Skip to main content

         ในระหว่างที่ผมกำลังเขียนต้นฉบับอยู่นี้คงไม่มีหนังสยองขวัญเรื่องใดจะเป็นที่สนใจไปกว่าหนังสยองขวัญบ้านผีสิงอย่าง The Conjuring ที่กำลังลงโรงฉายสร้างความสยองขวัญให้กับเหล่านักดูหนังที่ต้องการท้าพิสูจน์คำร่ำลือจากหนังผีเรื่องนี้ว่า น่ากลัวที่สุดจนทำเงินขึ้นตารางทำเงินอันดับหนึ่งของอเมริกาได้ชนิดที่หนังฟอร์มยักษ์อื่น ๆ ได้แต่มองตามปริบ ๆ อะไรกันที่ทำให้หนังเรื่องนี้ต่างถูกบอกว่า น่ากลัว ขอเชิญไปพิสูจน์กันในโรงภาพยนตร์แล้วกันนะครับ และเพื่อเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเดินทางไปพิสูจน์หนังเรื่องนั้นกัน ทุกท่านไปทัวร์สยองในบ้านผีสิงในหนังสยองขวัญเรื่องต่าง ๆ กันครับว่า เรื่องใดบ้างที่เคยเกิดขึ้นหลอกหลอนคนในหนังสยองขวัญกันจนกระเจิดกระเจิงกันไปบ้างแล้ว

          พร้อมหรือยังครับ ถ้าพร้อมแล้วก็ออกทัวร์กันไปได้เลยครับ ผม

1.     Amityville

จาก ภาพยนตร์เรื่อง Amityville Horror (1979 ,2003)

          ถ้าพูดถึงบ้านผีสิงที่โด่งดังที่สุดในความทรงจำของชาวอเมริกันก็คงหนีไม่พ้นบ้านหลังนี้ ซึ่งได้ขึ้นชื่อว่า ดุที่สุดหลังหนึ่ง และที่สำคัญมันได้ถูกนำมาถ่ายทอดในฐานะภาพยนตร์ถึงสองครั้งแล้วยิ่งบ่งบอกถึงความเฮี้ยนของบ้านหลังนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อครอบครัวเดอฟีโนย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้และเกิดเหตุการณ์สยองเมื่อ ลูกชายคนโตของพวกเขาเกิดคลุ้มคลั่งสังหารคนทั้งบ้านไปถึงหกศพ โดยเขาอ้างว่า มีเสียงกระซิบพร้อมกับเงาดำหยิบปืนใส่ในมือของเขา จากนั้นก็มีครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามาก็ได้เจอเรื่องแปลก ๆ ในบ้านตั้งแต่ เสียงกุกกักในบ้าน มีเมือกสีเขียวที่รูกุญแจ มีของเหลวสีดำเปรอะเปื้อนห้องน้ำ กลิ่นแปลก ๆ ไปจนถึงกลิ่นคาวโชยออกมา ส่งผลให้ครอบครัวนี้ย้ายหนีออกไปในเวลาเพียง 28 วันเท่านั้นเอง ซึ่งบ้านหลังนี้เองที่นักล่าผีเอ็ดเวิร์ด วอร์เรน และ ลอร์เรน วอร์เรน เดินทางมาพิสูจน์เรื่องราวลี้ลับนี้แล้ว จะว่าไปทั้งคู่ก็โด่งดังขึ้นมาก็เพราะ ได้ไปพิสูจน์บ้านหลังนี้นี่เองครับ

2.     Vannacutt House

จากภาพยนตร์เรื่อง House on Haunted Hill (1999)

          บ้านผีสิงสุดเฮี้ยนในโลกภาพยนตร์ที่พูดถึงหนังสยองขวัญประเภทบ้านผีสิงต้องนึกถึงบ้านสยองขวัญนี้ โดยเรื่องราวของหนังนั้นดัดแปลงมาจากหนังชื่อเดียวกันของราชาแห่งกิมมิคอย่าง วิลเลี่ยม คาสเทิ่ล โดยประวัติของเรื่องบ้านหลังนี้นั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นโรงพยาบาลบ้าของด๊อกเตอร์แวนนาคัต ที่พยายามรักษาคนไข้โรคจิตด้วยวิธีสุดแสนทรมานทำให้คนไข้โรคจิตทั้งหลายของเขา ลุกฮือขึ้นมาและฆ่าเขาและลูกมือจนหมดสิ้นพร้อม ๆ กับไฟที่ไหม้โรงพยาบาล ซึ่งมีระบบกลไกปิดไม่ให้ใครออกไปทำให้ทุกคนตายกันหมด กระทั่ง หลายปีต่อมา มีเศรษฐีขี้เล่นนามว่า สตีเว่น ไพรซ์ ได้จัดการเกมขึ้นมาเพื่อฉลองให้กับวันเกิดของภรรยาตัวแสบของเขา โดยเชิญคนมาร่วมเล่นเกมนี้ โดยมีกฎง่าย ๆ ว่า ถ้าใครสามารถอยู่รอดได้ถึงพรุ่งนี้เช้าจะได้รับเงินเป็นรางวัลที่ 1 ล้านเหรียญ เลยทีเดียว แต่ทว่าสิ่งพวกเขาไม่รู้ก็คือ ภายในบ้านหลังนี้นั้นเต็มไปด้วยวิญญาณอาฆาตของด๊อกเตอร์แวนนาคัตและผู้ที่ตายในนี้ที่รอคอยการมาของพวกเขาอยู่อย่างหิวกระหาย

3.     Connecticut House

จากภาพยนตร์เรื่อง Haunting in The Connecticut (2009)

             บ้านสยองสองชั้นแห่งนี้เป็นบ้านหลังเก่าที่เคยเป็นบ้านของสัปเหร่อคนหนึ่งที่ใช้มันในการแต่งศพคนตายในบ้านหลังนี้ในชั้นใต้ดิน กระทั่งเขาตายไป บ้านหลังนี้จึงตกทอดต่อกันไปกระทั่งครอบครัวสนีเดเกอร์ได้ย้านเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ เพราะลูกชายคนโตของเขาป่วยเป็นโรคมะเร็งจึงต้องย้ายมาอยู่ใกล้โรงพยาบาลแห่งนี้ และเรื่องประหลาดก็เกิดขึ้น ตั้งแต่ไม้ของบ้านที่ยิ่งถูกด้วยน้ำก็ยิ่งกลายเป็นสีเลือด ไฟดับ ๆ ติด ๆ ได้เอง เสียงแปลก ๆ ในบ้าน ทั้ง ๆ ที่ไม่มีใครอยู่ ไปกระทั่งการที่ลูกชายของเขาที่ปกติเป็นคนสุภาพได้กลายเป็นพวกโมโหร้ายไปเสียงั้น แต่ที่หนักสุดก็คือ การที่ร่างของลูกชายลอยและหมุนควงไปรอบเตียงราวกับมีใครยกร่างของเขาขึ้น นั่นเองที่ทำให้สองสามีภรรยาตระกูลวอร์เรน นักล่าผีได้เดินทางมาที่นี่เพื่อพิสูจน์เรื่องนี้และพบว่า ที่นี่เต็มไปด้วยวิญญาณมากมายที่ยังคงอาศัยอยู่และไม่จากไปไหนเสียที

4.     Simi Valley House (1982)

จากภาพยนตร์เรื่อง Poltergeist

          บ้านชานเมืองอันแสนสงบสุขแห่งนี้ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรน่ากลัว แน่นอนว่า ครอบครัวฟรีลิ่งเองก็คิดแบบนั้นจึงย้ายเข้าไปอยู่ก่อนจะได้เจอกับเรื่องประหลาดต่าง ๆ ตั้งแต่สิ่งของเคลื่อนที่ สลับที่ได้เอง เสียงประหลาดที่ได้ยิน รวมทั้งเงาคนที่อยู่ในบ้าน หนำซ้ำลูกสาวของพวกเขายังมองเห็นบางสิ่งที่อยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่างหาก แต่พวกเขาไม่เชื่อจนลูกสาวถูกผีร้ายลักซ่อนไปเสียงั้น ทำให้ครอบครัวต้องหาทางช่วยเธอออกมาให้ได้ ซึ่งนอกจากหนังเรื่องนี้จะน่ากลัวจนทำเงินไปได้มากมายแล้ว หนังยังมีเบื้องหลังสุดสยองเกิดขึ้นตลอดเวลา ตั้งแต่ โดมินิค ดันส์ พี่สาวในเรื่องเสียชีวิตหลังจากหนังออกฉายไปได้ไม่กี่เดือน เพราะถูกแฟนหนุ่มของเธอฆ่าตาย รวมทั้งเหตุการณ์ประหลาดในกองถ่ายอีกมากมาย แต่ที่หนักก็คือ สาวน้อยอย่าง ฮีเธอร์ โอรูกก์ นางเอกทั้งสามภาคมาเสียชีวิตในการถ่ายทำภาคที่สามด้วยอาการล้มป่วย และมีนักแสดงมากมายเสียชีวิตระหว่างถ่ายหนังเรื่องนี้ ซึ่งหลายคนเชื่อว่า เป็นเพราะ ในภาคแรกทีมงานนำเอากระดูกที่ใช้ในฉากนั้นเป็นกระดูกของคนจริง ๆ มาใช้ จึงทำให้หนังถูกสาป

5.     Knowby Cabin

จากภาพยนตร์เรื่อง Evil dead

          กระท่อมหลังน้อยกลางป่าใหญ่แห่งนี้ก็เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นชื่อลือชาในโลกภาพยนตร์อีกแห่งหนึ่ง เพราะ เป็นสถานที่ที่เก็บคัมภีร์สยองขวัญที่มีชื่อว่า เนโครมิค่อน หรือ หนังสือแห่งความตาย ที่ด๊อกเตอร์ด้านโบราณคดีอย่าง ด๊อกเตอร์โนบี้ค้นพบและพยายามแกะตัวอักษรเหล่านี้จนเป็นคาถาปลุกผีที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องพบกับหายนะ เช่นเดียวกับกลุ่มวัยรุ่นนำ โดย แอช ที่ยกพลมาเข้าค่ายกันที่กระท่อมน้อยหลังนี้ก่อนที่เพื่อนของเขาจะไปพบกับหนังสือเล่มนี้และคาถาปลุกผีเข้าพอดี ส่งผลให้วิญญาณร้ายฟื้นขึ้นมาและเข้าสิงเพื่อน ๆ ของเขาจนกลายเป็นผีร้ายกันไปหมด ทำให้แอช ซึ่งรอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายต้องลุกขึ้นมาสู้กับวิญญาณร้ายเหล่านี้จนกระทั่งเช้า

6.     Cyrus House

จากภาพยนตร์เรื่อง The Thir13en Ghost (1960 , 2003)

          บ้านสยองขวัญที่อาเธอร์ คริติคอส และลูก ๆ สองคนของเขาได้รับมาจากมรดกของลุงซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของเขา ซึ่งเมื่อมาถึงเขาก็ต้องพบว่า บ้านหลังนี้มันมีความแปลกก็คือ บ้านทั้งบ้านถูกติดตั้งกระจกเอาไว้ แถมกระจกนั้นยังลงอักขระภาษาลาตินโบราณเอาไว้ทั้งบ้าน แถมเจ้ากระจกนั้นยังสามารถเคลื่อนย้ายได้เองอีกต่างหาก ท่ามกลางความงุนงงปนยินดีในสภาพทั้งแตกนั้นเอง อาเธอร์ก็ได้พบกับนักล่าผีหนุ่มที่มาบอกเขาให้รู้ว่า บ้านหลังนี้ไม่ได้มีแต่พวกเขา แต่มันยังมีวิญญาณร้ายตายโหงถึง 12 ตัวถูกขังเอาไว้และรอที่จะปรากฏตัวออกมา เมื่อกลไกทั้งหมดได้ทำงานเพื่อพิธีการบางอย่าง และวิธีเดียวจะมองเห็นพวกมันก็คือ การใส่แว่นเห็นผีเท่านั้น

          โดยหนังเรื่องรีเมคมาจากหนังชื่อเดียวกันของราชากิมมิคอย่าง วิลเลี่ยม คาสเซิ่ล ซึ่งในสมัยก่อนนั้นจะมีการขึ้นตัวเลือกให้ว่า จะใส่แว่นหรือไม่ เพราะถ้าใส่แว่น คุณจะเห็นผีไปทั้งเรื่อง แต่ถ้าไม่ใส่ คุณก็ไม่เห็น ซึ่งในหนังก็เอาเรื่องแว่นนี่ล่ะเข้าไปใส่มันซะเลย ปรากฏว่าหนังทำเงินได้พอสมควร ผู้กำกับเลยได้ไปทำหนังแบบผีต่อในเรื่อง Ghost Ship (เรือผี) แต่กลับเจ๊งเสียงั้น

7.     Katie And Micah House

จากภาพยนตร์เรื่อง Paranormal Activity (2009)

          เคธี่ และ มิคก้า สองสามีภรรยาได้ซื้อบ้านหลังใหม่ในซานดิเอโก้ด้วยกัน ทว่าหลังจากอยู่กันไปได้ไม่นาน เคธี่ก็รู้สึกว่า ในบ้านหลังนี้มีอะไรบางอย่างผิดปกติ บ่อยครั้ง เธอมักจะได้ยินเสียงประหลาดในบ้าน ทั้งเสียงครางของบุคคลที่สาม เสียงฝีเท้า ไปจนถึงเงาดำ ๆ รวมทั้งปรากฏการณ์ประหลาดอย่างสิ่งของเคลื่อนที่ได้เอง ส่งผลให้เธอแทบประสาทกิน ทำให้มิคก้าที่ต้องการจะรู้ว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตัดสินใจตั้งกล้องถ่ายสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านจนได้เจอกับความสยองแบบที่เขาไม่คาดคิดมาก่อนเสียอีก

          หนังเรื่องนี้เรียกได้ว่า เป็นการเปิดศักราชใหม่ของหนังสยองขวัญแนว Mockumentary (หรือแนวสารคดีปลอม) ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงด้วยทุนสูงเพียงน้อยนิด 15500 เหรียญ แต่สามารถทำเงินไปได้ทั่วโลกกว่า 100 ล้านเหรียญปและมีภาคต่อตามมาอีกมากมายในภายหลัง   

8.     3600 Prospect Street Georgetown, Washington DC

จากภาพยนตร์เรื่อง The Exorcist

          คริส แม็คนีล และ ลูกสาว เรแกน ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้เนื่องจากงานของคริสเอง และนั่นเองที่ทำให้เธอได้พบกับเรื่องแปลก ๆ ในบ้านหลังนี้ เมื่อลูกสาวของเธอเริ่มมีพฤติกรรมประหลาด เธอเริ่มก้าวร้าวและพูดจาหยาบคาย บ่อยครั้งมีรอยแผลประหลาดเกิดขึ้นบนร่างกาย หนักกว่านั้นก็คือ ข้อต่อของเธอบิดไปมาอย่างน่าเวทนา แม้จะนำไปรักษากับหมอก็ยังไม่หายส่งผลให้คริสคิดว่า ลูกสาวของเธอถูกผีสิง ทำให้ต้องพึ่งบาทหลวงที่เชี่ยวชาญการไล่ผีมาจัดการเรื่องนี้ให้จบลง

          หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จมาก และมีภาคต่อตามมาอีกถึง 4 ภาค และสร้างชื่อให้กับลินดา แบร์ นักแสดงเด็กในตอนนั้นมากเลยทีเดียว

9.     Jersey House

จากภาพยนตร์เรื่อง The Others

              คฤหาสน์หลังโตกลางทุ่งอันเวิ้งว้างในเจอร์ซี่ อันเป็นบ้านของครอบครัว สจร๊วต ซึ่งมีผู้นำได้แก่ เกรซ และลูก ๆ ดันเป็นโรคแพ้แสงอาทิตย์จนต้องอาศัยอยู่กันในบ้านหลังมืด ๆ แห่งนี้ ท่ามกลางความใหญ่โตของมัน พวกเธออาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ กระทั่งการมาของคนรับใช้กลุ่มใหม่ ก็มีเรื่องแปลก ๆ ขึ้นเมื่อ เกรซ ได้ยินเสียงประหลาดภายในบ้านหลังนี้ ทั้งเสียงเดิน เสียงกุกกักอื่น ๆ จนเธอรู้สึกสงสัยว่า มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ จนเมื่อสืบไปสืบมา เธอจึงได้พบกับความลับสุดสยองภายในบ้านหลังนี้

             หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยายของเฮนรี่ เจมส์ ที่ชื่อว่า The Turn of the Screw เป็นผลงานสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จมากของผู้กำกับชาว สเปนนามว่า Alejandro Amenábar เช่นเดียวกับ นิโคล คิดแมนที่ได้รับคำชมจากการแสดงในหนังเรื่องนี้มากมาย

10.            Murder House

จากซีรีย์ American Horror Story Season 1

          บ้านสยองขวัญกลางเมืองลอสแองเจิลลิส ซึ่งครอบครับฮาร์มอน นำโดยจิตแพทย์หนุ่มนามว่า เบน ที่พาภรรยาอย่าง วิเวียน และ ไวโอเล็ต มาอาศัยอยู่ที่นี่เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งหลังจากชีวิตคู่ของพวกเขาเกือบล่มลงไปเพราะ การกระทำนอกลู่นอกทางของเบนเอง ทว่าเมื่อมาถึงพวกเขาก็ต้องได้พบกับบุคคลต่าง ๆ มากมาย ตั้งแต่เพื่อนบ้านท่าทางไม่น่าไว้ใจอย่าง คุณป้าคอนสตาย แลงดอน กับลูกสาวของเธอ คนไข้ของเบนอย่าง เท็ต ที่แอบสนใจ ไวโอเล็ตอยู่ เมดสาวนามมอยร่าที่มาทำงานให้กับครอบครัวฮาร์มอน คู่เกย์นักจัดบ้าน และอีกหลายตัวละครที่มารวมตัวในบ้านหลังนี้ รวมทั้งความลับดำมืดที่ซ่อนอยู่ในบ้านหลังนี้ ซึ่งถูกเรียกว่า บ้านแห่งการฆาตกรรมแห่งนี้ก็คือ บ้านแห่งนี้เป็นที่ร่วมเหล่าวิญญาณมากมายที่ยังคงติดอยู่ในนี้และไม่หายไปไหนเสียที

          ซีรีย์สยองขวัญดราม่านี้ได้รับเสียงชื่นชมอย่างดีในฐานะซีรีย์สยองขวัญที่ทำให้คนดูติดตามชมมากมาย และยิ่งไปกว่านั้นการแสดงของเจสสิก้า แลงค์ ถือว่าเป็นไฮไลท์สำคัญของเรื่องนี้เลยทีเดียว เพราะ บทบาทคุณป้าโรคจิตของเธอนั้นโดดเด่นมาก

11.            Hill House

จากหนังเรื่อง The Haunting (1963 , 1999)

          คฤหาสน์สยองที่ถูกสร้างขึ้นมาเป็นเวลากว่า 130 ปีแล้ว ตั้งอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่งทางตะวันตกของรัฐแมสซาชูเซ็ซ ซึ่งเป็นบ้านที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามแบบยุโรปเต็มไปด้วยหินแกะสลักจำนวนมาก แต่ก็ร้างมานานกระทั่งทีมทดลองของด๊อกเตอร์มาร์โลว์ที่ต้องการศึกษาอาการนอนไม่หลับโดยได้ผู้ป่วยโลกนอนไม่หลับกลุ่มหนึ่งมาที่นี่ และได้พบว่า บ้านหลังนี้ไม่ได้มีแต่พวกเขา แต่มีบางสิ่งอยู่ด้วย ก่อนที่พวกเขาจะพบว่า บ้านหลังนี้เป็นที่ใช้สังหารเด็กจำนวนมากโดยฝีมือของเจ้าของบ้านโรคจิตที่เป็นผีร้ายไปแล้วอย่าง ฮิวจ์ เคน

          หนังสยองขวัญเรื่องนี้ได้รับการกล่าวขานในฉบับเดิมว่า น่ากลัวจนขนลุกทำให้มีการนำมาสร้างใหม่อีกครั้งและอัดเอ็ฟเฟ็กเข้าไปเพียบ แต่ทว่าหนังกลับล้มเหลวทั้งรายได้และคำวิจารณ์เสียนี่ แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในหนังบ้านผีสิงที่หลายคนพอพูดถึงหนังบ้านผีสิงอเมริกาย่อมนึกถึงเรื่องนี้อยู่ด้วย

12.            Haunted Mansion

จากหนังเรื่อง The Haunted Mansion (2003)

          คฤหาสน์ยุโรปโบราณแห่งหนึ่งที่มีเจ้าของได้แก่ แรมซี่ ชายหนุ่มชาวอังกฤษผู้ลึกลับที่ได้เชิญชวนให้ จิม เอเวอร์ นายหน้าค้าบ้านจอมพูดมาก และครอบครัวของเขาอันประกอบไปด้วยภรรยาและลูกอีกสองคนไปพักผ่อนกันที่บ้านของเขาเพื่อพูดคุยกันเรื่องธุรกิจการขายบ้านหลังนี้ แต่ทว่าเมื่อมาถึงพวกเขาก็พบว่า บ้านหลังนี้มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้นมากมาย ทั้งบางสิ่งที่คอยตามหลอกหลอนพวกเขา ทั้งสิ่งของขยับได้ รูปปั้นที่ร้องเพลงได้ไม่หยุดเสียที รวมทั้งวิญญาณอีกมากมายที่อาศัอยู่ในบ้านหลังนี้ก่อนที่จิมจะพบว่า แรมซี่นั้นไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นวิญญาณที่วางแผนจะปลุกวิญญาณคนรักของเขาให้ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในร่างของภรรยาของจิม

          แม้ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ใช่หนังสยองขวัญแท้ ๆ แต่เป็นหนังตลกแบบเอ็ดดี้ เมอร์ฟีย์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเครื่องเล่นในสวนสนุกชื่อเดียวกันนี้นั่นเอง ซึ่งหนังใช้ทุนสร้างไปพอสมควร แต่หนังก็ไม่เปรี้ยงเท่าไหร่นักจนทำให้เตรียมมีการนำมันมาสร้างใหม่อีกครั้งในรูปแบบหนังสยองแท้ ๆ แทนในอนาคต

13.            Georgia House

จากหนังเรื่อง Haunting in the Connecticut 2 : Ghost in Georgia (2013)

          บ้านกลางป่าในจอร์เจียที่ครอบครัวไวลิคได้เดินทางไปอาศัยอยู่ที่นั้น และที่นั้นเองที่ลูกสาวของพวกเขาได้แก่ ไฮดี้ เริ่มมองเห็นบางสิ่ง เธอได้พูดคุยกับบุคคลคนหนึ่งที่เธอเรียกว่า คุณกอร์ดี้ที่ชอบมาเล่นกับเธอบ่อย ๆ แถมยังบอกที่ซ่อนขุมทรัพย์ให้เธออีกด้วย ซึ่งทำให้พ่อแม่และป้าของเธอประหลาดใจก่อนจะพบว่า มันเป็นพรสวรรค์ของตระกูลที่สามารถติดต่อกับสิ่งเหนือธรรมชาติ และนอกจากนั้นเอง ไฮดี้ก็เริ่มเริ่มเห็นวิญญาณตนอื่นทั้งวิญญาณของคนผิวดำสองคนบ้าง วิญญาณอื่น ๆ บ้าง กระทั่งวันหนึ่งไฮดี้ได้หายตัวไป จนพ่อแม่ของเธอต้องออกตามหาและพบว่า เธอได้มาอยู่ในหลุมหลบโบราณแห่งหนึ่งที่เมื่อสมัยมีการไล่ล่าทาสและคนผิวดีนั้น เจ้าของบ้านคนก่อนได้นำพวกเขามาซ่อนเอาไว้ และนั่นเองที่ทำให้วิญญาณร้ายบางอย่างได้เริ่มจู่โจมครอบครัวนี้

          หนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องจริงของครอบครัวไวลิคที่ได้ประสบพบเจอกับประสบการณ์ทางวิญญาณที่เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์การค้าทาสและไล่ล่าคนผิวสีอันเป็นประวัติศาสตร์มือครั้งหนึ่งของคนอเมริกันที่อยากจะลืมเลือน ซึ่งเรื่องนี้ก็โด่งดังมากจนเป็นหนึ่งในเรื่องผีในบ้านที่คนอเมริกันต่างรู้จักกันเลยทีเดียว แถมยังมีหนังสือเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาในชื่อ The Veil: Heidi Wyrick's Story.

         

          หลังจากผมได้พาทุกท่านไปทัวร์บ้านผีสิงสุดเฮี้ยนในอเมริกาทั้งหมดแล้ว สิ่งที่ผมได้พบในบ้านเหล่านี้นอกจากความสยองแล้ว เรายังได้พบกับประวัติศาสตร์ ภาพความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นผ่านเรื่องเล่าเหล่านั้น มันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้าน บ้านที่เป็นเสมือนที่หลบภัย ที่พักผ่อน และ ที่อยู่แห่งนั้น

          มีคนตั้งทฤษฏีว่า ผี คือ ภาพทรงจำของสถานที่นั้น ๆ เมื่อยามมีชีวิตอยู่ วิญญาณเหล่านั้นต่างเคยอาศัยวนเวียนอยู่ ณ ที่แห่งนั้น ทำกิจกรรมต่าง ๆ กันซ้ำไปมากระทั่งวันตาย พวกเขาก็ไม่อาจจะหลีกหนีความทรงจำนั้นไปได้ บ้านจึงมีสภาพเหมือนสถานที่ใช้เพื่อเก็บกักความทรงจำเหล่านั้น ทั้งความสุข ทั้งความทุกข์ และอื่น ๆ อีกมากมาย เสมือนภาพยนตร์ที่ฉายเรื่องราวให้ได้เห็น บ้านผีสิงก็เช่นกัน ถ้าเป็นบ้านที่มีแต่ความสุขไม่มีความทุกข์ก็คงไม่มีเรื่องผีสิงเกิดขึ้นในบ้านพวกนี้

          และเพราะ เราคือ มนุษย์ เราจึงมีความเจ็บปวด เช่นเดียวกับการมีความสุข และทุกข์ไปพร้อม ๆ กัน

          เหมือนที่บ้านคือ ที่พำนักสุดท้ายและความทรงจำสุดท้ายของวิญญาณเหล่านั้นที่สักวันเรื่องราวของพวกเขาก็จางหายไปในความทรงจำของผู้คนเหมือนบ้านที่ค่อย ๆ พังทลายจนไม่เหลือซาก

          ขอให้สนุกกับการดู The Conjuring ครับ  

          

บล็อกของ Mister American

Mister American
คงไม่มีอะไรต้องพูดมากนอกจากนี่คือ ภาพยนตร์ซอมบี้ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี และที่สำคัญนี่ไม่ใช่หนังที่สร้างโดยฮอลลีวู้ดแต่เป็นเกาหลีใต้ ประเทศที่มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเอเชียที่เรียกว่าเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วในด้านคุณภาพของหนังที่นอกจากฮอลลีวู้ดแล้วมีเพียงประเทศนี้ที่ทำหนังออกมาได้สากลและสนุกในแบบที่ทุก
Mister American
ยังคงเป็นช่วงเวลาเศรษฐกิจยังไม่มีวี่แววว่าจะ ฟื้นตัวเสียที ในช่วงปลายปี 2015 นี้ทุกอย่างยังคงมองไม่เห็นว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร กระนั้นเองสำหรับงานหนังสือแห่งชาติ เดือนตุลาคมนี้ยังคงเป็นช่วงเวลาร้อนแรงของบรรดาค่ายไลท์โนเวลต่าง ๆ มากมายที่ต่างเตรียมกระสุนดินดำ หรือ ออกหนังสือมาเพื่อจูงใจนักอ่านทั้งหล
Mister American
           ความสำเร็จครั้งมโหฬารของภาคที่สี่ของแฟรนไชส์ Jurassic Park อย่าง Jurassic World นั้นเรียกได้ว่า เป็นการหักปากกานักสังเกตที่คาดเดาว่า ภาคต่อของไดโนเสาร์ภาคนี้อาจจะทำเงินได้ไม่มากนัก ทว่า การเปิดตัวในอเมริกากว่า 200 ล้านเหรียญในเวลาเพียงสามวันจนทำลานสถิติของ
Mister American
              ท่ามกลางความเงียบงันสถาวะเงินฝืดที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้มีสภาพเรียกว่า ย่ำแย่ที่สุดในหลายปี ผู้คนไม่ยอมจับจ่ายใช้สอยกันยกเว้นเพียงจำเป็นทำให้สถาวะของประเทศค่อนข้างเงียบ บริษัทหลายบริษัทต่างเจ็บตัวเข้าเนื้อกันไปตาม ๆ กันทำให้หลายคนคาดการณ์ว
Mister American
            “บางระจัน บางระจัน บางระจัน ไม่อาจยืนอยู่ทุกวันเพ็ญเดือนสิบสอง บางระจัน บางระจัน บางระจัน ไม่อาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง”
Mister American
                ถ้าให้พูดล่ะก็นี่ก็เป็นเวลาครบรอบสามปีแล้วกระมั้งครับนับจากการล่มสลายของค่าย Bliss publishing  ค่ายหนังสือยักษ์ใหญ่ที่ปิดตัวลงไปและทำให้กระแสหนังสือเล่มเล็กอย่างไลท์โนเวลนั้นกลายเป็นหนังสือกระแสหลักที่หลายค่ายพากันกระโจนเข้ามาร่วมสมรภูม
Mister American
            เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้นวงการภาพยนตร์ไทย ไม่สิ ต้องบอกว่า วงการภาพยนตร์เมอร์เชียลอาร์ตของโลกนั้นต้องสูญเสียปรมาจารย์ สุดยอดนักสู้ของโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ แม้ว่า ชื่อเสียงของชายคนนั้นจะแทบไม่เป็นที่สนใจของสื่อหรือคนไทยมากนัก หลายคนถึงกับงุนงงว่
Mister American
            ย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เราคงได้เห็นนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชนของ คสช อย่างการเปิดโรงภาพยนตร์เมเจอร์ให้ชมภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคที่ 5 กันไปบ้างแล้ว  แน่ล่ะว่า หลายคนคงจดจำภาพของบรรดาผู้คนที่พากันยื้อแย่งก
Mister American
        ต้องบอกว่า นี่คือ อนิเมะที่มาแรงแซงทางโค้งที่สุดในซีซั่นที่ผ่านมาเลยทีเดียว ท่ามกลางกระแสอนิเมะฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมามากมายและหลายคนคาดว่า อนิเมะที่ถูกดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกันของ ยู คามิยะ นักเขียนการ์ตูนที่อ
Mister American
              ท่ามกลางความวุ่นวายของการเมืองไทยที่ถึงจุดพลิกพันอีกครา หลังเกิดการัฐประหารขึ้นอีกครั้งได้ส่งผลกระทบต่อวงการภาพยนตร์โดยรวม แน่ล่ะว่าภาพยนตร์ไทยที่สามารถทำรายได้มหาศาลในตอนนี้นั้นคงไม่พ้นหนังอย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคที่ 5 ยุทธหัตถีที่กวาดร
Mister American
          ถ้าพูดถึงหนังซัมเมอร์บล็อกบัสเตอร์ในปีนี้ที่ผมอยากดูใจจะขาดชนิดว่า แทบคลั่งแบบรอไม่ไหวแล้วที่จะต้องไปดูให้ได้นั้นย่อมไม่มีหนังเรื่องไหนทำให้ผมเกิดอาการคลั่งได้มากพอ ๆ กับหนังเรื่อง ก็อตซิลล่า (Godzilla) ของ กาเรธ เอ็ดเวิร์ด ที่เป็นการนำก็อตซิลล่