Skip to main content

                      เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่าน คนไทยหลายคนคงงุนงงว่า มันเป็นวันอะไรเพราะไม่ได้มีวันหยุดราชการ ไม่ได้มีนายกรัฐมนตรีออกมาพูดเรื่องวันนี้ราวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ถูกลืมไปแล้วในสังคมไทย ซึ่งที่จริงแล้วก็มีกลุ่มคนยังพอจำได้ว่า วันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมานั้นคือ วันเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณอาญาสิทธิราชมาเป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข และยังเป็นวันชาติของชาวไทยอีกด้วย ทว่าหลังการรัฐประหารของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ได้เปลี่ยนวันชาติไปเป็นวันที่ 5 ธันวาคมแทนราวกับต้องการให้คนไทยหลงลืมวันเปลี่ยนแปลงการปกครองนี้ไปจนในที่สุดแม้แต่วัยรุ่นหลายยังไม่ทราบว่า วันนี้คือการเปลี่ยนแปลงการปกครองของประเทศนี้ ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า อาวุธที่น่ากลัวที่สุดไม่ใช่ความตายแต่เป็นการถูกลืมไปต่างหาก

           ข้ามมาอีกฟากฝั่งโลก ในวันที่ 24 มิถุนายน ปี ค.ศ.2007 หรือเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ในช่วงเช้าที่ใครหลายคนยังตื่นนอนงัวเงียกันอยู่ ในช่วงเวลาที่ Facebook ยังไม่ได้รับความนิยมมากมายเช่นปัจจุบัน แฟนมวยปล้ำ กีฬาที่ได้ชื่อว่า เป็นกีฬาปาหี่หรือการแสดงหลอกลวงก็ต้องตกตะลึงช็อคด้วยความตกใจกับ การเสียชีวิตของนักมวยปล้ำคนหนึ่งที่มีชื่อว่า คริส เบนวา (Chris Benoit) และครอบครัวในบ้านพักของตัวเอง
 
หน้าบ้านของ คริส เบนวา  สถานที่เกิดเหตุฆาตกรรมสุดสยอง
 
         
ตัวบ้านของคริสเบนวา
 
  ครับ คดีนี้เป็นเรื่องช็อคโลกมากพอๆกับการเสียชีวิตก่อนหน้าของเพื่อนซี้ของเขา นามว่า เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ ที่เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวก่อนหน้าไม่กี่ปีเท่านั้น แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ทาง WWE ที่ในตอนนั้นถึงกับต้องช็อคและยกเลิกโชว์ในคืนนั้นไปในทันทีและจัดรายการระลึกถึงให้ถึง 3 ชั่วโมงเต็มๆเลยด้วยซ้ำ แน่นอนว่า หากเบนวาเสียชีวิตด้วยตัวเอง เขาก็อาจจะถูกเลื่อนขึ้นสู่หอเกียรติยศแบบเดียวกับเอ็ดดี้ เพื่อนของเขาได้รับเกียรติไปแล้วนั้นเอง ส่วน WWE ก็เตรียมพร้อมขายสินค้าเตรียมจัดทุกอย่างให้ยิ่งใหญ่สมกับนักมวยปล้ำที่ได้ชื่อว่า เทคนิคดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง 
 
ภาพการรำลึกของ WWE ในศึก Raw วันต่อมา ก่อนที่ WWE จะทราบสิ่งที่เกิดขึ้นและตัดสินใจทีจะลืมนักมวยปล้ำคนนี้ไป ไม่มีการเอ่ยชื่อ ไม่มีการพูดถึง สินค้าของเขาถูกเรียกเก็บ 
 
 
ทว่าหลังจากนั้นตำรวจได้แถลงผลการชันสูตรทั้งหมดและได้พบว่า เบนวาได้สังหารลูกและเมียตายและฆ่าตัวเองตายในวันต่อมา นั้นทำให้ WWE ที่ตอนแรกพร้อมจะมอบเกียรติยศและกอบโกยเกี่ยวกับเบนวาอย่างเต็มที่ต้องเบรกในทันที และประกาศตัดสินใจจะไม่พูดทุกอย่างเกี่ยวกับเบนวา ทำเหมือนตัวของเขาไม่มีตัวตนอยู่ในสมาคมนี้เทปการปล้ำที่มีเขาอยู่จะไม่นำมาผลิตซ้ำอีก นั้นทำให้ปัจจุบันในเทปของ WWE ไม่มีสิ่งที่เกี่ยวกับเบนวาอยู่เลยด้วยซ้ำไป เรื่องราวของเบนวาก็ค่อยจมหายไปในประวัติศาสตร์ของ WWE คือมีแค่เขาอยู่ในสารบบของแชมป์ แต่ไม่มีการกล่าวยกย่องไม่มีดีวีดีออกขายอีก ซึ่งนั้นคือสิ่งที่ WWE ได้ทำครับ ผลก็คือ แฟนๆมวยปล้ำยุคหลังจากเบนวาไม่รู้จักเขาครับต่างจากพวกแฟนเก่าๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ WWE ทำได้อยู่ไม่ใช่น้อยในการฝังอดีตนี้ลงไป
 
ดูคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศบ้างประเทศอยู่ไม่ใช่น้อยครับ
 
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เบนวาเกิดอาการเช่นนี้นั้นเบื้องต้นตอนแรกหลายคนคาดว่าน่าจะเกิดจากยาที่เขาใช้จนกระทั่งคริสโตเฟอร์ โนวินสกี้ อดีตนักมวยปล้ำซึ่งในตอนนี้เป็นนายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมองได้บอกว่า สมองเบนวามีการกระทบทางสมองมากนั้นเองซึ่งอาจจะมองได้ว่า เกิดจากการที่เขาขึ้นปล้ำแล้วใช้ ท่าไม้ตายที่ชื่อว่า Diving Headbutt ซึ่งเป็นท่าไม้ตายที่ใช้กระโดดลงมาจากที่สูงแล้วเอาศีรษะโหม่งกับคู่ต่อสู้ ซึ่งลองคิดว่า เบนวาต้องปรับโดยใช้ท่านี้แทบทุกวัน หัวนี้ใช้รับเก้าอี้ตีใส่หัว ของฟาดใส่หัวตลอดบวกกับการปล้ำที่หนักหน่วงมาตลอดอาทิตย์ ก็ทำให้สมองของเขาแทบจะเรียกว่าได้รับความหนักหน่วงจนส่งผลให้สมองของเขามีสภาพไม่ต่างกับคนแก่เลยด้วยซ้ำไปครับ 
 
ท่าไม้ตาย Diving Headbutt ของเบนวาที่ใช้ปราบคู่ต่อสู้มานับไม่ถ้วน ในเวลาการปล้ำถึง 20 ปี ซึ่งเบนวาได้แรงบันดาลใจมาจาก Dynamite Kid นักมวยปล้ำขวัญใจของเขาที่มีสภาพเป็นโรคทางสมอง
 
 
 
และการตายของ คริส เบนวานี้เองที่ส่งผลให้ทาง WWE ได้ออกกฎห้ามใช้เก้าอี้ตีบริเวณศีรษะในอีกหลายปีต่อมา การจะใช้ต้องฟาดกันทีหลังแผ่นหลังเท่านั้น ซึ่งทำให้คนที่ดูมวยปล้ำคงรู้สึกว่า ช่างดูเฟคอย่างยิ่ง 
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปหลังการเสียชีวิตของเบนวาก็คือ การที่มีการเผยข้อมูลว่า มีนักมวยปล้ำจำนวนมากที่เสียชีวิตด้วยอาการต่างๆมากมายนับสิบๆราย ซึ่งแต่ล่ะคนก็ล้วนแต่เป็นนักมวยปล้ำอายุไม่มากนักแทบทั้งสิ้นและสาเหตุที่เสียชีวิตนั้นล้วนแล้วเกิดจากการหัวใจวาย ซึ่งเกิดจากการใช้สารเสตอรอยด์นั้นเอง และที่ทำให้หลายคนหันมามองปัญหานี้อย่างจริงจังก็คือ การเสียชีวิตของเอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ เพื่อนสนิทของเบนวาที่เสียชีวิตไปก่อนหน้าแบบสุดช็อคน่ะเอง
 
 
เอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ เพื่อนสนิทของเบนวา ที่เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลวก่อนหน้าเบนวาสองปี
 
 
ผลของมันก็คือ การทำให้วงการมวยปล้ำหันมาใส่ใจกับสุขภาพของนักมวยปล้ำมากขึ้น อย่าง WWE มีการตรวจสอบสารเสพติดในนักมวยปล้ำกันอย่างเด็ดขาด รวมทั้งมาตรการต่างๆที่จะช่วยยืดอายุนักมวยปล้ำให้ยืนยาวออกไป ดังนั้นเราจึงได้เห็นนักมวยปล้ำที่มีปัญหาเกี่ยวกับการใช้ยาโดนแบนบ้าง โดนไล่ออกบ้าง แถมยังมีการตั้งศูนย์อาการติดยาให้กับนักมวยปล้ำคนอื่นๆอีก อาจจะเรียกว่าเป็นการไถ่บาปของ WWE ที่มีให้ต่อนักมวยปล้ำที่ตายไปแล้วก็ได้ เพราะอย่างน้อยก็ได้ช่วยนักมวยปล้ำคนอื่นไม่ให้ลงเอยแบบเดียวกับนักมวยปล้ำที่ล่วงลับไปแล้ว
 
รวมทั้งการเปลี่ยนเรตรายการจาก TV 14 มาเป็น PG ด้วยเหตุผลการตลาดและเพื่อสุขภาพของนักมวยปล้ำด้วยนั้นเอง 
 
นั้นคือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังการเสียชีวิตสะท้านโลกของตัวเบนวาเอง
 
เชื่อว่า ในขณะที่ WWE กลบฝังเรื่องราวของชายหนุ่มที่ชื่อ คริส เบนวาลงใต้พรมให้หายไปจากความทรงจำของแฟนๆมวยปล้ำนั้นกลับยิ่งเป็นการทำให้แฟนๆหลายคนยังเลือกที่จะจดจำเขาไว้ในใจตลอดไป เพราะอย่างน้อยก่อนเหตุการณ์การเสียชีวิตนั้น เขาคือนักมวยปล้ำที่ทุ่มเทกับการปล้ำทุกแม็ทช์ ไม่ว่าจะเจ็บปวดขนาดไหนก็ตาม ชายคนนี้สร้างความสุขให้กับคนดู เป็นฮีโร่ของคนธรรมดาที่หลายคนมองเห็นเขาเป็นดวงดาวที่จุดประกายความฝัน หลายคงไม่อาจจะลืมภาพของเขาที่ยืนร้องไห้กอดกับเพื่อนรักอย่างเอ็ดดี้ เกอร์เรโร่บนเวที Wrestlemania XX ที่ทำให้เขากลายเป็นแชมป์โลกพร้อมกับเพื่อนของเขาที่ได้แชมป์โลกอีกเส้นมาเช่นกัน 
 
คริส เบนวาและเอ็ดดี้ เกอร์เรโร่ในศึก Wrestlemania XX ที่สนามเมดิสัน สแควร์การ์เด็น ในคืนที่แฟนต่างจดจำที่สุดในชีวิตของนักมวยปล้ำธรรมดาสองคนที่คนหนึ่งเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานในขณะที่อีกคนกลายเป็นปีศาจที่ถูกลืม
 
นั้นคือสิ่งที่แม้ว่าเวลาหรือประวัติศาสตร์ก็ไม่มีวันกลบฝังความทรงจำนี้ให้หายไปจากหัวใจของแฟนๆมวยปล้ำทั่วโลกได้ 
 
เราไม่มีวันลืมเช่นเดียวกับหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เราก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน

บล็อกของ Mister American

Mister American
   (บทความตอนนี้จะเป็นเรื่องเบาๆเพื่อให้เตรียมตัวกันให้พร้อมก่อนชมภาพยนตร์เรื่อง Prometheus)
Mister American
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีอีกครั้งกับป๋าไมเคิ่ล ฮานาเก้ที่ได้รางวัลปาล์มทองอีกครั้งหนึ่งจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ Ffpภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Amour ที่เรียกได้ว่าเป็นบทพิสูจน์อีกครั้งว่า ฝีมือการทำหนังของผู้กำกับคนนี้เป็นของจริงที่ยิ่งเวลาผ่านไปรสชาติการทำหนังของเขาก็ยิ่งเข้มข้นทุกทีไม่เหมือนผู้กำกับอีกหลายรายที่มือตกไปอย่างไม่น่าอภัย กระนั้นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับชายที่ชื่อว่า ไมเคิ่ล ฮานาเก้นี้ก็คือ แค่หนังเรื่องแรกของเขานั้นก็ปรากฏแววเก่งมาในทันที  และหนังเรื่องแรกของเขาก็คือ The Seven Continent นั้นเอง
Mister American
ถ้าเอ่ยชื่อของไมเคิ่ล ฮานาเก้ ถ้าไม่ใช่แฟนหนังจริงๆหลายคนอาจจะไม่รู้จักเขาเท่ากับผู้กำกับคนอื่นๆอย่าง ไมเคิ่ล เบย์ สปีลเบิร์กหรือคาเมร่อนก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงสิ่งที่หลายคนมารู้จักผู้กำกับจากยุโรปได้ก็คงไม่พ้นนิยามหนังของเขาที่หลายให้คำว่า โหดเหี้ยม เลือดเย็น และน่าขนลุก โดยหนังที่หลายคนมักจะ
Mister American
(เนื้อหาบทความนี้อาจะเปิดเผยความลับของภาพยนตร์)  ผมเชื่อว่าทุกคนเคยมีความฝัน ครั้งหนึ่งเมื่อสมัยที่ฮีโร่ของญี่ปุ่นอย่าง อุลตร้าแมน ไอ้มดแดง ขบวนการห้าสีบุกจอโทรทัศน์ หลายคนในตอนนั้นยังเป็นเด็กตัวน้อยๆที่เฝ้ารอคอยหน้าจอที่สัปดาห์เพื่อจะได้ชมฮีโร่ของตัวเองปราบปรามเหล่าร้ายในหน้าจอที่หวังยึดครองโลก เราได้สนุกสนานกับการผจญภัยของพวกเขา บางคนอาจจะถึงขั้นอยากเป็นฮีโร่กับเขาบ้างเลยทีเดียว หรือบางคนอาจจะใฝ่ฝันที่จะได้เห็นฮีโร่ตัวจริงด้วยสายตาของตัวเอง  ซึ่งเด็กชายที่ชื่อ ฟิล โคลสัน คือหนึ่งในนั้น
Mister American
ครั้งหนึ่งเมื่อภาพยนตร์เรื่อง เฉือน ของผู้กำกับก้องเกียรติ โขมศิริ ได้ลงโรงฉายชนกับภาพยนตร์รัก Feel Good อย่างรถไฟฟ้ามาหานะเธอนั้นหลายคนที่ไปชมเรื่องนี้ต่างอึ้งกับภาพความโหดร้าย ของฆาตกรต่อเนื่องของไทยที่คาดว่าจะเป็นภาพยนตร์ฆาตกรต่อเนื่องที่น่าสนใจ เรื่องหนึ่ง และมีคำถามขึ้นมาว่า