(มีบทความอื่นอีกมากมายในเฟซบุ๊คของผมคือ Atthasit Muang-in)
1.สลิ่มไม่ชอบอเมริกาและตะวันตกซึ่งคว่ำบาตรและมักท้วงติงไทยหลังรัฐประหารปี 2557 ในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน โดยพวกสลิ่มเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอกเช่นเคยบุกประเทศอื่นมาก่อนอย่างอัฟกานิสถาน อิรัก ลิเบีย ฯลฯ แต่กลับอิจฉารัสเซีย (และจีน) ที่ได้โอกาสแสดงอำนาจทางทหารและจัดระเบียบโลกใหม่บ้างอย่างเช่นการบุกยูเครนครั้งนี้ พวกเขามักตั้งคำถามว่าทำไมนาโตทำถึงการรุกคืบรัสเซียโดยการขยายสมาชิกในยุโรปตะวันออกมาหลายทศวรรษก่อน อันเป็นการผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับรัสเซีย หรือบางคนยังไปเชื่อคำอ้างของปูตินที่ว่ารัฐบาลยูเครนเป็นพวกนีโอฟาสซิสต์ (ซ้อนภาพกับเยอรมันนาซี) ซึ่งเป็นภัยต่อรัสเซีย บางคนก็สุดโต่งถึงกลับเห็นว่ารัสเซียน่าจะผนวกยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเพราะเคยเป็นประเทศเดียวกันมาก่อน เพื่อจะยิ่งใหญ่เหมือนโซเวียตในอดีตและร่วมกับจีนเพื่อคานอำนาจกับตะวันตก
2.สลิ่มชอบเผด็จการหรือผู้นำเข้มแข็งที่ไม่ได้เป็นประชาธิปไตย พวกสลิ่มเห็นว่าผู้นำที่มาจากประชาธิปไตยอย่างโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และผู้นำยุโรปอย่างฝรั่งเศสและเยอรมันโดยเฉพาะยูเครนที่เคยเป็นนักแสดงตลกมาก่อนว่าอ่อนแอไม่ฉลาด และสุดท้ายแล้วก็สู้ปูติน อดีตเคจีบีผู้มีกลยุทธ์ทางการเมืองอันล้ำลึกไม่ได้ ยิ่งการที่ปูตินอ้างเรื่องการไปช่วยคนเชื้อสายรัสเซียในแคว้นของยูเครนที่มีสงครามกลางเมืองด้วยแล้ว ก็เหมาะกับแนวคิดแบบเชื้อชาตินิยม (เช่นยกย่องคนเผ่าไทย) ที่พวกสลิ่มยึดถือร่วมกับลัทธิชาตินิยม นั่นคือชอบผู้นำเผด็จการที่รักและคำนึงถึงคนเชื้อชาติเดียวกันเป็นสำคัญ แน่นอนว่าย่อมสะท้อนว่าพวกสลิ่มให้การสนับสนุนลุงตู่ที่ท่าทางเข้มแข็ง ขึงขังเหมือนปูติน แม้บางคนอาจผิดหวังในลุงตู่แต่ก็เฝ้ารอใครสักใครที่เก่งกว่า แต่ยังเป็นเผด็จการและมาจากฝั่งชนชั้นนำจารีตของไทยเหมือนกัน
3.ถึงแม้จะมีภาพชาวยูเครนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่พวกสลิ่มหลายคนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาอันหลีกเลี่ยงไม่ได้ในการเมืองระหว่างประเทศ (แต่ถ้ารัสเซียบุกประเทศไทย และครอบครัวของตนเองโดนบ้าง นั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง) บางคนก็อาจกล่าวหาว่าเป็นการปลุกปั่นสร้างภาพโดยสื่อตะวันตกเพื่อให้ต่อต้านรัสเซีย พวกเขายังเปรียบเทียบการก่อกรรมทำเข็นต่อตะวันตกต่อประเทศโลกที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาเพื่อเป็นการสร้างความชอบธรรมของการบุกยูเครนของรัสเซีย
4.ก่อนหน้านี้นานแล้วในอินเทอร์เน็ตมีความพยายามโยงรัสเซียและปูตินเข้ากับสถาบันกษัตริย์เช่นความสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างรัชกาลที่ 5 กับซาร์นิโคลัสที่ 2 และยังมีการเผยแพร่เรื่องราวที่ว่าปูตินน้อมรับเอาพระราชดำรัสของในหลวงองค์ก่อนมาใช้กับเศรษฐกิจรัสเซียจนประสบความสำเร็จ หรือภาพอดีตพระราชินีเสด็จเยือนรัสเซีย ทำให้พวกสลิ่มรู้สึกปลาบปลื้มมาก เพราะอุดมการณ์ราชานิยมสามารถขยายขอบเขตไปยังระดับนานาชาติ กระนั้นแม้คนไทยหลายคนรู้สึกเช่นนี้แต่ก็อาจไม่เห็นด้วยกับการรุกรานยูเครนของรัสเซียก็ได้
5.ข้อสี่ช่วยให้พวกสลิ่มโยงประเทศไทยเข้ากับรัสเซียเหมือนกับที่เคยทำกับจีน นั่นคือไทยเป็นมิตรกับรัสเซียมาอย่างยาวนาน รัสเซียไม่เคยก้าวก่ายการเมืองไทยแม้จะมีรัฐประหารหรือรัฐบาลไทยทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน เหมือนกับที่ตะวันตกเคยทำกับรัฐบาลไทยเพราะไทยมีความสำคัญอย่างยื่งในสายตาของรัสเซีย จึงเป็นลัทธิชาตินิยมอีกแบบหนึ่งที่อิงกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังที่หลังปี 2557 ผมเคยเห็นการ์ตูนของสำนักพิมพ์ผู้จัดการที่ให้พญาครุฑคือไทยถ่าย selfie ร่วมกับหมีและมังกรเพื่อไปอวดอินทรีย์ว่าตอนนี้ไม่ง้อสหรัฐ ฯ แล้วนะ
บล็อกของ อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
1. รัฐไทยคิดว่าตัวเองเปรียบได้ดัง (10 ประเทศที่ฉ้อราษฎรบังหลวงน้อยที่สุดในโลก)
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
สหรัฐอเมริกาต้นทศวรรษที่ 60 ถือได้ว่าอยู่ในช่วงสำคัญที่สุดช่วงหนึ่งของสงครามเย็นนั้นคือวิกฤตการณ์ขีปนาวุธคิวบา (Cuban Missile Crisis) ที่รัฐบาลฟีเดล คาสโตรยินยอมให้สหภาพโซเวียตนำขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์มาตั้งไว้ในคิวบาเมื่อปี 1962 จนนำไปสู่การเผชิญหน้าระหว่า
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
(ผมยืนยันว่าบทความแปลคือ "จอห์น ราเบ้ นาซีผู้เป็นพระโพธิสัตว์แห่งเมืองนานกิง" นั้นต้นฉบับเป็นของผมเองซึ่งได้เขียนลงบล็อกมานานแล้ว หลังจากไปลองค้นหาดูกูเกิลก็พบว่ามีการลอกเอาบทความของผมไปลงในเว็บของตัวเอ
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
หากจะพูดถึงผู้กำกับที่ชอบนำเอานวนิยายมาสร้างเป็นภาพยนตร์และประสบความสำเร็จอย่างมากมาย เซอร์ เดวิด ลีน (David Lean)ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มบุคคลเหล่านั้น ดังจะเห็นได้จากผลงานอลัง
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
ข้อสอบกลางภาควิชารัฐศาสตร์แบบสลิ่ม รหัส 11112
อรรถสิทธิ์ เมืองอินทร์
บทความนี้แปลมาจาก "มุมมองที่มีต่อสตาลิน : อดีตและอนาคต" (Depictions of Stalin: The Past and the Future )