิดขึ้นเป็นจริงดอก หากเราไม่เข้าใจในธาตุแท้ของสังคมเส็งเค็งสังคังโอ้ มันดูยังไงดี ... จักหัวร่อก้อ หัวร่อ บ่ออก ... จะร้องไห้ก็ร้องให้บ่ค่อยออก กรรมเวร เจ้า...

Submitted by Desiderata on

จะ pro จะ con สีไหนไม่เห็นแปลก แต่ที่แปลกคือทำไมคนไทยถึงมีอคติขนาดชิดซ้ายชิดขวาไปเลยด้วย ไม่จำเป็นต้องไปยืนตรงกลางหรอกนะ จะยืนตรงไหนก็ยืนไปเพราะทุกคนต้องมีจุดยืน จุดยืนของแต่ละคนก็ขึ้นอยู่กับอะไรหลายอย่าง คงไม่ต้องแจกแจงว่ามีอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามถ้าคุณรู้สึกอุเบกขากับคนที่เห็นตรงข้ามกับคุณได้ ถ้าเป็นมิตรคุณก็ยังเห็นว่าเขาเป็นมิครอยู่ ... แสดงว่าจิตใจหลุดพ้นได้จากเครื่องพันธนาการแล้ว ส่วนที่เหลือเป็นเพียงความเห็นเท่านั้น ไม่ใช่ความรักความเกลียดอะไร ไม่ใช่โกรธกริ้วเสียงดังขึ้นมาแสดงความไม่พอใจ หรือถึงกับทำร้ายร่างกายกัน ให้รู้ด้วยเลยว่านั่นมันป่าเถื่อน จิตใจตกเป็นทาสของเครื่องพันธนาการ
ควรแก่การรู้สึกละอายใจ ... สังคมไทยมัน too romantic ใช้อารมณ์เป็นหลัก ขอให้พัฒนาเรื่องนี้กันเถิด ต่อไปมันจะได้พูดกันรู้เรื่อง ไม่ต้องมาฆ่ากันตายให้น่าสังเวช หรือพูดสิ่งตรงข้ามกันทีไรก็ต้องทะเลาะเบาะแว้ง ตัดเป็นตัดตายกันทุกทีไป
คุณถนอม ส่งบทความของหมออุดมไปให้แล้วค่ะ

Submitted by จั่น on

เห็นด้วยกับความครุ่นคิดนี้ของอ้ายค่ะ
เดี๋ยวนี้ การเลือกสี บูชาคน มันเป็นมากกว่าความคิดเห็นเสียแล้ว
หรือว่า มันกลายเป็นลัทธิใหม่ของไทยไปแล้วหรือ
แต่ละสี ต่างมีเทวดาและซาตานประจำลัทธิตนกันทั้งนั้น เศร้า. . .

คงต้องรอให้ถึงวันที่ไม่มีเทพประจำลัทธิ สีอาจจะจางลง จนได้เห็นความ้เป็นจริงได้ชัดขึ้น

Submitted by ถนอม ไฃยวงษ์แก้ว on

AAA ไอเดียคุณก็น่าจะนำไปใช้แฮะ

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

อ้ายแสงดาว ก็นั่นนะสิ พวกเขาทำให้ค่าของสีกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวไปอย่างน่าเสียดาย ผมเข้าใจว่า เสื้อสีเหลืองและสีแดง จะเป็นเสื้อสีที่คนไม่กล้าใส่ไปไหนมาไหนคนเดียวอีกนานนนะครับ

Submitted by ถนอม ไชยวงษแก้ว on

คุณ Desiderta ขอบคุณครับ ผมกำลังรออยู่ หวังว่าคุณคงไ่ม่ลืมให้ที่อยู่ของคุณมาด้วยนะ ผมจะได้ส่งหนังสือไปให้ ครับ เรื่องของสังคมไทยที่เป็นเช่นนี้ ว่ากันว่า เป็นเพราะสังคมไทยเป็นสังคมของความเชื่อ ยังมิได้พัฒนาเป็นสังคมของเหตุผลและข้อเท็จจริง ซึ่งก็คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคนส่วนใหญ่ยังอยู่ในระบบอุปถ้มภ์ จึงจำเป็นต้องเชื่อคนที่ตัวเองต้องพึ่งพาและอยู่ใต้อำนาจ อย่าว่าแต่คนชั้นล่างเลย แม้แต่นักการเมืองสมัยนี้ ก็ยังต้องพึ่งพาเงินของนักธุรกิจเป็นท่อน้ำเลี้ยง และเมื่อเข้าไปสภาแล้ว เขาก็คงจะมีช่องทางตอบแทนกันทางการเมืองที่เอื้อทางธุรกิจให้แก่ผู้ให้เงิน ผมเข้าใจว่า การเชิดชูตัวบุคคลมากกว่าหลักการ ก็น่าจะมาจากเหตุปัจจัยนี้เช่นกัน ขอบคุณครับ

Submitted by ถนอม ไชยวงษแก้ว on

จั่น ขอบคุณครับ ที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น การยึดเรื่องสีและตัวบุคคลมากกว่าความคิดและหลักการ ผมพยายามตอบคุณ Desiderta แล้ว ลองอ่านดูนะครับ แต่อาจจะแค่เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุเท่านั้น

Submitted by คนที่ยังมือสั่นฯ on

9.30 วันที่ 6 เมษายน 2553 วันจักรี

หลังจากศาลสั่งยกคำร้องเรื่องเสื้อแดงปิดสี่แยกราชประสงค์
รัฐบาลที่นำโดยพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการนำกำลังตำรวจทหารเข้ามาปิดล้อมกลุ่มผู้ชุมชุม
ประวัติศาสตร์เลือดกำลังจะถูกจารึกอีกครั้งหรือ? โมเดล 6 ตุลากำลังย้อนกลับมาหลอกหลอน
เหล่ามวลชนเสรีนิยมอีกครั้งหรือ? พลังอนุรักษ์นิยมกำลังเดินบนรอยเท้าเดิมๆของตัวเองหรือ?

ข่าวทั้งจากกระแสหลักและสื่อใต้ดินสื่ออินเตอร์เน็ต ล้วนมองเมินพลังบริสุทธิ์อันคับแค้นของ
คนเสื้อแดง มุ่งประโคมข่าวล้มสถาบันและการต่อสู้เพราะอามิสสินจ้าง เหล่าชนชั้นกลางพยักหน้าเห็นชอบกับการกวาดล้างคนที่พวกเขามองเห็นว่าไม่มีค่าพอจะเป็นคนไทย

เหตุการณ์ต่อจากนี้...หลังจากนี้.....ขอนักคิดนักเขียน กวีและเหล่าศิลปินทุกท่าน
มองหน้าตัวเองในกระจกให้ดีๆ เพราะแววตาอันว่างเปล่าของท่าน กำลังจะถูกจารึกบนหน้า
ประวัติศาสตร์...

Submitted by น้ำลัด on

มันเป็นความโหดร้ายจากสันดอนแห่งกิเลส
น้ำเจ้าพระยาหลาก น้ำเจ้าพระยาไหล
ปีแล้วปีเล่า วันเวลาแล้ววันเวลาเล่า
สันดอนแห่งกิเลสไม่เคยหดหายไป
หากแต่ก่อตัวทับถมทวีคูณเป็นสันดอนแห่งหายนะ

Submitted by Desiderata on

จวนเข้าไคลได้ที่แล้ว อย่าเพิ่งง่วงหงาวหาวนอนหลับไปก่อนนะ แหวกตาไว้ให้กว้าง การเติมเชื้อเพลิงมันเริ่มขึ้นและลุกโชน เมษาทมิฬ ภาค 2 กำลังจะเข้าโรงฉายอีกไม่นานนี้แหละ ท่านที่รักทั้งหลาย อดใจอีกไม่กี่วัน เตรียมสวดพระอภิธรรมได้เลย!!!

Submitted by kidz on

เพื่อนรักต่างสี
มึง ก็ห่าข้าก็เหี้ยเปลี้ยกันเอง มาบรรเลงเพลงวาทะเพื่อฉะกัน เพื่อนทั้งนั้นคิดไม่เหมือนเพื่อนเลยโง่ ฉลาดโชว์คับแคบจิตไม่คิดฝัน ด่าสีใดด่าตนเองเช่นกัน อวดจังนั่นรักชาติไทยไม่รักคน ถ้ากูแดงก็อย่าคบไม่เดือดร้อน ถ้ากูเหลืองไม่ขอวอนอย่ามาสน หากเป็นเพื่อนของคุณทุกๆคน คบคนบนความต่างไว้บ้างเอย ....อุ๋ยใช้