จงใจและมีจังหวะบอกกล่าวผู้ชมถึงการเปลี่ยนยุคภาษา, ตลกของเรื่องนี้ไม่ใช่ตลกไทยแบบเก่า, หนังเปลี่ยนขนบการเล่าเรื่อง “แม่นาค พระโขนง”, ไม่ได้รับการเล่าบรรยายแบบเคร่งครัดตามขนบการเล่าเรื่องของความเป็นไทยทางการเลย, ผีแม่นาคแม้น่ากลัว แต่ก็สวยชิบเป๋ง แม้จะทำหน้าดุดัน เหี้ยมเกรียม หลอกเอาบ้าง ขู่บ้าง แต่พูดให้ถึงที่สุด เป็นผี non-violence นะครับ แม่นาคเวอร์ชั่นนี้จึงคล้ายไอ้ฟักในคำพิพากษาที่ตกเป็นจำเลยของชาวบ้านอย่างไม่มีทางแก้ตัว
บ่ายนี้ไปทำธุระด่วนกับครอบครัว เลยถือโอกาสไปเข้าคิวยาวเหยียดตีตั๋วดู “พี่มาก พระโขนง” ที่โรงหนังในศูนย์การค้าใกล้บ้านรอบสี่โมงเย็น ดูเสร็จก็ตลกดี ไม่เสียดายเงินเลย (ค่อนข้างต่างจากความรู้สึกเวลาเดินออกจากโรงเมื่อดูหนังไทยเรื่องอื่น ๆ และมีแง่คิดบางอย่างน่าเล่าต่อ.....
1.) คำสนทนาแทบจะประโยคแรกของหนัง สำนวนภาษาไทยสมัย ร.5 “....เพลา....” ทำเอาผมเตรียมเบื่อโดยอัตโนมัติ แต่แล้วตัวละครก็ขัดคอกันเองว่า “โบราณ” และเปลี่ยนเป็นภาษาจิ๊กโก๋ปัจจุบันไปตลอดเรื่อง นับว่าจงใจและมีจังหวะบอกกล่าวผู้ชมถึงการเปลี่ยนยุคภาษา นึกถึงหนังการ์ตูนของ Walt Disney/Dreamworks ที่หลัง ๆ นี้ไม่ว่ากี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ตัวละครพูดสำเนียงเมกันด้วยแสลงนิวยอร์คเหมือนกันหมด
2.) ตลกของเรื่องนี้ไม่ใช่ตลกไทยแบบเก่า (ล้อต๊อก, สีเทา, สมพงษ์ พงษ์มิตร, จำรูญ หนวดจิ๋ม ฯลฯ) และก็ไม่ใช่ตลกเชิญยิ้มแบบที่รู้จักกันดี, แต่เป็นตลกวัยรุ่นร่วมสมัย ชนิดที่เพื่อนนักเรียนร่วมชั้น ม.ปลาย กับลูกสาวผมแซวและฮากันเล่นนั่นแหละ ส่วนใหญ่เป็นตลกแบบ silly ทื่อ ๆ (“พี่มากขา ๆ ๆ” แล้วก็ฉายภาพแมงป่อง ตะขาบ กิ้งกือขามากมายออกมา “นาคจ๋า” แล้วก็ฉายภาพตัวนากเป็น ๆ ออกมามั่ง)
3.) หนังเปลี่ยนขนบการเล่าเรื่อง “แม่นาค พระโขนง” ของหนังไทยอย่างที่คณะผู้สร้างผู้กำกับมาคุยแนะนำทางทีวี คือเปลี่ยนจากการเล่าด้วยมุมมองของแม่นาค, มาเป็นการเล่าด้วยมุมมองของพี่มากมั่ง แต่ร้ายกว่านั้น หนัง revise โครงเรื่องโดยเฉพาะตอนจบแบบไม่เกรงใจธรรมเนียมประเพณีเรื่องเล่าแม่นาคของไทยกันเลย ทำไมไม่จบแบบนี้ล่ะ? ก็จะให้จบแบบนี้อ่ะ? ไม่สมเหตุสมผลกว่าหรือ? ไม่กินใจกว่าหรือ? ต่อให้ไม่ธรรมชาติ (unnatural) และไม่ตรงตามธรรมเนียมคิดแบบไทย (ความเชื่อเรื่องผีและเรื่องพุทธ) (unThai) ก็ตาม
ในแง่มุมนี้ นี่เป็นการริเริ่มลัทธิแก้ (revisionism) การเล่าเรื่องนิทาน/นิยายไทย ๆ ที่ radical, subversive ลึก ๆ มาก แต่ก็ “ปลอดภัย” ตามสมควร เพราะเป็นเรื่องเล่าของสามัญชนกับผี ไม่ใช่ของอำมาตย์หรือเจ้านาย การเสพรับเรื่องเล่าลัทธิแก้ (revisionist narrative) นี้จึงไม่ระคายคอ ราบรื่น กลมกล่อม คล่องคอพอควร อย่าว่าแต่มี humor เป็นผงชูรสซดลื่น ๆ คออย่างดี
4.) คล้ายจงใจคล้ายไร้เจตนา แต่ “สงคราม” ก็ดี (กำกวมพอสบายใจ เพราะคุณไม่เคยเห็นข้าศึกศัตรูเลย), “ชาติ/ชาตินิยม” ก็ดี, “พระ/วัด” ก็ดี ไม่ได้รับการเล่าบรรยายแบบเคร่งครัดตามขนบการเล่าเรื่องของความเป็นไทยทางการเลย ไม่มีนักรบที่วีระอาจหาญ, ไม่มีชัยชนะในสงคราม, ไม่มีข้าศึกตายเกลื่อนสนามรบ, มีแต่เรื่องปลุกใจที่ถูกล้อกลางคัน, บาดแผลของฝ่ายเรา, ทหารผ่านศึกที่สารภาพว่าตลอดการรบไม่คิดถึงชาติประเทศเลย คิดถึงแต่เมีย (แม่นาคได้ยินดังนั้นก็ดุพี่มากว่าไม่ควร - ซึ่งทำให้เบาลงและปลอดภัยต่อหูพนักงานเซ็นเซ่อร์ผู้รักชาติดี), วัดที่ไม่อาจเป็นที่พึ่งกันผีได้ (ไม่ใช่เขตอภัยทานอันศักดิ์สิทธิ์นะ), และพระที่กระโดดกำแพงก่อนญาติโยมเสียอีก 555, ยังไม่ต้องพูดถึงไฟที่ลุกลามล้อมพระพุทธรูปในอุโบสถ ฯลฯ
5.) ผีแม่นาคแม้น่ากลัว แต่ก็สวยชิบเป๋ง (สงสัยว่าสวยที่สุดในบรรดานางเอกที่เล่นเป็นแม่นาคที่เคยแสดงมาหรือเปล่า?) แม้จะทำหน้าดุดัน เหี้ยมเกรียม หลอกเอาบ้าง ขู่บ้าง แต่พูดให้ถึงที่สุด เป็นผี non-violence นะครับ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าเธอฆ่าฟันหรือหลอกใครจนตาย, แม่ค้ายาดองขี้เมาที่จมน้ำตายขึ้นอืด ผีแม่นาคก็อธิบายว่าเมาตกน้ำเอง เธอไม่ได้ฆ่า, ชาวบ้านหวาดระแวงปั้นเรื่องกล่าวหาผีแม่นาคกันไปเองต่างหาก แม่นาคเวอร์ชั่นนี้จึงคล้ายไอ้ฟักในคำพิพากษาที่ตกเป็นจำเลยของชาวบ้านอย่างไม่มีทางแก้ตัว
แต่คำอธิบายอย่างมีเหตุผลของผีแม่นาคได้รับการสดับตรับฟังและโต้ตอบแลกเปลี่ยนที่ผิดขนบวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ที่เคยปฏิบัติต่อผีมาในอดีต นำไปสู่จุดจบของเรื่องที่แปลกต่างออกไป ในระหว่างเสียงหัวเราะร่ากับตลก silly ของสี่สหาย, และน้ำตาที่เอ่อซึมออกมาเพราะซาบซึ้งใจในความรักข้ามโลกของคนกับผี (โดยเฉพาะของคนที่มีต่อผี ย้ำ - ความรักของคนที่มีต่อผี) ผมอดนึกถึงชะตากรรมของผีคอมมิวนิสต์สมัย 6 ตุลาฯ, ผีเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมืองที่ราชประสงค์, และผี BRN ที่ชายแดนภาคใต้ไม่ได้
บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ
เกษียร เตชะพีระ
เราอยู่ในสังคมการเมืองที่มากไปด้วยมรดกของการใช้อำนาจรัฐปิดปากฝ่ายค้านและผู้มีความเห็นต่างไม่ให้ออกสื่ออิเล็กทรอนิกส์เป็นปกติธรรมดามานานปี ดังนั้นเมื่อมีการระงับออกรายการ ไม่ว่าด้วยเหตุผลกลใด (เหนือเมฆ, คนค้นคนตอนศศิน, ฯลฯ) เราจึงคิดแบบแทบจะอัตโนมัติ/เป็นสัญชาตญาณเลยว่า "รัฐบาล", "หน่วยราชการ", "นักการเมือง" แทรกแซงให้แบนอีกแล้ว...
เกษียร เตชะพีระ
แย้งคุณสมเกียรติ อ่อนวิมล: เส้นแบ่งพรรคการเมืองทางรัฐศาสตร์ที่สำคัญคือเป็นพรรคมวลชน (mass party) หรือพรรคชนชั้นนำ (elite party) ไม่ใช่เกณฑ์หละหลวมว่าเป็นพรรคที่ "เกิดและเติบโตจากประชาชน" หรือไม่
เกษียร เตชะพีระ
รวม 15 เรื่องราวการเหยียดเชื้อชาติของคนต่างชาติในเยอรมนี
เกษียร เตชะพีระ
ท่ามกลางข่าวกลุ่มผู้เคร่งศาสนาอิสลามชาวอินโดนีเซียประท้วงการจัดประกวดมิสเวิลด์ประจำปีนี้ที่ประเทศของตน จนทางผู้จัดต้องปรับลดรายการ งดให้ผู้เข้าประกวดนานาชาติใส่ชุดบิกินีแต่ให้ใส่โสร่งบาหลีแทนและยังถูกรัฐบาลอินโดนีเซียสั่งย้ายสถานที่จัดงานจากกรุงจาการ์ตาไปเกาะบาหลีซึ่งคนส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู ก็มีการประกวดนางงามเวอร์ชั่นอิสลามอย่างถูกต้องตามหลักศาสนาที่จาการ์ตาด้วยเหมือนกัน!
เกษียร เตชะพีระ
โลกาภิวัตน์สะดุดลัทธิคุ้มครองการค้า (Protectionism): รัฐบาลนานาชาติทั่วโลกวางมาตรการคุ้มครองการค้าใหม่ถึง ๑๕๔ มาตรการในชั่วปีเดียว!
เกษียร เตชะพีระ
ทำความรู้จัก 'เทเรซ่า ฟอร์คาดส์' แม่ชีคาทอลิกชาวสเปน ปัญญาชนสาธารณะฝ่ายซ้ายที่ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งของยุโรป คนหลายพันพากันเข้าร่วมขบวนการต่อต้านทุนนิยมของเธอซึ่งรณรงค์ให้แคว้นคาตาโลเนียเป็นอิสระ กับนโยบาย ๑๐ ข้อซึ่งเธอกับนักเศรษฐศาสตร์ อาร์คาดี โอลีเวเรส ช่วยกันร่างขึ้น
เกษียร เตชะพีระ
"ในโลกซังกะบ๊วยแบบที่เราอยู่ปัจจุบัน มีการรณรงค์ที่สำคัญกว่าที่เราทำในเงื่อนไขสถานที่ที่เราอยู่เสมอ ประเด็นจึงไม่ใช่หยุดหรือสละการต่อสู้เฉพาะที่เพื่อเห็นแก่เรื่องสำคัญ/ใหญ่กว่า แต่คือฟังกัน เห็นอกเห็นใจกัน เคารพกัน ขยายสร้างความเข้าใจเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ให้แก่กัน หาทางหนุนช่วยเชื่อมโยงกันบนฐานความเข้าใจจุดร่วมและความเชื่อมโยงที่มีอยู่จริงของปัญหาซึ่งกันและกัน"
เกษียร เตชะพีระ
ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางอำนาจระหว่างฝ่ายต่าง ๆ ในมหาวิทยาลัย และระหว่างพื้นที่สิทธิกับอำนาจบริหาร กับกรณี "อั้ม เนโกะ" กับ "4 ภาพ sex" ต้าน "บังคับแต่งชุด นศ.มธ."
เกษียร เตชะพีระ
สมาคมผู้พิพากษาแห่งชาติได้ขออภัยที่ไม่ได้ปกป้องคุ้มครองพลเมืองชิลีในโอกาสระลึก ๔๐ ปีนับแต่รัฐประหารที่นำปิโนเช่ต์ขึ้นสู่อำนาจ
เกษียร เตชะพีระ
วิวัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันกษัตริย์กับชาตินิยม ตั้งแต่ ขั้นการปฏิวัติชาตินิยมในคริสตศตวรรษที่ ๑๘, ขั้นการปรับตัวทางการเมืองของสถาบันกษัตริย์เป็นอยู่ใต้รัฐธรรมนูญและราชาชาตินิยมในคริสตศตวรรษที่ ๑๙ และ ๒๐, ขั้นการปรับตัวทางวัฒนธรรมของสถาบันกษัตริย์เป็นแบบกระฎุมพีในคริสตศตวรรษที่ ๒๐ และขั้นสถาบันกษัตริย์ในยุควัฒนธรรมสื่อทีวีมหาชนปัจจุบัน
เกษียร เตชะพีระ
.. Honi Soit ลงพิมพ์ปกรูปอวัยวะเพศของหญิง ๑๘ คนเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันมีความหลากหลายแตกต่างเป็นปกติธรรมดา ไม่ได้เป็นและไม่จำต้องเป็น "วงขา" อุดมคติอย่างในหนังโป๊เปลือยทั้งหลาย จึงเป็นย่างก้าวสำคัญในการเตะสกัดกระบวนการทำอวัยวะผู้หญิงให้เป็นสินค้าในตลาดทุนนิยม ก่อนมันจะรุกคืบหน้าจากวงแขนลงไปข้างล่าง..