Skip to main content

เมื่อรักจะเล่นกันในระบอบประชาธิปไตย
ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของประชาชนจากผลการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะออก เหลือง หรือออก แดง ก็ตาม การเลือกตั้งในยุโรปหลายประเทศ ก็มีตัวอย่างมาแล้ว เมื่อประชาชนเบื่อ “ทุนนิยม” ขึ้นมา ก็หันไปเลือก “พรรคสังคมนิยม” เป็นรัฐบาลแทน เปลี่ยนนโยบายเศรษฐกิจจากหน้ามือเป็นหลังมือ พออยู่แบบ “สังคมนิยม” ไปสักพักเกิดเบื่อ “สังคมนิยม” ขึ้นมา ก็กลับไปเลือก “พรรคทุนนิยม”ขึ้นมาใหม่

 

ระบอบประชาธิปไตยมันก็เป็นอย่างนี้ เมื่อรักจะเป็นประชาธิปไตย ก็ต้องยอมรับกฎกติกาประชาธิปไตย ไม่งั้นบ้านเมืองวุ่นวายแน่

ไม่ใช่ปากบอกว่า เป็นประชาธิปไตย แต่พอพรรคตัวเองแพ้เลือกตั้ง กลับไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ อย่างนี้ไม่ถือว่าเป็นประชาธิปไตย เมื่อแพ้ก็ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ แล้วเปลี่ยนผู้นำพรรคคนใหม่ขึ้นไปต่อสู้ อังกฤษก็เป็นเช่นนี้ พรรคการเมืองทั่วโลกก็เป็นเช่นนี้

ประเภทที่คิดเข้าข้างตัวเอง เลือกตั้งแพ้ จะมีทหารเข้ามาปฏิวัติ ผมว่ามันหมดยุคแล้วที่จะคิดอย่างนี้ ทหารกลุ่มไหนออกมาปฏิวัติในช่วงนี้ ก็คงมีใครในโลกยอมรับ มีแต่ทำให้ประเทศชาติล่มจมแน่นอน

เรื่องนี้จึงเลิกถามกันได้แล้ว ผลเลือกตั้งไม่เป็นไปตามที่คิด จะมีปฏิวัติไหม

ผมว่าไปดูหน้าตา รัฐบาลอนาคตกันดีกว่า เมื่อประมวลดูผลโพลต่างๆที่ออกมาแล้ว ก็น่าเชื่อผลการเลือกตั้งที่จะออกมา คงไม่ต่างจากผลเลือกตั้งปี 2550 มากนัก แต่ที่จะแตกต่างกันก็คือ พรรคเพื่อไทยจะต้องได้จำนวน ส.ส. เกินครึ่ง หรือมากกว่า 250 เสียงขึ้นไปเท่านั้น จึงจะได้จัดตั้งรัฐบาลอย่างแน่นอน เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีเสียงพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้

แต่ถ้า พรรคเพื่อไทย ได้ ส.ส. มากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่เกิน 250 เสียง โอกาสที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลก็ห้าสิบห้าสิบ แม้พรรคประชาธิปัตย์จะยอมให้จัดตั้งรัฐบาลก่อน ก็ไม่แน่ว่าจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ หากพรรคประชาธิปัตย์มีตัวช่วยเหมือนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งก่อน

ที่ดีที่สุดก็คือ ปล่อยให้เป็นไปตามกฎกติการะบอบประชาธิปไตย

ประเทศไทยวันนี้ ผมถือว่าโชคดีมาก แม้จะมีการเมืองเป็นตัวถ่วงความเจริญ แต่เศรษฐกิจไทยไตรมาสแรก ก็ยังขยายตัวถึงถึงร้อยละ 3 จากการสำรวจ 95 ซีอีโอ บริษัทจดทะเบียน ปรากฏว่ามี 1 ใน 3 เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวถึงร้อยละ 4 - 4.5 หากการเมืองมีเสถียรภาพ ไม่มีความรุนแรงหลังเลือกตั้ง

ผมจึงอยากให้ทุกฝ่าย
ยอมรับผลการเลือกตั้ง ที่จะเกิดขึ้นในอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคมนี้ ไม่ว่าพรรคไหนจะชนะก็ตาม เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าไปได้ เมื่อทุกคนยอมรับกติกานี้และลงเล่นในกติกานี้แล้ว ก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่ยอมรับผลที่เกิดขึ้นจากกติกานี้ ท่านว่าจริงไหม.

 
หมายเหตุ  ; ข้อเขียนข้างบนนี้ผมนำมาจากบทความชื่อ “ยอมรับผลการเลือกตั้ง บ้านเมืองก็ไม่มีปัญหา” จากกรอบคอลัมน์ หมายเหตุประเทศไทย หน้า 5 ของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับ 27 มิ.ย.54 เขียนโดย ลมเปลี่ยนทิศ โดยตัดบทเกริ่นนำออกไป
 
ผมชอบบทความบทนี้ ของ ลมเปลี่ยนทิศ มากๆ ตรงที่ท่านอธิบายกติกาของระบอบประชาธิปไตยให้แก่นักการเมืองว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร และควรวางตัวอย่างไร โดยเฉพาะพรรคที่ตกอยู่ในฐานะเป็นผู้แพ้ (ซึ่งคงรวมทั้งกองเชียร์ที่ถือหางฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง) ให้เราเข้าใจได้ง่ายๆ แม้แต่เด็กเตรียมอนุบาล ถ้าได้อ่าน ได้ยิน ได้ฟัง ก็สามารถเข้าใจได้นะครับ
 
และที่สำคัญที่สุด สำหรับคนที่ไม่ค่อยรู้กติกาของระบอบประชาธิปไตย เช่นตัวผม (ฮา)  ควรจะรู้และเข้าใจเป็นอย่างยิ่ง  ก็คือ ถ้าพรรคใดพรรคหนึ่งได้คะแนนเสียงจากผลของการกาบัตรในคูหาเลือกตั้งถึง 250 คะแนนเสียง คือเกินกว่าครึ่งของจำนวน ส.ส. ทั้งหมด 400 คน ย่อมไม่มีปัญหาในการจัดตั้งรัฐบาลตามกติกา นั่นคือ ไม่ต้องไปกราบเท้างอนง้อใครให้เสีย Self...
 
แต่ถ้าไม่ได้ตัวเลขถึง 250 คะแนนเสียง ถึงแม้จะชนะเป็นอันดับหนึ่ง ก็ไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเองได้ นั่นคือ จำเป็นต้องงอนง้อพรรคอื่นๆเข้ามาร่วมเป็นตัวช่วยให้ได้ตัวเลข 250 คะแนนเสียงตามกติกา แต่ถ้าไม่สามารถหาพรรคมาร่วมได้ หรือหาได้ไม่ถึง เพราะพรรคเล็กพรรคน้อยส่วนใหญ่รวมหัวกันไปเป็นพรรคร่วมกับพรรคที่เป็นรอง ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ผู้ที่ชนะด้วยคะแนนไม่ถึง 250 เสียง ถึงแม้จะชนะเป็นอันดับหนึ่งจากคะแนนในคูหาเลือกตั้ง ก็ต้องตกไปไปเป็นฝ่ายค้าน กินลมกินแล้งอดๆอยากๆกันไปตามประสาผู้แพ้... ดังที่ ลมเปลี่ยนทิศ ได้ชี้แจงเอาไว้
 
ครับ ที่พูดมานี่ ผมเพียงแค่อยากจะบอกท่านที่อยากเห็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของเมืองไทย...เป็นผู้หญิงสวยและน่ารัก - เช่นเดียวกับผม (ฮา) ที่หลงเข้าใจผิดคิดเอาว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คุณยิ่งลักษณ์คนสวย จะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรี ให้เตรียมตัวเผื่ออกหักเอาไว้ เหมือนอย่างที่เพลง ของ ภูสมิง หน่อสวรรค์ เขาร้องเตือนสติคนที่กำลัง in love ว่า
“รักใครควรชั่งยั้งใจไว้บ้าง เพื่อเป็นหนทางยามเราผิดหวัง” นั่นแลหนอ...
 
เพราะถึงแม้ว่า คุณยิ่งลักษณ์คนสวยของเรา จะเชือดเฉือนความหล่อของคุณอภิสิทธิ์ ขึ้นไปอยู่ในอันดับหนึ่ง แต่ถ้าคะแนนไม่ถึง 250 คะแนนเสียง ต่อให้ทหารไม่ยอมออกมาทำอะไรเชยๆ ตามที่ ลมเปลี่ยนทิศ คาดการณ์เอาไว้...แบบคนพยายามมองโลกในแง่ดีเอาไว้ก่อน  
 
แต่พวกเซียนการเมือง เขาก็ยังวิเคราะห์กันออกมาแบบ ฟันธง เอาไว้ว่า ถ้าพรรคเพื่อไทยไม่ได้คะแนนถึง 250 คะแนนเสียง ความหวังที่จะได้จัดตั้งรัฐบาลโดยมีคุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องที่ยากแสนยาก... ยิ่งกว่าเอาอูฐเดินลอดเข้ารูเข็ม ถ้าหากอำนาจลึกลับและไม่ลึกลับ ยังไม่เลิกเข้ามาแทรกแซงการเมือง พรรคขนาดกลาง พรรคเล็กพรรคน้อย จะต้องถูกอำนาจนี้เอื้อมมือเข้าไปบีบคอ...มิให้เข้าไปเป็นตัวช่วยพรรคเพื่อไทยให้จัดตั้งรัฐบาล เพราะมีแต่เรื่องที่หวาดกลัวกัน ถึงแม้พรรคเพื่อไทยจะชูนโยบาย แก้ไขมิใช่แก้แค้น...
 
ครับ ถ้าหากการเมืองบ้านเรา ยังคงเป็นวรรณกรรมน้ำเน่าสนิทอยู่เช่นนี้ ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า เราจะเอาเงินงบประมาณแผ่นดิน ที่เป็นเงินภาษีของประชาชน...มาละลายกับการเลือกตั้งหาสวรรค์วิมานชั้นฟ้าอันใด...
 
ใครรู้
ช่วยตอบผมที ผมไม่อยากอกหัก จาก คุณยิ่งลักษณ์ คนสวย ด้วยเหตุนี้  และบางทีผมอาจจะตัดสินใจในนาทีสุดท้ายเลือกเอา โหวตโน (ฮา) ตามที่ คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมารณรงค์...แต่ถูกขัดขวางเอาไว้  น่าจะดีกว่าการเสี่ยงไปอกหัก...อย่างยับเยินจากคุณยิ่งลักษณ์
ที่มองเห็นแต่ความมืดมนในอนาคต (ฮือ ฮือ).
 
1 กรกฎาคม 2554
 กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 
 
 

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมือง ที่ขัดแย้งกันมานาน ระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ที่ดูเหมือนว่า นอกจากจะมองไม่เห็นทางที่จะสมานฉันท์กันได้แล้ว ยังมีแนวโน้มว่า สถานการณ์ที่ต่างฝายต่างก็ไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน ยังมีทีท่าว่าจะทวีความรุนแรงไปสู่การนองเลือดที่น่าสยดสยอง ดังที่คาดหมายกันว่าจะเกิดขึ้น ตั้งแต่ วันที่ 23 พฤศจิกายนนี้ เป็นต้นไป ตามที่เขาประกาศศึกกันแบบเอาเป็นเอาตายกัน ซึ่งเราไม่ปรารถนาเป็นอย่างยิ่ง ที่จะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย   ดังเช่น โศกนาฏกรรมนองเลือด 6 ตุลาคม 19 และพฤษภาคมทมิฬ 35 ในอดีตที่ผ่านมา แต่ก็ดูเหมือนว่าไม่มีพลังแห่งความปรารถนาดีใดๆในสังคม สามารถเข้าไปยับยั้งได้…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
  โอ พระเจ้า !ข้าสงสัยเหลือเกินว่า ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตรทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร ทักษิณ ชินวัตร และ สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้ม ทองกุล สนธิลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุลสนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล สนธิ ลิ้มทองกุล
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ด่วน ! ประชาชนชาวไทย ผู้รักความสงบทุกท่าน โปรดทราบ... นับตั้งแต่ออกประกาศฉบับนี้เป็นต้นไป เวลาท่านออกจากบ้านไปไหนมาไหนคนเดียว โดยเฉพาะตามสถานที่ที่ไม่มีคนรู้จัก เวลาพบคนใส่เสื้อสีเหลือง เหลีอง เหลีอง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง เหลือง กำลังชุมนุมกันอยู่เป็นจำนวนมาก... ขอให้ท่านจงโปรดระวัง ! อย่าได้ขับรถ - หรือเดินเฉียดเข้าไปใกล้พวกเขาเป็นอันขาด ! เพราะนี่คืออันตรายเป็นอย่างยิ่ง !…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1 พฤศจิกายน 2551ข้ามองเห็นคนรัก ทักษิณ ชินวัตร ใส่เสื้อสีแดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงแดง แดง แดง แดง แดง แดง แดง แดงจำนวนนับไม่ถ้วน ณ ราชมังคลากีฬาสถานแห่แหนกันออกมายกย่องและให้กำลังใจ ทักษิณ ชินวัตร และเมื่อ ทักษิณ ชินวัตร ปรากฏภาพและเสียงผ่านโฟนอิน ออกมาพูดแล้วคนใส่เสื้อสีแดงทุกคนต่างเชื่อว่าทุกถ้อยคำที่ ทักษิณ ชินวัตร พูด ณ สถานที่แห่งนี้ เป็นความจริงหมดทุกถ้อยคำ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
มิใช่ บ่อ จากท่อธารบาดาลใสหลั่งรินไหล มิรู้แล้ง แห้งเหือดหายเป็นเพียง บ่อ น้ำฟ้ามาซึมทรายหลั่งรินสาย มาหล่อเลี้ยง - เพียงชั่วกาลมิใช่ บ้านดวงใจ อุ่นไอรักแค่ เพิงพัก หลบร้อนอันกร่อนกร้านริมวิถี คดเคี้ยว เปลี่ยว กันดารเป็นทางผ่าน เป็นที่พัก - นักเดินทางมิใช่ แสงดาว ชี้ชัดปลุกศรัทธาแทนดวงตาดวงใจผู้ไร้ร้างเป็นเพียง แสงหิ่งห้อย - ลอยเลือนรางอยู่ท่ามกลางคืนเดือนมืดอันยืดยาวและมิใช่ สมณะ ผู้ละโลกย์พ้นทุกข์โศกเวียนว่ายกายสีขาวยังเป็นแค่ ปุถุชน คนมากคาวยังมิก้าวพ้น ตัณหา ราคีใดคือ ตัวฉัน…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ข้าใส่เสื้อสีเหลือง ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความชอบธรรมของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความถูกต้องของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความดีงามของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งข้อเท็จจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งความเป็นจริงของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งเหตุผลของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อสีเหลืองแห่งอุดมการณ์ของข้า ใช่ เพราะข้าเชื่อในสีเหลืองแห่งพลังมวลชนอันยิ่งใหญ่ของข้า และความเชื่อในสีเหลืองทั้งหมดของข้า เป็นความเชื่อที่ข้าเชื่อว่า เป็นความเชื่อที่ถูกต้องที่สุด และดีที่สุดที่ข้ามี แต่เพียงผู้เดียวในโลกนี้ ข้าจึงไม่มีวันที่จะประนีประนอม…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผลงานน้องจูนี่ไฟไฟ ไฟ ไฟไฟ กำลังลุกไหม้บ้านเมืองของเราเร้ว เร็วเข้าเถิดรีบมาช่วยกันดับไฟเร็วๆเข้า บ้าบ้า บ้า บ้าบ้าบอคอแตกที่สุดในโลกมัวไปสนใจมัวไปทะเลาะเบาะแว้งมัวไปทุ่มเถียงกันให้เสียเวลาทำไมว่าพวกรัฐบาลหรือว่าพวกพันธมิตรใครเป็นคนลงมือจุดไฟเผาใช้น้ำมันเบนซินยี่ห้ออะไรบริษัทอะไรเป็นผู้ผลิตใครเป็นคนคิดวางแผนใครเป็นคนสั่งการ
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. เงิน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน กับลมหายใจเข้าออกแทบทุกขณะจิตของผู้คน 2. เงิน คือทาสรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ แต่เป็นนายที่โหดร้าย ยังเป็นวาทกรรมที่ทันสมัย
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ที่ ดวงตา คอยมองจับจ้องอยู่ ที่ ใบหู คอยแยะแยกจำแนกเสียง ที่ จมูก คอยดมชมกลิ่นเกลี้ยง ที่ ปลายลิ้น คอยเรียงไล่ลิ้มรส
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
Canto คือยอดของภูเขาน้ำแข็ง ที่โผล่ออกมาให้เราเห็นนิดเดียวบนพื้นผิวของมหาสมุทร Canto คือการเปิดประตูเพื่อให้คนเดินเข้าไป คือการเปิดหน้าต่างเพื่อให้คนมองออกไป – สู่จินตนาการเสรี Canto คือการลงมือเขียนถ้อยคำจากความรู้สึกประทับใจจากสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อย่างฉับพลัน 3 บรรทัดสั้นๆ จบ Canto คือการลดละการแสดงความคิดเห็น ความรู้ ความเฉลียวฉลาด ของผู้เขียน ออกไปให้มากเท่าไหร่ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น Canto คือการเก็บเม็ดทรายเม็ดเล็กๆของถ้อยคำ มารวมกันจนเกิดเป็น มวล ที่มีน้ำหนักและพลัง - ที่ไม่อาจปฏิเสธไม่ได้ Canto คือการเขียนเพื่อให้คนอื่นคิด มิใช่เขียนเพื่อคิดแทนคนอื่น
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
1. ของแท้ ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ แต่ผมไม่ใช่ 2. ได้มาก็เสียไป สิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับเราชั่วคราว ผิดกับความอ่อนแอ 3. ความงามหนึ่ง ชื่อการพลัดหลง น่าประทับใจจนอยากเก็บเอาไว้คนเดียว 4. แดดส่องโต๊ะรับแขกหน้าบ้าน ตำลึงเลื้อยพันขาเก้าอี้ขึ้นไปงอกงาม กาน้ำชาฝุ่นเกาะอยู่ในห้องครัวเงียบ 5. กลิ่นชาใบเตย ขยายตัวอวลอุ่น จอกหนึ่งว่าง...จอกหนึ่งพร่อง
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ระบอบการเมือง                ที่ดีที่สุดในโลกนี้มี                                   หรือไม่มีถ้าหากมี                          แล้วถูกขยำขยี้ทิ้งไปยัง…