Skip to main content
ชัยชนะที่ได้มาด้วยการฉ้อฉลของพรรคประชาธิปัตย์ แม้จะมีผลลัพธ์ออกมาเป็นรูปธรรมด้วยการจัดตั้งรัฐบาลสมความมุ่งมาดปรารถนาที่รอคอยมาเกือบสิบปี แต่ก็ด่างพร้อยอย่างยิ่ง ไม่มีความสง่างามแม้แต่นิดเดียว ล่อนจ้อนน่าละอาย ผิดกติกามารยาทรวมไปถึงผิดกฏหมาย กระทั่งก่อให้เกิดความระอาเกลียดชัง


บทบาทพฤติกรรมของพรรคประชาธิปัตย์ที่ก่อให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกข้างต้น ทำให้หลายคนตั้งฉายา สร้างวาทกรรมในการใช้เรียกขานพรรคประชาธิปัตย์ไปต่าง ๆ  นานาซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นไปในแง่ลบ

ฉายาที่ 1
"รัฐบาลต่างตอบแทน" ตอบแทนกระทรวงกลาโหมให้กองทัพที่ยืนหยัดช่วยเหลือทั้งทางตรงทางอ้อมแก่พรรคประชาธิปัตย์มาโดยตลอด ไม่มีการสลายม็อบยึดสนามบินที่แกนนำเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ ตอบแทนกระทรวงต่างประเทศให้แก่กลุ่มก่อการร้ายพันธมิตรที่ช่วยกันปิดสนามบินสุวรรณภูมิอย่างสนุกสนาน

ฉายาที่ 2
"ครม.ไอ้ห้อยไอ้โหน" ฉายาไอ้โหนไอ้ห้อย ไม่ได้ชวนให้นึกถึงใครเลยนอกจากนึกถึงนักการเมือง "งูเห่า" จากบุรีรัมย์ที่ผละจากนายเก่าเข้าร่วมเรียงเคียงหมอนผสมพันธุ์กับพรรคประชาธิปัตย์ แล้วดันวงศาคณาญาติ ทั้งพ่อทั้งน้อง และพรรคพวกเข้าไปกวาดตำแหน่งสำคัญ ๆ ได้สำเร็จ

ฉายาที่ 3
"รัฐบาลแบล็กเมล์" ความสามารถในการแบล็กเมล์ของพรรคประชาธิปัตย์นั้นเรียกได้ว่าเข้า "ขั้นเทพ" ขยันวิ่งเต้นเข้าหาผู้มีอำนาจบารมีนอกและในรัฐธรรมนูญอย่างไม่รู้จักเหนื่อย สนับสนุนรัฐประหารล้มรัฐบาลเลือกตั้ง สมคบคิดกับพันธมิตรปิดสนามบิน เล่นการเมืองนอกกติกามารยาท

ฉายาที่ 4
"รัฐบาลไฮแจ๊ค" เสนาะ เทียนทอง ผู้ซึ่งพลาดหวังจากการขายไอเดีย "รัฐบาลแห่งชาติ"   ที่ไม่มีใครเขาเอาด้วย ตั้งฉายานี้ให้กับพรรคประชาธิปัตย์

เสนาะ เทียนทอง หัวหน้าพรรคประชาราชที่หาที่ยืนไม่ได้ บอกว่า "ไม่อยากวิจารณ์รัฐบาลชุดใหม่ แต่บอกคำเดียวว่าเป็นรัฐบาลที่ไปปล้นเขามา ปล้นกลางอากาศ หรือไฮแจ็ค โดยไม่เกรงใจและไม่คำนึงถึงความรู้สึกของประชาชน เป็นยุคที่บ้านเมืองตกต่ำสุดๆ ยุคที่นักการเมืองกับผู้มีอำนาจหลายฝ่ายรวมหัวปู้ยี่ปู้ยำประเทศอย่างกับไม่ใช่คนไทย เพียงเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งเพื่อเป็นนายกฯ ขอเตือนว่าที่นี่ประเทศไทย ไม่ใช่บ้านของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ หรือของใครที่ชอบเอาสถาบันมาบังหน้า เพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองและพวกพ้องต้องการ" (ไทยรัฐ, 25 ธ.ค.51) http://www.thairath.com/news.php?section=politics&content=116101

นอกจากฉายาข้างต้นแล้ว ยังมีฉายาอื่น ๆ ที่ความหมายใกล้เคียงกันอีก เช่น "รัฐบาลอุปถัมภ์" "รัฐบาลมีเส้น"  "รัฐบาลนอกรัฐธรรมนูญ"

ในที่นี้จะขอเพิ่มฉายาให้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกฉายาหนึ่งว่า
"รัฐบาลนางอิจฉา"  

เท่าที่เกิดทันและจำความได้ ได้เห็น ได้อ่าน ได้พบว่าพรรคประชาธิปัตย์ทำตัวเป็นผู้ร้ายมาตลอดประวัติศาสตร์ เอาดีใส่ตัวไปพร้อมกับที่คอยให้ร้ายคนอื่น ทำแม้กระทั่งสร้างหลักฐานปลอมหลอกคนทั้งประเทศ

น่าแปลกที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ชอบเล่นเป็นพระเอกหรือนางเอก หากจ้องแต่จะเล่นบทนางอิจฉา!

พรรคประชาธิปัตย์คงรู้สึกสนุกสะใจในบทของนางอิจฉาที่ได้หาเรื่องตบตีนางเอก ยุให้นางเอกเลิกกับพระเอก จ้างนักเลงมาฉุดคร่าข่มขืนนางเอก หรือสาดน้ำกรดให้นางเอกเสียโฉมเพราะอิจฉาที่สวยกว่า ฯลฯ 

แผนการณ์ต่าง ๆ ของนางอิจฉาในการทำลายนางเอกนั้นมีต้นทุนที่ต้องจ่าย บางทีเมื่อเข้าตาจน นางอิจฉาต้องแปลงร่างกายของตนเองให้เป็นทุนในปฏิบัติการทำร้ายนางเอก ขอให้ความปรารถนาประสบความสำเร็จ นางอิจฉายอมทำทุกอย่าง ขอให้ได้เป็นรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ยินยอมทำทุกอย่าง

ถ้าเป็นละครหลังข่าว นางอิจฉาอาจประสบความสำเร็จในการทำให้พระเอกกับนางเอกเข้าใจผิดกันแต่ก็เป็นเพียงชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ท้ายที่สุด พระเอก นางเอกก็จะกลับมาคืนดี แต่งงานอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข

นางอิจฉาอาจได้เป็นฝ่ายตบตีนางเอกจนร้องไห้ขี้มูกโป่ง กลั่นแกล้งนางเอกแสนดีที่ไม่ถนัดในการตบตีหรือตอบโต้คนอื่นเขา บางครั้งนางเอกอาจเกือบถูกนักเลงที่จ้างมาข่มขืน แต่กระนั้นก็เอาตัวรอดได้เสมอ

อันที่จริง นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีตั้งนานแล้วหากไม่มัวหมกมุ่นกับการเล่นบทเป็นนางอิจฉา อาศัยช่วงที่การเมืองวุ่นวาย หากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซื้อใจชาวเสื้อแดงโดยการเล่นบท(สร้างภาพให้คนเชื่อว่า) เป็นพระเอก หาทางลง เสนอทางออกที่เป็นไปได้(แต่ไม่ต้องทำจริง) ให้อดีตนายก ฯ ทักษิณ  ชินวัตร

หากนายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ รับบทเป็นพระเอกและตีบทให้แตก ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ได้มาคงงามสง่าและไม่ตามมาด้วยความโกรธเกลียดมากขนาดนี้ แต่โดยประวัติศาสตร์และความเป็นจริง พรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยเล่นบทอะไรเลยนอกจากบทนางอิจฉา  

บางตอน บางฉาก ดูเหมือนว่านางอิจฉาจะได้รับชัยชนะแต่เป็นชัยชนะที่ผู้ชมทางบ้านไม่เห็นด้วย เช่นเดียวกับที่พรรคประชาธิปัตย์ได้จัดตั้งรัฐบาลที่ทำให้ผู้ชมทางบ้านไม่พอใจ แต่ตามขนบของนิยายแล้ว นางอิจฉาจะต้องพ่ายแพ้โดยที่พระเอกนางเอกไม่ต้องทำอะไร ความอิจฉาจะทำลายตัวมันเอง เพียงแต่จะพ่ายแพ้ในรูปแบบใด, อกแตกตาย, ธรณีสูบ, โดนรุมประชาทัณฑ์, สถาบันล่มสลาย โปรดคอยรอดู

บล็อกของ เมธัส บัวชุม

เมธัส บัวชุม
การประท้วงของกลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ภายใต้การนำของ สาวิทย์ แก้วหวาน ผู้ซึ่งเป็นแกนนำสหภาพแรงงาน ฯ เป็นการประท้วงในสไตล์เดียวกับการประท้วงของกลุ่มพันธมิตร นั่นคือเอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นตัวประกันเพื่อให้ได้ตามความต้องการของตนเอง 
เมธัส บัวชุม
หลังจากอิดออดเพื่อรักษาท่าทีแต่พองามแล้ว “ผู้ร้าย” สองคนก็เปิดตัวเปิดใจกระโจนเข้าสู่วง ”การเมือง” เต็มตัว “ผู้ร้าย” คนแรก
เมธัส บัวชุม
ไม่กี่วันที่ผ่านมา ผมเดินทางไปเยี่ยมเพื่อนในอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดอุบลราชธานี นานมาแล้วที่ผมไม่ได้ออกไปไหน เพื่อนพาไปเที่ยวป่าและแวะที่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่แลดูลี้ลับ วังเวงและยากไร้
เมธัส บัวชุม
สังคมไทยเป็นสังคมที่อยู่กับความโง่ มีความโง่เป็นเจ้าเรือน นับวันความโง่ยิ่งแผ่ขยายแพร่กระจายไปราวเชื้อโรค หลายคนโง่โดยสุจริต  คนเหล่านี้น่าเห็นใจ ถูกครอบงำด้วยความไม่รู้  อคติ ความเกลียดชังทำให้ประสิทธิภาพในการคิดเสื่อมถอย สติปัญญาถูกบิดเบือนไป คนประเภทนี้โง่เพราะถูกอคติทำลายจนมืดบอด
เมธัส บัวชุม
  ในระหว่างที่รัฐบาลกำลังรวนเรเพราะความไร้ฝีมือและความเน่าจากภายใน แทนที่จะทุ่มสมองและแรงงานเพื่อกระหนาบกระหน่ำรัฐบาลโจร คนเสื้อแดงเฉดต่าง ๆ ก็กลับใช้โอกาสนี้วิพากษ์วิจารณ์กันรุนแรงกระทั่งแตกออกเป็นสาย
เมธัส บัวชุม
ในโลกโลกาภิวัฒน์ที่มนุษย์กำลังเดินทางไปในอวกาศเพื่อค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลก และเตรียมหาที่อยู่บนดาวดวงอื่น ทั้งวิตกกังวลกับโรคระบาดชนิดใหม่ ๆ ซึ่งอาจทำให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์ ประเทศไทยยังคงสนุกสนานเหมือนเด็กเล่นขายของกับการกล่าวหาเรื่องหมิ่นพระบรมเดชานุภาพกระทั่งล้มสถาบันสนุกครับ สนุก
เมธัส บัวชุม
ตื่นเช้าขึ้นมา หากไม่มีอะไรเร่งด่วนต้องทำ ผมจะนั่งเขียนโน่น เขียนนี่พร้อม ๆ กับที่เข้าไปในบอร์ดประชาไท อ่านกระทู้ต่าง ๆ อยู่เงียบ ๆ มานานจนเกือบจะกลายเป็นกิจวัตร (ยกเว้นเสาร์-อาทิตย์) แต่หลังเช้าไปแล้ว ผมก็ทำอย่างอื่น ไม่ได้นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ จึงไม่อาจติดตามความเคลื่อนไหวในบอร์ดประชาไทได้อีก ดังนั้นจึงได้อ่านเพียงบางกระทู้เท่านั้นและล้วนแล้วแต่เป็นการอ่านผ่านๆ ทั้งสิ้น
เมธัส บัวชุม
พักหลัง ผมเข้าไปเยื่ยมชมเว็บไซต์ "ASTVผู้จัดการ" บ่อยครั้ง เพื่ออยากรู้ว่าชาวสีเหลืองหรือกลุ่มพันธมิตรคิดอ่านกันอย่างไร มีนวัตกรรมอะไรบ้างในการทำลายฝ่ายตรงข้าม ศึกษากลวิธีในการเต้าข่าว การใส่ไคล้ การใช้ภาษาของบรรดาคอลัมนิสต์ กระทั่งแวะเข้าไปอ่าน "เรื่องนินทาราวตาเห็น" ของ "ซ้อเจ็ด" ผู้โด่งดัง
เมธัส บัวชุม
หลายวันก่อน ได้อ่านบทความของ นิธิ เอียวศรีวงศ์ เรื่อง “ทางออกจากทักษิณ” (มติชนรายวัน, 20 ก.ค. 52.) บทความนี้มีความเข้าใจคลาดเคลื่อนอย่างมากเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางการเมืองของคนเสื้อเหลืองและแดง  เนื้อหาของบทความ นอกจากปัญญาชนรายนี้จะออกตัวให้กลุ่มพันธมิตรหรือเสื้อเหลืองโดยยกระดับความคิด และการกระทำของคนกลุ่มนี้ว่าเกิดจากทัศนะและความเข้าใจในประชาธิปไตยที่แตกต่างจากกลุ่มเสื้อแดงซึ่งทั้งสองกลุ่มล้วนแล้วแต่มีจุดอ่อน  
เมธัส บัวชุม
นานมาแล้ว ที่ผมไม่เคยเจ็บป่วยขนาดต้องไปโรงพยาบาลหรือหาหมอ อย่างมากก็แค่ซื้อยาแก้เจ็บคอมากิน แต่ครั้งนี้เจ็บคอหลายวัน บวกกับอาการมึนหัว เบื่ออาหาร เพลีย และปวดเมื่อยเนื้อตัวอย่างหนักขนาดทาถูสบู่ตามตัวยังรู้สึกปวดไปถึงกระดูก เวลานอนต้องนอนตะแคงอย่างเดียวจะนอนหงายหรือคว่ำไม่ได้เพราะปวดเมื่อย(ขนาดนั้น) ผมจึงตัดสินใจไปโรงพยาบาลแม้จะยังสงสัยอยู่ว่าคิดถูกหรือผิดกันแน่ น่าตกใจพอสมควรที่คนป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่เต็มล้นโรงพยาบาล (แต่แทบไม่มีคนที่อยู่วัยเดียวกับผม) ผมคิดในใจว่าถ้าตนเองเป็นเพียงโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ก็คงจะมารับเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่โรงพยาบาลนี่แหละ…
เมธัส บัวชุม
การล่า 1 ล้านรายชื่อของสามเกลอแห่ง "ความจริงวันนี้" เพื่อถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษให้แก่อดีตนายก ฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นประเด็นให้คนเสื้อแดงถกเถียงแก้เซ็งไปพลาง ๆ โหมโรงการเคลื่อนไหวครั้งต่อไป มีความคิดเห็นค่อนข้างหลากหลายในหมู่คนเสื้อแดงด้วยกัน ทั้งนี้เพราะคนเสื้อแดงนั้นมีความหลากหลายในตัวเองอยู่แล้ว คือมีตั้งแต่ "แดงอนุรักษ์" ไปจนถึง "แดงถอนรากถอนโคน" ซึ่งลักษณะที่ว่านี้ไม่มีในหมู่คนเสื้อเหลือง
เมธัส บัวชุม
เป็นความคิดที่ดีของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีความพยายามจะ “รื้อฟื้น” วันชาติขึ้น เพราะมันมีความหมายและนัยสำคัญต่อประชาธิปไตยและการเมืองไทยอย่างมาก วันชาติเป็นผลพวงของการยึดอำนาจของคณะราษฎรเพื่อเปลี่ยนประเทศไทยสู่ระบอบการปกครองแบบใหม่ที่ให้ความสำคัญกับเสียงและความคิดเห็นของประชาชน ภายใต้หลักนิติรัฐที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเสมอกัน