Skip to main content

 


 

ผมย้อนกลับมาดูน้ำท่วม
ที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่ ผมมีเวลามากพอเนื่องจากเกษียณอายุราชการ อ่านหนังสือบ้าง เขียนบ้าง ลองค้นหาข้อมูลน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ โดยค้นจากอินเทอร์เน็ต หนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ได้พบข้อมูลน่าสนใจ ปีนี้ (29 กันยายน พ.ศ.2554) ระดับน้ำที่ P 1  ณ สะพานนวรัฐอยู่ที่ 4.94 เมตร เป็นสถิติสูงสุด สูงกว่าปี พ.ศ. 2548 ที่สูง 4.93 เมตร ในปี 2548 นั้น น้ำท่วมเชียงใหม่ครั้งแรกเมื่อ 13 สิงหาคม 2548 และท่วมอีก 3 ครั้ง ในเดือนกันยายน กลางเดือนกันยายน และต้นตุลาคม มีข้อมูลระบุว่าเป็นอุทกภัยร้ายแรงในรอบ 50 ปีของเมืองเชียงใหม่ 


ในปี 2553 ทางจังหวัดได้ประเมินความเสียหายของบริษัทห้างร้าน โอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งความเสียหายของทรัพย์สินประชาชนและทรัพย์สินสาธารณะมากกว่า 1,000 ล้านบาท สถิตินี้ถูกทำลายลงในปี 2554 ที่มีความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท ไม่ทราบว่าข้อมูลที่ถูกทำลายลง เราควรจะดีใจหรือเสียใจ น้ำท่วมเชียงใหม่ในบริเวณ ไนท์บาซาร์ ถนนเชียงใหม่-ลำพูน ถนนช้างคลาน สะพานตำรวจภูธรภาค 5 ถนนเจริญ-ประเทศ โรงเรียนพระหฤทัย หมู่บ้านเวียงทอง ถนนมหิดล ถนนเจริญเมือง สถานีรถไฟ หมู่บ้านหนองประทีป
 
น้ำท่วมประเทศไทย
ปี พ.ศ.2554 ปริมาณน้ำทั้งสิ้นหรือที่เรียกว่ามวลน้ำมากถึง 1.6 หมื่นล้านลูกบาศก์เมตร มวลน้ำมากที่สุดในประวัติศาสตร์ ไหลแรงและมาเร็ว มวลน้ำมากว่าปีที่แล้ว (พ.ศ.2553) ถึง 3 เท่าทีเดียว การสร้างเขื่อนเพื่อกักน้ำและปล่อยน้ำ ให้เหมาะกับการใช้ประโยชน์นั้น เขื่อนไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมได้ จะแก้ปัญหาได้ถ้ามวลน้ำมีขนาดปานกลางหรือน้อย ถ้ามวลน้ำมากอย่างปีนี้ ช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้เลย หลายจังหวัดโดนน้ำท่วมหนัก เช่น นครสวรรค์ อยุธยา ลพบุรี ที่ติดกรุงเทพฯได้แก่จังหวัด ปทุมธานี นนทบุรี โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ในจังหวัดอยุธยาถูกน้ำท่วมหมด

ผลสำรวจล่าสุดของเอเบคโพลล์รายงานว่า มาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมมีประชาชนรับรู้ 59.8 % ประชาชนรู้สึกว่าความช่วยเหลือพอเพียง 79.3 % ผลโพลล์ยังบอกอีกว่า ประชาชนเห็นใจและพอใจที่นายกรัฐมนตรีทุ่มเทการทำงาน ล่าสุดนายกฯ ประกาศใช้มาตรา 31 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทา
สาธารณภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2550 เมื่อ 21 ตุลาคม 2554 เวลา 17.00น. เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำท่วมเป็นไปอย่างมีเอกภาพ เป็นระบบ พูดได้ว่ารัฐบาลนี้คิดไวทำไว พยายามแก้ไขปัญหาของบ้านเมืองทุกนาทีทุกชั่วโมง นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจงานด้วยตนเอง วางแผนรองรับทั้งวันนี้ และอนาคตถึงการเยียวยาดูแลผู้ประสบอุทกภัยทั้งประชาชนและคนงาน ทั้งชาวนา 


ทุ่มเทพลังลงไปเถอะท่านนายกฯและคณะรัฐบาล ทำเต็มที่ เต็มศักยภาพ ประชาชนจะเห็นเอง ขอปรบมือเป็นกำลังใจให้ครับ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ถือเสียว่า เป็นการทดสอบจากพระเจ้า ทดสอบความเข้มแข็ง อดทน ประสิทธิภาพในการทำงานของผู้นำประเทศและรัฐบาล อีกส่วนหนึ่งยังชื่นชมผู้ว่าฯกรุงเทพมหานคร ที่ทุ่มพลังทั้งมวลพยายามปกป้องน้ำท่วมกรุงเทพฯสุดชีวิต ปรบมือให้ทุกฝ่ายทุกคนที่รวมพลังสู้ภัยน้ำท่วม ความลำบากพิสูจน์คนได้หลายอย่าง ได้พบผู้เสียสละ ผู้เอื้อเฟื้อ มิตรแท้ ความมีสติ ความสุขุมเยือกเย็น ผู้กล้าที่แท้จริง.
 
 

 

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง