Skip to main content
   

ช่วงนี้มีแต่เรื่องวุ่นวาย ส่วนตัวความจริงแล้วไม่อยากยุ่งเพราะเป็นคนรักสงบและถึงรบก็ขลาด แต่ไม่ยุ่งคงไม่ได้เพราะมันใกล้ตัวขึ้นทุกที ระเบิดมันตูมตามก็ถี่ขึ้นทุกวัน จนไม่รู้ใครเป็นตัวโกง ใครเป็นพระเอก เลยขอพาหันหน้าหาวัดพูดเรื่องธรรมะธรรมโมบ้างดีกว่า แต่ไม่รับประกันว่าพูดแล้วจะเย็นลงหรือตัวจะร้อนรุมๆ ขัดใจกันยิ่งกว่าเดิม ยังไงก็คิดเสียว่าอ่านขำๆ พอฆ่าเวลาปลายสัปดาห์ก็แล้วกัน.....

สัปดาห์นี้มีข่าวเล็กๆ ข่าวหนึ่งปรากฏมาให้พอเป็นกระแส แม้ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรแต่ก็สะท้อนสารัตถะแห่งการปลุกระดมอันเปล่ากลวงได้พอสมควร

 

เรื่องราวเกิดขึ้นที่  วัดบางละมุง' จังหวัดชลบุรี เมื่อกลุ่มคนในนาม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย' นับพันคนดาวกระจายไปเพิ่มกระแสไล่แม้แต่เงาของคนที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร' โชคดีที่พระคุณเจ้าท่านมีอุเบกขา รู้ปล่อยวาง ไม่ยึดติดในรูปทรัพย์ ตัดเชื้อไฟแต่ต้นลม เรื่องจึงไม่บานปลายและข่าวจบไปได้ในวันเดียว

 

ในวันที่ 29 ต.ค.51 กลุ่มคนนามพันธมิตรฯ ได้บุกเข้าล้อมอุโบสถของวัดบางละมุงที่กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างหลังจากมีกระแสข่าวว่า ช่างที่รับงานปั้นฐานพระประธานในอุโบสถได้ปั้นรูป พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักการเมืองชื่อดังอีกหลายคนติดตั้งอยู่บนฐานซึ่งพวกเขามองว่าไม่เหมาะสม ในขณะที่การก่อสร้างทำไปแล้วประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ ใช้งบประมาณ 25 ล้านบาท

 

สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องคือทุบทำลายรูปปูนปั้นนักการเมืองที่ฐานนั้นทั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในอริยาบทกำลังถือโทรศัพท์มือถือ นายเนวิน ชิดชอบ ที่กำลังถือมีดเชือดคอไก่ รวมไปถึงนายบรรหาร ศิลปอาชา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน หรือแม้แต่นายสนธยา คุณปลื้มลูกชายกำนันคนดังแห่งชลบุรี

 

ผู้สร้างเป็นช่างสกลุช่างเมืองเพชรบุรี ถิ่นที่มีชื่อเสียงทางด้านปูนปั้นมาแต่อดีต เขาให้เหตุผลว่า เป็นคนชอบติดตามข่าวสารการเมืองจึงขออนุญาตจากเจ้าอาวาสขอปั้นรูปนักการเมืองที่มีชื่อเสียงในปี 2546 ซึ่งในขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กำลังมีชื่อเสียงโด่งดัง เจตนาทำไปเพื่อบันทึกเหตุการณ์ทางเมืองไม่มีเจตนาอื่นแอบแฝง จนเวลาล่วงไป 5 ปี รูปปั้นนักการเมืองเหล่านี้ได้กลายเป็นศัตรูทางการเมืองของกลุ่มพันธมิตรฯ

 

สุดท้ายทางวัดยินยอมให้ทุบทิ้งเพื่อความสบายใจของกลุ่มคนในนามพันธมิตรฯ ส่วนนายช่างเองไม่ได้ว่าอะไรหรือตอบโต้อย่างใดทั้งสิ้น

 

ผมอึดอัดใจนิดหน่อยหลังอ่านข่าว เพราะแม้แต่ความสร้างสรรค์ใหม่ๆ ในศิลปะปูนปั้นเมืองเพชรก็ยังถูกกดดันคุกคามไปด้วยกับกระแสการเมือง คงต้องจับตาดูต่อไปว่างานปูนปั้นเมืองเพชรที่มีรูปนักการเมืองอื่นๆ ในเมืองเพชรฯ เองที่เคยทำกันมาก่อนหน้านี้จะถูกกระแสเล่นงานไปด้วยหรือไม่  

 

ทั้งนี้ หากทำความเข้าใจในลักษณะศิลปะไทยจะพบเอกลักษณ์ที่น่าสนใจอย่างหนึ่ง นั่นคือ การสอดแทรก เสียดสี นำความเป็นไปในโลก ณ ขณะนั้นมาล้ออย่างขบขันด้วยการสอดเข้าไปในคติความเชื่อในศาสนาผ่านผลงาน แม้แต่เรื่องเชิงสังวาสของชายกับหญิง หญิงกับหญิง สังวาสของชาวบ้าน สัตว์สังวาส สังวาสในที่ลับ หรือสังวาสแปลกๆ เราก็หาดูได้จากจิตรกรรมฝาผนังไม่เว้นแม้แต่ในวัดเอกหรือวัดหลวงต่างๆ พอดูแล้วไม่เห็นมีใครพูดว่าบัดสี อุจาด และดูกันมาได้เป็นร้อยๆ ปี ศิลปะไทยจึงคล้ายเป็นการบันทึกเรื่องราวทางประวัติศาสตร์นอกระบบแบบหนึ่ง และนับเป็นโชคดีที่ตอนนี้กระทรวงวัฒนธรรมยังไม่กระสันและบอกให้ไปลบให้เสียฝีมือครูช่างแต่โบราณไป

 

ส่วนฐานพระพุทธรูปวัดบางละมุงที่เป็นข่าว แม้เป็นผลงานใหม่ไม่สามารถเอ่ยอ้างถึงคุณค่าทางอายุสมัยได้ แต่คุณค่าทางลักษณะทางเชิงช่างนั้นอาจนับว่าไม่แตกต่างไปจากรุ่นทวดรุ่นครูที่มีอารมณ์ขัน รูปปั้น นักการเมืองไทย' จึงถูกปั้นไว้แทนที่พวกยักษ์แบกหรือสัตว์แบกต่างๆ ที่นิยมทำกันตามฐานประติมากรรมในพุทธศาสนา

 

ทั้งนี้ ประติมากรรมชนิดยักษ์แบก สัตว์แบกต่างๆ หรือสัตว์ที่ดูดุร้ายน่ากลัวที่ทำหน้าที่เหมือนอุ้มแบกสัญลักษณ์ทางศาสนาเหล่านี้เป็นการแทนสัญลักษณ์ถึงภูมิต่างๆ ในจักรวาลตามคติ ไตรภูมิ'

 

รูปปั้นเหล่านี้เป็นพวกที่อยู่ต่ำกว่า มนุษย์ภูมิ' เป็นโลกทัศน์ในการเสียดสีแบบเชิงช่างโบราณที่สะท้อนว่าพวกตัวไม่ดีอยู่ในที่ต่ำๆ ไม่พอต้องให้มันใช้กรรมหนักๆ ด้วยจึงให้ไปแบกพระแบกเจดีย์บ้าง จากแนวคิดทางศาสนาบวกลูกเล่น สิ่งไม่ดีอื่นๆ ในในโลกตามสายตาของช่างยังถูกตีความอย่างขยายความได้มากกว่าในคัมภีร์ที่มีแต่พวกยักษ์ พวกสัตว์ หากลองสังเกตดูตามงานจิตรกรรมฝาผนังภาพ มารผจญ' ที่เป็นฝีมือช่างเก่าหลายแห่ง จะพบภาพฝรั่งบ้าง คนฆ่าหมูที่เป็นคนต่างชาติบ้าง แขกบ้าง เขมรบ้างอยู่ปนๆ ไปกับกับหมู่ยักษ์ที่เป็น มาร' ผจญองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ต่อมามารจึงถูกพระแม่ธรณีบีบมวยผมจนหลั่งเป็นสายธาราท่วมพัดมารเหล่านั้นดับสูญไป

 

ดังนั้น ไตรภูมิ' คือแกนของเรื่องในการทำงานช่าง ส่วนองค์ประกอบอื่นๆคือลูกเล่นที่ช่างจะคิดสร้างสรรค์มาอวดฝีมือและสื่อออกมาสู่ผู้มองเข้าไปในศาสนาและภาพอย่างแยบยล เช่นนั้นแล้วผู้ศึกาพุทธศาสนาและศิลปะไทยจึงต้องทำความเข้าใจใน ไตรภูมิ' แต่ในปัจจุบันคงห่างเหินไปจากการเรียนรู้ในกระแสหลักมากมายจนยากเข้าใจไปแล้ว จึงจะขอเล่าและเสริมโลกทัศน์ส่วนตัวเลียนอย่างธรรมเนียมช่างแต่โบราณมาเล่าสู่กันฟังสั้นๆ พอสนุกๆกันในพื้นที่ตรงนี้

  

ไตรภูมิ' คือ คติความเชื่อในพุทธศาสนาว่าด้วยเรื่องราวความเป็นไปทั้งหลายในจักรวาล มีความเพริศแพร้วพิสดาร เป็นทั้งเรื่องของยักษ์ มนุษย์ สัตว์นรก เปรต อสูร หรือแม้แต่เทวดา ไตรภูมิ คือการแบ่งจักรวาลนี้ออกเป็น 3 ภูมิใหญ่ ได้แก่ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ ส่วนความสนุกของเรื่องอยู่ที่ความอิรุงตุงนังของเทวดาและยักษ์ที่ทะเลาะขับเคี่ยวกันมาตลอด ที่ผ่านมาเทวดามักชนะ แต่บางพฤติกรรมของเทวดา มนุษย์ตรงกลางอย่างเราๆ ดูแล้วบางทีมันก็ชวนสงสัยว่าอาจจะเลวกว่ายักษ์มารเสียอีก

 

ในไตรภูมิใหญ่ยังแบ่งภูมิเป็นภูมิย่อย ชั้นต่ำสุดเป็นนรกภูมิที่ซอยลงไปอีกเป็นหลายขุม ที่ตรงนี้คงไม่ต้องอธิบายเพราะในวันหนึ่งข้างหน้าอาจได้ไปเยือนกันเอง ถัดขึ้นมาอีกเป็นเดรัจฉานติภูมิ หมายถึงสัตว์ที่ไปไหนมาไหนต้องคว่ำอก ต่อมาอีกเป็นเปรตภูมิที่สามารถกินบุญที่ทำไปให้ได้ สูงมาหน่อยนั่นล่ะจึงเป็น อสูรกายภูมิที่อยู่ของพวกไม่กินเหล้า หรือตัวหลักของเราที่วันนี้อาจกลับมาเป็น พระเอก'

 

เรื่องราวตำนานที่มาทั้งชื่อและที่อยู่ของเหล่าอสูรยิ่งน่าสนใจมาก เพราะไปเกี่ยวข้องกับความกะล่อนปลิ้นปล้อนของเหล่าเทวดาหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเทวดาเคยชวนเหล่าอสูรมาร่วมกันกวนเกษียณสมุทรเพื่อทำน้ำอมฤทธิ์ซึ่งต้องใช้พญานาคเป็นเครื่องผลิตโดยหลอกอสูรให้อยู่หัวเทวดาอยู่หาง ขณะจะได้น้ำอมฤทธิ์พญานาคจะถุยน้ำลายพิษออกมา อสูรอยู่หัวจึงรับไปเต็มๆ ร่างกายระทวยอ่อนแรงกันไปหมด ส่วนเทวดารู้จักหลีกมาแต่ไหนแต่ไรจึงไม่โดนพิษ ตัวก็ไม่เหม็นน้ำลาย หน้าตาสะอาดดูดี สุดท้ายก็แย่งน้ำอมฤทธิ์มาแดกแต่พวกตัว เพราะเป็นเทวดาจะด่าว่าไร้มนุษยธรรมก็คงไม่ได้

 

บรรดาอสูรยังเคยมีเมืองสุขสบายอยู่ในทำเนียบผู้บริหาร (ไตรภูมิเดิมบอกว่าบนเขาพระสุเมรุหรือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นศูนย์กลางของจักรวาล ปัจจุบันเป็นที่อยู่พระอินทร์ ผู้นำฝ่ายเทวดา) แต่พวกเทวดาคิดอุบายมอมเหล้า (อำนาจ) จนไม่ได้สติแล้วถีบไปอังกฤษเอ๊ย..ตกเขาจมลงใต้ดิน เมื่ออสูรสร่างเมาได้สติก็สำนึกตัวว่าเป็นเพราะกินเหล้ามากจนเมามายจึงต้องเสียบ้านเมืองให้กับพวกเทวดาจึงเลิกกินเหล้าแล้วไปสร้างเมืองใหม่ใต้บาดาล

 

ที่จริงพวกอสูรกายเองก็มีหลายพรรคการเมืองเอ๊ยหลายเมืองปกครองตัวเอง (ในไตรภูมิบอกมีแค่ 4 เมือง) แม้อยู่ใต้ดินเมืองก็กินกันจนเมืองหรูหราเป็นทองอร่ามเหมือนเมืองของเทวดา (พวกนี้ชอบการสรรหาเพราะไม่เปื้อนน้ำลาย เงินเดือนสูง มีอภิสิทธิ์ต่างๆมากมาย) ส่วนเมืองอสูรมีทั้งอสูรร่วมรัฐบาลและอสูรฝ่ายค้าน แต่ครั้งหนึ่งเคยมีพระยาอสูรตนหนึ่งมีอำนาจมากชื่อว่า ราหู' เคยไปร่วมกับเทวดากวนเกษียรสมุทรด้วย รู้จักคิดใหม่ทำใหม่เลยปลอมเป็น เทวดา' จนได้กินน้ำอมฤทธิ์และทำให้ ฆ่าไม่ตาย' และหวังทวงเขาพระสุเมรุคืนอยู่เนืองๆ

 

ส่วนพวกเทวดานั้นมีนิสัยอย่างหนึ่ง เวลาจะเสียเปรียบมักชอบฟ้องพ่อ..อืมม ไม่ใช่ๆ ฟ้องมหาเทพสูงสุด องค์หนึ่งชื่อ วิษณุ'หรือ นารายณ์' ผู้ชอบอวตาร (ครั้งหนึ่งเคยอวตารเป็นพระราม อยู่ในวรรณะกษัตริย์เลยกลายเป็นที่มาของความเชื่อเรื่อง สมมติเทพ' ) เทวดา (บ้าน) พระอาทิตย์และพระจันทร์รู้เรื่อง ราหู' แอบปลอมเป็นเทวดาเลยไปบอกวิษณุ วิษณุรู้เรื่องเลยแผลงฤทธิ์ขว้างจักรแก้วไปตัดตัวราหูออกเป็นสองท่อน แต่เพราะดื่มน้ำอมฤทธิ์แล้วจึงไม่ตาย กระนั้นและยังอาฆาต (บ้าน) พระอาทิตย์และพระจันทร์ตลอดมา มีโอกาสก็จะกลับมาอมจนมืดไปทั้งเมืองกลายเป็นปรากการณ์ สุริยคราส' และ จันทรคราส' ดังที่รู้กัน

 

การต่อสู้ของเทวดากับอสูรผ่านมาถึงวันนี้ยังไม่จบ ส่วนเราๆ ท่านๆ อยู่ใน มนุษยภูมิ' อิทธิฤทธิ์น้อยกว่าพวกอสูร น้อยพวกเทวดา เพียงเกิดจากน้ำเมือกๆ ขุ่นๆ ขาวผสมกับไข่ตอนสังวาสกัน เมื่อเกิดมาไม่มีฤทธิ์มากก็ต้องพึ่งพาตัวเอง จึงต้องเชื่อเรื่องสิทธิเรื่องเสียงของตัวเอง เชื่อเรื่องความเท่าเทียม เชื่อว่าพลังยิ่งใหญ่มาจากเสรีภาพในตัวเองและไม่ได้มาจากการที่ใครประทานมาให้ ดังนั้นแม้ไม่มีฤทธิ์ก็ยังอยู่ภูมิสูงกว่าอสูร หรือแม้จะอยู่ต่ำกว่าภูมิเทวดา แต่ก็โชคพวกเหล่านั้นที่มีสติ' และ ปัญญา' บรรลุธรรมและแก้ปัญหาเองได้โดยไม่ต้องฟ้องใคร

 

ความรู้เรื่องภูมิจักรวาลของจบลงแค่สงครามที่ยังไม่จบเพียงเท่านี้ ส่วนการที่ไม่อาจเอื้อมไปแตะหรืออธิบายถึงภูมิที่สูงกว่านี้ไม่ใช่เพราะไกลตัวแต่เป็นเรื่องที่แต่ละคนคงต้องไปศึกษา พิสูจน์และ รู้' ด้วยตนเอง   

 

อย่างไรก็ตาม ย้อนกลับมามองพวกอสุรา ที่กลายมาเป็นยักษ์แบกกับ นักการเมือง' ในงานศิลปกรรมและไตรภูมิแล้วก็เห็นกรรมวิบากอันหนักหน่วงที่ต้องเผชิญ นักการเมือง' นั้นถูกหลอกให้เมา (อำนาจ) ได้ง่าย เพียงแต่นักการเมืองก็ยังเป็นมนุษย์ เวลาเสียศูนย์ก็กระทบไปหมดทั้งภูมิ นายช่างคงอยากชักนำพระธรรมมาให้แบกเสียบ้างจะได้ไม่เลยเถิดเกินเส้นมนุษย์ เพราะถ้าใจพลัดตกลงไปต่ำถึงภูมิอสูร แม้มีอำนาจมากล้น แต่คงไม่พ้นถูก เทวดา' ปลิ้นหลอก จนต้องทำสงครามกันอยู่ร่ำไป

 

ส่วนเทวดานั้นเพราะสุขสบายจนติดใจ ไม่อยากลงมาต่ำตามกรรมที่ทำไว้จึงดิ้นรนหาชัยชนะให้ตัวเองอยู่ร่ำไปจนไม่สนใจวิธีการและครรลองแห่งธรรม เพราะแม้เป็นพระอินทร์ก็ตกบัลลังก์ได้ หากมีใครทำกรรมบารมีของพระอินทร์สำเร็จ พระอินทร์บางคนกลัวมีพระอินทร์องค์ใหม่จึงตัดแข้งตัดขาคนอื่นไม่ให้ขึ้นมาแทน แม้แต่เทวดาระดับสูงยังมีความกลัว ในหมู่เทวดาจึงมีการเมือง

 

เสียดายก็แต่คนในมนุษย์ภูมิเวลานี้ถูกการปลุกระดมนำพาอารมณ์ไปมากจนลืมสติและบดบังปัญญาไปแทบสิ้น เวลานี้สถานะเทวดาเริ่มไม่มั่นคง ดูกันดีๆ การเมืองของเทวดาคราวนี้อาจไม่ได้หลอกแค่อสุราแต่จะหลอกมนุษย์ไปทำสงครามกับอสูรแทน

 

ตอนนี้เวลามองกองทัพที่ปากพร่ำพูดเรื่องธรรมะแล้วเห็นเป็นประหลาด ดูไม่สงบ สว่าง และเกิดปัญญา แต่กลับพาลนึกถึงหนังไทยที่เคยดูตอนเด็กๆ สังเกตดูหากมีไอ้ลูกกำนันกร่างๆ บอกให้ล้อม ให้จัดการ ให้ไประรานคนนั้นที คนนี้ที ไม่รู้จบแล้วล่ะก็ เดาไว้ก่อนได้เลยว่า "ไอ้นั่น มันเป็นตัวโกงแน่"

 

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
แดง ใบเตย  1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนขึ้นเพื่อโจมตีกลุ่มปัญญาชนเก๋ไก๋ทั้งหลาย ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์กระแส "เคอิโงะ"    2. ดวงของเคอิโงะแหม่มโพดำ"เคอิโงะ" เสี่ยงได้ไพ่ "แหม่มโพดำ" ดวงดีมากมาย  3. บทกวีแด่เคอิโงะเ ร า ก็ ไ ม่ ท ร า บ ว่ า จู่ ๆ คุ ณ ดั ง  ขึ้ น ม า ไ ด้ เ ยี่ ย ง ไร "เ ค อิ โ ง ะ"สำ ห รั บ ผ ม เ ริ่ ม แ ร ก ก็ อ อ ก จ ะ ห มั่ น ไ ส้ คุ ณ อ ยู่ ม า ก เ ล ย ที เ ดี ย วแ ต่ สำ ห รั บ ผู้ ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ฉ ล า ด ห ลั ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ นี่ ยิ่ ง น่ า ห มั่ น ไ ส้ ก ว่ ามั น ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม กั บ คุ ณ…
Hit & Run
Ko We Kyaw ไร่ปลูกสบู่ดำริมทางบนถนนระหว่างเมืองเจ้าปะต่าวกับมิตทีลา ภาคมัณฑะเลย์ ภาพถ่ายในเดือนพฤษภาคม 2551 (ที่มา: Kowekyaw/Prachataiburma)   พฤษภาคม 25511. ผมอยู่บนรถโดยสารเก่าๆ แล่นออกจากเมืองเจ้าปะต่าว (Kyaukpadaung) มุ่งสู่มิตทีลา (Meiktila) ภาคมัณฑะเลย์ ใจกลางเขตแล้งฝน (dry zone) ของสหภาพพม่า สองข้างทางซึ่งเป็นดินแดงๆ จึงเหมาะจะปลูกเฉพาะพืชทนแล้ง โดยเมืองเจ้าปะต่าวถือเป็นแหล่งปลูกตาล ส่วนเนินแห้งแล้งรอบทะเลสาบมิตทีลาก็เป็นแหล่งปลูกฝ้าย แต่สองข้างทางของถนนที่ผมกำลังเดินทางกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยโครงการปลูกพืชพลังงานชนิดใหม่ “สบู่ดำ”…
Hit & Run
  โดย เพณิญ               ในสถานการณ์แบบนี้ ‘ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ‘อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ‘ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี            ‘ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก หนึ่งคือ ‘อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE…
Hit & Run
อย่างที่รู้ๆ และแทบไม่อยากจะย้ำให้เจ็บช้ำหัวใจกันว่าเศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (จากอเมริกา) ที่ส่งกระทบข้ามฟ้ามามาไกลถึงบ้านเรา ทำให้ผู้นำประเทศต้องออกโรงคิดหานโยบายมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   บวกด้วยความที่นายกคนหนุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าคนจนเศรษฐกิจไม่ดี นายกต้องช่วยเหลือ และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มกำลังซื้อให้กับคน ที่เป็นการช่วยธุรกิจโดยไม่ต้องไปบิดเบือนกลไกตลาด แบบว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติให้มีเงินหมุนเวียน   ดังนั้น โครงการใหม่ถอดด้าม “เช็คช่วยชาติ” จึงริเริ่มและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช็คจำนวน 9.6 ล้านใบ…
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด…
Hit & Run
Ko We Kyaw เมื่อวันที่ 13 มีนาคม หรือเมื่อวานนี้ นักกิจกรรมพม่ารุ่น’88 ในประเทศไทย นำโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) และสมัชชาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (the Forum for Democracy in Burma - FDB) จัด “Free Burma’s Political Prisoners Now!” (“ปล่อยนักโทษการเมืองในพม่าเดี๋ยวนี้!”) (www.fbppn.net) โดยมีการจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) กรุงเทพมหานคร และที่ศูนย์นานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อล่ารายชื่อกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งขิ่น โอมาร์ (Khin Ohmar)…
Hit & Run
  จันทร์ ในบ่อ ‘วันวาเลนไทน์' หรือ ‘วันเสียตัวแห่งชาติ'เป็นวันที่มีความเชื่อกันว่า ‘ผีกระจู๋' จะถูกปลดปล่อยออกมาเพ่นพ่านด้วยฤทธาแห่งความความกำหนัด โดยเฉพาะในวันที่ความรักเบ่งบานฉ่ำบรรดาพ่อมดหมอผีจะเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์แห่งมนต์ดำกฤษณาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว 
Hit & Run
  ธงดอง จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์  "ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดีไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดีฉันเป็นคนบ้า" ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ก็คือประเด็น "คดีหมิ่นฯ" ที่กลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่หนุ่มไม่เต็มบาทนั่งเหม่อลืมยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์, ม็อบคนบ้า(การเมืองจนเข้าเส้น)ที่ปราศรัยมันเกินเหตุจนเกิดเรื่อง, ฝรั่งเพี้ยนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่อยเปื่อย จนลามมาถึงนักวิชาการ นักการเมือง นักท่องอินเตอร์เน็ตเพี้ยนๆ ออกมาโดนซิวเป็นระยะๆ ตามหน้าข่าวแต่ประเทศนี้มันก็ช่างน่าขันเหลือเกิน โทษสำหรับคนเพี้ยนบ้าแบบนี้…
Hit & Run
  จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์  เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ  มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่ง วันเด็กปีนี้ แม้ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากจะให้คำขวัญ คำอวยพรกับเด็กๆ บ้าง... มีฟามสุขมั่กๆ อย่าแสบให้มากนักนะตัวเอง...   ปีนี้มหกรรมวันเด็กค่อนข้างคึกคัก ข่าวคราวต่างๆ ถูกรายงานเยอะแยะมากมายตามประสาบ้านเมืองที่สงบสุขแล้ว...ชิลๆ สังเกตได้ง่ายๆ เพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ (ยิ่งดราม่าๆ หน่อยยิ่งเจ๋ง) มักจะมีสีสันอยู่ในกระแสมากเป็นพิเศษเสมอ   คำขวัญวันเด็กที่ทั่นนายกฯ "อภิสิทธิ์" ให้ในปีนี้ เด็กจริง เด็กโข่ง ต่างก็รู้กันทั่วหน้าแล้ว นั่นคือ "ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"   ไม่รู้ว่าเด็กยุคดิจิตอลรุ่นนี้คิดยังไง...
Hit & Run
 จันทร์ ในบ่อ ก่อนอื่นขอ "สวัสดีปีใหม่ครับ" ปีใหม่นี้คนไทยมีนายกฯใหม่ แต่ยังต้องเซ็งที่มีการเมือง(โครต)เก่า ‘ผู้จัดการ' ก็คนหน้าเก่าเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้อง ‘การเมืองใหม่' กันให้วุ่นวายทำไมเป็นเดือนๆอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ลงทุน ‘โฟนอิน' มาเป็นรอบๆ ขู่จนเสื้อเหลืองเสื้อเขียวสะดุ้งไปหลายเฮือก แต่สุดท้ายหวยล็อค ได้ฮาตรงที่เขาบอกกันว่า ‘ประชาธิปัตย์' ก็มากับเสียง ‘โฟนอิน' !?? ที่สำคัญโฟนอินนี้ทำเอา ‘เสื้อแดง' มึนตึ้บเป็นแถว เช้ามาพูดได้คำเดียวว่า "มาม่า...อร่อย "เอาล่ะ..เรื่องการเมืองไว้ค่อยว่ากันต่อ แต่ตอนนี้ขอพักฉลองเทศกาลปีใหม่สากลสักสองสามวันร่วมกับคนทั้งโลก ขออวยพรแบบสากลหน่อย"…
Hit & Run
  คิม ไชยสุขประเสริฐ  ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน