ประกายไฟ
รายการประกาย Talk โดย DJ Bus "วันกรรมกรสากล" 02-05-2012 แขกรับเชิญ คุณ พัชนี คำหนัก ผู้ประสานงานโครงการรณรงค์เพื่อแรงงานไทย
ประกายไฟ
เสวนาหัวข้อ "วิวัฒนาการรัฐทุนนิยมไทย"
วิทยากร เวียงรัฐ เนติโพธิ์ อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ
ณัฐพล ใจจริง. อาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา
เก่งกิจ กิติเรียงลาภ กลุ่มประกายไฟ
ดำเนินรายการโดย วีรนันท์ ฮวดศรี กลุ่มประกายไฟ
ประกายไฟ
เสวนาหัวข้อ “New Social Media กับการเคลื่อนไหวทางเมืองไทย” วิทยากร อาทิตย์ สุริยะวงศ์กุล กรรมการเครือข่ายพลเมืองเน็ต เทวฤทธิ์ มณีฉาย กลุ่มประกายไฟ ดำเนินรายการโดย ปาลิดา ประการะโพธิ์ กลุ่มประกายไฟ ( วันเสาร์ที่ 28 ม.ค.55)
ประกายไฟ
มาร์กซิสม์ 101 B ว่าด้วย “การศึกษามาร์กซิสต์ในประเท
ประกายไฟ
วันเสาร์ที่ 28 ม.ค.55 มาร์กซิสม์ 101 A ว่าด้วยทฤษฎีมาร์กซิสม์ เบื้องต้น บรรยาย เพื่อให้ความรู้พื้นฐาน มาร์กซิสต์
วิทยากร พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ดำเนินรายการ ณัชชา ตินตานนท์ กลุ่มประกายไฟ
ถนอมรัก เดือนเต็มดวง
ขณะเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 3 ได้ยินผู้ใหญ่หลายคนมานั่งคุยกับย่า พูดในทิศทางเดียวกันว่า อุ๊ย(ย่าหรือยาย)
หัวไม้ story
กรณี “แดงจับแดง” ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวและจบกัน แต่นี่คือเป็นปัญหาท่าที และหลักการของแกนนำซึ่งไปช้ากว่ามวลชนอย่างสม่ำเสมอ
Number 10.5
Number 10.5
ปกติแล้วเหล่าแฟนบอลหรือผู้ที่คลุกคลีเรื่องบอลมักจะปฏิเสธการมีส่วนร่วมเบื้องหลังของนักการเมืองเสมอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ฟุตบอลไทยก็มิอาจจะหนีกลุ่มคนที่น่ารักน่าชังเหล่านี้ได้ วันนี้มาดูกันว่าเบื้องหลังทีมสโมสรฟุตบอลไทย ทั้งพรีเมียร์ลีก ดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค มีกลุ่มทุนหรือนักการเมืองที่น่าจับตา กลุ่มใด-คนใดสนับสนุนกันบ้าง
เมืองทองยูไนเต็ด ในอดีตเคยมีไข่มุกดำ วีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธานสโมสรมาก่อน ก่อนถูกทุนสยามกีฬาเทคโอเวอร์ รวมถึงยังมีกลุ่มทุนครอบครัวมหากิจศิริ ที่มีสายสัมพันธ์กับทักษิณและพรรคเพื่อไทย ร่วมบริหารทีม
แฟนบอลอยุธยาถิ่นเก่าของทีมสโมสรการไฟฟ้าฯ ประท้วงไม่พอใจที่ทีมถูก เนวิน ชิดชอบเทคโอเวอร์ไป
และเริ่มค่อยๆ กลืนสีม่วงประจำทีมให้เป็นสีน้ำเงิน
เชียงใหม่จัดว่าเป็นเมืองหลวงของคนเสื้อแดง แต่ทีมฟุตบอลเชียงใหม่ เอฟซี
กลับมีทุนการเมืองกลุ่มเสื้อน้ำเงินอยู่เบื้องหลัง
พรีเมียร์ลีก
เมืองทอง ยูไนเต็ด
ระวิ โหลทอง เป็นประธานสโมสร โดยกลุ่มทุนสยามสปอร์ต กลุ่มเนสกาแฟ ครอบครัวมหากิจศิริ มีสายสัมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ในอดีตใช้ชื่อเดิมว่า สโมสร ร.ร.หนองจอกพิทยานุสรณ์ มีไข่มุกดำ วีระ มุสิกพงศ์ เป็นประธานสโมสรมาก่อน
ชลบุรี เอฟซี
วิทยา คุณปลื้ม เป็นประธานสโมสร กลุ่มการเมืองตระกูลคุณปลื้มให้การสนับสนุน
บางกอกกล๊าส เอฟซี
ปวิณ ภิรมย์ภักดี เป็นประธานสโมสร กลุ่มทุนบุญรอดบริวเวอรี ให้การสนับสนุน
ทีโอที เอฟซี
พิมล ศรีวิกรม์ เป็นผู้จัดการทีม งบประมาณส่วนหนึ่งมาจาก บมจ.ทีโอที อีกส่วนจะมาจากแคท เทเลคอม มาร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจพร้อมทั้งเตรียมเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ทีโอทีแคท เอฟซี" ก่อนหน้านี้มีการเจรจากับนายเนวิน ชิดชอบ กลุ่มการเมืองพรรคภูมิใจไทย แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
พัทยา ยูไนเต็ด
สนธยา คุณปลื้ม เป็นประธานสโมสร กลุ่มทุนการเมืองตระกูลคุณปลื้ม ให้การสนับสนุน
บางกอก ยูไนเต็ด
อภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นประธานสโมสร กลุ่มการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน
ศรีสะเกษ เอฟซี
ธเนศ เครือรัตน์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย จ.ศรีสะเกษ เป็นประธานสโมสร, สมบัติ เกียรติสุรนนท์ เป็นผู้จัดการทั่วไป กลุ่มการเมืองมุ้งขุนค้อนพรรคเพื่อไทยให้การสนับสนุน
ทีทีเอ็ม เอฟซี-พิจิตร
มีประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ เป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ และมีสุรจิต กัลยาณมิตร เป็นประธานสโมสร
เพื่อนตำรวจ
ส่วนกลุ่มทุนที่ให้การสนับสนุนได้แก่กองบัญชาการตำรวจนครบาล กลุ่มทุนไมด้าของ กมล เอี้ยวศิริกุล และบริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
ทหารบก
พลตรี เฉลิมเกียรติ โพธิ์ทองนาค เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกเป็นประธานสโมสร มีบริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด ประกาศตัวเป็นสปอนเซอร์หลักตลอดทั้งฤดูกาลแข่งขันในปี 2553 ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่ามีการเจรจากับกลุ่มทุนคิงพาวเวอร์ ของ วิชัย รักษ์ศรีอักษร (กลุ่มการเมืองพรรคภูมิใจไทย)
บุรีรัมย์ พีอีเอ
เนวิน ชิดชอบ เป็นประธานสโมสร มีกลุ่มทุนคิงพาวเวอร์และกลุ่มการเมืองพรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุน
ดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค
เชียงราย ยูไนเต็ด
มิตติ ติยะไพรัช เป็นประธานสโมสร มีกลุ่มการเมืองของยงยุทธ ติยะไพรัช ในพรรคเพื่อไทย ให้การสนับสนุน
สุโขทัย เอฟซี
สมศักดิ์ เทพสุทิน หัวหน้ากลุ่มมัชฌิมาในพรรคภูมิใจเป็นประธานที่ปรึกษาสโมสรฯ, จักริน เปลี่ยนวงษ์ เป็นประธานสโมสร
ชัยนาท เอฟซี
อนุชา นาคาศัย เป็นประธานสโมสร มีกลุ่มการเมืองพรรคภูมิใจไทยให้การสนับสนุน
เชียงใหม่ เอฟซี
อุดรพันธ์ จันทรวิโรจน์ เป็นประธานสโมสร โดยอุดรพันธ์มีสายสัมพันธุ์กับเนวิน ชิดชอบ และกลุ่มการเมืองพรรคภูมิใจไทย
บางกอก เอฟซี
มี ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขต 10 ผู้อำนวยการพรรคประชาธิปัตย์ เป็นที่ปรึกษาทีม
…..
ที่มา:
นิตยสาร POSITIONING ฉบับที่ 66 ประจำเดือนพฤศจิกายน 2552
ด.2 ระอุ 74 ทีมทุ่ม 360 ล. เว็บไซต์สยามกีฬารายวัน (9 ก.พ. 2553)
‘เวิลด์คัพ-ลีกไทย’ สุมไฟตลาด (สยามธุรกิจ ,15 ก.พ. 2553)
"ค้างคาวไฟ" สุโขทัย เอฟซี ที่ 2 ชิงแชมป์ภาคทำให้เรามั่นใจขึ้น (เว็บไซต์สยามกีฬารายวัน, 14 ก.พ. 2553)
ด.1 เทหน้าตักขอขึ้นไทยลีก สะพัด 209 ล้าน!จันท์มือเติบ30ล., ปราจีนฯขอตาม 27ล.,อาร์แบคจืดแค่ 6 (เว็บไซต์สยามกีฬารายวัน, 11 ก.พ. 2553)
บอสทีโอทียัน"ทนงศักดิ์"เดินมาขอร่วมทีม ส.บอลลุ้นเงินรัฐ40ล้านบาทหนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (เว็บไซต์ข่าวสด, 16 ก.พ. 2553)
Number 10.5
Number 10.5
ได้ยินเสียงวิจารณ์เซ็งแซ่มาจากคอการเมืองทั้งเหลือง-แดง เกี่ยวกับการปรากฏกายของชายร่างโย่ง “เนวิน ชิดชอบ” ที่เริ่มแผ่อิทธิพลไปสู่วงการกีฬา ฆ่าเวลาการโดนแบนเรื่องการเมืองกับอดีตผองเพื่อนบ้านเลขที่ 111
ซึ่งหลายคนวิเคราะห์ไปว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างการครองใจประชาชนในกลุ่มตลาดอื่นบ้าง หลังการใช้ยุทธวิธีสีน้ำเงินแทรกซึมตามหน่วยงานมหาดไทยไปตามหมู่บ้านหรือนโยบายประชานิยมของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่มีคนกล่าวถึงเท่าไร
เมื่อมองอย่างเป็นธรรมหน่อยจะเห็นว่าคุณเนวินเองนั้นก็ชอบพอกีฬานี้มานมนาน และใครจะไปรู้ว่า “เสื้อน้ำเงิน” สีเสื้อมวลชนจัดตั้งของคุณเนวินนั้นอาจจะไม่ได้มาจากสีน้ำเงินของธงชาติไทย เนื่องจากคุณเนวินเป็นแฟนบอลตัวยงของสโมสรเชลซี “เสื้อน้ำเงิน” นั้นจึงอาจจะมาจากสีเสื้อของทีมเชลซีก็เป็นได้
นอกจากนี้ด้วยกำลังทรัพย์ของเขา ก็ได้เคยดั้นด้นไปดูฟุตบอลยุโรปทั้งที่อังกฤษ อิตาลี และสเปน บ่อยครั้ง ทำให้เมื่อกระแสฟุตบอลไทยมาแรง คุณเนวินก็ขอห้อยโหนไปกับคนส่วนใหญ่ด้วยการปั้นทีม “บุรีรัมย์ -PEA” ฉายา “ปราสาทสายฟ้า” (THUNDER CASTLE) ที่เทคโอเวอร์สโมสรการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาเปลี่ยนชื่อ
“บุรีรัมย์ -PEA” มีการเปิดตัวไปแล้ว โดยใครที่เป็นแฟนคลับทีมจะเสียเงินค่าสมาชิกแค่ 200 บาท ก็มีสิทธิพิเศษที่มากกว่ามูลค่าเงิน 200 นั้นมากมาย เช่น ได้เสื้อทีมเป็นของที่ระลึก สามารถนำบัตรสมาชิกไปซื้อสินค้าที่ คิง เพาเวอร์ ได้ส่วนลด 10% ใช้บริการในเครือโรงแรมพูลแมน 10% นอกจากนี้ ทุกนัดที่ทีมลงเตะในบ้านทางแอร์เอเชียจะมีเครื่องบินไปกลับกรุงเทพฯ-บุรีรัมย์ พร้อมจัดรถรับส่งถึงสนามแข่งด้วยราคา 2,500 บาท รวมถึงแผนการสร้างสนามเหย้าแห่งใหม่ “ปราสาทสายฟ้า” ที่คาดว่าจะใช้งบประมาณกว่า 500 ล้านบาท สามารถจุคนได้ถึง 24,000 คนเลยทีเดียว
เนวินได้ดึง “วินิจ เลิศรัตนชัย” อดีตผู้คร่ำหวอดในวงการวิทยุมานานกว่า 25 ปี และยังเคยทำงานด้านธุรกิจเกี่ยวกับแวดวงบันเทิงและการจัดอีเวนต์กิจกรรมต่างๆ ให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท Fresh Air จำกัด, บริษัท ทราฟฟิกคอร์เนอร์, บริษัท Dream Media และอื่นๆ มาเป็นฝ่ายการตลาดของสโมสร “บุรีรัมย์ -PEA” อีกด้วย
ทั้งนี้เนวินให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าพึ่งเปิดรับสมัครแฟนคลับทีมไม่นานก็มีถึง 2-3 หมื่นคนแล้ว เลยตั้งเป้าให้ถึงแสนคนภายในสิ้นปี 2553 นี้ – ซึ่งยังไม่รู้ว่าจำนวนคนเรือนแสนคนนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียงให้พรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งงวดหน้าได้หรือไม่?
แต่ทั้งนี้คนที่ปั้นทีมบอลให้ประสบความสำเร็จ และกรุยทางสู่ตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองนั้นก็มีมาแล้ว .. ที่อิตาลี
‘แบร์ลุซโคนี’ จากเจ้าของทีมฟุตบอลสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี [1]
หากจะมีนักการเมืองคนใดที่คุณเนวินอยากเอาอย่างก็เห็นจะต้องเป็น “ซิลวิโอ แบร์ลุซโคนี” (Silvio Berlusconi) นายกรัฐมนตรีอิตาลี เจ้าของทีมฟุตบอล AC Milan เจ้าพ่อสื่อที่ลุงทุนซื้อทีมมาในยุคตกต่ำ เอามาปั้นใหม่จนยิ่งใหญ่ด้วยศาสตร์การบริหารเชิงธุรกิจที่มีประสิทธิภาพ ก่อนจะกระโดดสู่วงการการเมืองระดับประเทศในฐานะประธานสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของยุโรปและได้เป็นนายกรัฐมนตรีของอิตาลีถึง 3 สมัย
แบร์ลุซโคนี นั้นเริ่มต้นจากการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และค่อยๆ ขยับขยายมาในธุรกิจสื่อคือเคเบิลทีวี โดยได้ติดตั้งเคเบิลทีวีนี้ให้กับหมูบ้านจัดสรรโครงการของเขาเองในเมืองมิลาน และได้โอกาสเปิดช่องสัญญาณของตัวเองขึ้น เจาะตลาดกลุ่มกว้างๆ มีรายการบันเทิง การ์ตูน กีฬา ลงทุนซื้อกิจการของคู่แข่ง รวมถึงผลักดันให้มีการยกเลิกกฎหมายที่ห้ามไม่ให้เคเบิลทีวีแพร่สัญญาณภาพทั่วประเทศ และได้ลงทุนซื้อกิจการทีม AC Milan ในปี 1986 ซึ่งในเวลานั้นอยู่ในภาวะตกต่ำ เสื่อมเสียชื่อเสียงและถูกลดชั้นเนื่องจากพัวพันกับคดีล้มบอล
แบร์ลุซโคนี ได้ทำการจูนเครื่องทีม AC Milan ใหม่ แต่งตั้งบุคลากรด้านการบริหารจัดการ ลงทุนซื้อนักเตะอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะขุนพลนักเตะเลือดดัตซ์ อย่าง รุด กุลลิท, มาร์โก ฟานบาสเทน และแฟรงค์ ไรจ์การ์ด ทีมมิลานยุคของเขาเล่นฟุตบอลอย่างมีสีสันต่างจากทีมอิตาลีทั่วไป โดยมีปรัชญาการเล่นแบบเอนเตอร์เทนคนดู ในปี 1988 มิลานก็ประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์กัลโช่ซีรีย์เอ ปีถัดมา AC Milan ก็ขึ้นเป็นเจ้ายุโรปด้วยการครองแชมป์ถ้วยยูโรเปียนคัพเดิม
AC Milan ประสบความสำเร็จไปเรื่อยๆ พวกเขายังเดินหน้าคว้าแชมป์ยุโรปอีกสมัยใน 2 ปีถัดไป และยังสร้างสถิติไม่แพ้ใครยาวนานที่สุดในลีกของอิตาลี 58 นัด ระหว่างปี 1992 – 1994
ศรัทธาที่แบร์ลุซโคนีสร้างไว้กับวงการฟุตบอลทำให้เขากลายเป็นผู้มีบารมีในอิตาลี กอปรกับช่วงนั้นการเมืองอิตาลีเกิดวิกฤต ทำให้พรรคฝ่ายซ้ายมีโอกาสที่จะเข้าไปบริหารประเทศ แบร์ลุซโคนีจำเป็นต้องโดดเข้าไปเล่นการเมืองระดับชาติเต็มตัว เพราะหากพรรคฝ่ายซ้ายขึ้นเถลิงอำนาจก็อาจจะเป็นภัยต่อธุรกิจของเขา
ในปี 1993 เขาได้ตั้งพรรคการเมือง Forza italia ขึ้น ตามชื่อเพลงเชียร์ทีมชาติอิตาลี พรรคการเมืองใหม่นี้อาศัยสโมสรต่างๆ ที่สนับสนุน AC Milan ทั่วประเทศ รวมทั้งสื่อของแบร์ลุซโคนีเองเป็นช่องทางโฆษณาหาเสียง จนสามารถกวาดคะแนนเสียงได้ถึง 21% ในการเลือกตั้งปี 1994 ด้วยการสร้างแนวร่วมกับพรรคการเมืองใหม่ฝ่ายขวาเพื่อสกัดกั้นพรรคฝ่ายซ้าย
วันที่สมบูรณ์แบบที่สุดของนักการเมืองที่คลั่งไคล้ฟุตบอลเช่นเขา คือวันที่ 18 พฤษภาคม 1994 การลงเสียงในรัฐสภาอิตาลีเขาได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี และคืนเดียวกัน AC Milan ก็ถล่มเอาชนะ Barcelona ไป 4 ประตูต่อ 0 คว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ
เนวิน สุดยอด!?
“เนวิน ชิดชอบ” กับความสำเร็จสวนกุหลาบวิทยาลัย
ที่เข่นเอาชนะกรุงเทพคริสเตียน ไป 1-0
เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ที่ผ่านมา (ที่มาภาพ: matichon.co.th)
บนเส้นทางสายลูกหนังนี้ คุณเนวินเองก็เริ่มประสบความสำเร็จบ้างแล้วในปีนี้ เมื่อนำทัพ "สวนกุหลาบวิทยาลัย" คว้าแชมป์ฟุตบอลนักเรียน 18 ปี ประเภท ก.ในรอบ 21 ปี โดยคุณเนวินรับบทเป็นผู้จัดการทีม – แม้ว่า “เหลือง-แดง” ไม่ปลื้มคุณเนวินเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าเขาเองได้ใจ “ชมพู-ฟ้า” ไปเต็มๆ แล้วคราวนี้
ส่วนความสำเร็จของ “บุรีรัมย์ -PEA” นั้นก็คงต้องดูกันยาวๆ อีกหลายปี
ถือเป็นก้าวกดดันครั้งสำคัญของคุณเนวิน หากมุ่งมั่นตั้งใจทำดีๆ ก็ไม่แน่อาจได้ใจคอบอลเดินตามรอยแบร์ลุซโคนี ก็เป็นได้ แต่หากเลิกเห่อเมื่อไรก็อาจจะถูกคอบอลยำเสียเละเทะ (ในปริมณฑลทางการเมืองเขาก็ถูกทั้งเหลืองทั้งแดงประณามหยามเหยียดไม่ได้เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว)
เพราะคอบอลชาวไทยมีนิสัยที่ควรสรรเสริญอยู่อย่างหนึ่ง คือถ้าใครทำสิ่งดีๆ ให้ก็ชื่นชมกันจนหูดับตับไหม้ แต่วันไหนพลาดก็โดนสับเละเป็นหมูเป็นหมา ... ไม่เชื่อลองไปถาม ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, วิจิตร เกตุแก้ว หรือ บิ๊กหอย ธวัชชัย สัจจะกุล วีระบุรุษของชาติเหล่านี้ในวันเศร้าๆ พวกเขาก็เสียน้ำตามามากมาย บางคนถึงกับถูกกดดันให้ไปสาบท สาบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาแล้ว!
แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ผมเชื่อลึกๆ ว่าคุณเนวินนั้นถือว่าเข้าข่ายเป็นบุรุษอมตะคนหนึ่ง เพราะเขาเป็นคนที่สมควรเน่าไปตั้งแต่กรณี ร้อยยี่สิบ – กล้ายาง - หักหลังทักษิณ และอีกต่างๆ นานา กลับยังคงอยู่ทนลอยหน้าในสังคมมาได้ถึงทุกวันนี้ ขอบอกไว้ว่าแค่เสียงเย้วๆ ของแฟนบอลไทยนั้น … ไม่ระคายผิวแกหรอกครับ!
(สัปดาห์หน้าพบกับ “ทุน – การเมือง” เบื้องหลังทีมสโมสรในไทยพรีเมียร์ลีก)
………………..
[1] ข้อมูลเกี่ยวกับ “ซิลวิโอ แบร์ลุซโคนี” นำมาจากหนังสือ “ฟุตบอล… ประเด็นเล็ก สะท้านโลก” สำนักพิมพ์คบไฟ, 2552
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง
องค์กรเพื่อความโปร่งใสสากลหรือ TI ที่มีสำนักงานที่เบอร์ลินเผยแพร่รายงานดัชนีชี้วัดคอรัปชั่น (CPI) ประจำปี 2552 นิวซีแลนด์-เดนมาร์ก-สิงคโปร์-สวีเดน โปร่งใสสุด ไทยได้อันดับ 84 ขณะที่ผลสำรวจย้อนหลังพบว่าไทยเคยได้คะแนนดีที่สุดในปี 2548 ขณะที่ในรอบ 5 ปีมานี้คะแนนต่ำสุดช่วงรัฐบาลรัฐประหารในปี 2550