Skip to main content
 
From Fukuoka to Bangkok with Love
อีเมล์จาก Fukuoka Japan 
from Charnvit and Chaiwat (แม่เรียกว่า No. and No 2)
 
สวัสดี ครับ
Dear ALL:
 
kon ni chiwa:
ตอนนี้ Fukuoka Japan ตีสาม เกือบตีสี่แล้ว
วันพุธ ที่ 12 กันยา 2012
No 2 คงอยู่บนเครื่อง บินตรงจาก กทม และจะมาถึงประมาณ 8 โมงเช้า
 
เมื่อวาน No 1 เดินทาง วันกับคืน จาก US มา Japan
พระครู เบน ไปส่งที่สนามบินอิธากะ ตี 4 วันจันทร์ที่ 10 
(ทั้งสอง สว ประสาทมาก เลยไม่ได้นอนทั้งคืน)
 
ไปเปลื่ยนเครื่องที่ Newark/Liberty New Jersey
บิน 10 กว่า ชม ถึงโตเกียว รออีก 3 ชม แล้วต่อเครื่องอีก 2 ชม 
มาถึง ฟูกูโอกะประมรณ 1 ทุ่ม ของวันอังคารที่ 11
สาม/สาว/สาว ทีม Ueno San เจ้าหน้าที่มหานครฟูกูโอกะ 
ของ Mayor (หนุ่ม) มารับ แล้วสรุปประเด็นรายการยาวเหยียดงาน 5 วัน
มีทั้งพิธีรับ เลคเชอร์วิชา 2 ครั้ง (เรื่องอยุธยา) 
พบและบรรยาย นร มัธยมปลาย 700 คน 1 คร้ัง
 
Fukuoka เป็นเมืองใหญ่สุดด้านนี้ อยู่อีกเกาะหนึ่ง คือ คิวชู
ประชากร 1.5 ล้าน
อยู่เหนือเมืองนางาซากิ ที่โดนปรมาณู WWII
อยู่ติดไปทางด้านเกาหลี
 
เหนื่อยและสุด มันสสส ...........
คนได้รับรางวัง อีก 3 ก็มาถึงแล้ว
จากอินเดีย V. Shiva (นักคิดนักเขียน สิ่งแวดล้อม) 
อินโด Koes Murtiyah (นาฎศิลป์ ชื่อจริงของเธอ ยาวหนึ่งวา ตามแบบเจ้าโบราณๆ) 
และปินส์ Kidlat T. (ภาพยนตร์ น่าให้ Film Kawan จัดฉาย)
 
Koes Murtiyah สาวใหญ่ คนได้รางวัลจากอินโด เป็นหม่อม เป็นชายาเจ้าของวังสุรกาตาร์
เป็นราชวงศ์ ที่ยังอยู่ แต่ไม่มีอำนาจ/บารมีแบบ วงศ์เชียงใหม่ วงศ์อุบล วงศ์ปัตตานี
 
ที่วังโซโล มีวงปี่พาทย์สยาม ที่อดีตกษัตริย์ชวา ได้รับจาก ร 7
ส่วน ร 7 ก็ได้รับเครื่อง gamelan ตอบแทน 
ตอนนี้ อยู่ที่มิวเซียมขาติ ติด มธ
(แต นศ มธ คงไม่เคยเข้าไปดู เหมาะให้ นศ  Seas ทำกิจกรรทใช้สมานสามัคคี Asean ครับ)
 
ผมได้พบเธอแล้วกันแล้วเมื่อ  3 เดือนก่อน งาน ปวศ เอเชีย IAHA ที่ได้ดูหนุมาณเผาลงกา ที่ Prambanan
เธอเอาลูกสาวมาด้วย จะฟ้อนถวายพระบรมฯ มกุฎราชกุมารอากิชิโน และชายา 
ซึ่งจะเป็นองค์ประธานงาน
คงมันสสสสสส พ่ะย่ะค่ะ
 
แปลกดี พอบอกว่า No 1 จะ speech เริ่มด้วย
Your  Imperial Highnesses, Prince and Princess Akishino 
แล้วต่อด้วย Your Excellencies, Ladies, and Gentlemen
ทีม สาว/สาว/สาว บอกว่า ไม่เป็นไร แค่บอกว่า Your Excellencies, L.. and G... ก็พอ
 
จะว่า ญี่ปุ่น เต็มไปด้วยพิธีรีตอง ก็ใช่ และก็ ไม่ใช่ ด้วย Yes and No
แถมยังไม่มี กม หมิ่น แบบ ม  112  ของบางประเทศ อีกด้วย
แต่สถาบันกษัตริย์/จักรพรรดิ ก็ดูแข็งแรง มั่นคง ครับ
ทำไงดี เนี่ย
 
ว่ากันว่า งานพิธีมอบรางวัลนี้ จะมีคนเข้าร่วม 1 พันคนเท่านั้น
ผู้รับรางวัลทั้ง 4 ได้เวลากล่าว คนละ 2 นาที
พระครูเบน บอกว่า ให้สวัสดี ขอบคุณมากๆ สวัสดี ครับ
(Good Evening, Thank you very much, and Good Bye) 
 
From Fukuoka to Bangkok with Love
Charnvit
 
ปล.
รางวัล Fukuoka Prize มีมาแต่ปี 1990/2533 เพื่อประกาศตัวตนของเมืองนี้
คนไทยที่เคยได้รางวัลนี้ ตามลำดับ คือ 
มรว คึกฤทธิ์ ปราโมช 1990/2533
มจ สุภัทรดิศ ดิศกุล 1994/2537
นิธิ เอียวศรีวงศ์ 1999/2542
ถวัลย์ ดัชนี 2001/2544
ศรีศักดิ์ วัลลิโภดม 2007/2550
and No. 1 krab 2012/2555
who is next ?
 
สำหรับ ชาวต่างชาติ ที่เคยได้ มี
Ba Jin, Akira Kurosawa, Joseph Needham,
Ravi Shankar, Taufik Abdllah, Clifford Geertz, 
Wang Gungwu, Yoneo Ishii, S. Tambiah, Pramoedya, 
B. Anderson, Than Tun, Anthony Reid, Lat, Partha Chatterjee,
J.C. Scott, Ang Choulean 
(ใครเป็นใคร ถาม อ กู๋ ถ้ารู้จักหมด ได้ความรู้มากกว่าได้ ป เอก ครับ)
 
ผู้ได้รับ ส่วนใหญ่ เป็น สว หาหนุ่มๆ สาวๆ ไม่ค่อยมี
หลายคน หามีชีวิตอยู่ไม่แล้ว
หลายคนเป็นไม้ใกล้ฝั่ง ตามหลักอนิจจัง ครับ
 
 
*************************************************
 

FUKUOKA PRIZE AWARD 13 SEPT 2012
once upon a time in Japan
งานมอบรางวัล Fukuoka 13 กันยา 
ที่มีคนเข้าร่วมในหอประชุมใหญ่ หนึ่งพันคน ผ่านไปอย่างดี
 
เรามาดูกันว่า งานแบบญี่ปุ่นๆๆ 
ที่เจ้านายระดับสูงมาเป็นประธาน 
ทำกันอย่างไร
ต้องบอกว่า "แปลก" คือ งามสง่า เป็นระบบ (ต้องซ้อม) และเป็น "ประชาธิปไตย" (?)
กระจาย "ความเท่าเทียม" ให้กับคนที่ "ไม่ (น่า) จะเท่าเทียมกัน" นัก อย่างน่าพิศวง
 
องค์ประธาน คือ เจ้าชาย Akishino ผู้มีสิทธิสืบบัลลังค์อันดับสอง 
ของประเทศที่มีสถาบันกษัตริย์/จักรพรรดิมั่นคงสุดๆ (ไม่มี กม หมิ่นฯ ?!) 
เจริญสุดๆ และอารยะสุดๆ กับชายา
นั่งเป็นประธานจริงๆ ด้านขวาของเวที ได้รับเชิญให้ทรงกล่าวสั้นๆ
 
ที่นั่งตรงกลางเวที
เด่นเป็นสง่า กลับกลายเป็นที่นั่งของผู้รับรางวัลทั้ง 4
จากอินเดีย (นามศิวะ บอกว่ารู้จัก อ สุลักษณ์ อย่างดี เธอเป็นนักคิดนักเขียน สิ่งแวดล้อม)
ไทย (ผมเอง) ฟิลิปปินส์ (คิตลัต นักสร้างหนัง น่าเชิญมาให้ SeasTU ฉายหนังเขา) อินโดฯ (นาฎศิลป์)
 
ที่นั่งด้านซ้าย เป็นของกลุ่ม กก ที่มีผู้ว่าฯ  Mayor (หนุ่มวัย 37) เป็นประธาน
เขาบอกว่า เขาเป็น new generation นุ่งกางเกงขาลีบ รองเท้าหนังปลายงอน 
พูดเก่งแบบ "เซเล็บ"
กับคนอย่างประธานมูลนิธิฯ (ผู้เฒ่า ที่ให้เงินกับงานนี้หลายๆ ล้าน) 
กับอธิการ ม คิวชู กับตัวแทนการค้า กับนักวิชาการ คละชายหญิง ส่วนใหญ่ สว (สูงวัย)
 
ผู้มอบและประกาศเกียรติคุณรางวัล กับเหรียญคล้องคอ 
คือ สองท่านนี้ ไม่ยักกะใช่เจ้า Akishino
รับเสร็จ แขกเกียรติยศทั้ง 4 ก็กะเถิบมานั่งด้านหน้า 
กลางเวที ให้สัมภาษณ์ ตอบคำถาม  2 ข้อ 
ว่าประทับใจอะไร และจะทำอะไร (กับชีวิต ที่ยังเหลืออยู่น้อยนิด)
 
แน่นอน 
ผมตอบว่าขอบ ราเมน อร่อยมาก เมืองนี้ 
ทั้งราเมน/ramen และโซบะ/soba เอามาจากจีนสมัยหยวน 
มา "กำเนิด" ที่นี่ 700 ปีที่แล้ว 
แถมมีอนุสาวรีย์ราเมน และโซบะด้วย (เข้าท่าดี)
 
และผมตบท้ายอีกว่า ในฐานะ สว 
ผมมีอภิสิทธิ์ จะทำงานบ้าง ไม่ทำบ้าง และก็จะเดินทาง ท่องเที่ยว 
ไปในอุษาคเนย์ และเอเชีย 
เพื่อใช้เวลาที่เหลือ getting to know our ASEAN neighbors 
และ Make Love not War ครับ (especially with Cambodia and Laos)
 
เชื่อไหม ตอนเราให้สัมภาษณ์นั้น เจ้า Akishino และชายา 
ลงจากเวที ไปประทับนั่งเก้าอี้แถว (แบบหอประชุมศรีบูรพา) ตรงกลาง
เหมือนๆ และเท่าๆ กับ กก และ ผู้เข้าร่วมงานทั้งหมด
 
ต้องบอกว่า อือ "รู้เล่น กับลูกชาวบ้าน" 
ให้ความรู้สึก spectre of comparison 
แปลกๆ และดีๆ อย่างบอกไม่ถูก ครับ
 
 cK@FukuokaHakataJapan
 
PS:
ก. ตอนท้ายรายการ มีเด็ก นร เล็กๆ ขึ้นมามอบพวงดอกไม้
ให้กับคนรับรางวัล และผู้ติดตาม (เบอร์สอง) ของทุกทีม
 
ข. ก่อนพิธี เจ้า Akishino ตรัสถาม เบอร์หนึ่งว่า 
รู้จัก อจ อิชิอิ โยเนะโอะ Ishii Yoneo
(ผู้ล่วงลับไปแล้ว) ใช่ไหม 
เบอร์หนึ่งซึม และมึนไปเลย 
 
ท่านถามต่อว่า แล้วคิดอย่างไรกับ ปวศ สุโขทัย กับ อยุธยา
ต้องบอกว่า เบอร์หนึ่ง ก็ซึมไปอีก (เล็กๆ) ครับ
ไม่รู้ว่า ทรงแอบไปพลิก The Rise of Ayudhya หรือเปล่า เนี่ย
 
ค. คลิ๊กดู รายละเอียดรางวัลได้ที่ http://www.asianmonth.com/prize/english/23/index.html

 

 

บล็อกของ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
39 ปีที่แล้ว ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เขียนบทความถึงผู้เสียชีวิตคนแรกในเหตุการณ์ 14 ตุลา
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
 OUR PETITION TO PREMIER ABHISIT AND THE RED SHIRTS BEFORE THE BLOODY MAY OF 2010 
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
An Open Letter to Chuan LeekphaiOn Anarchy and Democracyเรื่อง ประชาธิปไตย กับ อนาธิปไตยเรียน ฯพณฯ ชวน หลีกภัย สส. ปชป กก. สภา มและ อดีต นรม อดีต หัวหน้าพรรคฯ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
 Treaties and Maps: France vs Siam, Thailand vs Cambodia เวรกรรม จึงตกอยู่กับ ประชาชน ชาวไทย โดยเฉพาะ ที่ ศรีสะเกษ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
Midterm Exam: TuSeas/13 (Good luck and Happy New Year 2013)
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
cK in Madison, Wisconsin ชว เสวนา บรรยาย ที่ Madison, Wisc ครับ  (ส่วนใหญ่ เรื่องอุ่นๆ ร้อนๆ ครับ) เลือกอ่านได้ตาม อัธยาศัย 
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
  Thai Town - Hollywood (from California to Siam with Love, and doubt)
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ ๒ แล้วที่ชาวจีนได้เข้ามาครอบครองเหนือดินแดนที่เป็นมณฑลยูนนานในปัจจุบัน ณ ที่นั้น ชาวจีนได้พบกับความหลากหลายของบรรดาผู้คนที่จีนเรียกว่า “คนป่าคนเถื่อน” (หม่าน Man) ที่บางพวกก็ยอมรับอารยธรรมจีน ตระกูลผู้ปกครองท้องถิ่นหนึ่งนามว่า จ้วน (Zuan) มีศูนย์กลา