จะหนีบไปด้วยทำไม เป็นชื่อแรกของบล็อกนี้ที่มั่นหมายจะจดจำทุกอย่างที่เขียนพกใส่กระเป๋าไปกับตัวทุกที่ทุกเวลา ก่อนเปลี่ยนมาเป็น จะหนีบไปด้วยทำไม (วะ) เมื่อคิดว่าควรปล่อยวางมากกว่าแบกรับตัวตนไว้บนบ่า
"ใต้ฟ้าผืนนี้ ไม่ได้มีแค่เรา" เป็นคำที่เพื่อนคนหนึ่ง ชื่อ ตอง ประดิษฐ์ขึ้น จากคอนเซ็ปต์เดิมที่ผมเคยใช้ว่า บนโลกใบนี้ไม่ได้มีแค่เรา ผมชอบคำประิดิษฐ์นี้และดึงมันมาใช้ตลอดเวลา เป็นวาทกรรมในการทำงานรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชน
ผมคิดว่างานส่วนใหญ่ที่ผมเขียนต้องการจะบอกประเด็นสังคมอะไรสักอย่างกับคนอ่าน ประเด็นนั้นเปลี่ยนไปเรื่อยๆ รวมๆ คืออยากสะกิดสะเกาให้คนที่ได้อ่านมองโลกหลายแบบมากขึ้น
ผมเชื่อว่าความคิดหรือวิธีคิดของคนจะเปลี่ยนเมื่อพบเจอข้อเท็จจริงใหม่ๆ บนทางชีิวิตของตัวเอง ทั้งที่ข้อเท็จจริงล้วนมีอยู่แล้วแต่เมื่อเขายังไม่ได้เจอก็ยังคิดอยู่ได้เพียงในกรอบข้อเท็จจริงเดิมๆ
ทุกบทความที่อยากบอก คือ อยากบอกว่าใต้ฟ้าผืนนี้มีเรื่องราว มีผู้คน ที่ดำรงตนอยู่อีกมากมายหลายในแบบที่เราคาดไม่ถึง ผมเองก็ไม่ได้รู้เรื่องราวเหล่านั้นทั้งหมด รู้อะไรมา ก็เขียนไปเท่านั้น
เราจะผ่อนคลายความยึดติดในความดีงาม ควาถูกต้องทั้งหลายลงได้มาก และเราจะก้าวเดินไปบนเส้นทางชีวิตของเราโดยไม่ทำร้ายใครระหว่างทางได้ หากเราเชื่อและปฏิบัติเสมอเหมือนกับว่า ไม่ได้มีแต่คนแบบเราเท่านั้นที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้
นายกรุ้มกริ่ม
สวัสดีครับ
ผม : ยิ่งชีพ อัชฌานนท์
อันนี้ก็ผม : เป๋า
อันนี้บางคนไม่รู้ว่าเป็นผม : นายกรุ้มกริ่ม
ผมเคยเรียน : โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย (วัยหนุ่ม) นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ (ป.ตรี)
ปัจจุบันนี้ : อยู่บ้านครับ แถวบางลำพู
อดีต : ชุมนุมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ไม้ขีดไฟ กลุ่มอิสระเพาะรัก รายการมดคันไฟ อาสาสมัครนักกฎหมายมอส. รุ่น4 ฯลฯ
ขณะนี้ : นักกฎหมายสิทธิมนุษยชนโครงการilaw กลุ่มอาสาสมัครลางริน อาสาสมัครศูนย์การเรียนรู้จั่นเจริญ
ผมอยากให้ : แวะเวียนมา มองๆผ่านตา ดูๆตัวอักษร นึกๆดูนิดนึง เขียนทิ้งไว้หน่อย
ขอบคุณมากๆๆๆๆๆๆ เลยครับผม
คุยกันได้ : pow.ilaw@gmail.com twitter : @yingcheep