Skip to main content

ฟังว่า... นานมาแล้ว นานจนไม่อาจนับว่ามันเป็นเวลากี่ช่วงอายุขัย 

นับแต่กาลนั้น กองไฟลุกสว่างและอุ่น กลางค่ำคืนเหน็บหนาว  ทอดวางตามถิ่นที่อาศัยของมนุษย์  กาลนั้น นอกจากเป็นแสงสว่าง  นอกจากเป็นความอุ่น  นอกจากป้องกันภัยจากสัตว์ร้ายนานา  แต่กองไฟยังกลายเป็นสถานที่สำคัญอันหนึ่ง ว่าก็คือ ผู้เฒ่าผู้แก่ ได้ใช้พื้นที่ข้างกองไฟนี้ในการบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ทั้งนิทาน ปรัมปรา จารีต ประเพณี  สัพเพเหระ สารทุกข์ สุกดิบ ข่าวคราว  นั่นคล้ายว่าเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาสู่ชุมชน ล้วนต้องผ่านข้างกองไฟนี้  คืนแล้วคืนเล่า  ผู้เฒ่าได้บอกเล่ากล่าวความผ่านวันเวลามากประสบการณ์  ส่งต่อสืบผ่าน พื้นที่และเวลานี้  ขณะที่เด็กๆ คนหนุ่มคนสาว  ก็เติบโต และเรียนรู้ กล้าแกร่ง สะสมประสบการณ์ ณ พื้นที่ และเวลาข้างกองไฟนี้เช่นเดียวกัน

ภูเขาบางภู บนเทือกเขาบางเทือก ขณะที่เวลาของโลกเคลื่อนที่เร็วขึ้น  ผู้คนหันหาพื้นที่ใหม่ๆ  มากขึ้น  ด้วยว่าการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วของเวลานั้น ด้านหนึ่งมันก็คือการเปิดพื้นที่ใหม่ๆ  แต่ทว่า อย่างไรก็ตามกองไฟมันมีพลังเฉกเช่นเมื่อกาลก่อนอย่างไม่เสื่อมคลาย  และมันยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังดำรงอยู่ ดำเนินไป ทำหน้าที่ทั้งให้ความอบอุ่น แสงสว่าง และเป็นพื้นที่เล่าเรื่อง  ว่าไปแล้วมันก็คือ รอยต่อแห่งยุคสมัยที่มีพลังอย่างยิ่ง  และนอกจากมันจะเป็นพื้นที่สำหรับส่งผ่านจารีต ประเพณี ความเชื่อของอดีต  มันก็ยังเป็นพื้นที่รับเรื่องราวใหม่ๆ จากโลกใหม่ที่เข้ามาสู่ชุมชนอย่างรวดเร็ว   เช่นนั้นเอง ไม่ว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะสามารถสร้างเครื่องให้แสงสว่าง  เครื่องกันหนาว  ทั้งที่ซื้อขาย ทั้งที่แจกจ่ายด้วยโฆษณา แต่กองไฟก็ยังเป็นพื้นที่ที่มีชีวิตอย่างยิ่ง นี่ก็ว่าในบางที่ ที่ยังสามารถหาฟืนก่อไฟ  เพราะหากว่าถึงมหานครแล้ว กองไฟก็ไม่นับเป็นอย่างไรได้

เพื่อนนักดนตรีจากเทือกเขาคนหนึ่งเคยบอกว่า  ชีวิตของเขานั้นสัมผัสถึงกองไฟอย่างลึกซึ้ง  ด้วยว่ากองไฟทำให้เขารู้สึกถึงพลังแห่งชีวิต ณ ที่นั่น  ไม่ว่าชีวิตจะเปลี่ยวเหงาหรือรื่นรมย์เพียงไร  หรือผ่านภาวะใด เขาก็ยิ่งระลึกถึงกองไฟอยู่เสมอ  ยิ่งแล้วในราตรีเหน็บหนาว ท้องฟ้าจามดาวพราวพร่าง ผ้าห่มใด ห้องนอนใด ไหนจะเท่าข้างกองไฟ ที่เทือกเขา ที่บ้าน  บรรเลงเพลงและร่ำดื่ม ร่ายบทกวีกับสหาย นานใยมิใช่สุขใจนัก  ......บ่อยครั้งยามเยือนเพื่อนคนนี้ เราจึงมีกองไฟอยู่เสมอ

ว่าถึงที่สุดมนุษย์ต่างก็โหยหาพื้นที่แบบนี้  วันนี้เราอาจไม่สามารถก่อกองไฟ  กระนั้นในกระบวนการเรียนรู้บางรูปแบบ ค่าย นักเรียน นักศึกษา  ขาดกองไฟไม่ได้เอาเสียเลย ว่าก็คือ คืนสุดท้าย  นั่นคือการรวบรวมเนื้อหาการเรียนรู้และความสัมพันธ์ทั้งหมด นั่นคือการสรุป นั่นคือพันธะสัญญา  ณ วาระนั้นกองไฟจึงเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์

ปรารถนาอันใดในรัตติกาลเหน็บหนาวจะยิ่งไปกว่าการได้ก่อกองไฟสักดวง  ชักชวนมิตรสหายมาร่วมผิงไฟอุ่น  ไถ่ถามข่าวคราวเรื่องราวชีวิตกันและกัน  จากนั้นสักวัน ได้ไปเยือนกองไฟของเพื่อน สนทนา  เปิดเผยทรงจำ ต่อกองไฟอันทรงพลัง  โอบกอดวิญญาณบรรพชนที่ถ่ายเท ทับถมอยู่ในกองไฟ ไม่ว่ากาลเวลาจะนำมาซึ่งยุคสมัยเช่นไร ขอเพียงวิญญาณไม่มอดไหม้ไปกับไฟฟ้า  คงมีสักหลายคราได้กลับสู้อ้อมกอดบรรพชนอีกครั้ง อีกครั้ง ด้วยพลังแห่งกองไฟ

บล็อกของ นาโก๊ะลี

นาโก๊ะลี
จะเขียนทุ่งเขียนทางเขียนช้างม้า                  เขียนความคิดขานค่าจังหวะวิถี
นาโก๊ะลี
ทนายจำเลย ชูรถเมล์จำลอง แล้วถามพยานโจทย์ ซึ่งก็คือ Jacky ตำรวจที่จับกุมจำเลยนั้นได้นั่นเอง  ทนายจำเลยถามว่า รู้ได้ไงว่า จำเลยคือคนกระทำผิด Jacky บอกว่า ก็เขาเป็นคนไล่จับจำเลยมา แล้วจำเลยก็หนีขึ้นรถเมล์  ทนายชูรถจำลองนั้นแล้วถามว่า เมื่อคุณมองดูรถเมล์ คุณเห็นมันทั้งคันหรือเปล่า เขาก็บอกว่า เปล่า อีกข้างหนึ่งก็มองไม่เห็น  ทลายจำเลยก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่อาจบอกได้ว่า อีกฝั่งหนึ่งของรถเมล์เกิดอะไรขึ้น  การโต้เถียงประเด็นนี้ ทำให้ศาลพิพากษา ยกฟ้อง  แต่นี่เป็นเพียงเรื่องราวในหนังครับ วิ่งสู้ฟัดภาคแรก ของเฉินหลง  แต่เรื่องนี้ มันมีเรื่องน่าสนใจ....
นาโก๊ะลี
หากว่า ผืนแผ่นดินที่งดงาม สร้างคนให้งดงาม  แล้วผืนแผ่นดินที่ยากแค้นลำเค็ญเล่า จะสร้างคนมาแบบใด...ความจริงนี่ก็อาจเป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยากนัก  แต่ ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่...นี่ก็อาจต้องมองเข้าไปในรายละเอียดมากขึ้น...กระมัง  การเดินทางครั้งหนึ่งของชีวิต  ในซากปรักหักพัง ของภัยธรรมชาติอันได้คร่าชีวิตคนไปมากมาย  ในกลิ่นของความตายและความเศร้าโศก เราได้เห็นหน่ออ่อนของต้นหญ้าที่ผุดขึ้นมา ในความชื้น ภายใต้ซากปรักหักพังนั้น
นาโก๊ะลี
การสูญเสีย ดูจะเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำให้คนเราตกไปสู่สภาวะที่เรียกว่า “เสียศูนย์”  มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสามีตาย ภรรยาตกอยู่ในสภาวะเสียศูนย์ถึงยี่สิบปี ก่อนจะฆ่าตัวตายตาม  นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้ก็ไม่อาจรู้ได้  แต่ความจริงที่เห็นโดยส่วนใหญ่ ความสูญเสียก็มักเป็นเรื่องที่กระทบกับหัวใจคนอย่างรุนแรง  เช่น อกหัก  หรือ คนที่เรารักตายไป  หรือความพ่ายแพ้  ซึ่งความพ่ายแพ้นี่ก็คือการเสียฟอร์ม มันก็คือการเสียศูนย์ความเป็นตัวตนนั่นเอง
นาโก๊ะลี
ชีวิตหลุดลอยไปในบางวาระ           ซึ่งในสถานะแห่งมนุษย์ กับการเดินทางอันไม่สิ้นสุด            บางคราวนั้นจึงสะดุด จึงทรุดโทรม พลาดหวังพังพ่ายสลายสิ้น             ทั่วผืนแผ่นดินทุกข์ท่วมถั่งโถม เสพย์สิ่งใดได้บ้างพอปลอบประโลม เมามายโง่โงมระทมร้าว ภาวะเช่นไรเหนี่ยวนำพา                เมื่อความปรารถนาที่บอกกล่าว ล้มเหลวไปในทางที่ทอดยาว     …
นาโก๊ะลี
คนสวนนักสะสมเมล็ดพันธุ์
นาโก๊ะลี
บ่อยไป หรือหลายครั้งหลายหนในการงานของชีวิต  ที่เราต้องทำงานบางอย่าง  บางอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่  ไม่ใช่งานของเรา  เพียงแต่ว่า  นั่นคืองานที่มันเกี่ยวข้องกับเรา งานที่ต้องเกื้อหนุนงานของเรา  และเราก็มักจะไม่พอใจที่คนที่เขามีหน้าที่นั้น เขาทำไม่ได้อย่างที่เราต้องการ 
นาโก๊ะลี
ยามที่บางคนกล่าวคำว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” มันฟังดูคล้ายเขาจะบอกว่า สิ่งที่เขากำลังกล่าวถึงอยู่นั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญกว่านี้ไปอีกแล้ว.... และหลายครั้งที่เราจะพบว่า คนๆ เดียวกันนี้ก็กล่าวถึงสิ่งอื่นๆ ในเรื่องอื่นๆ ในวาระอื่นๆ ว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” และด้วยท่าทีที่คล้ายว่า สิ่งนั้นเป็นที่สุดแห่งความสำคัญดั่งเดียวกับทุกๆ ครั้ง ทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา
นาโก๊ะลี
ถ้อยคำที่ประทับใจ แม่ทับเหวินไท่ บอกกับแม่ทัพ ฮัวมู่หลานว่า “เมื่อเจ้าสวมเกราะแม่ทัพ ชีวิตก็ไม่ใช่ของเจ้าคนเดียว” ในสมรภูมิหนึ่ง เมื่อกองทัพของฮัวมู่หลานถูกหักหลัง น้องชายลูกพี่ลูกน้องของฮัวมู่หลาน และทหารจำนวนหนึ่งถูกจับเป็นเชลย และถูกเอามาล่อให้ทหารออกไปช่วย ในสภาวะที่ไม่อาจทำอย่างไรได้ มีทหารคนหนึ่งบอกกับแม่ทัพว่า เราต้องออกไปช่วยพวกเขา “นั่นเสี่ยวหู่นะ เขาเป็นน้องชายท่านนะ” แม่ทัพบอกว่า “พวกเจ้าก็เป็นพี่น้องของข้าเช่นเดียวกัน”
นาโก๊ะลี
วัดเซนแห่งหนึ่ง พระเซนต่างก็ปฏิบัติภาวนาในวิถีแห่งเซน คราวหนึ่งในวัดเกิดเรื่องขึ้น มีของหายในวัด หลายครั้งหลายหน เกิดความเดือดร้อนไปทั้งวัด เมื่อทำการสืบสวน สอบสวนในที่สุดก็พบขโมย ซึ่งก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของวัด มีการเรียกประชุมสมาชิกทั้งวัด เหล่าพระเซนทั้งหลายต่างก็เรียกร้องให้ขับขโมยออกจากวัด ทั้งมีเสียงสนับสนุนมากมายต่อการลงโทษขั้นเด็ดขาดด้วยการขับออกจากวัดนั้น ในที่สุดเจ้าอาวาสก็กล่าวต่อคณะสงฆ์ และสมาชิกวัดทั้งหมดว่า “พวกเธอทั้งหลายผู้ได้เรียนรู้แล้วถึงความถูกต้องดีงาม พวกเธอสามารถใช้ชีวิตอย่างรู้ผิดชอบชั่วดี พวกเธอทั้งหลายจึงสมควรเป็นผู้ออกจากวัด แต่ผู้ที่เป็นขโมยนั้น…
นาโก๊ะลี
คนสวน ปลูกพืชผักธัญญาหาร เฝ้าดูกี่เติบโต จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต คนสวนบอกว่า เมื่อต้นไม้เริ่มงอกออกมา มันต้องการอาหาร ต้องการการบำรุงรักษา จนกว่ามันจะโตเต็มที่ เริ่มให้ดอกผล บางอย่างเก็บดอก บางอย่างเก็บใบ บางอย่างเก็บผล ก็ว่ากันไป แต่เมื่อมันให้ผลนั่นแล้ว มันก็จะค่อยๆ แห้งเหี่ยว ตายไป ระหว่างนี้มันไม่ต้องการอาหารมาก มันไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก.......
นาโก๊ะลี
ในชีวิตของเรา มีความพยายามมากมายนัก พยายามที่จะทำบางสิ่ง พยายามที่จะไม่ทำบางสิ่ง พยายามที่จะรัก พยายามที่จะไม่รัก ดูเหมือนโลกไม่ได้จัดวางชีวิตเราให้เป็นไปตามความปรารถนา และหลายครั้งเราก็เชื่อได้ว่า ความสมบูรณ์พร้อมนั้น ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แม้แต่คนที่เขาแสดงออกว่า ชีวิตเขาช่างพรั่งพร้อม ได้ทุกอย่างตามที่ตนปรารถนา นั่นก็เป็นเพียงการโม้โป้ปดเท่านั้นเองกระมัง เพราะที่สุดแล้วเขาอาจซ่อนบางสิ่งเอาไว้ บางสิ่งที่เขามิได้ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด