Skip to main content

ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะ

วันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้าง

เชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ บางครั้งมองแทบไม่ออกดูยากเหลือเกินว่าคนไหนเป็นหรือไม่เป็น ตราบใดที่ไม่มีเครื่องมือดักจับตุ๊ด เกย์ ปรากฎขึ้นบนโลกใบนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่สังเกตเห็นง่ายเสมอคือ ส่วนมากเกย์จะเนี๊ยบ เรียบร้อย ดูดีกว่าผู้ชายทั้งแท่งว่างั้นเหอะ

20080224 ภาพประกอบ (1)

หลายคนคงคิดว่าทำไมกะเทยเด็กๆ เดี๋ยวนี้อินเทรนด์ แห่กันไปแปลงเพศ  ส่วนหนึ่งที่เธอให้เหตุผลด้วยเพราะความเข้าใจว่า การผ่าตัดเจื๋อนเพศนั้นจะได้ผลดีหากทำการผ่ายังเยาว์วัย เพราะพวกเค้าต้องฉีดฮอร์โมนเพศหญิงและกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่วัยเอ๊าะๆ  แน่นอนว่า  ความขัดแย้งภายในจิตใจกับร่างกายมักจะอยู่ด้วยกันไม่ได้  สุดท้ายบางรายตัดสินใจทำทุกอย่างเพื่อจะปรับเปลี่ยนให้ได้ตามใจปรารถนา   เหมือนกับไม่อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก พวกเธอไม่อยากเป็นสาวประเภทสองที่ร่างกายเหมือนชายกำยำ กล้ามแขนเป็นมัดๆ อกผายไหล่ผึ่ง เพราะค่อนข้างจะเอียงไปทางสยองมากกว่าสวย

มองประเด็นเรื่องรายจ่ายในการผ่าตัดแปลงเพศ อะไร ๆ ก็ต้องเป็นเงินเป็นทองกันทั้งนั้นหละค่ะ  ยิ่งของใช้ ของขายทุกวัน สินค้าทุกอย่างรวมตัวกันเพิ่มราคาเป็นว่าเล่น ส่วนราคาในการผ่าตัดสมใจนึกนั้น เริ่มต้นที่หลักแสน ถึงแสนต้น ๆ แล้วแต่ความมีชื่อเสียงของแพทย์และสถานพยาบาลผู้ทำศัลยกรรม  บางรายต้องเริ่มฉีดฮอร์โมนและกินยาคุมกำเนิดตั้งแต่วัยรุ่น ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละประมาณสองพันบาท    ยังไม่รวมกับค่าผ่าตัดทำนม เสริมเต้า ราคาเริ่มต้นที่สี่หมื่นอัพค่ะ  ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนมากของเด็กนักศึกษาก็มาจากพ่อและแม่ มีส่วนน้อยที่จะเก็บเงินได้เองจากการหาลำไพ่พิเศษ ทำงานนอกเวลา

“ทำงานพิเศษรอบนี้ได้เงินแล้วช้านจะไปผ่าตัดเสริมนมเต้าเดียวก่อน กลับมาทำงานซัมเมอร์หน้าค่อยกลับไปผ่าอีกข้าง” ขำ ขำ คั่นอารมณ์เจ้า...

ด้าน นพ.กมล วัฒนไกร ประธานฝ่ายวิชาการ สมาคมศัลยแพทย์ตกแต่งแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การกินฮอร์โมนเพศหญิงเพื่อช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลตั้งแต่อายุยังน้อยและกินต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในกลุ่มของผู้หญิงนั้นจะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งทรวงอก แต่หากเป็นกลุ่มชายที่กินฮอร์โมนเพศหญิงเป็นระยะเวลานาน ยังไม่มีผลวิจัยยืนยันว่าเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเหมือนผู้หญิงหรือไม่ แต่คาดว่าการกินฮอร์โมนเพศหญิงไม่ได้มีความปลอดภัย 100% ส่วนกรณีผู้ชายที่ผ่าตัดแปลงเพศอายุต่ำกว่า 18 ปี ต้องได้รับการยินยอมจากผู้ปกครองก่อน และต้องผ่านการทดสอบจากจิตแพทย์ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ทั้งนี้ผู้ชายที่เข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศมักจะอยู่ในวัยที่ร่างกายเจริญเต็มที่หรือบรรลุนิติภาวะแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาส่วนใหญ่ไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด” *
 
เราจะเห็นน้องๆ สาวประเภทสอง หลายคนจากสถาบันการศึกษาทั้งของภาครัฐและเอกชน  บางคนแทบแยกไม่ออกว่าเป็นกะเทย  ถ้าไม่เปล่งวาจาออกมา พวกเค้าและเธอแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัยอย่างเสรี 

20080224 ภาพประกอบ (2)

ชาน่า หยิบข้อความจากรองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล ที่แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ ท่านพูดว่า "นักศึกษาเพศที่สามมีความสามารถ มีความคิดสร้างสรรค์ และทำอะไรดีๆให้แก่สังคมอย่างมากมายแต่การแปลงเพศตั้งแต่อายุยังน้อยหรือขณะเรียนมหาวิทยาลัยนั้นอยากให้แพทย์มีมาตรฐานการตรวจสภาพจิตใจ ก่อนอนุญาตให้ผ่าตัด เพราะที่รู้มายังไม่มีกฎ หรือข้อบังคับชัดเจน ต้องยอมรับว่าโรงพยาบาลหรือคลินิกก็มีรายได ้ส่วนใหญ่มาจากการ ศัลยกรรมแปลงเพศ ผมอยากให้คำนึงถึงความปลอดภัยให้มาก เพราะการผ่าตัดเรื่องเพศไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างต่างประเทศ เขามีการพบจิตแพทย์หลายครั้ง มีการทดสอบอื่นๆ อีกมาก กว่าจะผ่าตัดแปลงเพศ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนคำนำหน้าในบัตรประชาชน จากนายเป็นนางสาวนั้น ถ้าคุณแปลงเพศให้เขาแล้ว คุณก็ต้องเปลี่ยนคำนำหน้าจากนายเป็นนางสาวให้เขาด้วย เพราะร่างกายได้เปลี่ยนเป็นผู้หญิงไปแล้ว" *  ดร.ปริญญา กล่าว

เท่าที่ท่านพูดมานั้นแสดงว่าทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ยังมีนโยบาย ผ่อนปรนเรื่องการแต่งกายของนักศึกษา  เพราะเค้าเน้นให้สาระสำคัญทางด้านสติปัญญาและ ความคิดสร้างสรรค์มากกว่าเรื่องการแต่งกายเพียงแต่ตอนรับปริญญาบัตรต้องแต่งชุดเป็นผู้ชายเท่านั้น

ส่วน  ผศ.ดร.มนัส นามวงศ์ คณะวิทยาการจัดการหลักสูตรนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต กล่าวว่า “เมื่อโลกกำหนดให้มีแค่สองเพศ เพศที่สามจึงต้องพยายามเข้าทางเพศใดเพศหนึ่งให้ได้ เพื่อให้สังคมยอมรับในสิ่งที่พวกเขาเป็นอยู่ ส่วนเรื่องการที่นักศึกษาชายแต่งชุดนักศึกษาผู้หญิงนั้น ขึ้นอยู่กับอาจารย์ผู้สอน ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าการที่เขาแต่งชุดนักศึกษาหญิงก็ไม่ได้เป็นเรื่องเสียหายอะไร บางคนทำตัวเรียบร้อยกว่าผู้หญิงแท้เสียอีก ส่วนปัญหาที่พบอาจเป็นเรื่องการใช้ห้อง น้ำ เพราะนักศึกษาหญิงบางรายก็ไม่พอใจ” *   

อิชั้นเชื่อแน่ว่าผลกระทบต่อการแต่งตัวของน้องๆ สาวประเภทสองย่อมมีทั้งทางตรงและทางอ้อม และก็เกี่ยวข้องกับคนทุกเพศอย่างหลีกเสียไม่ได้  หากคนทุกคนจะมองพวกเธอเหล่านั้นที่ความเป็นคนไม่ได้มองที่พวกเธอเป็นตัวประหลาด หรือคนแปลกพิศดารพันลึก  ซึ่งก็เหมือนกับการเคารพสิทธิส่วนบุคคล  และแน่นอนว่าพวกเธอก็คงจะเคารพคุณ คนทุกคนเช่นกัน

หรือใครจะเห็นด้วยหรือไม่ คิดเห็นเช่นไรย่อมมีสิทธิ์คิดและเห็นได้อย่างเสรีบนโลกใบนี้...

จาก ชาน่า (อยากกลับไปเป็นนักศึกษา(สาว)... )
เขียนจากเมือง St.Lucia เกาะที่มีฝนตกมากที่สุดในทะเลแคริบเบี้ยนค่า...

หมายเหตุ
ข้อมูลการสัมภาษณ์จาก นสพ คง-จะ-เล็ก (ผิดประจำ) พิมพ์ใหม่ค่ะ... นสพ . คม –ชัด – ลึก
ภาพประกอบจาก เว็บไซต์ www.missladyboys.com

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
ภาษาใครคิดว่าไม่สำคัญ บางคนบอกว่า แหม ... บางครั้งไม่จำเป็นต้องพูด ใช้ภาษาใบ้เอาก็ได้ แต่บังเอิญคนที่คุณใบ้ด้วยไม่เก็ตก็แย่สิฮะ.. หากพอมีเวลาว่างใช้เวลาในการศึกษาภาษาเพิ่มเติมชาน่าว่าน่าจะเป็นประโยชน์ต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว  อย่างเวลาชาน่าไปแต่ละเมืองแต่ละประเทศนั้น จำเป็นต้องพอรู้ว่าไปไหนมา สามวาสองศอก หรือแม้แต่ภาษาเฉพาะในหมู่ชาวเรา ทำให้  "ง่ายสำหรับคุณค่ะ"
ชาน่า
วันนี้เรือจอดอยู่ประเทศบาฮามัส พรุ่งนี้จะเข้าฟลอริด้า นั่งทำงานเป็นโอเปอเรเตอร์รับโทรศัพท์จองห้องอาหารคนเดียว  เสี้ยวหนึ่งของวันทำงาน จู่ ๆ ก็เกิดอาการเป็นสุข จนต้องระบาย หยิบปากกามาจิกเขียน ถ่ายทอดความสุข ส่งตรงสู่เมืองไทย  
เค้าบอกว่า คนเราจะสุขหรือทุกข์นั้นขึ้นอยู่ที่ใจ บางครั้งกว่าจะสุขได้ก็ต้องมีองค์ประกอบหลายอย่างไม่ว่าจะเรื่องของสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ การเมือง สังคม ส่วนตัว และจิตใจ เป็นต้น
บางครั้งเจ้า “ความทุกข์”  มักจะมาเยือน  นั่นก็เป็นเรื่องธรรมดาสามัญบ้าน ๆ ทั่วไป ที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ปุถุชนคนเดินดินอย่างเราท่านทั้งหลาย   แต่เราจะหาวิธีการดับทุกข์เช่นไร…
ชาน่า
ชีวิตที่ต้องเกี่ยวข้องของคนหลากเพศชายจริง หญิงแท้ หรือแม้แต่เกย์ กะเทย นั้นย่อมมีปะปนกับชนและคนทุกชนชั้นวงการไม่เว้นแม้แต่ชีวิตของนักศึกษา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตแห่งชาติ เป็นลูกเป็นหลานเราๆ ท่านๆ เนี่ยล่ะฮะวันนี้ชาน่าอ่านข่าวคราวจาก นสพ.คงชักเล็ก พิมพ์ผิดฮ่า คมชัดลึก เกี่ยวกับชีวิตของกะเทยหรือสาวประเภทสองที่ต้องแต่งตัวเป็นนักศึกษาหญิงไปมหาวิทยาลัย จึงหยิบมาฝากผู้อ่านประจำคอลัมน์ “พาเม้าท์ชีวิตชาวเกย์” ณ ประชาไทกันบ้างเชื่อหรือไม่ว่า ชีวิตของคนเป็นเกย์ อีแอบ นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องของความขัดแย้งในการแต่งกายเลย เพราะพวกเค้าก็คือเพศชายดีๆ ที่คุณเห็นนั่นแหล่ะ…
ชาน่า
ความรักหากใครไม่เคยสัมผัสก็ยากจะอธิบายให้เข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงแก่นและก้นบึ้งของหัวใจ “ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์”  ประโยคหนึ่งที่เคยได้ยินมาแต่ไหนแต่ไร ตอนเป็นเด็กไร้เดียงสา ก็แค่อ่าน ได้ยิน และเข้าใจ แต่ไม่ได้สัมผัส รับรสของความรักและความทุกข์โลกวันนี้ได้ผ่านเข้า และผ่านไปจากบทเรียนและประสบการณ์ของชีวิตโลกแห่งความจริงกับสิ่งที่ฝันบางครั้งมันห่างไกลกันเหลือคณานับ  ทุกคนฝันอยากมีรักที่สวยงาม รักที่ทำให้ชีวิตนี้มีความสุข แต่หากเมื่อไหร่ รักนั้นไม่เป็นดังหวัง  ไม่เหมือนในฝัน มันย่อมเกิดทุกข์กับความรักคนที่ไม่เคยอกหัก  ก็เพราะเขาไม่เคยมีความรัก…
ชาน่า
ช่วงพักร้อนสามเดือนที่ผ่านมาได้ไปงานเปิดตัวหนังสือของเพื่อนที่ เอสพลานาด ทางทีมงานและสำนักพิมพ์สร้างสรรค์บุ๊คส์ ได้มอบหนังสือเล่มนี้ ...   “ตัดทิ้ง” ชีวิตจริงของสาวประเภทสอง  ซึ่งเขียนและดัดแปลงมาจากวิทยานิพนธ์ของ คุณวารุณี แสงกาญจนวนิช   อ่านแล้วต้องขอยกนิ้วให้ ว่าเป็นอีกหนังสือคุณภาพที่อ่านแล้วโดนฮ่ะ  ได้สาระและความรู้อีกหลายเรื่องราวที่เรายังไม่เคยรู้มาก่อน ชีวิตจริงของชาน่านั้นเป็นเกย์ ไม่ได้เป็นกะเทย แต่ที่ต้องแต่งสาวเป็นพรางชมพู ก็เพราะไม่อยากให้ทางบ้านรู้ (อันที่จริงคือไม่อยากให้คุณแม่ทราบ แค่คนเดียวเท่านั้นที่แคร์ความรู้สึก…
ชาน่า
 “ฮีธ เลดเจอร์” ขวัญใจชาวเกย์, พระเอกBrokeback Mountainเกิด – แก่ – เจ็บ – ตาย นั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่บางครั้งก็ยากจะทำใจได้  โดยเฉพาะหากใครสักคนอันเป็นที่รัก และผูกพัน แม้กระทั่งแค่ชื่นชม ปลื้ม ๆ ของคุณจากไปก่อนวัยอันสมควร   “เค้าหลับสบายไปแล้วล่ะ คงเหลือแต่เราที่จะก้าวต่อไป สู้ต่อไปตราบเท่าที่ลมหายใจยังอยู่แม้มันจะทรมาน ปวดร้าวแค่ไหน  ขอเวลาตั้งตัว ขอทำใจหน่อยได้ไหมคนดี”วันที่ 23 ม.ค. 2008 เป็นวันที่พระเอกในดวงใจของผมจากไปอย่างไม่มีวันกลับ เขาผู้นั้นคือ  ฮีธ เลดเจอร์ หนุ่มน้อยหน้าไม่หล่อแต่เร้าใจวัยซาวแปด  ชาวออสซี่ …
ชาน่า
การแสดงความรักและความใคร่ที่ขาดไม่ได้สำหรับชาวเกย์ ส่วนหนึ่งคงหนีไม่พ้นการร่วมเพศ แต่จะเป็นเพศร่วมแบบไหนคงทายได้ไม่ยากนัก  ซึ่งอันที่จริงแล้วก็เป็นธรรมชาติของเกย์ กะเทยที่ต้องใช้ทวารยังหวานอยู่ภายในร่างกายเพื่อประกอบกามกิจ (อยู่บ้าง)  ซึ่งภาระนี้จะตกอยู่กับฝ่ายรับ จนเกย์คิงหลายคนบอกว่า “ผมไม่ชอบรับ ผมชอบรุก เพราะเป็นฝ่ายรับมันเจ๊บบบบ เจ็บ”  ขออนุญาตทำความเข้าใจกับคนที่ยังอ่อนต่อวิชาเกย์ศาสตร์ ว่า ฝ่ายรับคือ ผู้ให้ (ทวารยังหวานอยู่) ส่วนฝ่ายรุกคือผู้กระทำ
ชาน่า
คงไม่มีใครจะกล้าปฎิเสธได้ว่า ความใฝ่ฝันของเกย์กะเทย เก้าสิบเก้าจุดเก้าเก้าเปอร์เซ็นต์ อยากจะทำหน้าที่ของการประกวดความงาม คุณค่าที่เธอคู่ควร ไม่ว่าจะเป็นเวทีใด ๆ ก็ตามที่จัดขึ้น ตอนเป็นเด็กชายอยู่บ้านนอกคอกนา เคยไปงานฤดูหนาวที่ทางจังหวัดหรืออำเภอเค้าจัดประกวด “นางฟ้าจำแลง” ตอนนั้นด้วยความไร้เดียงสา ใคร่รู้เยี่ยงนัก คำว่านางฟ้าจำแลงคืออะไร พอเติบโตขึ้นจึงเริ่มเข้าใจความหมายและเข้าใจตัวเองมากขึ้น “ฉันอยากเป็นนางฟ้าจำแลงจังเลย” พร่ำบ่นพึมพำในใจคนเดียว เพราะอิชั้นมีแววตั้งแต่จำความได้แล้วล่ะฮะ “โฉมเอย โฉมงาม อร่ามแท้แลอรุณ.......” เพลงที่ใช้ประกวดเมื่อครั้งจำความได้…
ชาน่า
ส่งท้ายปลายปี  ความหนาวเข้ามาเยือนเหมือนใจหวิว ๆ  หลายคนเปรียบเปรยถึงความอ้างว้างว้าเหว่ ในช่วงฤดูหนาว  ช่างเข้ากันนัก  แต่ที่นี่ในต่างแดนเขตทะเลแคริบเบี้ยน สำหรับคนท้องถิ่นไม่รู้จักคำว่าหนาวเหน็บนอกจากอากาศเย็น ๆ  ณ วันนี้ที่เกาะท้องฟ้ามืดมน ตั้งเค้าฝนจะตก  บ่อยครั้งที่ฝนฟ้าและอากาศเป็นใจมักจะปล่อยใจฝัน แบบบิวด์อารมณ์ได้ไม่ยากนักสำหรับหัวโปกไร้นม อารมณ์เกินหญิงของเกย์อย่างเรา  ฉันนั่งอยู่บาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งของเกาะ Antigua and Barbuda เขตทะเลแคริบเบี้ยน  หลังจากที่เราสามคนเกย์เพื่อนรัก พากันออกจาก รีสอร์ทหรูราคาสี่ร้อยล้านเหรียญ หรือที่รู้จักกันดี…
ชาน่า
สังคมที่เปิดกว้างและยอมรับโลกแห่งความเป็นจริงได้เกิดขึ้นอีกระดับหนึ่ง เมื่อได้เห็นหนังไทย หนังดี หนังเด่นแนวหน้าแห่งปีนี้  เรื่อง “รักแห่งสยาม” หนังที่สะท้อนให้เห็นถึงความรักหลากอารมณ์ ของสังคมเมืองไทย ในความเหมือนที่แตกต่างของสังคม(อีกแล้วครับท่าน) เป็นกระแสแรงได้จิต สั่นสะเทือนหลายริกเตอร์ เขย่าให้เห็นถึงภาพสะท้อนของสังคมไทยในยุคปัจจุบัน  เมื่อ  “รักแห่งสยาม”  ผ่านสายตามหาชน   ทั้งพลพรรคคนรักเกย์ แอนตี้เกย์ รักครอบครัว รักเพื่อน รักแฟน รักเพศไหนๆ ยังไงก็ตาม“คงเป็นหนังวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก ทั่ว ๆ ไป  สปอยหรือเปล่าน๊า”“แหวะ ... หนังเกย์ แน่ ๆ เลยเท้อออ !”“โอ้โห…
ชาน่า
กลับมาตามหัวใจเรียกร้องอีกครั้งหลังจากพักร้อนเมืองไทย  กลับไปอ่านหนังสือของสาวสองเภท หรือสาวประเภทสองที่บุกตลาดเมืองไทยตามแผงหนังสือชั้นนำทั่วไป  อดไม่ไหวจึงขอหยิบมาฝากแนะนำเผื่อใครสนใจอยากอ่านเรื่องราวหลากหลาย มากมายมุมมอง สามารถอ่านได้จากหนังสือที่สาว ๆ เธอเขียนถ่ายทอดเพื่อเป็นสื่อสร้างสรรค์ผ่านตัวหนังสือ มีเล่มไหน ยังไงบ้างนั่งปูเสื่ออ่านได้ค่ะเกริ่นนำส่วนตัวก่อนว่า  สมัยก่อนตอนอยู่นอกเมือง ไม่ใช่เมืองนอก (บ้านนอก) เคยอ่านนิตยสารเล่มหนึ่ง จำไม่ได้ว่าเป็นสกุลไทย หรือขวัญเรือน  มีคอลัมน์ที่เค้าเขียนถึง “กะเทยไทยในต่างแดน” ตอนนั้นยังเป็นเด็กชาย อีแอบ ไม่แสดงออก…
ชาน่า
ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะหมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.…