Skip to main content

คิดอย่างนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำพระเจ้าข้า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ....

Kasian Tejapira(16/4/56)

 

หลังวิกฤตซับไพรม์ปะทุเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๐๘ แล้วลุกลามไปจนเศรษฐกิจถดถอยใหญ่ทั่วโลก (The Great Recession) สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่สองแห่งสหราชอาณาจักรได้เข้าร่วมประชุมรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับตลาดระหว่างประเทศโดยบรรดาสุดยอดศาสตราจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ ณ London School of Economics อันดังก้องโลกเมื่อวันที่ ๕ พ.ย. ๒๐๐๘ และตรัสถามว่า: 
 
“ถ้าสิ่งเหล่านี้มันใหญ่โตขนาดนั้น ทำไมไม่มีใครสังเกตเห็นมันล่ะ?” 
ภาพ :  สมเด็จพระราชินีฯเอลิซาเบธพร้อมพระสวามีเสด็จ LSE ฟังบรรยายสรุปวิกฤตเศรษฐกิจโลกปี ๒๐๐๘
 
ศาสตราจารย์นักเศรษฐศาสตร์มือหนึ่งของสหราชอาณาจักร ๓๕ คนต่างอับอายขายขี้หน้าร้อนตัวจึงร่วมกันเขียนหนังสือทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระราชินีฯเอลิซาเบธเพื่อตอบพระราชปุจฉาดังกล่าว ลงวันที่ ๒๒ ก.ค. ๒๐๐๙ http://www.ft.com/cms/3e3b6ca8-7a08-11de-b86f-00144feabdc0.pdf สรุปรวมความว่า:
 
“ด้านหลักแล้วก็เนื่องด้วยผู้ฉลาดปราดเปรื่องจำนวนมากประสบความล้มเหลวด้านจินตนาการรวมหมู่ร่วมกัน...ที่จะเข้าใจบรรดาความเสี่ยงต่อระบบโดยรวมพ่ะย่ะค่ะ”
 
ขยายความก็คือ:
 
หนึ่ง) ประมาณค่านอกช่วงผิด (the error of extrapolation) แปลเป็นภาษาชาวบ้านคือ ประยุกต์วิธีการหรือข้อสรุปที่เคยใช้มาแต่เดิม เอาไปมองหรือคาดเก็งสถานการณ์ที่ตนไม่รู้ โดยทึกทักเอาว่าแนวโน้มอย่างที่เป็นมาคงจะดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ เป็นเส้นตรงไม่แตกต่างพลิกผันเบี่ยงเบน หรือวิธีการที่คุ้นชินจะใช้การได้อยู่สืบไป
 
สอง) ดันฝอยเม้าท์มอยว่าทุกอย่างราบรื่นเรียบร้อยรุ่งเรืองดีซะตัวเองหลงเชื่อคำขี้โม้โอ้อวดของตัวเอง
 
ที่ผมยกเรื่องนี้มาเล่าก็เพื่อเป็นนิทัศน์อุทธาหรณ์สำหรับศรัทธาธิกะทั้งหลายที่เชื่อมั่นอย่างสนิทใจในความสามารถว่าจีนจะจัดการฟองสบู่เศรษฐกิจของตัวเองได้แหงแก๋ไม่ต้องสงสัยลังเล หรือฟองสบู่ที่มีอยู่มันเล็กย่อยเฉพาะส่วนภูมิภาค ไม่ใหญ่โตปกคลุมทั้งระบบ ฯลฯ
 
เจ๋งกะเบ้งอย่างจีนหรือจะพลาดได้ 555
 
อาการอย่างนี้ยิ่งกำเริบหนักตามหลังวิกฤตซับไพรม์ในอเมริกาและวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปปัจจุบัน ซึ่งก่อเกิดความเหลิงลำพองทะนงตัวว่าเมกากับยุโรปล้มเหลวทางวัฒนธรรม เอเชียผิวเหลืองหรือชัดกว่านั้นจีนอภิมหารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลยิ่งใหญ่ต้าฮั่น จะเป็นสุดยอดอภิมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเร็ว ๆ นี้แน่นอน และไม่มีวันบริหารจัดการเศรษฐกิจพลาดเด็ดขาดเพราะได้สรุปบทเรียนจากเมกากับยุโรปมาแล้ว และวัฒนธรรมจีนตาตี่เหนือกว่าวัฒนธรรมฝรั่งตาน้ำข้าวโว้ย ไม่เห็นหรือ วัทธ่อ
 
แหะ ๆ แน่ใจจริง ๆ หรือครับ? ในสภาพที่....
 
- ระบบธนาคารในเงามืด (ธุรกรรมการเงินโดยสถาบันการเงินที่มิใช่ธนาคาร เช่น เงินกู้ที่ปล่อยโดยทรัสต์ หรือไม่ปรากฏในบัญชีงบดุลธนาคารปกติ เช่น ผลิตภัณฑ์บริหารทรัพย์สิน ดังนั้นจึงอยู่นอกเหนือการกำกับควบคุมของทางการ) กำลังบูมในจีน โดยดูจากสัดส่วนของเงินกู้ธนาคารปกติในระบบการเงินทั้งสังคมลดจาก ๙๑% เมื่อปี ๒๐๐๒ --> ๕๒% เมื่อปี ๒๐๑๒ สะท้อนว่าเงินกู้ในเงามืดขยายบทบาทออกไปในระบบการเงินจีน http://www.scmp.com/business/banking-finance/article/1177498/bank-watchdog-vows-control-loan-defaults 
 สถิติผลิตภัณฑ์บริหารทรัพย์สินอันเป็นส่วนหนึ่งของระบบธนาคารในเงามืดของจีน
 
- มูลค่าของผลิตภัณฑ์บริหารทรัพย์สิน (wealth management products) หรือผลิตภัณฑ์การเงินที่ธนาคารนำออกขายแก่นักลงทุนทำกำไร (อันเป็นส่วนหนึ่งของระบบธนาคารในเงามืด) เพิ่มสูงเป็น ๑๓ ล้านล้านหยวนหรือ ๒๕% ของ GDP จีน โดย ๑ ใน ๓ นำไปลงทุนปล่อยกู้ให้โครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลท้องถิ่นและบริษัทเอกชน ซึ่งนับว่าค่อนข้างเสี่ยงสูงกว่าหุ้น, หุ้นกู้, และตราสารระยะสั้นในตลาดเงินตราทั่วไป (อีก ๒ ใน ๓) http://www.scmp.com/business/article/1189410/south-sea-bubble-warning-wealth-management-investors 
 
รอลุ้นกันต่อไปด้วยใจระทึก
ชางฟูลิน ประธานคณะกรรมาธิการกำกับการธนาคารจีน

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
บทกวีไว้อาลัยการจากไปของ 'ไม้หนึ่ง ก.กุนที' ที่ถูกยิงเสียชีวิตวันนี้ "เมื่อกวีจากไปไร้กวี.."
เกษียร เตชะพีระ
ที่คุณสุเทพ ณ กปปส.คัดค้านการเลือกตั้งก่อนปฏิรูป ยืนกรานว่าต้องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ก็มีนัยการเมืองสำคัญตรงนี้ คือต้องทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยให้จงได้ ไม่ให้มันได้คลอดได้ผุดได้เกิดผ่านกระบวนการเลือกตั้งมาลืมตาดูโลก ทำแท้ง “อำนาจอธิปไตย” ของปวงชนชาวไทยได้สำเร็จแล้ว ก็จะได้เคลมตนเองเป็น “รัฏฐาธิปัตย์” แทนนั่นปะไร
เกษียร เตชะพีระ
พลังฮึกห้าวเหิมหาญของม็อบและขบวนการใดที่ก่อตัวขึ้นโดยกัดกร่อนบ่อนทำลายเหล่าสถาบันการเมืองของชาติให้เสื่อมทรุดถดถอยราบคาบลงไป ไม่ว่าจะโดยเจตนาหรือไม่ก็ตาม ย่อมไม่สร้างสรรค์อะไรขึ้นมา มีแต่พลังทำลาย ผลได้ของการเคลื่อนไหว ไม่ยั่งยืน เมื่อฝุ่นหายตลบแล้วก็จะพบว่ามีแต่ซากปรักหักพังแห่งสถาบันการเมืองของชาติทั้งชาติ โดยไม่ได้ดอกผลการต่อสู้อะไรจริงจังยั่งยืนขึ้นมาเลย
เกษียร เตชะพีระ
ข้อสังเกตหลังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยพรบ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทเพื่อสร้างและปรับปรุงระบบลอจิสติกส์ของประเทศใหม่ ผิดรัฐธรรมนูญ
เกษียร เตชะพีระ
ผมอ่านข้อเสนอที่นายกแพทยสภาและบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขแถลงล่าสุดแล้ว มีความเห็นว่ามัน "ไม่เป็นกลาง" ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้...
เกษียร เตชะพีระ
วิธีการที่ผิด ไม่สามารถนำไปสู่เป้าหมายที่ถูกต้องดีงามได้ และคนอื่นเป็นเจ้าของประเทศไทยเหมือนกันเท่ากับผมและคุณ เท่ากันเป๊ะ