Skip to main content

เพลงคุ้นเคยหลายเพลงดังแว่วมาจากวิทยุข้างบ้าน สลับกับการเล่าเรื่องของดีเจ เธอบอกว่าเทศกาลลอยกระทงปีนี้ไม่คึกคักอย่างปีก่อนๆ คงเพราะบรรยากาศทางการเมือง บวกกับงานราชพิธีและผลจากพิษเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวจึงบางตา ประเพณีจึงไม่สวยงามอย่างเคยเป็น


แต่นั่นเป็นเรื่องที่สวนทางกับภาพที่ฉันกำลังได้เห็น


คุณลุงบรรจงทำซุ้มอย่างช้าๆ สบายๆ กับแดดยามสาย


คุณลุงข้างบ้านตื่นแต่เช้า เช่นเดียวกับทุกวัน แต่วันนี้ลุงไม่ไปทำงานในไร่ เช่นเดียวกับพี่สาวบ้านตรงข้ามที่ปกติออกไปขายเสื้อผ้าแต่เช้ามืด พวกเขามายืนผิงแดดอุ่นอยู่หน้าบ้าน แล้วทำความตกลงเจรจาแลกเปลี่ยนทรัพยากรจากสวนหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นก้านมะพร้าว ดอกดาวเรือง ดอกบานไม่รู้โรย ดอกลำโพง ลวด เชือก กระดาษ ทั้งหมดนั้นคืออุปกรณ์การทำ “ประตูป่า” หรือซุ้มดอกไม้ในเทศกาลลอยกระทง



บ้านนี้หยุดงานทั้งครอบครัว ช่วยกันทำซุ้มประตูป่า


ผู้ใหญ่บ้านประกาศย้ำมาอีกครั้งในเช้าวันนั้น ว่าการทำซุ้มประตูป่าไม่ใช่เรื่องบังคับ แต่เป็นการสืบทอดประเพณีของหมู่บ้านที่มีมาช้านาน สิ้นเสียงประกาศก็เหมือนแรงกระตุ้นให้ทุกคนเร่งมือ ฉันเก็บกวาดบ้านอยู่ไม่นานนัก ออกไปมองอีกที ซุ้มประตูป่าก็เริ่มปรากฏขึ้นหน้าบ้านทีละหลัง ทีละหลัง ยืนมองดูการมัดไม้ไผ่เป็นเสา แล้วพาดยาวแนวขวางไว้ห้อยดอกไม้ เหมือนจะยากแต่ก็ไม่ง่าย เหมือนจะง่ายแต่ยังไม่รู้วิธีทำ


ในที่สุดเมื่อใครบางคนเดินเข้ามาขอตัดไม้ไผ่ที่บ้าน ฉันจึงได้โอกาสถามขั้นตอนที่ง่ายที่สุดกับเขา

เดี๋ยวพี่บอกวิธีให้ ไม่ยากเลย”

 

ซุ้มของพี่สาวใจดีข้างบ้าน ละเอียดละออกับการสานใบมะพร้าวประดับประดา


พี่สาวข้างบ้านบอก เธอคว้ามีดด้ามใหญ่มาจับ เดินอาดๆ เข้าไปหลังบ้านของฉันเอง จากนั้นตัดก้านมะพร้าวมา
2 อัน แล้วใช้กรรไกรตัดปลายใบมะพร้าวออกเพื่อความสวยงาม

จากนั้นก็ทำแบบนี้นะ จับที่ปลายสุดของก้านมะพร้าว แล้วฉีกมันเลย”

เธอทำแค่นั้นจริงๆ ก้านมะพร้าว 1 อัน ฉีกออกจากกันกลายเป็นรูปทรงโค้งสวยงาม ได้ 2 อัน เหลือด้านล่างสุดของก้านเอาไว้ให้ยึดกัน ฉันลากก้านมะพร้าวหนักๆ นั้นออกมาแล้วมัดติดกับประตูรั้วบ้าน ปลายที่โค้งเข้าหากันก็ผูกเชือกไว้ แค่นั้นเองฉันก็มีซุ้มประตูป่ากับเขาแล้ว

รีบไปลงชื่อเร็ว เดี๋ยวพ่อหลวงเขาจะมีของแจกให้"

คุณป้าอีกคนมาช่วยลุ้น ดูเหมือนฉันจะทำเสร็จทีหลังสุด ท่ามกลางสายตาของป้าๆ ลุงๆ ที่เอาใจช่วยเต็มที่ ส่วนพวกเขากำลังประดิษฐ์ประดอยลูกเล่นจากดอกไม้ ใบมะพร้าว โคมไฟกระดาษไม่ให้เหมือนกัน ว่ากันว่า ใครทำสวยที่สุด พ่อหลวงจะมีผ้าห่มแจกให้ ส่วนบ้านไหนสวยน้อยหน่อย อย่างน้อยจะได้น้ำมันพืชกับน้ำปลาไปใช้คนละขวด


แบบนี้ได้น้ำมันพืชแน่ๆ”

คุณลุงเดินมาบอกแล้วหัวเราะ ฉันเหลือบไปมองบ้านพี่ตรงข้าม เธอสร้างสรรค์อย่างจริงจังมากกับเจดีย์ทราย ที่มีลูกสาวและสามีมาช่วยกันอย่างแข็งขัน เจดีย์ทรายหลังนั้นมีประตูป่าขนาดจิ๋ว และมีช้างเดินออกมา พบกับทหารรักษาประตู บนถนนสายดอกไม้ มีอ่างน้ำ 2 แห่งเอาไว้ลอยกระทง บนยอดเจดีย์มีสวนดอกไม้และเทียนปักเอาไว้ คนเริ่มมามุงดูกันอย่างคับคั่ง เธออารมณ์ดีมากกับการสร้างเมืองจำลองไว้หน้าบ้าน ดูเหมือนจะมีเสียงหัวเราะที่ร่าเริงที่สุดเท่าที่ฉันเคยได้ยินก็ว่าได้


เจดีย์จำลอง มีช้างเดินออกมาลอยกระทง มีทหารเฝ้าหน้าประตู มีถนนดอกไม้ และอ่างลอยอยู่ข้างๆ


แบบนี้ได้ผ้าห่มแน่ๆ”

มีคนออกความเห็น พี่สาวหัวเราะแล้วชี้ให้ไปดูบ้านคุณลุงอีกคนซึ่งเป็นผู้ใหญ่ที่ชาวบ้านเคารพนับถือ คุณลุงบ้านนี้ร้อยดอกบานไม่รู้โรยติดกับใบตองเป็นตัวอักษรว่า “ยี่เป็งรำลึก” พร้อมวางโคมไฟกระดาษที่มีขวดน้ำมันก๊าดอยู่ด้านใน จุดเรียงรายทั้งสองฝั่งประตู หน้าบ้านมีโอ่งน้ำหนึ่งใบ ใส่น้ำแล้วลอยกระทงเอาไว้ แกยิ้มๆ เมื่อขอถ่ายรูป แล้วไล่ให้ไปดูบ้านคุณลุงอีกหลัง ซึ่งสร้างสรรค์ได้ไม่แพ้กัน



บ้านนี้มีตุงประดับร่วมด้วย และใช้ดอกตะล่อมปักเป็นอักษรที่นิยมมากในสมัยก่อน


แล้วฉันก็ต้องตื่นตาตื่นใจ กับดอกปักษาสวรรค์ที่คุณยายตัดจากสวนหลังบ้านมาประดับเป็นช่อบนประตูป่า ที่น่ารักที่สุดคือแกใช้ปากกาวาดรูปบนกระดาษสาแปะเอาไว้

ทำไมถึงเป็นช้างกับหมาคะ” ฉันเอียงคอถามเบาๆ

เป็นตัวแทนของลุงกับป้าไง ช้างก็คือลุง ป้าก็คือหมาน่ะ”

อ้อ”

ฉันรับทราบ เห็นแกกำลังเก้ๆ กังๆ ประดับซุ้มอยู่ก็เลยไม่ได้ถามต่อ เมื่อถ่ายรูปเสร็จแล้ว ก็เห็นลุงมวนยาสูบจุดมายืนพิจารณาซุ้มตัวเอง ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่แล้วก็กวาดบ้านให้ดูสะอาดน่ามอง



คุณลุงยืนชื่นชมผลงาน รูปช้างสีน้ำเงินและหมาสีชมพู ตัวแทนคนในครอบครัว


ฉันถือโอกาสนั้น เดินเล่น ไปดูซุ้มของคนอื่นไปทั่ว พอไกลเข้าเดินไม่ไหว จึงกลับมาคว้าจักรยานออกไปซื้อโคมไฟมาติดบ้าง ผู้คนที่ไม่ค่อยเจอหน้ากันหยุดยืนคุยกันเป็นกลุ่มๆ มีการแลกดอกไม้ ให้ไอเดีย ติชมกันพองาม ซึ่งบ้านบางหลังใช้เวลาตั้งแต่เช้าถึงบ่ายทีเดียวในการประดิษฐ์ซุ้มประตูป่า


เลยออกจากหมู่บ้านไป ฉันเพิ่งเห็นว่าไม่ได้มีหน้าบ้านอาศัยเท่านั้น หน้าร้านค้า ร้านซ่อมรถ ร้านซักรีด แม้กระทั่งร้านสินเชื่อก็ยังทำซุ้มเช่นกัน เวลา 1 วันกับการหยุดงานเพื่อประดับดาประบ้านของพวกเขา อาจไม่ได้มีความหมายแค่การได้ผ้าห่มหรือน้ำมันพืช หรือมองทะลุไปถึงความตั้งใจสืบสานประเพณีอย่างที่ผู้คนประโคมข่าวให้พวกเขาทำ


ซุ้มประตูป่าหน้าบ้านของฉันเอง มีโคมไฟ 3 ดวง และโมบายนกกระดาษ


ที่ฉันเห็นตรงนั้น คือการได้อยู่ร่วมระหว่างพ่อแม่ลูก พูดคุยกับเพื่อนบ้าน แต่งตัวสวยๆ สำหรับวันดีๆ สักวัน ทำซุ้มให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ตามความเชื่อโบราณว่า ประตูป่า คือประตูระหว่างทางจากป่าสู่เขตอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อทำซุ้มประตูเสร็จแล้ว ทุกบ้านคือที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเราต่างอาศัยอยู่ในนั้นแล้ว ก็จงทำความดี ละเว้นการทะเลาะเบาะแว้ง บาดหมาง พูดจากันดีๆ มีอะไรก็ให้อภัยกัน


ความศักดิ์สิทธิ์มากน้อยเหล่านั้น บ้านใครบ้านมันคงเป็นคนตัดสิน บ่ายๆ ใกล้ค่ำ กรรมการหมู่บ้านมาเดินสำรวจ แล้วชวนกันไปที่ศาลาเอนกประสงค์เพื่อรับแจกข้าวของอย่างคึกคัก พี่สาวข้างบ้านไม่ลืมตะโกนบอกฉันว่าแต่งตัวสวยๆ นะ จะได้ไปรับของด้วยกัน ส่วนเธอใส่ชุดผ้าเมืองสีสันสวยงามมายืนปล่อยโคมลอยหน้าบ้าน ท่ามกลางแสงเทียนที่ทุกบ้านจุดต่อกันเป็นสายยาวไปตลอดทางเดิน

 


ซุ้มประตูป่ามีสีสันจากโคมไฟดวงเล็กดวงน้อย ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป รวมกับแสงเทียนเล็กๆ ข้างรั้วบ้าน ทำให้ถนนที่เคยมืดมิดมีแสงพอให้มองเห็นความสุขจากสีหน้าท่าทางที่ประกอบกันเป็นความหมายของเทศกาลยี่เป็ง มากกว่าการแค่ไปลอยกระทงเท่านั้น แต่รวมถึงการทำบุญที่วัด ทำจิตใจให้ผ่องใสกับฤดูหนาวที่มาถึง การทำทานแก่ผู้ล่วงลับ และปล่อยเคราะห์โศกไปกับกระทง


งดงามในความสงบเงียบ ที่พวกเขาตั้งใจและทุ่มเททำ ในหมู่บ้านเล็กๆ ห่างเมืองที่ซึ่งคำว่านักท่องเที่ยวนั้นยังเป็นเรื่องห่างไกลและไม่มีความหมายอะไรสำหรับพวกเขาได้เทียบเท่ากับความเชื่อและความศรัทธา

 

................


ภาพแถมท้าย



ซุ้มประตูป่าหน้าร้านอาหารตามสั่ง

บ้านคุณป้าท่านนี้ มีสีสันจากร่มกระดาษคันเล็กๆ ประกอบ


บ้านนี้ถือโอกาสเทิดพระเกียรติไปด้วย


ซุ้มหน้าร้านซ่อมรถ พี่เจ้าของหยุดงานเพื่อการนี้โดยเฉพาะ


ร้านสินเชื่อเงินด่วนก็ทำ


คุณพี่ คุณป้า และคุณยาย 3 ท่านนี้บอกว่า ช่วยกันสานพญานาคตัวใหญ่ประดับไว้ตั้งแต่เช้า



บ้านนี้สวยแบบเรียบง่าย ใช้ก้านมะพร้าว 1 อัน ฉีกกลาง มัดหากัน ประดับด้วยดอกลำโพง


บล็อกของ วาดวลี

วาดวลี
"ปีใหม่ไปเที่ยวไหนบ้างหรือเปล่าคะ"พี่สาวข้างบ้านไม่ตอบคำถามฉันเลย  แต่คลี่ยิ้มแล้วเดินพาฉันไปหยุดอยู่ตรงเสื่อผืนนั้น  เสื่อที่ปูบนลานซีเมนต์โล่งๆ หน้าบ้าน  ข้างกายมีกองผักกาดขนาดใหญ่  จำนวนนับร้อยต้น ข้างๆ  มีถังน้ำ  มีกะละมัง  มีเครื่องปั่นเสียบไฟฟ้า และมีถุงพลาสติกกองอยู่"พี่กำลังทำโปรเจ็คใหม่"แกบอกด้วยสายตาโอ้อวด  โปรเจ็คที่ว่าคือหนึ่งในอาชีพใหม่ที่แกเพิ่งริเริ่มทำ นั่นก็คือการทำ "น้ำผัก" ขาย
วาดวลี
   บุ้งตัวนี้คงมีพิษร้ายมาก ฉันรู้สึกอย่างนั้น จากหนามแหลมๆ ที่พวงพุ่งออกมารอบตัวมัน และจากประสบการณ์ในวัยเด็กที่เคยเอามือไปโดนตัวบุ้ง แล้วคันคะเยอไปทั้งสัปดาห์ แถมมือยังบวม แสบๆ อีกด้วยตอนเด็กๆ แม่จึงพร่ำสอนเสมอ บุ้งหน้าตาแบบนี้มีพิษร้าย มันกินไม่ได้ จับมาเล่นไม่ได้ และสำคัญที่สุดให้หลีกเลี่ยงระวังอย่าได้สัมผัส เมื่อจำมาตลอด ดังนั้นฉันจึงระวังที่สุดที่จะเดินย่องเข้าไปขอถ่ายรูปในระยะใกล้ เจ้าบุ้งจากที่นิ่งๆ อยู่ คงรู้สึกได้ถึงคนแปลกหน้า มันยิ่งพองตัวอวดหนามให้ตั้งชูชันขึ้นมาอีก ความซุ่มซ่ามของฉันที่เอาตัวไปโดนกิ่งไม้ให้ไหวๆ เผลอทำให้มันตกใจมากกว่าเดิม พอมันขยับหันหัวมา…
วาดวลี
การเดินทางตามใครสักคนไป คงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการเดินทางตามฝูงมด ที่มันเคลื่อนที่ช้ากว่าเราหลายเท่าตัว ฉันเองก็นึกไม่ถึงว่าจะมีเวลามากพอที่จะเฝ้าสังเกตมดสักตัว หรือสักฝูง แล้วยังมีมดหลายชนิดให้ต้องแยกแยะอุปนิสัยอีกด้วยแต่ลองคิดกลับกันดู หากมดจะเดินทางตามเราบ้าง นั่นคงเป็นเรื่องลำบากยิ่งกว่า ก็แค่เดินสัก 2 ก้าว มดก็ตามเราไม่ทันแล้ว
วาดวลี
  หากนี่เป็นสนามรบสักแห่งหนึ่ง รังเล็กๆ ที่สร้างจากไยแมงมุมมองดูคล้ายกับดักขนาดใหญ่ที่สุดในอาณาจักรแห่งนี้ ที่สามารถสร้างความตื่นเต้น วิตก ให้กับศัตรูและเหยื่อได้มาก แถมยังประจานผู้พ่ายแพ้ต่อหน้าประชาชนอย่างเห็นกันโจ้งๆในกับดักนั้นประกอบด้วยสรรพสิ่งที่เป็นซากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นตัวหนอน ผีเสื้อ มดแดง มดดำ แมลงวัน พวกมันตายหมดแล้ว เป็นสุสานขนาดใหญ่ที่ห้อยโหนโตงเตงด้วยแรงยึดไยแมงมุม แขวนไว้กับต้นไม้ในเช้าวันหนึ่งของฤดูหนาวฉันบอกกับตัวเองว่า นี่มันช่างน่าอัศจรรย์ดีจัง ตอนเด็กๆ ฉันทั้งเกลียดและกลัวแมงมุม ขณะเดียวกันแม่ซึ่งพยายามเอาชนะแมงมุมด้วยการกินมัน ก็สร้างเมนูรสเลิศด้วยการเอาแมงมุมไปย่างไฟ…
วาดวลี
ฉันไม่รู้ว่าทำไมหอยทากหลายตัวชอบมาซ่อนอยู่ในรองเท้า แม้จะเคาะรองเท้าก่อนแล้ว หากไม่ดูดีๆ ก็อาจจะเผลอเหยียบเข้าไปเต็มๆ เพราะความเหนียวของลำตัวที่เกาะติดอยู่กับผนังรองเท้าผ้าเวลานี้เข้าฤดูหนาวเต็มที่แล้ว หรือเปลือกหอยจะไม่สามารถกันความหนาวให้มันได้เพียงพอ ทั้งที่พอรู้มาบ้างว่า หอยทากเป็นสัตว์ที่อดทนมาก มีชีวิตได้ทั้งที่แห้ง ที่ป่าชื้น หรือบนภูเขาสูง นอกจากในรองเท้าแล้ว ซอกมุมเล็กๆ ในบ้าน หลังชั้นหนังสือ หรือแม้แต่ใต้เบาะจักรยาน ฉันก็ยังพบหอยทากมาเล่นซ่อนแอบเป็นประจำ จากที่เคยรู้สึกกึ่งรังเกียจ กึ่งขยะแขยง…
วาดวลี
๑. ผีเสื้อติฉินดอกไม้ ว่ามีน้ำหวานน้อยเกินไป ทั้งที่ไม่ได้เป็นคนปลูก ชาวสวนลุกมาพรวนดิน เผลอเคืองขุ่นแมลงหิวโหย แม่บ้านบ่นกับเม็ดฝน ที่ทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มไร้ความหมาย นิมิตกลายเป็นความโศก เมื่อล็อตเตอรี่ไม่ตรงกับที่ตีความมา
วาดวลี
เพลงคุ้นเคยหลายเพลงดังแว่วมาจากวิทยุข้างบ้าน สลับกับการเล่าเรื่องของดีเจ เธอบอกว่าเทศกาลลอยกระทงปีนี้ไม่คึกคักอย่างปีก่อนๆ คงเพราะบรรยากาศทางการเมือง บวกกับงานราชพิธีและผลจากพิษเศรษฐกิจ นักท่องเที่ยวจึงบางตา ประเพณีจึงไม่สวยงามอย่างเคยเป็นแต่นั่นเป็นเรื่องที่สวนทางกับภาพที่ฉันกำลังได้เห็นคุณลุงบรรจงทำซุ้มอย่างช้าๆ สบายๆ กับแดดยามสายคุณลุงข้างบ้านตื่นแต่เช้า เช่นเดียวกับทุกวัน แต่วันนี้ลุงไม่ไปทำงานในไร่ เช่นเดียวกับพี่สาวบ้านตรงข้ามที่ปกติออกไปขายเสื้อผ้าแต่เช้ามืด พวกเขามายืนผิงแดดอุ่นอยู่หน้าบ้าน แล้วทำความตกลงเจรจาแลกเปลี่ยนทรัพยากรจากสวนหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นก้านมะพร้าว ดอกดาวเรือง…
วาดวลี
ว่ากันว่า บนหน้าผาสูงใหญ่แห่งนี้ในอดีตกาลชายหญิงคู่หนึ่ง เดินทางมาหยุดมองหุบเหวกว้างใหญ่ในเวลาดึกสงัด  เบื้องลึกเป็นผืนน้ำ ด้านข้างเป็นโขดหินกัดเซาะขรุขระน่ากลัว พวกเขาคงรู้สึกได้ถึงความเย็นเยียบและเวิ้งว้างไปจนสุดขั้วหัวใจ ถ้าเผลอตกลงไป อย่าหวังว่าชีวิตจะเหลือรอดให้กลับบ้านหากแต่บางที การมีชีวิตอยู่โดยปราศจากความรักนั้น  บางทีอาจเวิ้งว้างยิ่งกว่าหรือมีรักแต่ไม่สมหวัง อาจเจ็บปวดกว่าการจากโลกนี้ไป
วาดวลี
  ฉันเพิ่งยอมรับความล้มเหลวอย่างหนึ่งของตัวเองในการปลูกต้นไม้นั่นคือ ปลูกต้นกุหลาบแล้วไม่มีดอกตอนเด็กๆ พ่อของฉันคือคนสอนปลูกต้นไม้คนแรก พ่อขุดดินให้เป็นหลุม หย่อนต้นกล้าลงไป กลบดินแล้วรดน้ำ พ่อบอกด้วยสายตาโอ้อวดว่านี่ไง มันง่ายจะตายไป ที่เหลือเป็นหน้าที่ของดิน น้ำ และแดด จากนั้นให้ฉันทำเหมือนกัน สิบกว่าวันผ่านไป พ่อและฉันยืนมองต้นกุหลาบของเราที่กึ่งรอดกึ่งตาย กิ่งใบเหี่ยวแห้ง ฉันจึงถามพ่อว่า "คนมือร้อน มือเย็นนี่อยู่มีจริงไหม"พ่อเดินไปนั่งบนแคร่ มวนยาเส้น จุดสูบด้วยแววตานักคิด แล้วตอบว่า "ก็จริงอยู่นะ แต่มือเป็นอาวุธของใจ คนใจเย็นปลูกอะไรก็เป็น ใจร้อนก็ปลูกแล้วตาย"พ่อพูดแล้วหัวเราะเบาๆ…
วาดวลี
หลายต่อหลายครั้ง ที่ฉันจดจำภาพของสถานที่ เรื่องราว ผู้คน แม้ไม่เคยรู้จักกัน และไม่เคยไปพบเจอ แต่กลับฝังลึกลงความทรงจำถึงขนาดเก็บไปฝัน แน่นอนฝันนั้นเป็นฝันดี และพอตื่นจากฝัน ก็พบกับความจริงที่ว่า สิ่งเหล่านั้นไม่ได้อยู่ไกลเกินไปนักหรอก สิ่งที่พูดถึงความงาม ความพอดี เหมือนหยดน้ำใสบนคลองเล็กๆ ที่เลียบไปกับแม่น้ำใหญ่ หรือบางทีอาจเป็นดอกหญ้าต้นเล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ในสวนกุหลาบ แต่แท้จริงเป็นสมุนไพรเยียวยาโลกได้ด้วยซ้ำ สิ่งที่ฉันพูดถึงอยู่นี้ คือชีวิตของเด็กนักเรียนตัวเล็กๆ ที่กำลังเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนชำฆ้อพิทยาคม จังหวัดระยองเด็กน้อยเหล่านี้…
วาดวลี
๑. ประชาธิปไตย สูงใหญ่ ใต้เพดาน เราไต่ เราคลาน เหยียบข้าม ขึ้นคว้าไป เราเรียน เราศึกษา เราค้นหา เราพินิจ เปรียบเทียบ ถูกผิด เท่าที่ เราคิดได้ ในสมุดมีสอน ในกลอนมีให้อ่าน ในหนังสือมีวิจารณ์ เปลี่ยนผ่านไปอย่างไร ในเคเบิ้ลมีรหัส แปลงเห็นเป็นภาพชัด นิ่ง-เลือน-และเคลื่อนไหว เราเก็บเราสะสม เพาะบ่มความคิด เธอว่าถูก-ผิด คิดเห็นเป็นอย่างไร เรารู้-ไม่รู้ เท็จจริง และลวง แต่เราก็ห่วง ห่วงประชาธิปไตย
วาดวลี
ทั้งที่แค่เป็นเวลาบ่าย แต่บ้านของเราไม่มีแสงแดด ก้อนเมฆหนาทึบขนาดมหึมาเคลื่อนเร็วเหมือนคลื่นน้ำ แผ่ความเย็นให้วันธรรมดาในฤดูฝนเย็น ให้จับใจขึ้นไปอีก   แน่นอนว่าคนใต้ฟ้าแถวบ้านฉันไม่ได้กลัวเปียก แต่พวกเขากลัวน้ำท่วม แม้ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา คนข้างบ้านฉันยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า “ที่นี่น้ำไม่ท่วม” เขาบอกว่าเราเป็นตำบลที่อยู่ตรงกลางระหว่างน้ำปิงของเชียงใหม่และลำพูน โดยมีจุดชลประทานอยู่เหนือหมู่บ้าน มีประตูน้ำ ดังนั้นหากน้ำมามากเกินไป ก็จะมีการปิดประตูน้ำ ที่บอกว่ากักเก็บน้ำได้มากโข ความจริงฉันเชื่อในระบบชลประทานหมู่บ้าน…