โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา
พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อให้ตัวเองเป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยโปรโมทว่า เป็นที่อยู่อาศัยราคาถูก ใช้วัสดุอุปกรณ์ในท้องถิ่น (ดิน ฟางข้าว เศษไม้ ใช้แรงงานในครัวเรือน ไม่ต้องพึ่งพาทุนนิยม ถูกใจคนชั้นกลาง ตอบโจทก์ว่าจะแก้ปัญหาที่อยู่อาศัย ปัญหาความยากจนของคนชนบทได้อย่างไร โดยที่คนชั้นกลางไม่ต้องเสียเหงื่อ ลงแรง หรือเสียผลประโยชน์
.
บ้านดินกลายเป็นสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหาที่อยู่อาศัยและสูตรสำเร็จในการแก้ปัญหาความยากจน
.
ช่วงนั้นพึ่งมาอยู่ชนบท มีปัญหาเรื่องที่อยู่อาศัย เพราะต้องอยู่เถียงนาเก่าๆ วันดีคืนดีก็โดนขี้มอดจากไม้กลอนหลังคาร่วงเข้าตา ก็เลยไปหาฝึกทำบ้านดินกับเพื่อนที่ทำบ้านดินอยู่ที่โขงเจียมอุบล
.
ไปลองย่ำดินเหนียวกับฟางให้เป็นก้อนอิฐดินมาก่อเป็นผนังบ้าน ทั้งขุดดิน ทั้งแบกดิน ทั้งตักน้ำ ทั้งย่ำให้ส่วนผสมเข้ากัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด มาไล่เฉลี่ยดู คนหนุ่มวัยใช้แรงงาน วันนึงน่าจะทำได้ไม่เกินยี่สิบก้อน (นี่ตีสูงแล้ว )
.
กว่าจะได้ผนังบ้านซักหลัง คงต้องย่ำดินกันอย่างต่ำสองเดือน +++
.
นี่ไม่นับรวมพื้นบ้าน โครงเคร่า ประตู หน้าต่างหลังคา ที่ต้องใช้ทั้งแรงงานและการประดิดประดอย คำนวนดูแล้ว บ้านขนาดพ่อแม่ลูกอยู่ด้วยกันหลวมๆ นี่หกเดือน ทำกันทั้งผัวทั้งเมีย ก็อาจยังไม่เสร็จ
.
คำถามต่อมาก็คือ ช่วงหกเดือนที่ใช้เวลาทำบ้านดิน แล้วข้าวปลาอาหาร แนวอยู่แนวกิน เงินทองใช้สอย จะไปเอาจากไหน เมื่อไม่มีเวลาไปรับจ้าง
.
ลึกๆ แล้ว บ้านดินจึงเป็นยาครอบจักรวาล คำตอบสำเร็จรูปสำหรับคนเมือง แต่เป็นวาทกรรม (หรือจะเรียกว่าอะไรยังนึกไม่ออก) ที่ใช้ในการบิดเบือน กลบเกลื่อน พร่าเลือน สภาพปัญหาความเหลื่อมล้ำในชนบท
.
หลังจากที่เลิกที่จะสมาทานบ้านดินมา เปลี่ยนเป็นไปหาขอต้นไม้ตามไร่ตามนามาตัดเลื่อยเป็นบ้าน ได้คุ้มหัว ก็มีโอกาสไปบ้านดินอีกหลายที่ ซึ่งส่วนใหญ่ถูกทิ้งให้เสื่อมสภาพไป
.
ถามเหตุผลเจ้าของบ้านสองสามคนได้คำตอบว่า บ้านที่ทำด้วยดินมีความชื้นสูง อยู่แล้วไม่สบายตัว ต้องซ่อมบำรุงตลอดเวลา บ้างก็บ่นว่าปลวกชอบมาก ปลวกไม่ได้กินดิน แต่ปลวกขึ้นมากินข้าวของเครื่องใช้ โดยเฉพาะหนังสือ ที่ทำจากไม้จนชิบหายว่ายป่วง
.
เลยได้ข้อสรุปว่า ในภูมิประเทศร้อนชื้นแบบบ้านเรา บ้านดิน ก็คือบ้านปลวกดีๆ นี่เอง
.
สุดท้าย เราจะเจอบ้านดินในประเทศไทย ในสถานที่ชิคๆ เก๋ๆ ที่พักตากอากาศหรูๆ ฮิปๆ ถูกใจคนชั้นกลาง ขณะที่ปัญหาทั้งในเรื่องต้นทุนการผลิต การดูแล บำรุงรักษา และที่สำคัญคืออุดมการณ์การเมืองที่ถูกกลบซ่อนอยู่ใต้ผิวของบ้านดินไป
.
ผมไม่ติดใจอะไรกับ โจน จันได แค่คิดว่าถ้าโจน จะนำเสนอตัวเป็นศาสดาของคนชั้นกลางในการต่อสู้กับระบบทุนนิยมเสียขนาดนั้น พึ่งตนเองเสียขนาดนั้น อนุรักษ์ธรรมชาติเสียขนาดนั้น โจนและครอบครัวไม่ควรที่จะนั่งเครื่องบินไอพ่น ที่ผลิตจากระบบอุตสาหกรรม ใช้น้ำมันจากฟอสซิลทำลายสิงแวดล้อมไปอเมริกา แต่โจนควรพาครอบครัวพายเรือที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ไปโอคลาโฮม่า จึงจะสง่างาม
.
แน่นอนว่า โจน จันได คงจะไม่พาซื่อ พาครอบครัวย่ำดินเหนียวทำเป็นเรือ แต่ถ้าโจน บอกอย่างนั้น คนชั้นกลางส่วนหนึ่งก็พร้อมที่จะเชื่อ
บล็อกของ gadfly
gadfly
เห็นบนเฟซบุ๊กมีการพูดกันบ่อยๆว่า แกนนำ นปช.พาคนไปตาย พาคนไปติดคุก แกนนำไม่รับผิดชอบกับชีวิตของมวลชน ผมคิดว่ามันเป็นข้อกล่าวหาโจมตีผู้อื่นเพื่อเป็นการยกตนขึ้นสูง หรืออีกนัยหนึ่งคือมันเป็นข้อกล่าวหาทางศีลธรรม
gadfly
ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
gadfly
เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม .หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก.ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
gadfly
เมื่อคิดถึงเรื่องโอกาสทางการศึกษา ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม กม.อาญา มาตรา 112ผมคิดถึงนักศึกษาสองคนคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.เทคโนโลยีมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีสุดท้าย เขาชื่ออัครเดช ชื่อเล่นว่า เค
gadfly
อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา