กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกัน
ในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
ผู้รู้ประวัติศาสตร์บางท่านยังกระหน่ำซ้ำว่าบรรดาพวกที่ฟูมฟาย จะเป็นจะตายกับหมุดคณะราษฎร แต่มีความรู้ทางประวัติศาสตร์อ่อนด้วยจำตัวละครทางประวัติศาสตร์หรือวันเดือนปี พศ.ไม่ได้ สรุปง่ายๆ ว่า กาก!
พูดตรงๆ ว่าผมเห็นใจคนที่แสดงออกทั้งในเรื่องเหตุผลและความรู้สึกที่มีต่อการหายไปของหมุดคณะราษฎร
ประเด็นแรกเลยก็คือ มันไม่ได้มีคนจำนวนมากนักที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเดือดร้อนในเรื่องนี้ ประเด็นที่สองก็คือ ขณะที่โวยวายกันอยู่ เกิดหัวขโมยไม่พอใจวกกลับมาปล้นหรือทำร้ายเจ้าทรัพย์อีกรอบ มันก็แย่ไปอีก
หนำซ้ำนอกจากที่จะโต้เถียงอะไรกับฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ซึ่งมันก็มีเพดานความเสี่ยงที่จะโดนข้อหาร้ายแรงต่ำมากแล้ว ดันมาโดนแซะด่า หาว่าตื้นเขิน ฟูมฟาย ฯลฯ
ถึงไม่ได้ลุ่มลึกมากนัก แต่ผมก็ชอบนะกับการวิพากษ์วิจารณ์ การรื้อถอนนี่ก็ชอบ แต่ที่ผมรู้ตัวก็คือเราจะรื้อถอนมันไปทุกเรื่องไม่ได้
ขณะที่คนตัวใหญ่ คนมีกำลังพร้อมสรรพกำลังทำร้ายคนที่ตัวเล็ก อ่อนด้อยกว่าด้วยประการทั้งมวล ซึ่งในความขัดแย้งอาจเดิมพันด้วยชีวิตหรืออิสรภาพของพวกเขา เราก็ไม่ควรที่จะไปรื้อถอนฝ่ายที่เสียเปรียบ
เราควรยืนอยู่ข้างฝ่ายที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถ้ากลัว ยืนดูเฉยๆ ก็ยังดี
กลับมาประเด็นเรื่องการหายไปของหมุดคณะราษฎร ผมคิดว่ามันมีความต่างกว่ากรณีอนุสาวรีย์ปราบกบฎหรือกรณีทุบทำลายอาคารศาลฎีกา
เปรียบเทียบอย่างง่ายที่สุดเลยก็คือทั้งสองกรณีข้างต้น อย่างน้อยมันก็มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ มันการรับรู้ในทางสาธารณะ และก็ยังมีเหตุผลในการอธิบายซึ่งอาจจะฟังไม่ค่อยเข้าหูนัก แต่อย่างน้อยมันก็ยังมีคำอธิบาย
นี่คือความต่างอย่างเห็นได้ชัด และถ้าระบบเหตุผลทั้งในระดับบุคคลและในระดับสังคมไม่รวนมากนัก และแม้ว่าเราไม่ได้ให้ค่าต่อหมุดคณะราษฎรแต่อย่างไร แต่เราควรที่จะต้องออกมาหาข้อเท็จจริงและเหตุผลในการหายไปของมัน
บทความแนะนำ:
ชาตรี ประกิตนนทการ : ความทรงจำ และ อำนาจ บนถนนราชดำเนิน
เผยแพร่ครั้งแรกใน: Facebook Sarayut Tangprasert