Skip to main content

01.jpg

1

มืดมน –แลเงียบงัน
ไร้ที่ทางให้ความฝันอันแตกต่าง
เส้นทางร้างไร้ผู้เดินทาง
ฟ้ามืด - ดินกว้างไร้ทางชน…

เออหนอ… “ประชาธิปไตย”
อีกกี่นาน? อีกกี่ไกล? อีกกี่หน?
อีกกี่ปืน? – พลีอีกกี่วีรชน?
…เลือนราง - จางปนในเปลวควัน

เออหนอ… “สิทธิ์ – เสรี”
มีเพียงในบทกวีและความฝัน?
เออหนอ… ฟ้าสีทองผ่องอำพัน
ประชาชนเหล่านั้นอยู่มุมใด?


2

…เสียงหนึ่งลอบมาในความฝัน
สำเนียงชวนทั้งหวาดหวั่นและหลงใหล
ทั้งขู่-ปลอบ ทั้งปรักปรำ ทั้งกล่อมใจ
จึงเคลิบเคลิ้มไปทั้งกล้ำกลืน…

“… หยุดเสีย - หยุดร้องหาเสรีภาพ!
นิ่งเสีย – แล้วก้มกราบกระบอกปืน!
หยุดคิด! หยุดฝัน! หยุดแข็งขืน!
อยากอยู่ยืนก้มหน้ารับสดับฟัง!

อำนาจนั้นประชาชนมิพึงมี
ลืมให้สิ้น - สิทธิ์เสรีแต่หนหลัง
แหลกสลาย-กลายกลับ-ผุพัง
ดังนี้จึงคือ “ความหวัง” อลังการ

เชื่อเถิด --- กระบอกปืนจะโอบเอื้อ
ก่อเกื้อประชาธิปไตยฉายฉาน
มวลมหาประชาชนผู้ทนทาน
สุขสราญอยู่ใต้ฟ้าสถาพร

ดังนี้จึง “ประชาธิปไตย” แบบ “ไทย” แท้
กงเกวียนจึงหมุนแปรสู่กาลก่อน
แลนี้คือชะตาแห่งนาคร
เพียงเจ้าที่ทุกข์ร้อนอยู่ลำพัง!! ...”


3

…คุกเข่า – ขมาวีรชน
ทางข้างหน้าแม้มืดมนจนเกินหวัง
แม้สุดท้ายต้องสลาย - ต้องพ่ายพัง
ข้าฯจะไม่กลับหลังกลืนน้ำลาย !!

หมายเหตุ:
ภาพประกอบจาก www.sameskybooks.org ภาพปกวารสาร ฟ้าเดียวกัน ปีที่ 5 ฉบับที่ 3: กรกฎาคม – กันยายน 2550 “ร่วมฉลองรัฐธรรมนูญฉบับโคตรมหาถาวร” (ขออนุญาตแล้ว)

บล็อกของ กานต์ ณ กานท์

กานต์ ณ กานท์
ใครที่ได้อ่านบทความ “นายกฯ ของวิกฤตการเมือง” [1] ของนิธิ เอียวศรีวงศ์ ที่เพิ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวัน คงรู้สึกงุนงงไม่น้อยว่า อาจารย์นิธิ “กำลังคิดอะไรอยู่”เพราะไม่เพียงในเนื้อหาของบทความดังกล่าว อาจารย์นิธิได้ประกาศไว้ชัดเจนว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ “เหมาะจะเป็นนายกรัฐมนตรีในยามนี้ที่สุด” แต่เหตุผลของความ “เหมาะสมที่สุด” คือ “นายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องกล้าเผชิญกับแรงกดดันจากกองทัพ รวมทั้งแรงกดดันจากองค์กรอิสระอีกมากที่คณะรัฐประหารตั้งขึ้น อย่างอาจหาญและมีศักดิ์ศรีด้วย ดังที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะได้แสดงให้เห็นอย่างนุ่มนวล แต่สง่างามในครั้งนี้”…
กานต์ ณ กานท์
  โธ่เอ๋ย…ประเทศใด?เหมือนคนจับไข้นั่งไม่ติดหลอนตนว่าอยู่เมืองนิรมิตย้ำจำ ย้ำคิด กำกวมโธ่เอ๋ย… “ประชาธิปไตย”หลักการวางไว้ (หลวมๆ)ครึ่งใบ – ค่อนใบ (บวมๆ)รัฐธรรมนูญกองท่วมพานแล้ว!โธ่เอ๋ย… “ประชาชน”กี่ครั้ง กี่หน ทนแห้วแหงนคอรอฟ้าล้าแววมืดแล้ว ดึกแล้ว …ทนคอยอนิจจา… อนิจจัง…ความเอยความหวังอย่าถดถอยแม้กี่ผีซ้ำด้ามพลอยฝากรูปฝังรอยเกลื่อนเมือง โธ่เอ๋ย…ประเทศใด?หลอนตนว่าใครต่างลือเลื่องงามหรูตรูตรามลังเมลืองเฮ้ย! เมืองทั้งเมืองจะจมแล้ว!!
กานต์ ณ กานท์
  การอ้างว่าต้องเร่งผลักดันให้ "ร่าง พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร"i ผ่านออกมาเป็นกฎหมายบังคับใช้ เพื่อจะได้ยกเลิก "กฎอัยการศึก"ii ทั่วประเทศนั้น ฟังแล้วชวนให้รู้สึกทั้งขบขันและเศร้าใจ ผู้ที่ได้อ่านเนื้อหาของร่างพ.ร.บ.ความมั่นคงฯ นี้ ย่อมซาบซึ้งดีถึงนัยยะที่นำไปสู่ความว่างเปล่าของข้ออ้างนั้น แต่ที่น่าเศร้าใจไม่แพ้กันก็คือ การที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตอบข้อท้วงติงในประเด็นความชอบธรรมของรัฐบาลและสนช.ที่มาจากการรัฐประหาร ในการร่างและพิจารณาออกกฎหมาย ด้วยการย้อนว่า "...ที่ผ่านมาสนช.ได้ผ่านกฎหมายมาเป็น 100 ฉบับ ขนาดรัฐธรรมนูญซึ่งเป็นกฎหมายแม่ ยังออกจากสนช..."iii…
กานต์ ณ กานท์
  ฤาอีกกี่รำลึกคร่ำ- ครวญฝากคำผ่านแผ่นดิน กู่ร้องฟ้องแผ่นหิน …ก็เงียบสิ้นอยู่ฉะนี้?
กานต์ ณ กานท์