Skip to main content

‘นายยืนยง’

 

20080117 ภาพปกหนังสือ วิมานมายา

 

ชื่อหนังสือ      :    วิมานมายา  The house of the sleeping beauties
ประเภท         :    วรรณกรรมแปล
จัดพิมพ์โดย    :    สำนักพิมพ์ดอกหญ้า
พิมพ์ครั้งที่ ๑   :    มิถุนายน ๒๕๓๐
ผู้เขียน          :    ยาสึนาริ คาวาบาตะ
ผู้แปล           :    วันเพ็ญ บงกชสถิตย์   

 

การนอนหลับและการฝันเป็นกิจกรรมตามปกติของมนุษย์ บางครั้งฝันร้ายทำให้เราหวาดผวาไปหลายวัน บางภาพฝันก็เวียนซ้ำหลอกหลอนอย่างยากจะสลัดให้ลืม แต่บางภาพฝันก็ผ่านวาบไร้ร่องรอยในความรู้สึก

Sigmund Freud ได้ศึกษาด้านวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการนอนหลับและความฝัน เขารู้สึกว่า โดยทั่วไปแล้ว ในความฝันมีเนื้อหาที่แอบแฝงเกี่ยวพันกับความปรารถนาซึ่งไม่อาจยอมรับได้ ซึ่งจะสร้างความปวดร้าวหรือทุกข์ใจ ขณะในงานวรรณกรรมหลายเรื่องได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเนื้อหาของความฝันเช่นกัน  ยกตัวอย่างเช่น ในนวนิยายเรื่อง สมัญญาแห่งดอกกุหลาบบทประพันธ์ของ อุมแบร์โต เอโก ที่ตัวเอกเอดโซสามารถถอดรหัสเพื่อหาทางเข้าไปยังหออาลักษณ์ได้จากความฝันอันแสนแปลกพิสดารของเขาเอง แม้กระทั่งภาพความฝันของ Kakule นักเคมีชาวเยอรมัน ซึ่งกำลังครุ่นคิดถึงโครงสร้างต่างๆ ของน้ำมันเบนซินซึ่งดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเอาเลย แต่ในความฝันของเขามันได้เสนอแนะถึงโครงสร้างวงแหวนอันหนึ่งที่เสนอทางออก หรือการแก้ปัญหาที่ถูกต้องให้กับเขาและแม้กระทั่งในตำราทำนายฝันที่เราคุ้นเคยกันดี

ในที่นี้ขอกล่าวถึง วิมานมายาวรรณกรรมเล่มกะทัดรัดบทประพันธ์ของ ยาสึนาริ คาวาบาตะ ที่ วันเพ็ญ บงกชสถิตย์ ได้ถ่ายทอดเป็นภาษาไทยอย่างเต็มอรรถรสโดยคงเค้าลีลาอย่างวรรณกรรมสัญชาติญี่ปุ่นไว้อย่างชัดเจน

วิมานมายา ประพันธ์ขึ้นในปี ค.ศ. ๑๙๖๐ –๑๙๖๑ ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมญี่ปุ่นกำลังประสบกับปัญหามากมาย เช่นการต่อต้านการต่อสนธิสัญญาร่วมกันป้องกันระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกา (Ampo Toso) ที่มีการต่อต้านกันทั่วประเทศ ฝ่ายขวาจัดได้ขู่สังหารฟูกาซาว่าชิชิโร่ที่ได้ประพันธ์เรื่องที่หมิ่นสถาบันจักรพรรดินายกรัฐมนตรีถูกทำร้ายร่างกาย อาซานุมะเลขาธิการพรรคสังคมนิยมถูกวัยรุ่นขวาจัดลอบสังหารตอนปราศรัยที่สวนฮิบิย่า เป็นต้น ซึ่งล้วนเป็นเหตุการณ์ร้ายคุกคามเสถียรภาพของสังคมญี่ปุ่น งานประพันธ์ของคาวาบาตะชิ้นนี้จึงเป็นการแสวงหาความกลมกลืนของคนกับสังคมในโลกวรรณกรรม ที่ทั้งคนและฉากนั้นผิดจากสังคมธรรมดา (คัดมาจาก คำนำ)  

วิมานมายาเป็นเรื่องราวประสบการณ์แปลกของชายชราวัย ๖๗ นาม เองุชิ ผู้หมดสมรรถภาพทางเพศแล้วเขาได้เข้าไปใช้บริการบ้านนางนิทรา ได้นอนหลับเคียงข้างสาวน้อยพรหมจาริณีที่เปลือยกายและหลับสนิท โดยเล่าเรื่องผ่านกระแสความรู้สึกนึกคิดของเฒ่าเองุชิ ที่ถูกกระตุ้นโดยบุคลิกภาพเฉพาะของนางนิทราจำนวน ๖ คนใน ๕ ค่ำคืน

เด็กสาวพรหมจาริณีแต่ละนางล้วนถูกทำให้หลับสนิทราวกับจะไม่มีวันตื่นอีกแล้ว เรือนร่างอันงดงามเหล่านั้นล้วนปลุกเร้าให้เฒ่าเองุชิได้ย้อนกลับไปเป็นคนหนุ่มอีกครั้ง ด้วยความนึกคิดถึงเรื่องราวในอดีตรูปการณ์นี้เองที่เป็นความขัดแย้งสำคัญของเรื่อง โดยสองขั้วระหว่างเพศชายหญิงและสองขั้วระหว่างวัยสาวกับวัยชรา ขณะที่ฝ่ายชายชราได้มองเห็นตัวเองจากสาววัยแรกรุ่น เรือนร่างเด็กสาวนิทราก็เป็นฝ่ายคอยตอกย้ำกระตุ้นให้ชายชราตระหนักในความรัดทด หดหู่และความตายสิ่งนี้กระมังที่ให้หญิงสาวผู้หลับใหลกลับมีชีวิตขึ้นมา

แต่ละค่ำคืนเฒ่าเองุชิได้นอนหลับเคียงข้างนางนิทรา เรื่องราวต่างๆค่อยรินออกมาจากความทรงจำในวัยหนุ่มกระทั่งเขาหลับไปความฝันจึงเข้ามามีบทบาทในเรื่อง

หลักใหญ่ใจความของเรื่องดำเนินอยู่ในรูปแบบของการพรรณนาถึงสภาวะของจิตวิญญาณอันโดดเดี่ยว โหยหาของชายชราเป็นสภาวะที่เกือบจะเรียกได้ว่าฟุ้งฝันเพ้อเจ้อแต่ในความเบาหวิวเลื่อนลอยนั้นล้วนเป็นเรื่องที่น่าครุ่นคิดยิ่ง

จากวรรณกรรมเล่มนี้ เราจะสะดุดใจกับการเปรียบเปรยที่เต็มไปด้วยนัยยะทางปรัชญาจะได้เห็นพฤติกรรมของเฒ่าเองุชิ ที่แปรไปตามบุคลิกจำเพาะของสาวนิทราแต่ละนางในที่นี้ อยากกล่าวเกี่ยวกับความฝันแม้จะไม่ได้หัวใจของเรื่องแต่เราก็ไม่อาจละเลย

ประสบการณ์ครั้งแรกของเฒ่าเองุชินั้น เขาได้กลิ่นน้ำนมจากกลิ่นกายของนางนิทรา ทำให้หวนระลึกถึงชู้รักที่เป็นเกอิชานางรู้ว่าเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว และนางขยะแขยงกลิ่นน้ำนมที่เป็นกลิ่นประจำตัวของทารกซึ่งติดตัวเขามา เมื่อได้พบกันเมื่อหลับตาลงเขาคิดถึงวันคืนที่เขาหนีไปเกียวโตพร้อมเด็กสาวที่มีรอยเลือดตรงทรวงอก แต่เขาก็ไม่ได้แต่งงานกับเธอจากนั้นก็หลับลงอย่างง่ายดายด้วยยานอนหลับที่หญิงเจ้าของบ้านจัดไว้ให้เขาฝันไปว่า (หน้า ๔๔)

ตนอยู่ในอ้อมอกของผู้หญิงที่มีสี่ขา ขาทั้งสี่นั้นกระหวัดเกี่ยวเขาไว้ หล่อนมีแขนด้วย แม้ว่าเขาจะ   อยู่ในสภาพครึ่งหลับครึ่งตื่นเขาก็รู้สึกว่าการมีสี่ขาค่อนข้างเป็นเรื่องประหลาดแต่ไม่น่าขยะแขยง    ขาทั้งสี่นั้นเย้ายวนอารมณ์มากกว่าขาสองขาและความรู้สึกนั้นยังคงติดตรึงอยู่ในใจ ...


ลองคิดดูเล่น ๆ ว่าเรื่องราวจากกระแสสำนึกของเฒ่าเองุชิที่ลื่นไหลออกมาจากความทรงจำ จากการถูกกระตุ้นด้วยเรือนร่างของนางนิทรานั้นล้วนเป็นเรื่องราวที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ทั้งการหนีไปพร้อมเด็กสาวทั้งพฤติกรรมชู้สาวกับเกอิชาล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เขาฝันประหลาดดังกล่าว

ตามความคิดของ Freud  สัญลักษณ์ของความฝันส่วนใหญ่แล้วมีความหมายไปทางด้านเซ็กซ์ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าความฝันดังกล่าวของเฒ่าเองุชิที่ว่าหญิงที่มี ๔ ขานั้นไม่น่าขยะแขยงทั้งยังน่าเย้ายวนมากกว่า ๒ ขาได้ถูกบีบอัดรวมตัวมาจากความคิดรู้สึกผิดจากประสบการณ์ทางเพศในวัยหนุ่ม ขณะเดียวกันเขารู้สึกสุขสำราญใจกับการได้ประพฤติเชิงชู้สาวแบบนั้นความฝันจึงออกมาในรูปปฏิเสธ ดังนั้นความรู้สึกในความฝันหญิงที่มี๔ขาจึงไม่น่าเกลียดและยิ่งเย้ายวน

อีกภาพความฝันหนึ่งที่เกิดขึ้นในคืนเดียวกัน (หน้า ๔๕)

ลูกสาวคนหนึ่งของเขาให้กำเนิดบุตรพิการที่โรงพยาบาล เมื่อตื่นขึ้นมาผู้ชราก็ลืมไปแล้วถึงความ    พิการนั้นว่าเป็นความพิการชนิดใด บางทีเขาอาจจะไม่ต้องการจำมันก็ได้เพราะไม่น่าดู เด็กถูก    แยกจากแม่ทันที แกอยู่หลังม่านสีขาวในห้องผู้เป็นมารดา หล่อนจับเด็กสับเป็นชิ้น ๆ และเตรียม    ที่จะโยนแกทิ้งไป หมอในชุดขาวซึ่งเป็นเพื่อของเองุชิยืนอยู่ข้างหล่อน ตัวเองุชิเองก็ยืนอยู่ข้าง    หล่อนเช่นกัน ... ฯลฯ


จากภาพความฝันชุดนี้  การที่เขายืนอยู่ข้างลูกสาวขณะหล่อนสับทารกพิการเป็นชิ้น ๆ นั้นน่าจะเกี่ยวโยงกับกลิ่นน้ำนม ที่ได้จากกลิ่นกายของนางนิทราที่นอนอยู่เคียงข้างเขา กลิ่นน้ำนมและทารกนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้มลทิน และความบริสุทธิ์ดังกล่าวกระมังที่เขาไม่อาจยอมรับได้ จากหน้า ๕๙ พรหมจารีย์ของเด็กสาวเป็นเสมือนความอัปลักษณ์ของชายชรามากกว่า ดังนั้นในความฝันเขาจึงยืนอยู่ข้างลูกสาว

Freud ยืนยันว่าความฝันต่าง ๆ เป็นรูปการอันหนึ่งของการทำให้ความปรารถนาที่ถูกกดข่มได้บรรลุผล หรือมีช่องทางการแสดงออกถ้าความปรารถนานั้นไม่ได้รับความพึงใจในยามกลางวันตามปกติ จิตใจก็จะปฏิบัติการหรือแสดงปฏิกิริยาของมันด้วยการกระตุ้นภายในโดยการแปรเปลี่ยนไปสู่สภาพเพ้อฝัน (visual fantasy) ซึ่งยอมให้ผู้ฝันพึงพอใจกับความปรารถนาอันนั้น ผลลัพธ์ของความฝันเหล่านั้นก็คือทำให้การนอนหลับในยามค่ำคืนเป็นไปอย่างสงบ ดังนั้นเมื่อเองุชิได้แสดงปฏิกิริยาในความฝันแล้วเขาจึงหลับใหลไปอย่างรวดเร็ว

นอกจากเนื้อหาจากความฝันแล้ว วิมานมายายังเต็มไปด้วยลักษณะพิเศษอีกหลายประการซึ่งล้วนน่าศึกษายิ่งเป็นวรรณกรรมแปลอีกเล่มที่นักอ่านไม่ควรละเลย

นอกจากนี้วรรณกรรมอีกหลายเรื่องที่ใช้ความฝันเป็นกลไกอธิบายสภาวะบางด้านมนุษย์ เนื่องจากในโลกของการตื่นนั้นอาจชัดแจ้งเกินไปที่จะถ่ายทอดหากโลกของความตื่นมีมิติให้ค้นหาแล้วโลกของความฝันย่อมมีสิ่งท้าทายรออยู่เช่นกัน.

ข้อมูลอ้างอิง  :  บทความเรื่อง การนอนหลับและการฝัน การศึกษาทางวิทยาศาสตร์และจิตวิทยาเรียบเรียงโดยอาจารย์ สมเกียรติ ตั้งนโม , มหาวิทยาลัยเที่ยงคืน


บล็อกของ สวนหนังสือ

สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ                     :    เค้าขวัญวรรณกรรมผู้เขียน                         :    เขมานันทะพิมพ์ครั้งที่สอง (ฉบับปรับปรุง) ตุลาคม ๒๕๔๓     :    สำนักพิมพ์ศยาม  
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ชื่อนิตยสาร      :    ฅ คน ปีที่ ๓  ฉบับที่ ๕ (๒๔)  มีนาคม ๒๕๕๑บรรณาธิการ     :    กฤษกร  วงค์กรวุฒิเจ้าของ           :    บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ ชะตากรรมของสังคมฝากความหวังไว้กับวรรณกรรมเพื่อชีวิตเห็นจะไม่ได้เสียแล้ว  หากเมื่อความเป็นไปหรือกลไกการเคลื่อนไหวของสังคมถูกนักเขียนมองสรุปอย่างง่ายเกินไป  ดังนั้นคงไม่แปลกที่ผลงานเหล่านั้นถูกนักอ่านมองผ่านอย่างง่ายเช่นกัน  เพราะนอกจากจะเชยเร่อร่าแล้ว ยังเศร้าสลด ชวนให้หดหู่...จนเกือบสิ้นหวังไม่ว่าโลกจะเศร้าได้มากแค่ไหน ก็ไม่ได้หมายรวมว่าเราจะใช้ชีวิตอยู่แต่กับโลกแห่งความเศร้าใช่หรือไม่? เพราะบ่อยครั้งเราพบว่าความเศร้าก็ไม่ใช่ความทุกข์ที่ไร้แสงสว่าง  ความคาดหวังดังกล่าวจุดประกายขึ้นต่อฉัน เมื่อตั้งใจจะอ่านรวมเรื่องสั้น โลกใบเก่ายังเศร้าเหมือนเดิม ของ…
สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ       :    รายงานจากหมู่บ้าน       ประเภท         :    กวีนิพนธ์     ผู้เขียน         :    กานติ ณ ศรัทธา    จัดพิมพ์โดย     :    สำนักพิมพ์ใบไม้ผลิพิมพ์ครั้งแรก      :    มีนาคม  พ.ศ. ๒๕๕๐เขียนบทวิจารณ์     :    นายยืนยง
สวนหนังสือ
นายยืนยงชื่อหนังสือ      :    ลิกอร์ พวกเขาเปลี่ยนไปประเภท    :    เรื่องสั้น    ผู้เขียน    :    จำลอง  ฝั่งชลจิตรจัดพิมพ์โดย    :    แพรวสำนักพิมพ์พิมพ์ครั้งแรก    :    มีนาคม  ๒๕๔๘    
สวนหนังสือ
นายยืนยง ชื่อหนังสือ : ช่อการะเกด ๔๒ ( ตุลาคม – ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๐ ) ประเภท : นิตยสารเรื่องสั้นและวรรณกรรมรายสามเดือน บรรณาธิการ : สุชาติ สวัสดิ์ศรี จัดพิมพ์โดย : พิมพ์บูรพา สาเหตุที่วรรณกรรมแนวเพื่อชีวิตยังคงมีลมหายใจอยู่ในหน้าหนังสือ มีหลายเหตุผลด้วยกัน เริ่มตั้งแต่ตัวนักเขียนเองที่อาจมีรสนิยม ความรู้สึกฝังใจต่อวรรณกรรมแนวนี้ว่าทรงพลังสามารถขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลง แก้ปัญหาสังคมได้ ในที่นี้ขอกล่าวถึงเหตุผลนี้เพียงประการเดียวก่อน คำว่า แนวเพื่อชีวิต ไม่ใช่ของเชยแน่หากเราได้อ่านเพื่อชีวิตน้ำดี ซึ่งเห็นว่าเรื่องนั้นต้องมีน้ำเสียงของความรับผิดชอบสังคมและตัวเองอย่างจริงใจของนักเขียน…
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ชื่อหนังสือ      :    เถ้าถ่านแห่งวารวัน    The Remains of the Day ประเภท            :    วรรณกรรมแปลจัดพิมพ์โดย    :    แพรวสำนักพิมพ์พิมพ์ครั้งที่ ๑    :    กุมภาพันธ์   ๒๕๔๙ผู้เขียน            :    คาสึโอะ  อิชิงุโระ ผู้แปล            :    นาลันทา  คุปต์
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ ชื่อหนังสือ      :    คลื่นทะเลใต้ประเภท    :    เรื่องสั้น    จัดพิมพ์โดย    :    สำนักพิมพ์นาครพิมพ์ครั้งแรก    :    ตุลาคม  พ.ศ. ๒๕๔๘  ผู้เขียน    :    กนกพงศ์  สงสมพันธุ์, จำลอง ฝั่งชลจิตร, ไพฑูรย์ ธัญญา, ประมวล มณีโรจน์, ขจรฤทธิ์ รักษา, ภิญโญ ศรีจำลอง, พนม นันทพฤกษ์, อัตถากร บำรุง เรื่องสั้นแนวเพื่อชีวิตในเล่ม คลื่นทะเลใต้เล่มนี้  ทุกเรื่องล้วนมีความต่าง…
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ชื่อหนังสือ : คลื่นทะเลใต้ประเภท : เรื่องสั้น    จัดพิมพ์โดย : สำนักพิมพ์นาครพิมพ์ครั้งแรก : ตุลาคม  พ.ศ. ๒๕๔๘  ผู้เขียน : กนกพงศ์  สงสมพันธุ์, จำลอง ฝั่งชลจิตร, ไพฑูรย์ ธัญญา, ประมวล มณีโรจน์, ขจรฤทธิ์ รักษา, ภิญโญ ศรีจำลอง, พนม นันทพฤกษ์, อัตถากร บำรุงวรรณกรรมประเภทเรื่องสั้นมีความเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการตลอดเวลาถึงปัจจุบัน ในยุคหนึ่งเรื่องสั้นเคยเป็นวรรณกรรมที่สะท้อนสภาวะปัญหาสังคม สะท้อนภาพชนชั้นที่ถูกกดขี่ เอารัดเอาเปรียบ และยุคนั้นเราเคยรู้สึกว่าเรื่องสั้นเป็นเครื่องมือหนึ่งที่สามารถปฏิวัติเปลี่ยนแปลงสังคมได้…
สวนหนังสือ
‘พิณประภา ขันธวุธ’ ชื่อหนังสือ : ฉลามผู้แต่ง: ณัฐสวาสดิ์ หมั้นทรัพย์สำนักพิมพ์ : ระหว่างบรรทัดข้อดีของการอ่านิยายสักเรื่องคือได้เห็นตอนจบของเรื่องราวเหล่านั้นไม่จำเป็นเลย...ไม่จำเป็น...ที่จะต้องเดินย่ำไปรอยเดียวกับตัวละครเล่านั้นในขณะที่สังคมไทยกำลังเคลื่อนเข้าสู่ความเป็น “วัตถุนิยม” ที่เรียกว่า เป็นวัฒนธรรมอุปโภคบริโภค อย่างเต็มรูปแบบ ลัทธิสุขนิยม (hedonism) ก็เข้ามาแทบจะแยกไม่ออก ทำให้ความเป็น ปัจเจกบุคคล ชัดเจนขึ้นทุกขณะ ทั้งสามสิ่งที่เอ่ยไปนั้นคน สังคมไทยกำลัง โดดเดี่ยว เราเปิดเผยความโดดเดี่ยวนั้นด้วยรูปแบบของ ภาษาและถ้อยคำสำนวนที่สะท้อนโลกทัศน์ของความเป็นปัจเจกนิยมได้แก่ เอาตัวรอด…
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’  ชื่อหนังสือ      :    วิมานมายา  The house of the sleeping beautiesประเภท         :    วรรณกรรมแปลจัดพิมพ์โดย    :    สำนักพิมพ์ดอกหญ้าพิมพ์ครั้งที่ ๑   :    มิถุนายน ๒๕๓๐ผู้เขียน          :    ยาสึนาริ คาวาบาตะ ผู้แปล           :    วันเพ็ญ บงกชสถิตย์   
สวนหนังสือ
‘นายยืนยง’ ชื่อหนังสือประเภทจัดพิมพ์โดยผู้ประพันธ์ผู้แปล:::::เปโดร  ปาราโม ( PEDRO  PARAMO )วรรณกรรมแปลสำนักพิมพ์โพเอม่าฮวน รุลโฟราอูล  การวิจารณ์วรรณกรรมนั้น บ่อยครั้งมักพบว่าบทวิจารณ์ไม่ได้ช่วยให้ผู้ที่ยังไม่ได้อ่านหรืออ่านวรรณกรรมเล่มนั้นแล้วได้เข้าใจถึงแก่นสาร สาระของเรื่องลึกซึ้งขึ้น แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่บทวิจารณ์ต้องมีคือ การชี้ให้เห็นหรือตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับจุดเด่นสำคัญที่ไม่อาจละเลยได้ของวรรณกรรมเล่มนั้น วรรณกรรมที่ดีย่อมถ่ายทอดผ่านมุมมองอันละเอียดอ่อน ด้วยอารมณ์ประณีตของผู้ประพันธ์…