Skip to main content

 

 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
 

กุยโน่หน้าตาผิดแผกกะเหรี่ยงทั่วไปคลานไปหา  พนมมือคุกเข่า  พระดอนพนมมือหลับตาว่าคาถา  108  มือซ้ายจับหัวอันใหญ่กว่าคนธรรมดา  ก้มหน้าเป่าพรวดบนหัวมีผมดำรุงรัง  เจ้ากุยโน่มีอาการสั่นสะท้านเฮือกหนึ่ง  ก้มหัวลงกราบอย่างสำนึกบุญคุณ
 
“ นี่พ่อเฒ่า  เมื่อกลับไปถึงบ้าน  คงต้องช่วยกันป้องกันหมู่บ้านกะเหรี่ยงจากการปล้นสะดมของทหารพม่าแตกทัพ  ท่านคิดจะป้องกันประการใด .”  พระดอนถามด้วยห่วงใย

“ กลับไปเฮาคงต้องคิดหาทางต่อสู้ป้องกันกับคนเฒ่าในหมู่บ้าน คนหนุ่ม  รวมทั้งหมอผีประจำเผ่า  เฮาคิดไว้พ่องแล้วจะมีการขุดหลุมขวาก แร้ว  ดักตาข่าย  ทำหน้าไม้เพิ่ม  และย้ายหมู่บ้านขึ้นไปอยู่บนดอยสูงกว่าเดิม เฮามีที่แล้ว ด้านหน้าติดริมห้วย  มีทางเดินขึ้นทางเดียว  จัดยามคอยดูทั้งกลางวัน กลางคืน  หลวงพ่อ.”

“ คงจะดี  เป็นห่วงเจ้ากุยโน่  ที่พ่อเฒ่าเล่าหื้ออาตมาฟังว่า  เวลาต่อสู้กัน  สู้กันคนต่อคนใครทานเจ้ากุยโน่บ่ได้  จึงมีคนมารุมมันคนเดียว  มันต้องสู้คนหลายคน   โอกาสพลาดพลั้งบาดเจ็บมีมาก  หลวงพ่อขอแนะนำว่า ต่อไปหื้อเจ้ากุยโน่สวมปลอกเหล็ก  ตั้งแต่ข้อมือทั้งสองจรดใต้ข้อศอกใช้ป้องกันอาวุธคู่ต่อสู้ได้อีกทางหนึ่ง  ส่วนหน้าอกและหลัง  หื้อสวมเกราะไม้ไผ่  คงสงสัยนะว่าเกราะไม่ไผ่เป็นอย่างใด .”

“ ข้าบ่เคยได้ยินมาก่อน.” กะเหรี่ยงอาวุโสกล่าวด้วยประกายตาสงสัยระคนตื่นเต้น
                           
“ นำไม้ไผ่มาทำเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กๆ  ขนาด 3 นิ้วมือ  แล้วร้อยด้วย เชือกต่อๆกันจนเป็นแผ่น  ใหญ่ขนาดปิดหน้าอกมิด  ทำ 2 แผ่น  นำมาผูกเป็น 2 แผ่นต่อกัน  เวลาจะใช้ยกสวมที่คอ  เกราะไม้ไผ่จะคลุมลงทั้งแผ่นหน้าอกและแผ่นหลัง ช่วยหื้อปลอดภัยอีกทางหนึ่ง.”
                         
“ ไหว้สาครูบาเจ้า.”  
       
เจ้ากุยโน่ชายร่างสูงใหญ่ผิดมนุษย์มนา  หน้าตาเหมือนชนเผ่ามองโกล  พูดอย่างตื้นตันในความเมตตาห่วงใหญ่ของหลวงพ่อ  พนมมือแล้วก้มกราบ
                         
“ บ่เป็นหยัง  คนเฮาต้องช่วยเหลือกัน  พึ่งพาอาศัยกัน  บ้านเมืองฝางยินดีต้อนรับทุกคน  เจ้าจะเดินทางวันนี้เลยกา   ท่านพ่อเฒ่า .” พระดอนหันไปถามกะเหรี่ยงอาวุโส

“ ใช่   ครูบาเจ้า  เฮาจะรีบกลับไปดูบ้าน  ต้องสร้างบ้านหลังใหม่หื้อเสร็จโดยเร็ว  ก่อนโจรพม่าจะกลับมาปล้นอีก  ส่วนเจ้ากุยโน่ไปแล้ว จะกลับมาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ครูบาเจ้า.”
                           
“ ทำไมเป็นอย่างนั้น   พ่อเฒ่า .”

“ เพราะว่า  หมอผีประจำหมู่บ้านมันทำนายว่า  หากเจ้ากุยโน่พบผู้ช่วยชีวิตมันเมื่อใด  หื้อมันรับใช้ผู้นั้น  เป็นการตอบแทนคุณด้วยผู้นั้นเป็นตนบุญมาเกิด  จะมาสร้างบ้านเมืองต่อไป  หมอผียังบอกอีกว่าชาติก่อนเจ้ากุยโน่เป็นทหารเอกของตนบุญคนนั้น.”

พระดอนหน้าตายังเย็นสงบ  ไม่กล่าวต่อความ  เพียงเอ่ยขึ้นว่า  

“ แล้วแต่เจ้ากุยโน่  หลวงพ่อยินดีต้อนรับ  เจ้ากุยโน่มีฝีมือเชิงรบ คงมาช่วยฝึกเด็กหนุ่มเมืองฝางหื้อเข้มแข็งยิ่งขึ้น  หากหลวงพ่อกับเจ้ามีบุญร่วมกันจริง  เราคงได้พบกันนะ และเมื่อเจ้าได้เป็นทหาร เจ้าคงต้องเปลี่ยนจากเกราะไม้เป็นเกราะโลหะแทน.”
 
                                         

บล็อกของ ถนอมรัก เดือนเต็มดวง

ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก เดือนเต็มดวง ราวปี พ.ศ.2506พอย่างเข้าเดือนสิงหาคมกลางฤดูฝน ฝนเริ่มตกหนัก 3-4 วันติดต่อกัน ย่าบอกว่าวิทยุข้างบ้านประกาศ มีไต้ฝุ่นเข้าเมืองไทย ฝนจึงตกมากกว่าปรกติ ฝนยามนั้นจะตกปรอยๆซึมไปเกือบตลอดวัน ฟ้ามืดมัวด้วยเมฆฝน ไม่มีการเห็นแสงเดือนแสงตะวันกันเลย แล้วจะมีฝนตกหนักนานเกินครึ่งชั่วโมงเข้ามาสลับเป็นพักๆ เท่าที่จำได้นานเป็นวันก็เคยมี ใครซักผ้าก็ชื้นอับอยู่อย่างนั้น พื้นดินบริเวณบ้านผมเปียกแฉะไปหมด ต้นไม้ใบหญ้าเปียกโชกชุ่มอิ่มน้ำ น้ำฝนที่ตกลงมาส่งผลให้ระดับน้ำในน้ำแม่ปิงสูงขึ้นรวดเร็ว ชาวเชียงใหม่สัญจรไปมาต่างกวาดตาดูน้ำแม่ปิง สายน้ำสายหลักที่ผูกพันชาวนครพิงค์เนิ่นนาน…
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
กรณีมีกลุ่มบุคคลที่ตรงข้ามรัฐบาลคัดค้านขัดขวางธนาคารออมสินปล่อยเงินกู้ให้ ธกส.(ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) เพื่อจะได้นำไปจ่ายให้ชาวนา ตามโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร(19 ก.พ.57)
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
 ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง