Skip to main content


 

กรณีกลุ่มชาวบ้านอำเภอวังน้ำเขียว
จังหวัดนครราชสีมา อ้างว่าได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และเตรียมยื่นรัฐบาลชุดใหม่แก้กฎหมายจำนวน 3 ฉบับ รวมทั้งมีการต่อต้านและกล่าวโจมตีเจ้าหน้าที่นั้น ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชี้แจงว่า ไม่น่ามีปัญหาเพราะได้ชี้แจงทำความเข้าใจแล้วว่า จุดมุ่งหมายของทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติฯ ไม่ได้ดำเนินคดีกับชาวบ้าน แต่ดำเนินคดีกับกลุ่มทุนคนรวยคนมีเงิน ที่ไปบุกรุกเพื่อตัดวงจรการบุกรุกป่า ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ชื่อมาแล้วว่ามีใครอยู่เบื้องหลังชาวบ้านในการบุกรุกป่าวังน้ำเขียว และออกมาต่อต้านกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ
 
นายศศิน เฉลิมลาภ
เลขาธิการมูลนิธิสืบนาคะเสถียร กล่าวไว้อย่างคิดและน่าสนใจว่า “แม้จะสงสัยทำไมกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กับกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เพิ่งมาเอาจริงเอาจังกับการบุกรุกพื้นที่ป่าอนุรักษ์เวลานี้ ทั้งที่น่าจะดำเนินการแบบนี้มาตั้งนานแล้ว...อย่างไรก็ตาม แม้จะเพิ่งมาเอาจริงเอาจังในเวลานี้ ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย...อย่างไรก็ตามเรายังกังวลอยู่ลึกๆ ในเรื่องที่มีนายทุนหลายกลุ่มที่มีผลประโยชน์ พยายามสร้างมวลชนมาต่อต้าน กลัวว่าในที่สุด ทั้งกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ อาจถูกกดดันให้ต้องแก้กฎหมาย เพื่อให้พื้นทีที่ถูกครอบครองอยู่เวลานี้ ให้ผู้ประกอบการสามารถเช่าที่ดิน เพื่อทำมาหากินต่อไปได้ หากเป็นเช่นนั้นคงยอมไม่ได้ จะต้องมีการเคลื่อนไหวคัดค้านอย่างแน่นอน.”
 
ข่าวจากหนังสือพิมพ์รายวัน
ระดับแนวหน้าของประเทศไทยฉบับหนึ่ง ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2554 แจ้งว่า อุทยานแห่งชาติขีดเส้นตาย ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2554 บ้านพักและรีสอร์ท 104 แห่ง ที่รุกอุทยานแห่งชาติทับลาน ต้องรื้อถอนทุบทิ้งให้หมด ไม่ผ่อนปรนให้เช่าเพื่อกิจการบ้านพักหรือรีสอร์ทต่อ และให้มีการตรวจสอบคดีรุกป่าทั่วประเทศ โดยเฉพาะที่ศาลมีคำพิพากษาสิ้นสุดแล้ว เพื่อขยายผลดำเนินคดีต่อไป
 
ขอนำข้อความจากหนังสือ
กฎหมายวิธีสบัญญัติ 3 หน้า 23 กล่าวว่า
 “ ในระบบกฎหมายไทย เจตนารมณ์ของกฎหมายมุ่งปฏิบัติต่อบุคคลในสังคม โดยให้ได้รับความยุติธรรมเท่าเทียมกัน และความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อผู้กระทำผิด ได้รับการลงโทษและผู้เสียหายได้รับการชดใช้อย่างเป็นธรรม.”
 
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง