Skip to main content

ภาพันธ์ รักษ์ศรีทอง

เพื่อนนักโบราณคดีส่งภาพความเสียหายที่ ‘ปราสาทหินพนมรุ้ง’ จังหวัดบุรีรัมย์มาให้ดูอย่างเศร้าๆ สะพานนาคราชชั้นที่ 1, 2 และ 3 เศียรนาคถูกตีใบหน้าตรงส่วนปากกึ่งจมูก เสียหายไป 13 เศียร โคนนทิ พาหนะแห่งองค์ศิวะถูกตีทำลายบริเวณใบหน้า ส่วน ‘แท่งศิวลึงค์’ ศูนย์กลางแห่งจักรวาลในไศวะนิกาย สัญลักษณ์แห่งองค์ศิวะถูกเคลื่อนย้ายจากตำแหน่งเดิมบนฐานโยนีแล้วเอาลงไปวางไว้ในร่องน้ำมนต์

ข้างนอกปราสาทแม้แต่ทวารบาลผู้รักษาประตูประจำทิศใต้ก็ไม่อาจรักษาดูแลตัวเองได้ แขนและมือถูกทำลายมือข้างหนึ่งถูกวางไว้ที่สะพานนาคราชชั้นที่ 1 มืออีกข้างถูกเอาไปวางที่สะพานนาคราชชั้นที่ 2 ด้านทิศเหนือ สิงห์ทวารบาลด้านทิศตะวันตกของปราสาทใบหน้าถูกทำลายทั้ง 2 ตัว รวมจำนวนตำแหน่งของโบราณสถานที่ได้รับความเสียหายทั้งสิ้น 18 แห่ง

ที่วงกลมกลีบบัวบนพื้นพบเครื่องบูชาเป็นพวงมาลัย บุหรี่ แก้วน้ำ เงินเหรียญ 10 บาท มีข้อสันนิษฐานกันว่าเบื้องลึกแล้วคงเป็นการทำพิธีกรรมบางอย่างเพื่อสลาย ‘อำนาจ’ โดยมีเป้ามุ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลายฝ่ายผูกโยงกันไปเป็น ‘คุณไสยทางการเมือง’ ที่จงใจทำให้สัญลักษณ์ของการเคลื่อนย้ายเปลี่ยนแปลง ‘ศิวลึงค์’ อันเป็นศูนย์กลางโลกและการกำเนิดไป ‘ลดทอนพลัง’ บางอย่างของคนบางคน.. โดยเฉพาะ ‘คนเล่นของเขมร’ แถวๆ บุรีรัมย์..คนที่คุณก็รู้ว่าใคร

คุณไสยการเมืองนี้ก็คล้ายกับกรณี ‘ทุบพระพรหมเอราวัณ’ กับ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ที่ถูกนำมาผูกโยงกันก่อนการรัฐประหาร 19 กันยายน 2549  แม้แต่คนในวงการโหรที่ชอบโหนอย่าง วารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ หรือที่รู้จักกันในนามโหร คมช.ก็รีบสะท้อนออกมาว่า จะเกิดวิกฤตไม่ว่าภัยธรรมชาติหรือเหตุการณ์นองเลือด ให้ทำบุญรักษาศีลกันไว้เยอะๆ ให้หันหน้าเข้าหากัน เลยไม่วายกล่าวถึง ‘น้าจิ๋วหวานเจี๊ยบ’ ให้มาช่วยประคอง ‘ลุงหมัก’ ด้วย

ก็ว่ากันไป..การเมืองกับไสยศาสตร์

อีกมุมมองหนึ่งก็น่าสนใจไม่น้อยเพราะการทุบทำลายโบราณวัตถุในโบราณสถานครั้งนี้อาจมีเงื่อนงำความขัดแย้งจากภายในกรมศิลปากรท้องถิ่นเอง บล็อกเกอร์ชื่อ  ‘ศุภศรุต’ ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าของที่ถูกทุบทำลายเป็นเฉพาะรูปที่เป็นซีเมนต์หล่อจำลองใหม่อายุไม่กี่ปี เครื่องบูชาๆ ขอขมาก็เป็นของง่ายๆ เพียงแค่บุหรี่ หรือดอกไม้ธูปเทียน เท่านั้น บางทีการทุบทำลายเพียงของจำลองอาจเป็นการตั้งใจเลือกของ “กลุ่มคน” ผู้เสียผลประโยชน์ อาจเป็นทั้งลูกจ้าง ข้าราชการ แม่ค้า พระ ที่อยู่รายล้อมรอบซากปราสาทโบราณมาก่อนแต่ถูกกีดกันออกไปจากเดิม  

ก็ไม่แน่..ผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร

แต่ที่แน่ๆ การทุบทำลายครั้งนี้ เป็นการทุบทำลายความรู้สึกของคนท้องถิ่น เพราะไม่ว่าปราสาทพนมรุ้งจะสร้างด้วยแรงศรัทธาแบบฮินดู ที่ดูห่างไกลกับศรัทธาในสังคมพุทธและผีแบบสังคมไทยในปัจจุบันก็ตาม แต่แท้จริงแล้วปราสาทพนมรุ้งยังคงมีพลังทางวิญญาณที่ส่งผ่านกาลเวลามาถึงผู้คนรุ่นปัจจุบันอย่างไม่เสื่อมคลาย หินทรายไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ ที่นี่ยังคงซึมซับศรัทธาทุกแบบไว้อยู่เสมอ

แต่ไม่ว่าคำตอบของการทุบทำลายจะไปตามแนวประเด็นใดก็ตาม มันก็ล้วนสะท้อนวิธีคิดของสังคมที่มีต่อ ‘มรดกทางวัฒนธรรม’ อยู่ไม่น้อย ‘คุณค่า’ ของโบราณวัตถุ/ สถานควรจะถูกหวงแหนไว้แบบใดกันแน่

ครั้งหนึ่งที่ปราสาทพนมรุ้งแห่งนี้นี้ เคยเป็นจุดกำเนิดของเรียกร้อง ‘ทับหลังนารายณ์บรรทมสินธุ์’ กันแทบเป็นแทบตาย เพราะมันถูกขโมยจากที่นี่ไปจนถึงพิพิธภัณฑ์ชิคาโก สหรัฐอเมริกา เราเคยคิดกันไปถึงว่าภูมิหลังแห่งชาติถูกขโมยไปเสียด้วยซ้ำในครานั้น แต่เมื่อ ‘ทับหลัง’ กลับมา เพียงเวลาผ่านไป 20 ปีนี้ สังคมไทยคงลืมทับหลังที่สลักภาพองค์นารายณ์อนันตศายินที่มีดอกปัทมะผุดพรายจากนาภะ พรหมสถิตย์อยู่เหนือดอกบัวเสด็จสู่การสร้างโลกชิ้นนี้ไปแล้ว และบางคนอาจนึกไปเลยว่า ‘เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยหรือ’

หรือบางทีที่เราลืมเป็นเพราะหินทรายที่ถูกขโมยครั้งนั้นหรืออิฐเก่าๆ ก้อนหนึ่งที่ถูกทำลายครั้งนี้อาจไม่มีค่ามากมายเพียงเพราะอิฐเก่าๆ ก้อนนั้นไม่ใช่อิฐเก่าๆ ของ ‘สุโขทัย’ ของ ‘อยุธยา’ ที่ทำให้ ‘รัตนโกสินทร์’ มีความหมาย มันแค่เป็นเพียงอิฐเก่าๆ ของพวก ‘ขอม’ ที่มาสร้างไว้ในเขตประเทศไทยเท่านั้นเอง

ปราสาทหินพนมรุ้งอันวิจิตรสำหรับสังคมไทยอาจเป็นเพียงฉากถ่ายรูปฉากหนึ่งที่สวยงามของจังหวัดบุรีรัมย์ ผ่านมาครั้งหนึ่งแล้วก็ผ่านไป แต่...จะสามารถมองลงไปให้ลึกกว่านั้นได้หรือไม่ เพราะหินทรายแต่ละก้อนที่ก่อเป็นปราสาทมันยังมีเรื่องเล่าอีกมากมายซ่อนอยู่ตั้งแต่เรื่องของผู้คน แรงงาน นักบวช ศาสนา พิธีกรรม ปากท้อง เศรษฐกิจไปจนถึงเรื่องราวของเจ้านายผู้ปกครอง

ลองฟังดูดีๆ สิ... อิฐ หิน ดินและทรายในโบราณสถานมันพูดได้จริงๆ

ปราสาทพนมรุ้งบอกเราคร่าวๆ ถึงร่องรอยความเชื่อมต่อสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมที่ทำให้เราลืมเลือนเส้นเขตแดนประเทศได้อย่างน่าสนใจ เช่น จารึกที่พบหลักหนึ่งบอกเราให้ทราบว่าผู้สร้างปราสาท ‘นเรนทราทิตย์’ เจ้านายแห่งราชวงศ์มหิทรปุระ ที่ปกครองดินแดนแถบนี้ เป็นต้นตระกูลของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ผู้สร้างนครวัด อันงามตระการ อย่างน้อยครั้งหนึ่งคนที่นี่กับคนในกัมพูชาก็คงเป็นเครือญาติกัน และถ้าไม่มองแบบเหยียดคนอื่นกันเกินไป บางทีความเป็นเครือญาติกันนับพันปีมันก็อาจซ่อนอยู่ในเซลล์เม็ดเล็กๆ เม็ดไหนเม็ดหนึ่งของเรา

พนมรุ้งแม้เป็นเรื่องราวอันไพศาลของศาสนาหรือเจ้าผู้ปกครอง แต่กระนั้นเองพนมรุ้งและปราสาทหินใหญ่โตในวัฒนธรรมแบบขอมก็บอกและช่วยตอกย้ำให้เห็นว่า ‘ทาส’ หรือ ‘แรงงาน’ ผู้สร้างปราสาทอันใหญ่โตพิศวงนี้ถูกกดขี่เช่นไร และทำไม ‘ชนชั้นปกครอง’ แบบขอมอ่อนแอลงเรื่อยๆ และหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์อย่างรวดเร็ว

บางทีในความงามก็ซ่อนไว้ด้วยความจริงของประวัติศาสตร์อีกลักษณ์หนึ่ง และอาจเป็นบทเรียนสำคัญให้ใครบางคนได้เช่นกัน

และอาจมีเรื่องราวอีกมากมายอาจซ่อนอยู่ในหินทรายหรือในอิฐที่ถูกทุบ ไม่ว่ามันจะเป็นของใหม่หรือเก่าก็ตาม เพราะทั้งหมดมันย่อมมีนัยแห่งการผสมผสานกลมกลืนอย่างซับซ้อนและสะท้อนออกมาเป็นหลักฐานทางวัฒนธรรม ไม่วันนี้ก็ในอนาคตข้างหน้า มันจึงควรจะยังอยู่ให้เราค้นหาและส่งผ่านไปต่อให้คนในวันข้างหน้าได้สนุกกับเรื่องราวที่มันเล่าผ่านบ้าง เรามีแง่คิดกับมัน เรามีบทเรียนกับมัน จะผิดบ้างหรือถูกบ้าง... ว่ากันไป

แต่ในตอนนี้หากเรายังไม่หาคำตอบของ 20 ปีก่อนที่ว่า “เราทวงคืนทับหลังฯ มาทำไม” ไม่ได้ การทุบทำลายใดๆ มันก็คงเกิดขึ้นได้อีก เพราะเรื่องเหล่านี้เราอาจไม่ได้สนใจอะไรมันกว่ากระแสตามหน้าสื่อที่ปลุกให้รู้จักและรู้สึกว่ามันสำคัญมันเป็นพักๆ มรดกทางวัฒนธรรมคงสูญสลายจากไปอย่างน่าเสียดายในสภาพแบบนี้ และคงน่าสมน้ำหน้าในวันข้างหน้าที่เราจะตอบอะไรที่เป็นเรื่องราวของเราเองไม่ได้เลย

สำหรับเพื่อนนักโบราณคดีของผม เวลานี้ก็ปล่อยให้มันเศร้าต่อไปก่อนเถอะ... เพราะกรมศิลปากรคงไม่สามารถจ้างยามหรือนักโบราณคดีไปนั่งเฝ้าอิฐทุกก้อนได้จริงๆ แน่นอน

20080524 hitandrun (1)

20080524 hitandrun (2)

20080524 hitandrun (3)

20080524 hitandrun (4)

20080524 hitandrun (5)

20080524 hitandrun (6)

20080524 hitandrun (7)

20080524 hitandrun นารายณ์บรรทมสิทธุ์
นารายณ์บรรทมสิทธุ์

บล็อกของ Hit & Run

Hit & Run
แดง ใบเตย  1. บทสรุปสำหรับผู้บริหารข้อเขียนชิ้นนี้ เขียนขึ้นเพื่อโจมตีกลุ่มปัญญาชนเก๋ไก๋ทั้งหลาย ที่บังอาจวิพากษ์วิจารณ์กระแส "เคอิโงะ"    2. ดวงของเคอิโงะแหม่มโพดำ"เคอิโงะ" เสี่ยงได้ไพ่ "แหม่มโพดำ" ดวงดีมากมาย  3. บทกวีแด่เคอิโงะเ ร า ก็ ไ ม่ ท ร า บ ว่ า จู่ ๆ คุ ณ ดั ง  ขึ้ น ม า ไ ด้ เ ยี่ ย ง ไร "เ ค อิ โ ง ะ"สำ ห รั บ ผ ม เ ริ่ ม แ ร ก ก็ อ อ ก จ ะ ห มั่ น ไ ส้ คุ ณ อ ยู่ ม า ก เ ล ย ที เ ดี ย วแ ต่ สำ ห รั บ ผู้ ที่ แ ส ด ง ค ว า ม ฉ ล า ด ห ลั ง เ ห ตุ ก า ร ณ์ นี่ ยิ่ ง น่ า ห มั่ น ไ ส้ ก ว่ ามั น ไ ม่ ใ ช่ เ รื่ อ ง ข อ ง ผ ม กั บ คุ ณ…
Hit & Run
Ko We Kyaw ไร่ปลูกสบู่ดำริมทางบนถนนระหว่างเมืองเจ้าปะต่าวกับมิตทีลา ภาคมัณฑะเลย์ ภาพถ่ายในเดือนพฤษภาคม 2551 (ที่มา: Kowekyaw/Prachataiburma)   พฤษภาคม 25511. ผมอยู่บนรถโดยสารเก่าๆ แล่นออกจากเมืองเจ้าปะต่าว (Kyaukpadaung) มุ่งสู่มิตทีลา (Meiktila) ภาคมัณฑะเลย์ ใจกลางเขตแล้งฝน (dry zone) ของสหภาพพม่า สองข้างทางซึ่งเป็นดินแดงๆ จึงเหมาะจะปลูกเฉพาะพืชทนแล้ง โดยเมืองเจ้าปะต่าวถือเป็นแหล่งปลูกตาล ส่วนเนินแห้งแล้งรอบทะเลสาบมิตทีลาก็เป็นแหล่งปลูกฝ้าย แต่สองข้างทางของถนนที่ผมกำลังเดินทางกำลังเปลี่ยนโฉมหน้าด้วยโครงการปลูกพืชพลังงานชนิดใหม่ “สบู่ดำ”…
Hit & Run
  โดย เพณิญ               ในสถานการณ์แบบนี้ ‘ตัวละคร' ที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมอย่างมาก คงหนีไม่พ้น ‘อาซาคุระ เคตะ' นายกรัฐมนตรีหนุ่มสุดหล่อแห่งประเทศญี่ปุ่น และ ‘ลีซาน' พระราชาผู้เป็นที่รักของประชาชนมากที่สุดในประวัติศาสตร์เกาหลี            ‘ตัวละคร' ทั้งสองปรากฏตัวอย่างมีนัยยะสำคัญและเป็นที่กล่าวขวัญถึงเป็นอย่างมาก หนึ่งคือ ‘อาซาคุระ เคตะ' ตัวละครที่ไม่เคยสนใจการเมือง แต่ต้องก้าวเข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรีในภาวะการเมืองสูญญากาศของประเทศญี่ปุ่นจาก CHANGE…
Hit & Run
อย่างที่รู้ๆ และแทบไม่อยากจะย้ำให้เจ็บช้ำหัวใจกันว่าเศรษฐกิจประเทศไทยได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจแฮมเบอร์เกอร์ (จากอเมริกา) ที่ส่งกระทบข้ามฟ้ามามาไกลถึงบ้านเรา ทำให้ผู้นำประเทศต้องออกโรงคิดหานโยบายมาแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   บวกด้วยความที่นายกคนหนุ่มอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เห็นว่าคนจนเศรษฐกิจไม่ดี นายกต้องช่วยเหลือ และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเพิ่มกำลังซื้อให้กับคน ที่เป็นการช่วยธุรกิจโดยไม่ต้องไปบิดเบือนกลไกตลาด แบบว่าเป็นการช่วยเศรษฐกิจชาติให้มีเงินหมุนเวียน   ดังนั้น โครงการใหม่ถอดด้าม “เช็คช่วยชาติ” จึงริเริ่มและดำเนินการอย่างรวดเร็ว เช็คจำนวน 9.6 ล้านใบ…
Hit & Run
  กรกช เพียงใจ  ห้องพิจารณาคดี 713 ศาลอาญา รัชดาผู้พิพากษาสองคนเดินมานั่งบนบัลลังก์ เบื้องหลังบัลลังก์เป็นผนังไม้อย่างดีสีน้ำตาลเข้ม ทำให้ทั้งห้องดูเคร่งขรึมน่าเกรงขาม สูงขึ้นไปบนผนังติดพระบรมฉายาลักษณ์ในกรอบสีทองเหลืองอร่ามทุกคนลุกขึ้นยืนทำความเคารพ มีญาติผู้ต้องขังสองสามคน อัยการ ทนายความ เจ้าหน้าที่ผู้คุมตัวผู้ต้องขัง รวมถึงผู้ต้องขังหญิงในชุดนักโทษอุฉกรรจ์สีน้ำตาล ขลิบปลายแขนแดง ‘ดารณี' ถูกจับกุมที่บ้านพัก ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัว และติดคุกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี ระหว่างที่คดีเพิ่งเริ่มพิจารณา และนัดหมายการไต่สวนพยานครั้งแรกกันอีก 6 เดือนข้างหน้า 0000"ไอ้ที่พี่พูด…
Hit & Run
Ko We Kyaw เมื่อวันที่ 13 มีนาคม หรือเมื่อวานนี้ นักกิจกรรมพม่ารุ่น’88 ในประเทศไทย นำโดยสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองในพม่า (Assistance Association for Political Prisoners-Burma - AAPP) และสมัชชาเพื่อประชาธิปไตยในพม่า (the Forum for Democracy in Burma - FDB) จัด “Free Burma’s Political Prisoners Now!” (“ปล่อยนักโทษการเมืองในพม่าเดี๋ยวนี้!”) (www.fbppn.net) โดยมีการจัดแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศ (FCCT) กรุงเทพมหานคร และที่ศูนย์นานาชาติ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อล่ารายชื่อกดดันให้รัฐบาลทหารพม่าปล่อยตัวนักโทษการเมือง ซึ่งขิ่น โอมาร์ (Khin Ohmar)…
Hit & Run
  จันทร์ ในบ่อ ‘วันวาเลนไทน์' หรือ ‘วันเสียตัวแห่งชาติ'เป็นวันที่มีความเชื่อกันว่า ‘ผีกระจู๋' จะถูกปลดปล่อยออกมาเพ่นพ่านด้วยฤทธาแห่งความความกำหนัด โดยเฉพาะในวันที่ความรักเบ่งบานฉ่ำบรรดาพ่อมดหมอผีจะเกรงกลัวเป็นที่สุด เพราะเชื่อกันว่าอิทธิฤทธิ์แห่งมนต์ดำกฤษณาจะเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติอีกหลายเท่าตัว 
Hit & Run
  ธงดอง จันทร์อังคารพุธพฤหัสศุกร์  "ฉันเป็นคนบ้า เพราะว่าสติไม่ดีไม่ใช่คนไม่ดี ฉันมีสติไม่ดีฉันเป็นคนบ้า" ประเด็นที่ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วในปัจจุบัน ก็คือประเด็น "คดีหมิ่นฯ" ที่กลายเป็นเรื่องกล่าวขวัญในสังคมอย่างกว้างขวางอยู่ในขณะนี้เริ่มตั้งแต่หนุ่มไม่เต็มบาทนั่งเหม่อลืมยืนเคารพเพลงสรรเสริญในโรงภาพยนตร์, ม็อบคนบ้า(การเมืองจนเข้าเส้น)ที่ปราศรัยมันเกินเหตุจนเกิดเรื่อง, ฝรั่งเพี้ยนที่ชอบขีดๆ เขียนๆ เรื่อยเปื่อย จนลามมาถึงนักวิชาการ นักการเมือง นักท่องอินเตอร์เน็ตเพี้ยนๆ ออกมาโดนซิวเป็นระยะๆ ตามหน้าข่าวแต่ประเทศนี้มันก็ช่างน่าขันเหลือเกิน โทษสำหรับคนเพี้ยนบ้าแบบนี้…
Hit & Run
  จิรนันท์ หาญธำรงวิทย์  เมื่อปีที่แล้ว ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก สถานีโทรทัศน์ในจีนถูกสั่งให้ดีเลย์สัญญาณออกอากาศออกไป 10 วินาที เพื่อพวกเขาจะได้มีเวลาจัดการกับการแพร่ภาพในกรณีที่เกิดการประท้วงจากกลุ่มที่เรียกร้องให้ปลดปล่อยทิเบต หรือกลุ่มทางการเมืองอื่นๆ  มาหนนี้ ดูเหมือนสถานีโทรทัศน์ CCTV ของจีนจะไม่ได้เตรียมการอะไรไว้ระหว่างถ่ายทอดสดการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามาในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของวันที่ 20 ก.พ. (เวลาประเทศจีน) เพราะขณะแพร่ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของโอบามา พร้อมๆ กับแปลไปด้วยนั้น อยู่ๆ…
Hit & Run
มุทิตา เชื้อชั่ง วันเด็กปีนี้ แม้ไม่ใช่นายกรัฐมนตรี แต่ก็อยากจะให้คำขวัญ คำอวยพรกับเด็กๆ บ้าง... มีฟามสุขมั่กๆ อย่าแสบให้มากนักนะตัวเอง...   ปีนี้มหกรรมวันเด็กค่อนข้างคึกคัก ข่าวคราวต่างๆ ถูกรายงานเยอะแยะมากมายตามประสาบ้านเมืองที่สงบสุขแล้ว...ชิลๆ สังเกตได้ง่ายๆ เพราะเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ (ยิ่งดราม่าๆ หน่อยยิ่งเจ๋ง) มักจะมีสีสันอยู่ในกระแสมากเป็นพิเศษเสมอ   คำขวัญวันเด็กที่ทั่นนายกฯ "อภิสิทธิ์" ให้ในปีนี้ เด็กจริง เด็กโข่ง ต่างก็รู้กันทั่วหน้าแล้ว นั่นคือ "ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี"   ไม่รู้ว่าเด็กยุคดิจิตอลรุ่นนี้คิดยังไง...
Hit & Run
 จันทร์ ในบ่อ ก่อนอื่นขอ "สวัสดีปีใหม่ครับ" ปีใหม่นี้คนไทยมีนายกฯใหม่ แต่ยังต้องเซ็งที่มีการเมือง(โครต)เก่า ‘ผู้จัดการ' ก็คนหน้าเก่าเลยไม่รู้ว่าจะเรียกร้อง ‘การเมืองใหม่' กันให้วุ่นวายทำไมเป็นเดือนๆอีกฝ่ายก็อุตส่าห์ลงทุน ‘โฟนอิน' มาเป็นรอบๆ ขู่จนเสื้อเหลืองเสื้อเขียวสะดุ้งไปหลายเฮือก แต่สุดท้ายหวยล็อค ได้ฮาตรงที่เขาบอกกันว่า ‘ประชาธิปัตย์' ก็มากับเสียง ‘โฟนอิน' !?? ที่สำคัญโฟนอินนี้ทำเอา ‘เสื้อแดง' มึนตึ้บเป็นแถว เช้ามาพูดได้คำเดียวว่า "มาม่า...อร่อย "เอาล่ะ..เรื่องการเมืองไว้ค่อยว่ากันต่อ แต่ตอนนี้ขอพักฉลองเทศกาลปีใหม่สากลสักสองสามวันร่วมกับคนทั้งโลก ขออวยพรแบบสากลหน่อย"…
Hit & Run
  คิม ไชยสุขประเสริฐ  ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน