จดหมายของนักโทษที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เขียนส่งออกมาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2555
1. ประสิทธิ์ พลอยทับทิม
ขอขอบคุณที่ดูแลพวกกระผมที่ถูกจำคุก และรวมถึงครอบครัวที่อยู่ภายนอกอย่างอบอุ่นตลอดที่ผ่านมา ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจ รวมทั้งซื้ออาหาร สิ่งของเครื่องใช้ เนื่องในเทศการปีใหม่พวกกระผมขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกทั้งหลาย จงคุ้มครองพวกท่านให้มีความสุข มีสุขภาพดีตลอดไปเทอญ (ขอให้รัฐบาลช่วยเหลือกลุ่มเสื้อแดงที่ติดคุกและได้รับความเดือดร้อนด้วย)
2. พิทยา แน่นอุดร คดีมีวัตถุระเบิด
สวัสดีครับ ผมชื่อ พิทยา แน่นอุดร คดีมีวัตถุระเบิด โทษ 7 ปี ติดมาแล้ว 2 ปี 9 เดือน ก่อนอื่นผมขอสวัสดีปีใหม่กับพี่น้องคนเสื้อแดง และก็มวลชนคนเสื้อแดงทั่วทุกสารทิศ ไม่ว่าคุณจะอยู่ไกลแค่ไหน ก็แวะมาเยี่ยม มาให้กำลังใจพวกเรามิได้ขาดหายเลย ตลอดระยะเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมา พวกเราทุก ๆ คน ที่อยู่ข้างในนี้มีกำลังใจและอดทนรอคอยวันที่พวกเราทุก ๆ คนจะเดินออกไปสู่โลกภายนอกอีกครั้ง
ปีใหม่นี้ผมขอให้พี่น้องคนเสื้อแดงทั่วทุกสารทิศจงมีแต่ความสุข มีสุขภาพแข็งแรง มีเงินเต็มประเป๋า และต้องขอขอบคุณ คุณเมย์ – คุณสงคราม – ป้าน้อย – อาจารย์หวาน และน้องสาวนกแดง – น้องเปิ้ล – น้องการ์ตูน – อ.คนึงนิจ อีกคนที่ขาดไม่ได้คือ ป้ากองมาศ ที่ดูแลผมมาตลอดระยะเวลา 2 – 3 ปีที่ผ่านมา ขอให้ทุก ๆ คน มีแต่ความสุขตลอดปี 56 นะครับ ปีใหม่นี้อากาศหนาวแล้ว ป้ากองมาศใส่เสื้อกันหนาวด้วยนะ กลางคืนก็ใส่ถุงมือ ถุงเท้าก่อนนอนนะครับจะได้อบอุ่น และก็นอนสบาย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
3. ฉัตรชัย ใหมเหลือง คดีบุกรุกกระทรวงมหาดไทยเมื่อปี 2552
สวัสดีพี่น้องชาวเสื้อแดงที่รักประชาธิปไตยทุกท่านที่เคารพครับผม ผมนายฉัตรชัย ใหมเหลือง หรืออุ้ย อายุ 31 ปี ความรู้สึกขณะเข้ามาในเรือนจำเซ็งนิดหน่อยครับ แต่พอเข้ามาข้างในรู้สึกซาบซึ้งใจ ที่พี่น้องเสื้อแดงในที่นี้ต้อนรับ ดูแล ซึ่งกันและกันดีมาก ๆ ครับ (ไม่ได้หมายความว่าดีใจที่พี่น้องเสื้อแดงต้องติดคุกอยู่ที่นี่ก่อนนะครับ) นี่แหละคนเสื้อแดงไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน สถานภาพใด ก็ไม่เคยทิ้งกันครับ และขอคารวะหัวใจที่ไม่แพ้ในที่นี้ทุกท่าน อาทิ อ.สุรชัย แซ่ด่าน อ.สมยศ พฤกษาเกษมสุข พี่หนุ่มแดงนนท์ พี่ต้นเชียงใหม่ 51 และอีก 7 คนที่มิได้เอ่ยนาม ทั้ง ๆ ที่มีอัตราโทษสูงนับ 10 ปี แต่มิเคยบ่น หรือย่อท้อที่จะต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม และประชาธิปไตยเลยครับ
สิ่งที่ต้องการมากที่สุดในขณะนี้อยากให้พี่น้องเสื้อแดงทุกคนได้รับอิสรภาพโดยเร็ววัน กำลังใจของทุก ๆ ท่านในที่แห่งนี้ยังเต็มเปี่ยมครับผม ยังสู้ได้อีกเยอะครับผม และที่สำคัญขอขอบคุณพี่น้องเสื้อแดงทุกท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาเยี่ยมพวกกระผมทุกวันครับ จากใจจริงครับผม
ปีใหม่นี้ขอให้พี่น้องเสื้อแดงทุกๆ ท่านจงมีแต่ความสุข ความเจิรญ รวย ๆ ทุกคนเลยครับ สุดท้ายนี้ขอให้ชัยชนะเป็นของพวกเราผู้รักประชาธิปไตยอย่างแท้จริง และประชาชนชาวเสื้อแดงจงเจริญครับ
4. ยุทธภูมิ มาตรนอก คดี ม.112
ผมชื่อ ยุทธภูมิ มาตรานอก อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งกฎหมาย ม.112 ใคร ๆ ก็แจ้งจับได้ และผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นเหยื่อ คนแจ้งความจับผมไม่ใช่คนไกล คือ พี่ชายแท้ ๆ ของผมเอง สาเหตุจากการทะเลาะกันเรื่องหมา และเรื่องงาน เริ่มจากได้รับหมายเรียกจากกองปราบ เพื่อพิสูจน์ลายมือบนแผ่นซีดีที่เขียนดดยปากกาเมจิสีน้ำเงิน แล้วส่งต่อเรื่องของผมมาที่อัยการ แล้วอัยการก็ส่งฟ้องศาล ผมเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2555 จนถึงปัจจุบัน ยื่นประกันตัว 4 ครั้ง แต่ได้รับการปฏิเสธเนื่อจากเหตุผลเป็นโทษร้ายแรง กลัวหลบหนี ทั้ง ๆ ที่ผมมารายงานตัวตามระเบียบ ไม่เคยหลบเลี่ยงแม้แต่เดินเข้าสู่ประตูคุก ผมก็เดินมาเองโดยไม่คิดหลบหนี และผมจะปักหลักสู้กับความป่าเถื่อนของ ม. 112 ต่อไป จนกว่าจะได้รับอิสรภาพ และผมจะจะขออาสานายประกันด้วยวงเงิน 10 ล้านบาท และถ้าได้รับการปฏิเสธอีก ผมก็พร้อมจะตามอากงไปติด ๆ ด้วยการเผาตัวตายทันที (อากงรอผมด้วย)
ผมมีงานต้องทำ มีแม่ที่แก่แล้วต้องดูแล มีครอบครัว มีลูกสาวชื่อน้องเชอรี่(เป็นหมาพันธ์ไทยแม้เพศเมีย เขาป่วย เขาหอนทุกคืน เผ้ารอผมกลับบ้าน) สำหรับรัฐบาลผมสิ้นหวัง หมดหวังแล้วครับ
สุดท้ายนี้ผมขอขอบคุณกับพี่น้องเสื้อแดงทุก ๆ ท่าน สำหรับการเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ และช่วยเหลือผมทุก ๆ อย่าง ขอบคุณด้วยความจริงใจ
ขอบคุณพี่หนุ่ม (ธันฐวุฒิ) อ.สุรชัย อ.สมยศ และเพื่อน ๆ คนเสื้อแดงที่อยู่ในคุกที่ช่วยเหลือ และคอยปลอบใจให้ผมมีชีวิตอยู่ในคุกได้ต่อไป ขอบคุณครับ
5. สุรชัย (แซ่ด่าน) ด่านวัฒนานุสรณ์ คดี ม.112
กราบเรียนพี่น้องคนเสื้อแดงและผู้รักประชาธิปไตยที่เคารพทุกท่าน
การมาตั้งเวทีปราศรัยหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่พวกเราที่ถูกคุมขังอยู่ปีนี้เป็นปีที่สองแล้ว
พวกเราคนเสื้อแดงในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ 11 ชีวิตต้องขอบคุณพี่น้องทุกท่านที่เป็นขวัญและกำลังใจตลอดมา พร้อมทั้งการดูแลส่งเสีย เยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย
นอกจากกำลังใจที่ดีเยี่ยมแล้ว สำหรับปีใหม่ 2556 พวกเราก็มีความหวังอย่างเปี่ยมล้นภายใต้การบริหารประเทศของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี นส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าพวกเราจะได้ก้าวสู่อิสรภาพ
ในจำนวน 11 ชีวิต 5 คนจะพ้นโทษในปี พศ.2556 แน่นอน จะยังเหลือยู่ 6 คน 1 คนเป็นคดีอาวุธปืน อีก 5 คนเป็นคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่ถ้าในวันที่ 23 มกราคม 2556 คุณสมยศ พฤกษาเกษมสุข ศาลยกฟ้องปล่อยตัวก็จะเหลือเหยื่อ มาตรา 112 เพียง 4 คนเท่านั้น 1 คนอยู่ระหว่างรอประกันตัว อีก 3 คนรวมทั้งผมด้วย ได้ยื่นทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษไปแล้ว
ได้รับความเมตตาจากเจ้าหน้าที่ และท่านผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ดำนเนินการให้อย่างรวดเร็ว เวลานี้หนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษพิเศาไปถึงกรมราชฑัณฑ์แล้ว
และภายใต้อธิบดีกรมราชฑัณฑ์คนปัจจุบันคือ พันตำรวจเอก สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย ท่านคอยดูแลเอาใจใส่พวกเราเป็นพิเศษ เพราะท่านมองว่าพวกเราที่ต้องโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ไม่ใช่ผู้ร้าย ไม่ใช่อาชญากร เพียงมีความคิดแตกต่าง เป็นนักโทษทางมโนธรรม จึงให้ความเห็นอกเห็นใจ จะดำเนินการส่งผ่านหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษไปยังกระทรวงยุติธรรมอย่างรวดเร็ว จึงต้องกราบขอบพระคุณท่านเป็นอย่างสูง
สำหรับท่าน พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้น ท่านมีหน้าที่ถวายความเห็นในเรื่องการพระราชทานอภัยโทษ และท่านยึดกุมการปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลเรื่องความปรองดอง สมานฉันท์ ท่านเป็นผู้สั่งการติดตามหนังสือทูลเกล้าถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษพิเศษของผู้ต้องโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตลอด จึงไม่มีอะไรที่จะต้องเป็นห่วง
ส่วนการจะได้รับพระราชทานอภัยโทษหรือไม่ก็อยู่ที่พระเมตตามหากรุณาธิคุณ ที่จะได้รับจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเท่านั้น
ซึ่งเมื่อมองดูสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่มีผู้ถูกคุมขังอยู่เพียง 7 คนเท่านั้น เป็นการคลี่คลายในทางที่ดี
อีกทั้งเมื่อจับสัญญานจากคำพูดของ พล.อ.เปรม ติณสุลานนท์ ประธานองคมนตรีที่เปลี่ยนไป เพมื่อวันก่อนท่านพูดว่า “หน้าที่ของเราคือ สร้างคนดีขึ้นมาเบียดเสียดคนไม่ดี ให้ไม่มีที่ยืนในชาติบ้านเมืองของเรา” นสพ.บ้านเมือง 17 กันยายน 2555
กับวันนี้วันที่ 24 ธันวาคม 2555 ในคอลัมล์ “คมดำ” นสพ.มติชน หน้า 6 ท่านพูดว่า “การที่มีความคิดเห็น ความเชื่อที่แตกต่าง ไม่เป็นอุปสรรค การดำรงความรัก ความสามัคคีของคนไทยแม้แต่น้อย”
จากคำพูดที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีของท่านประธานองคมนตรี จากที่เคยมองคนที่มีความคิดต่างเป็นคนไม่ดี มาเป็นการยอมรับความคิด ความเชื่อที่แตกต่าง จึงหวังเป้นอย่างมากในความกรุณาปราณีจากท่าน ขอพระราชทานอภัยโทษแก่พวกเราผู้ต้องโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112
และมีแนวโน้มที่สถานการณ์ของประเทศไทยจะคลี่คลายเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ เช่นเดียวกับประเทศเมียนม่า ที่ค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านอย่างสันติ จากระบอบเผด็จการทหารสู่ระบอบประชาธิปไตยเยี่ยงนา ๆ อารยะประเทศ
ขอให้ปีเก่า และระบอบเก่าผ่านพ้นไป ให้ปีใหม่ และระบอบใหม่เข้ามาแทนที่โดยการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ เกิดความปรองดองในชาติ ให้พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนได้มีสติที่แจ่มใส มีจิตใจที่รุ่งโรจน์ อย่าถือโทษโกรธเคืองกัน เพราะความคิดที่แตกต่าง
ขอให้มีความสุขทุกคน ตลอดปีใหม่ และตลอดไป
สวัสดีครับ
6. ทองสุข หลาสพ คดีฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน
สวัสดีครับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทุกท่าน ผม ทองสุข หลาสพ สถานภาพคือนักโทษ แต่เสถียรภาพความเป็นมนุษย์ยังมีอยู่เต็มเปลี่ยมด้วยหัวใจที่รักประชาธิปไตย ผมอายุ 43 ปี โดนคดีฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน ศาลตัดสินจำคุก 1 ปี 6 เดือน จำคุกมาแล้ว 1 ปี เหลือโทษอีก 6 เดือน
ผมได้มาทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการเป็นเวลา 18 ปี ได้เห็นสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นในบ้านเมืองนี้ก็พอสมควร ผมเองก็เริ่มสนใจการเมืองตอนที่ทหารยึดอำนาจท่านทักษิณ ชินวัตร เมื่อ 19 กันยายน 2549 ผมเองก็คอยติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ ทำกิจกรรมทางการเมือง โดยเฉพาะกลุ่มคนเสื้อแดง ที่จังหวัดสมุทรปราการ ณ ขณะนั้นผมทำหน้าที่เป็นการ์ดรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องคนเสื้อแดง กลุ่มผู้กล้าประชาธิปไตย สถานี 101.25 MHz รหัสประจำตัวการ์ด 035 และคอยอำนวยความสะดวกมวลชนที่มาร่วมชุมนุม ไม่คิดว่าการต่อสู้ของพวกเราจะต้องมากลับกายเป็นแบบนี้เพื่อนๆ ก็มาบาดเจ็บ ล้มตาย ส่วนตัวผมก็ต้องมาติดคุกเป็นนักโทษการเมือง ทวงสิทธิเสรีภาพให้ประชาชนทุกภาคส่วน เรือนจำพิเศษกรุงเทพไม่สามารถขังจิตวิญญาณ และอุดมการณ์ในการต่อสู้เพื่อความถูกต้องได้
สุดท้ายนี้ก้ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ไม่ทิ้งกัน และให้ความช่วยเหลือตลอดมา ในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ปีนี้ขอให้ทุกคนสมหวังและสมดังมุ่งมั่นปรารถนา และได้ประชาธิปไตยที่เต็มใบโดยเร็วด้วยเถิด
บทความ...ของ ทองสุข หลาสพ
ผู้เป็นใหญ่เป็นโตทางการเมือง ที่ยึดมั่น ถือมั่นในตัวกูของกู ยึดติดในอำนาจจนเกินไป จึงหวาดกล้วประชาธิปไตย เกรงว่าจะสูญเสียอำนาจวาสนา สูญเสียความเป็นอภิสิทธิ์ชน จึงได้สั่งทหารเข่นฆ่าประชาชนอย่างโหดเหี้ยม หรือไม่ก็ใช้กฎหมายบังคับให้เชื่อฟัง ให้กราบไหว้บูชา ใครวิพากษ์วิจารณ์ ติฉินนินทาจะถูกจับเข้าคุตุรางจนเกิดความขัดแย้งจนกลายเป็นจลาจลสงครามกลางเมือง ก็เพราะเหตุที่หลงยึดติดในตัวกูของกูจนใช้อำนาจในทางฉ้อฉลในระดับสังคม ความอดอยาก ยากจน ขัดสนทำให้คนเราหิวโหย จึงต้องดิ้นรนเอาตัวรอดมักจะก่ออาชญากรรม ปล้น ชิง วิ่งราว เข่นฆ่ากันตาย หรือไม่ก็เกิดจลาจลเผาบ้านเผาเมืองทำให้สังคมเดือนร้อน ขาดความสงบสุข หากเราตกอยู่ในสภาพเป็นคนยากจน ย่อมเป็นหน้าที่ของชีวิตที่จะต่อสู้ให้หลุดพ้นจาความยากจน ขาดแคลน ซึ่งหมายถึงการมีงานทำ การได้รัผลตอบแทนการทำงานที่ยุติธรรม ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การมีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ความมั่นคงจากการทำงานและชีวิตครอบครัวที่มีความสุข สิ่งแวดล้อมที่ดีงาม ลูกหลานมีการศึกษาและสังคมที่น่าอยู่ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เป็นสิทธิมนุษยชนของทุกคน ใครก็ตามที่ทำให้ชีวิตของเราอดอยากยากจน ขาดแคลนเช่นทำงานแต่ได้ค่าจ้างไม่พอเลี้ยงดูตนเองและครอบครัว ทำงานเป็นอันตราย ถูกเลิกจ้างอย่างไม่เป็นธรรม ถือได้ว่าคนเหล่านั้นได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนของเรา แม้กระทั่งการสอนให้เรายอมรับสภาพความอดอยากยากจน เป็นคนงอมืองอเท้า ยอมจำนนต่อสภาพความเป็นอยู่ที่เลวร้าย ก็ถือได้ว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษชนด้วยเช่นกัน
เมื่อเป็นเช่นนั้นก็ถือว่าเป็นหน้าที่ของชีวิตเราที่จะต้องปกป้องสิทธิมนุษยชนของตนเองให้ได้เช่นเดียวกันกับโครงสร้างส่วนบนของสังคม หรือการเมืองการปกครองที่เป็นการจัดสรรประโยชน์ในคุณค่าและทรัพยากรสังคมให้กับประชาชน
ดังนั้นหากรัฐบาลไม่ได้บริหารบ้านเมืองเพื่อประโยชน์สูงสุดของคนส่วนใหญ่ในสังคม ทำให้สังคมมีความเมตตาแตกต่างชนชั้น นำมาซึ่งการกดขี่ขมเหง และการละเมิดสิทธิมนุษยชน ย่อมเป็นหน้าที่ของชีวิตเรามนฐานะพลเมืองเจ้าของอำนาจอธิปไตยที่แท้จริงจะน้องร่วมกันต่อสู้ในระบอบการเมือง การปกครอง ทำให้ประโยชน์สูงสุดให้กับคนส่วนใหญ่ของสังคม และประเทศชาตอ และทำให้ทุกชีวิตหลุดพ้นไปจากความทุกข์ยากทั้งปวงให้ได้ ชีวิตที่เห็นแก่ตัวหมกมุ่นแต่เรื่องของตนเอง ชีวิตที่เงียบเฉย ยอมจำนนชีวิตที่ขลาดเขลาย่อมเป็นชีวิตที่เหงาหงอยด้อยคุณค่า เป็นชีวิตที่จมปลักอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลาเป็นชีวิตที่ไม่ต่างไปจากสวะบอยน้ำ หรือเป็นขยะตามตรอกซอย การกระทำหน้าที่ของชีวิตทั้งสามประการคือการสร้างความสมดุลของชีวิต ระหว่างร่างกายและจิตใจกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวเรากับสังคมที่แยกกันไม่ออก ชีวิตแบบนี้แม้เผชิญกับอุปสรรคความยากลำบากสักปานใด ก็สามารถเอาชนะโดยง่ายเพราะสุขภาพกายและจิตใจมีความเข้มแข็ง มีความพร้อมเผชิญกับปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้อย่างมีพลัง จนสามารถเอาชนะอุปสรรคความยากลำบากทั้งหลายทั้งปวงลงไปได้
7. วรกฤต นันทะมงคลชัย คดี พรบ.อาวุธปืน
สวัสดีพี่ ๆ เพื่อนเสื้อแดงทุกคนครับ 3 ปีก่อนผมอยู่กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ครับ ตอนนี้ผมอายุ 33 ปี คดีที่ผมโดนจับคือ คดี พรบ.อาวุธปืน ผมโดนจับที่สถานทูตซาอุฯ ครับไปกับดีเจอ้อม กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 คดีผมตัดสินชั้นอุทรณ์แล้ว 1 ปี 8 เดือน ตัดสินเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2555 แต่ผมอยู่ถูกขังมาแล้ว 4 เดือน 10 วัน ก็ยังคงเหลืออีกตั้ง 1 ปี 3 เดือนกว่าๆ พี่ ๆ เสื้อแดงครับตอนผมเข้ามาวันแรก ผมไม่รู้จักใครเลย ไม่มีญาติ ไม่มีแม้กระทั่งเพื่อน เพราะผมมาจากต่างจังหวัด พี่ ๆ คงนึกภาพออก ผมรู้สึกว่าตนเองโดดเดี่ยวมากจนกระทั่งได้มาเจอกับ อ.สุรชัย พี่สมยศ พี่หนุ่ม ผมรู้สึกดีขึ้นมาก ตอนนี้อยู่สบายแล้วครับ “แต่ก็สบายแบบข้างใน แต่มันก็ยังแย่กว่าอยู่ลำบากข้างนอก” ถ้าผมเลือกได้ผมขอเลือกอยู่ลำบากข้างนอก” ดีกว่าครับ ทุกวันนี้ผมก็ได้แต่คิดว่าสักวันจะได้รับอภัยโทษและจะไอ้ออกไปหาพวกพี่ ๆ โดยเร็ว แต่พี่ ๆ ไม่ต้องห่วงครับ ตอนนี้กำลังใจผมดีมาก เพราะได้จากพี่ ๆ มาเยี่ยมกันทุกวันพุธ (ผมไม่มีญาติครับ ผมก็ได้กำลังใจจากพี่ ๆ นี่แหละครับ)
ท้ายนี้ผมต้อขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่คอยให้กำลังใจ และให้ความช่วยเหลือในทุก ๆ ด้านครับ รวมไปถึงเสื้อแดงทั้งหมดด้วย...เกือบลืมครับ
ปีใหม่ปีนี้ขอให้บุญบารมีของพระเจ้าตากสินที่สถิตอยู่บนแผ่นดินนี้ช่วยดลบันดาลให้พี่น้องเสื้อแดงทุกคนประสบแต่ความสำเร็จ ไม่เจ็บ ไม่ไข้ และช่วยดลบันดาลให้ผมกลับบ้านไว ๆ ครับ สวัสดีปีใหม่ 2556
8. สมยศ พฤกษาเกษมสุข คดี ม.112
สู้ด้วยใจแกร่งกล้าภูผาหิน
โลกใบเก่าผืนฟ้ากะลาครอบ
คือระบอบครอบหัวให้กลัวเกรง
ผู้รายออกกฎหมายกำหนดเคร่ง
เป็นนักเลง 112 จ้องทำลาย
อีกหนึ่งปีเคลื่อนผ่านกาลรันทด
อีกหนึ่งบททดสอบสู่จุดหมาย
ยังต่อสู้แม้รู้ว่าเสี่ยงตาย
แต่ความหมายยังอยู่คู่ความจริง
สู้อดทนลำบากจากวันนั้น
เพื่อความฝันวันแห่งชัยใหญ่ยิ่ง
คนเก่าไปคนใหม่มาอย่าประวิง
สรรพสิ่งสั่นสะเทือนสนั่นไหว
ถึงติดคุกถูกขังยังสู้ต่อ
แม้รู้ว่าพิษขมตรมแค่ไหน
จะยิ้มรับกับมันทุกวันไป
สู้ด้วยใจแกร่งกล้าภูผาหิน
ประชายังต่อสู้ด้วยพลัง
เหมือนฝนหลั่งพรั่งพรูดูสดชื่น
เหมือนเรไรบรรเลงเพลงกลางคืน
ดวงดาวดื่นฟื้นจากฝันอันสดใส
ประจงเก็บดอกไม้งามมาสวมใส่
ร้อยมาลับเรียบร้อยมามอบให้
สานต่อภารกิจอันยิ่งใหญ่
โลกก้าวไกลสู้ต่อไปชิงชัยมา
ขอส่งให้แต่สิ่งดีขึ้นปีใหม่
ขออวยชัยทุกวันคืนรื่นหรรษา
ทั่วธาราตาสว่างกันทั่วหล้า
ทุกเวลานาทีอย่ามีทุกข์
จากคนคุกลุกขึ้นสู้รู้ความจริง
อย่าประวิงเวลาผ่านการเร่งรุก
รวมพลังต่อสู้ให้สนุก
มีแต่สุขเหลือล้นทุกคนเอย
9. วันชัย แซ่ตัน คดี ม. 112
ผมอายุ 62 เป็นคนสิงคโปร์ ต้องหาคดี 112 ต้องติดคุก 13 ปี 9 เดือน เดี๋ยวนี้เหลือประมาณ 4 ปี ผมไม่ใช่คนไทย แต่ก็รู้ว่าประเทศจะก้าวไกลต้องมีประชาธิปไตย ผมแก่แล้ว ไม่มีกำลังกาย แต่ยังมีกำลังใจ ผมไม่มีความฉลาดพอที่ชั่วร้าย หากแต่มีความโง่สู้เพื่อประชาธิปไตย ผมไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่ หากแต่เป็นเพียงผู้ชาย
ขอให้คนดีไม่สิ้นจากแห่นดินไทย ประเทศไทยต้องมีประชาธิปไตย ขอขอบคุณอย่างยิ่งที่กลุ่ม นปช.มาเยี่ยมและให้เงิน ให้ของ เป็นกำลังใจ...สวัสดีปีใหม่ เพื่อน ๆ ทุกคน
10. เสถียร รัตนวงค์ คดี ม. 112
ผมสังกัดการ์ดส่วนกลาง อายุ 48 ปี ถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ปรับ 50,000 บาท อยู่มาแล้ว 1 ปี 10 เดือน พ้นโทษ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ความรู้สึกพี่น้องเสื้อแดงไม่ทอดทิ้งกันเลย สิ่งที่ต้องการขอให้รัฐบาลช่วยดูแลครอบครัวความเป็นอยู่ การเยียวยาคนที่ติดคุกหลังพ้นโทษ
ขอขอบคุณมวลชนทุกท่านที่มาเยี่ยมให้กำลังใจมาตลอดปีที่ผ่านมา เราทุกคนจะไม่ลืมบุญคุณของพี่น้องมวลชนทุกท่านตลอดไป
ปีใหม่ท่าจะมาถึงนี้กระผมขออวยพรให้พี่น้องมวลชนทุกท่านจงมีความสุขตลอดไป ยิ่ง ๆ ขึ้น โชคดีปีใหม่ครับ