Skip to main content

พูดให้ถึงที่สุด กรณี จารุวรรณ อานนท์ และสุชาติ ถูกทหารจับตัวมาแถลงข่าวใหญ่โต ว่าโพสต์ข้อความหมิ่นฯในเฟซบุ๊ก พวกเขา(โดยเฉพาะจารุวรรณ)โดนผู้คนก่นด่ากำพืด โคตรเหง้าและแสดงความสาแก่ใจเมื่อพวกเขาโดนคุมขัง
.
ถูกขังอยู่ร่วมสามเดือนตามกฎอัยการศึก และด้วยอำนาจในการขอฝากขังของเจ้าพนักงานสอบสวน
.
สุดท้ายหาหลักฐานประกอบการกระทำความผิดไม่ได้ ต้องปล่อยตัว (ก็จะไปหาเจอได้ยังไง ทั้งสามคนนี่ทำงานหาเช้ากินค่ำ บางคนยังเขียนหนังสือไม่ได้ อ่านหนังสือยังแทบไม่ออกจะไปโพสต์ข้อความอะไรได้ )
.
เงินเดือนๆสุดท้ายที่จารุวรรณได้รับจากโรงงานผลิตน้ำปลาย่านราชบุรีที่เธอทำอยู่ก็คือ 4,200บาท/เดือน
.
ก็เรียบร้อยโรงงานน้ำปลาไปตามระเบียบ นายทหารผู้ทำการจับกุมก็ได้หน้าได้ผลงานไป สื่อมวลชนก็ขายข่าวไป คนอ่านก็ได้ก่นด่าไป
.
ด่าแล้วก็ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าในการมีชีวิตอยู่ในประเทศนี้มากขึ้น ฟินน...
.
เมื่อพวกเขาหมดคุณค่า จืดชืด ไม่มีรสชาดเมื่อสาธุชนนำชีวิตของพวกเขายัดใส่ปากขบเคี้ยว ฉีกทึ้ง ย้ำกลืนเอารสหวาน ขบวนการล่าแม่มดก็สามารถหาเหยื่อรายใหม่มาเป็นตัวตายตัวแทนได้แบบไม่ยากเย็น
.
รัฐก็ได้ทำหน้าที่ปล่อยตัวพวกเขาแบบเงียบๆ
.
ไม่มี"หมา"หน้าไหนมาจัดแถลงข่าวแสดงความรับผิดชอบกับการจับผิดคน จับแพะ!
.
ไม่มีบรรณาธิการสำนักข่าวไหนสนใจที่จะนำเสนอบทลงเอยเช่นนี้
.
เสียบประจานจนหนำใจแล้วก็ถือว่าจบกันไป ลืมๆกันไป 
.
กรวดทรายหมดค่าเม็ดเล็กๆก็ได้ถูกทิ้งลงไปบนผืนดินอันกว้างใหญ่ตระการ ชีวิตพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปไม่มีใครสน หากทว่าชื่อเสียงเน่าเหม็นของพวกเขาจะมีใครอยากว่าจ้างให้ไปทำงานอีก
.
อีกไม่นานเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงก็คงแวะไปคุยต่อที่บ้านของพวกเขา(และคงไม่แม้แต่จะยอมเสียสตางค์เลี้ยงกาแฟ)
.
ผู้ทำหน้าที่สร้างความมั่นคงให้กับระบบที่บิดเบี้ยวก็จะบอกให้พวกเขาหุบปาก! บอกให้พวกเขาหยุดพูด! แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะลงเอยด้วยดี !!!
.
คนดีทั้งหลายก็จะตามล่าหาภักษาหารรายใหม่ นายทหารผู้ใหญ่ก็จะแถลงข่าวเรื่องการจับกุมเหยื่อรายใหม่ได้อย่างน่าชื่นตาบาน เหยี่ยวข่าว ฐานันดรที่สี่ก็ยังคงทำหน้าที่ในการนำเสนอความจริงที่ถูกจัดเตรียมไว้พร้อมสรรพที่ถูกจัดวางอยู่เบื้องหน้าได้อย่างซื่อสัตย์ต่อไป
.
และเป็นที่แน่นอนว่าเม็ดกรวดเม็ดทราย ก็ยังคงเป็นเม็ดกรวดเม็ดทรายที่ไร้คุณค่ากันต่อไป
.
ในสังคมที่ คนไม่เท่ากับคน
.
https://www.facebook.com/Prachatai/posts/10152686121301699:0

 


ภาพด้านหลังของจารุวรรณกับพี่สาว

ภาพของอานนท์กับชาติชาย (อานนท์ถูกปล่อยตัวออกมาโดยไม่มีรองเท้า)


ขออนุญาตเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมข้อมูลเพื่อความถูกต้อง 

บันทึกข้างต้น ผมเขียนจากการที่มีโอกาสไปเยี่ยมจารุวรรณที่เรือนจำประมาณ 3ครั้ง เป็นการคุยผ่านโทรศัพท์ที่มีเสียงแทรกตลอดเวลาจึงอาจมีการผิดเพี้ยน  
ข้อมูลข้างต้นจึงขัดกับข้อเท็จจริงที่ไนสองประเด็น คือ
1.จารุวรรณ ทำงานโรงงานผลิตยาย้อมผม
2. จารุวรรณได้รับค่าแรงล่าสุดก่อนการถูกจับกุมคือ 335 บาท/วัน


http://www.prachatai.org/journal/2015/02/57962

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องคดีจาก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ว่า อัยการทหารยังไม่สั่งไม่ฟ้องในคดีจารุวรรณและพวก โดยที่ความเห็นสั่งไม่ฟ้องเป็นเพียงของ  พนง.สอบสวน เท่านั้น  ส่วนอัยการทหารยังต้องรอประชุมถึงกรณีดังกล่าว ว่าจะดำเนินการสั่งฟ้องหรือไม่ทั้งนี้ สำหรับการปล่อยตัวที่เกิดขึ้น เป็นการปล่อยตัวเนื่องจากพนักงานสอบสวนมีอำนาจควบคุมตัวในคดี 112 ไว้ได้ไม่เกิน 84 วัน เมื่อครบจำนวนวันจึงปล่อยตัวออกไป

 

 

 





 

บล็อกของ gadfly

gadfly
  เห็นบนเฟซบุ๊กมีการพูดกันบ่อยๆว่า แกนนำ นปช.พาคนไปตาย พาคนไปติดคุก แกนนำไม่รับผิดชอบกับชีวิตของมวลชน ผมคิดว่ามันเป็นข้อกล่าวหาโจมตีผู้อื่นเพื่อเป็นการยกตนขึ้นสูง หรืออีกนัยหนึ่งคือมันเป็นข้อกล่าวหาทางศีลธรรม
gadfly
ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
gadfly
เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม .หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก.ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
gadfly
เมื่อคิดถึงเรื่องโอกาสทางการศึกษา ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม กม.อาญา มาตรา 112ผมคิดถึงนักศึกษาสองคนคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.เทคโนโลยีมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีสุดท้าย เขาชื่ออัครเดช ชื่อเล่นว่า เค
gadfly
อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา