Skip to main content

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

ศ. ดร. คณิต ณ นคร เป็น ประธานกรรมการอิสระตรวจสอบ และค้นหาความจริง เพื่อการปรองดองแห่งชาติ หรือ “คอป” (พร้อมรายงาน 300  หน้า)

เป็น คณบดี คณะนิติศาสตร์ ม. ธุรกิจบัณฑิตย์ เป็น อดีตอัยการสูงสุด เป็น อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2539 เป็น อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย คนแรก
 
ศ. ดร. คณิต ณ นคร
มีข้อผิดพลาดมหันต์ และขาดความรอบรู้ทาง ปวศการเมืองไทย กัยความรู้เกี่ยวกับ ฯพณฯ ปรีดี พนมยงค์ โดยมีข้อเสนอแนะแนบท้าย ไปยัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าจะเป็นบุคคลที่ถูกเรียกว่า “สเตทแมน” (Stateman) หรือรัฐบุรุษได้ ต้องรู้จักคำว่าเสียสละ
 
พร้อมหยิบยกกรณีของอาจารย์ปรีดี พนมยงค์ มาเล่าให้ฟัง ถึงการเสียสละเพื่อส่วนรวม โดยทำงานเพื่อประเทศ และประชาชนคนไทย แต่ไม่เดินทางกลับไทย เพียงเพราะหวังให้บ้านเมืองสงบสุข 
 
ศ. ดร. คณิต ณ นคร มิได้ศึกษา หรือตระหนักว่า ในฐานะนักการเมืองไทย ฯพณฯ ปรีดี
ได้พยายามกลับเมืองไทย หลายต่อหลายครั้ง
 
และครั้งหนึ่งได้กลับมาทำ “ขบวนการประชาธิปใตย  26 กุมภาพันธุ์ 2492/1951” คือ ยึดอำนาจรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม แต่ล้มเหลว ถูกปราบปรามหนัก ด้วยอาวุธสงคราม ขบวนการนั้น จึงถูกเรียกว่า “กบฎวังหลวง”
 
ความพยายามยึดอำนาจครั้งนั้น ฯพณฯ ปรีดี ได้รับความร่วมมือจาก อดึตเสรีไทย (บางส่วน) อาจารย์นักศึกษา มธก (บางส่วน) และ นายทหารเรือ (บางส่วน)
 
ผู้ก่อการฯ ถูกปราบปรามหนัก ฯพณฯ ปรีดี ต้องหลบซ่อนอยู่ในบ้านแถวฝั่งธน เป็นเวลา 6 เดือน จนกระทั่งหลบหนีออกไปได้ และไม่สามารถกลับมาเมืองไทยได้อีกเลย
 
นี่เป็นการหนีออกครั้งที่สอง
ครั้งแรก คือ หลัง “รัฐประหาร 2490/1947” (นำโดยผิน ชุนหะวัน) ข้อมูลการหลบหนีนี้ นักวิชาการ ผู้คน และเวป จำนวนไม่น้อย จำสับสนว่าเป็นเรื่องเดียวกัน (ดังนั้น ควรระมัดระวังข้อมูล)
 
ความล้มเหลวครั้งนี้ สมาชิกของเสรีไทย อดีตผู้นำ นักการเมือง “คณะราษฎร” ปีกเสรีนิยม บางคนถูกฆ่า ยิงทิ้ง เช่น ทองอินทร์ ภูริพัฒน์, จำลอง ดาวเรือง, ถวิล อุดล, ทองเปลว ชลภูมิ, เตียง ศิริบันธ,์ โผน อินทรทัต, ทวี ตะเวทิกุล, ฯลฯ นี่เป็นการปิดบทบาทฝ่ายเสรีนิยม ฝ่ายนักการเมืองพลเรือน ไปนานแสนนาน
 
(นี่ยังไม่นับ ช่วง ปวศ การเมือง ของการผงาดขึ้นมาของระบอบสฤษดิ์/ถนอม/ประภาส ตลอดจนการฟื้นฟู และสถาปนาพระราชอำนาจนำ ของรัชกาลปัจจุบัน ครับ)
 
 

หมายเหตุ
ความพยายามของชนชั้นนำ อีลีต ผู้ดี ไฮโซ ทีีจะสร้าง “วาทกรรมการเมือง” ว่าด้วยเรื่องของ “เทพ ธรรมะ คนดี คนมีศีลธรรม” ทำให้การศึกษา ปวศ การเมือง วิชารัฐศาสตร์ วิชานิติศาสตร์ ฯลฯ กลายเป็นเรื่องของ ความเชื่อ อุดมการณ์ มากกว่าเรื่องของวิชาการ เรื่องของความรู้ เรื่องของสติปัญญา ตามแนวทางที่ว่า “นตถิปัญญา สมาอาภา” หรือ “แสงสว่าง เสมอด้วยปัญญา ไม่มี”


ที่มาภาพ: http://www.oknation.net
 

บล็อกของ ชาญวิทย์ เกษตรศิริ

ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
บทความของนักวิชาการฝรั่งสงครามกลางเมือง ในสยามประเทศไทยควรอ่าน ครับ (ข้างล่าง)
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
(ผมได้อ่าน ข้อคิด (ยาวๆ ข้างล่าง) ของปราบ อย่างละเอียดประทับใจ และดีใจ ที่มีเยาวชน คนหนุ่มสาว รุ่นใหม่คิดอะไร ที่เป็นบวก สร้างสรรค์ มากกว่าเป็นลบ และทำลาย)ผมขอเสนอความเห็นเพิ่มเติม cK@MyThoughtRicePledging ดังนี้:
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
 2/2 Election or No Electionตลก.รธน และ กกต. ร่วมกับ ม็อบ ปกกส. และ ปชปให้เลื่อนเลือกตั้งแต่ พลเมืองดี (มธก.) เสนอว่า"ไปเลือกตั้ง ทั้งก่อนและหลัง 2 กุมภา"Go to the Poll before and on 2 Feb 2014ด้วยเหตุผล ดังต่อไปนี้
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
หนึ่ง)“ศรีสิขเรศวร” หรือ ปราสาทเขาพระวิหารปวศ บาดแผล เป็นหลุมดำปราสาท และ ดินเขา ศักดิ์สิทธิ ต้องมนตร์สาปผู้ไม่ใช่ ลูก หลาน เหลน โหลน ของสุริยวรมัน ชัยวรมันไปแตะ ไปต้อง ไปข้อง ไปเกี่ยวโดยขาดความเคารพ ในอดีต ในบรรพชนก็จะมี อันเป็นไป ครับสอง)
ชาญวิทย์ เกษตรศิริ
14 ตุลาคม 2516 ผ่านไปครบ 40 ปี "ไวเหมือนโกหก" และไม่ว่าเราจะเรียกเหตุการณ์นั้นว่าอะไรก็ตาม ก็เป็นหนึ่งในเหตุการณ์ของการที่ "ผู้กุมอำนาจรัฐ" กระทำกับประชาชนของตน และก็เกิดขึ้นกลางกรุงเทพมหานคร ที่มาจนถึง ณ วันนี้เกิดซ้ำแล้วซ้ำอีก รวม 4 ครั้งด้วยกัน (นี่ยังไม่นับรวมถึง เหตุการณ์ทำนองเดียวกันที่เกิดขึ้นในต่างจังหวัด หรือในดินแดนชายขอบ)