Skip to main content

คงไม่ต้องบอกว่า ณ ช่วงเวลานี้ หลาย ๆ คนคงให้ความสนใจกับการชุมนุมของบรรดาหนุ่มสาววัยรุ่นที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ กลุ่มนักเรียน นักศึกษาคนรุ่นใหม่ที่ออกมาชุมนุมเรียกร้องการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ ขับไล่เผด็จการ และ เปลี่ยนแปลงประเทศใหม่ กันอย่างแน่นอน โดยเฉพาะปรากฏการณ์ของการชุมนุมที่เกิดขึ้น ณ ช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาปรากฏขึ้นเป็นสายตาอันน่าตื่นตะลึง น่าตกใจ ของ บรรดาฝ่ายรัฐบาลที่ได้พบว่า การชุมนุมได้เกิดขึ้นไปทั่วประเทศ ในรูปแบบต่าง ๆ มากมายที่เรียกความสนใจให้กับมวลชนวัยรุ่นกลุ่มนี้ที่ลุกขึ้นต่อต้านและพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ อย่างไม่กลัวเกรง ทั้งที่เมื่อก่อนหลายคนไม่กล้าแม้จะออกตัวว่า ต่อต้านเผด็จการเสียด้วยซ้ำ ตอนนี้กลับกลายเป็นกระแสต่อต้านเกิดขึ้นไปทั่วราวกับเป็นเทรนด์ที่วัยรุ่นทุกคนรู้กันอย่างชัดเจน

เปิดยุทธวิธีม็อบ “เยาวชนปลดแอก” “อ.นิด้า” ชี้หลายปัจจัยดึงคนลงถนน ...

                เหตุผลสำคัญที่ทำให้เด็กวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา อาชีวะ เทคนิค ไปจนถึงบรรดาคนรุ่นใหม่ออกมาพูดก็คือ ความล้มเหลวของระบบต่าง ๆ ในประเทศไทย อาทิ ระบบความยุติธรรม ระบบเศรษฐกิจ ระบบการเมือง ระบบความน่าเชื่อถือที่พังทลายลง ณ การปกครองของรัฐบาลทหารที่แม้จะเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลที่ซ่อนรูปใช้กลโกงต่าง ๆ ทั้งรัฐธรรมนูญ พวกพ้องจนได้ปกครองประเทศต่อจนถึงบัดนี้ ซึ่งพวกเขามองว่า การคงอยู่ของรัฐบาลและระบบแบบนี้กำลังทำลายประเทศนี้ และ อนาคตของพวกเขาอย่างสิ้นเชิง

แฟลชม็อบมาแล้ว คณะประชาชนปลดแอก นัดรวมตัวด่วน ที่สกายวอล์

                แม้ว่าการออกมาของพวกเขาจะทำให้ผู้ใหญ่ รัฐบาลมองว่า มันคือ ปฏิปักษ์และสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดขึ้น และ พยายามปราบปราม จับกุมบรรดาแกนนำ สร้างความกลัวให้มากขึ้นก็ตาม ทว่า เหมือนยิ่งทำจะยิ่งเป็นไฟไหม้ไปเรื่อย ๆ ที่ตอนนี้การชุมนุมกำลังจุดติดแล้ว ณ ตอนนี้

                แน่ละว่า การลุกขึ้นเผชิญหน้าต่อผู้ใหญ่ และ ความอยุติธรรมต่าง ๆ ที่มีในสังคมทำให้ผมนึกถึง อนิเมชั่นเรื่องหนึ่งที่ออกฉายไปเมื่อปี 2019 ที่ผ่านมา นั้นคือ Weathering With You (Tenki No Ko)  ผลงานล่าสุดของผู้กำกับชาวญี่ปุ่นที่สร้างปรากฏการณ์ Kimi No Nawa (Your Name) ฟีเวอร์ทำเงินถล่มทลายไปทั่วโลกอย่าง มาโคโตะ ชินไค ที่แม้ว่า ผลงานเรื่องใหม่นี้จะทำเงินและได้รับเสียงตอบรับไม่เท่าเรื่องที่แล้ว กระนั้นเองตัวอนิเมชั่นเรื่องนี้ก็ยังคงถูกพูดถึง ณ เวลานี้ ในฐานะ อนิเมชั่นที่บอกเล่าเรื่องการต่อสู้ระหว่าง เด็ก และ ผู้ใหญ่ได้อย่างน่าตื่นตะลึง ท่ามกลางไฟของการต่อสู้ที่เกิดขึ้นทั้งในฮ่องกง หรือ ไทยเองก็ตาม

                Weathering With You (Tenki No Ko) บอกเล่าเรื่องของ โฮดากะ เด็กหนุ่มจากเกาะแห่งหนึ่งที่ตัดสินใจหนีออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่โตเกียวด้วยความรู้สึกเบื่อหน่ายบ้านนอกของเขาที่เป็นเกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งเท่านั้น เขามาถึงเมืองหลวงที่ฝนตกตลอดเวลาพร้อมกับความไม่รู้อะไรเลย ไม่มีใครรู้จัก ไม่รู้จะไปไหน และ อับจนหนทางจนกระทั่งเขาได้รับความช่วยเหลือจาก สุกะ นักข่าวอิสระและผู้เขียนคอลัมน์และ นัทสึมิ น้องสาวของสุกะให้ทำงานเป็นผู้ช่วยของบริษัทด้วยกัน และนั้นทำให้เขาได้เจอกับฮินะ เด็กสาวผู้มีพลังในการทำให้ท้องฟ้าสดใสได้ เขาและเธอจึงร่วมมือกันหาเงินจากพลังนี้โดยไม่รู้ว่า มันกำลังจะทำให้พวกเขาได้เจอกับการผจญภัยครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนชีวิตของเขาและเธอตลอดกาล

                แน่นอนว่า ภายใต้ภาพพล็อตแฟนตาซี บวกกับ เลิฟสตอรี่ที่ว่าด้วยชายหนุ่มหญิงสาวที่มีพลังพิเศษและต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบมากมายนี้ ตัวของอนิเมชั่นเรื่องนี้มีจุดเด่นคือ จุดศูนย์กลางของเรื่องคือ เด็กที่อายุไม่ถึง 18 ปี หรือ ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ทั้งสามคนอย่าง โฮดากะ , ฮินะ และ นากิ น้องชายของฮินะ ที่ต้องเผชิญหน้ากับเรื่องราวต่าง ๆ ที่ประดังประเดเข้ามาจนพวกเขาได้เรียนรู้โลกอันโหดร้ายนี้ได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

                โดยเฉพาะการต่อสู้กับผู้ใหญ่ และ ระบบของสังคมอันโหดร้ายที่พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อน

                บทความนี้มีสปอยเนื้อหาของเรื่องนี้ และ งานของชินไค มาโคโตะอย่าง Your Name

1.บ้านนอกที่สิ้นหวัง กับ เมืองหลวงแห่งความฝัน ความหวัง และ ความเจ็บปวด

“มันไม่ได้เลวร้ายอะไรหรอกครับ แค่ผมอยู่แล้วรู้สึกว่า มันอึดอัด”

โฮดากะบอกกับสุกะถึงบ้านเกิดของเขา เกาะเล็ก ๆ หนึ่งที่ไม่มีอะไรเลย มันคือ บ้านนอก เมืองชนบทที่ไม่มีอะไรนอกจากผู้คนที่มีไม่ถึงร้อยหลังคาเรือน ป่าไม้ ทะเล และ ผู้คนที่ไม่มีความทะเยอทะยานอื่นใด โฮดากะเป็นเด็กบ้านนอกที่รู้สึกว่า เบื่อหน่ายโลกที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บ้านนอกของเขามันเหมือนเดิมเหมือนที่เขาเป็นมาตลอด ความรู้สึกทะเยอทะยานและอยากจะพบกับโลกที่ต่างออกไปทำให้เขาตัดสินใจหนีออกจากบ้านมาก่อนจะเรียนจบเพื่อมายังโตเกียวที่ที่เขาได้ยินว่า มันคือ ที่ที่ดีกว่า บ้านนอกของเขามากนัก ทั้งผู้คน ตึกรามบ้านช่อง สิ่งต่าง ๆ รอบตัว ทั้งรถไฟ รถยนต์และอื่น ๆ มันคือ ภาพฝันของเขามาตลอด แน่นอนว่า โฮดากะเองก็ไม่ต่างจาก มิตสึฮะ จาก Your Name ที่เบื่อหน่ายการใช้ชีวิตในหมู่บ้านนี้ที่ไม่มีอะไรเลย เธออยากจะเรียนจบแล้วรีบ ๆ ไปเมืองหลวงซะที อย่างน้อยก็มีอะไรมากกว่าการต้องจมปลักอยู่ในหมู่บ้านนี้ที่เธอไม่มีความอาลัยอาวรณ์กับมันอีกแล้ว

บ้านนอกคือ ภาพของเมืองที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ความไม่ทะเยอทะยานที่เกิดขึ้นจากผู้ใหญ่ มันคือ ภาพของการถูกสต๊าฟเอาไว้ ณ เวลาเดิม ผู้ใหญ่ไม่มีความคิดจะเปลี่ยนอะไร พวกเขาใช้ชีวิตไปวัน ๆ และ รอวันตาย ไม่เหลืออะไร แม้จะมีหลายคนมองว่า การอยู่ที่นี่ก็ไม่เห็นแย่อะไร แต่สำหรับคนอย่างโฮดากะ หรือ มิตสึฮะกลับรู้สึกว่า ที่นี่ไม่ต่างกับคุกที่จองจำพวกเขา

ทว่า โตเกียวก็ไม่ใช่เมืองที่สวยงามแบบที่พวกเขาคาดหวังสักเท่าไหร่อยู่ดี

โฮดากะพบว่า เมืองนี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ทุกอย่างต้องใช้เงิน และ เงินของเด็กม.ปลายแบบเขาก็ไม่พอแน่นอน นี่ยังไม่รวมถึงการถูกคุกคามจากนักเลง ยากูซ่า ที่ทำให้โฮดากะรู้สึกราวกับว่า เขาคิดผิดหรือเปล่าที่มาที่นี่ ซึ่งในเรื่องก็มีภาพที่ถามว่า เขาควรจะถอยกลับไปหรือเปล่า

กลับไปบ้านดีไหม ?

อย่างน้อยก็ไม่ต้องลำบากแบบนี้

Recipes for Food that Appear in Makoto Shinkai's New Film Tenki no ...

อีกคนที่รู้สึกว่า เมืองหลวงนี้ลำบากเหลือเกินคือ ฮินะ ที่ต้องดิ้นรนสุดชีวิตในเมืองนี้ หลังจากแม่ของเธอป่วยหนัก และ ต้องใช้ชีวิตลำพังกับน้องชายเพียงสองคน เธอต้องทำงานพิเศษเพื่อหาเงินใช้จ่าย ทั้งที่พวกเธอเป็นแค่เด็กเท่านั้น มันต้องแบกรับทุกอย่างเอาไว้

โตเกียวในมุมมองของฮินะก็ไม่ต่างกับคุกที่ทำให้เธอไม่มีอิสระ ผ่านกฎเกณฑ์ต่าง ๆ รอบตัว ทั้งกฎหมายผู้เยาว์ การทำงานและอื่น ๆ ที่ทำให้เธอต้องดิ้นรนอย่างที่สุด แม้ว่าจะต้องทำงานผิดกฎหมายหรือค้าประเวณีก็ตาม ทำให้เมืองโตเกียวนี้มีสภาพเหมือนนรก ไม่ได้สวยงามแบบที่พวกเขาจินตนาการ

อาจจะเพราะ พวกเขาเป็นเด็กเลยรู้สึกแบบนั้นกับเมืองนี้ก็ได้

ทว่าในระหว่างที่พวกเขากำลังสิ้นหวัง และ ไม่รู้จะไปยังไงในเมืองนี้นั้นเอง ทั้งโฮดากะ และ ฮินะก็ได้รับความช่วยเหลือซึ่งกันและกันจนมองเห็นทางที่จะอยู่ด้วยกัน แม้ต้องเผชิญหน้ากับความเลวร้ายที่รออยู่ก็ตาม

  1. ผู้ใหญ่สารเลว ทางเลือกของเด็กที่ถูกบีบ

แน่นอนว่า ตัวละครในอนิเมชั่นเรื่องนี้มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่เด็ก ๆ อย่าง ฮินะ และ โคดากะก็จริง ตัวละครที่เป็นผู้ใหญ่และโดดเด่นคือ สุกะ และ นัทสึมิ สองพี่น้องที่ช่วยเหลือโคดากะเอาไว้ แน่นอนว่า สุกะคือ คนที่ช่วยชีวิตของโคดากะไว้บนเรือ ก่อนจะรับเข้ามาเป็นผู้ช่วยในการเขียนคอลัมน์และเป็นสารพัดเบ๊ในบ้านของพวกเขา แน่นอนว่า เราได้รับรู้เรื่องราวส่วนตัวของเขาว่า ไม่ได้ต่างกับตัวโคดากะเลย

“ฉันเองก็หนีมาจากบ้านเหมือนกับนายนั้นแหละ”

สุกะบอกกับโคดากะแบบนั้น ใช่แล้ว เขาเองก็เหมือนโคดากะที่หนีออกมาจากบ้าน มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองหลวงแห่งนี้ แน่นอนว่า เขาได้พบรักกับภรรยา และ มีลูกหนึ่งคน ทว่า หลังการตายของภรรยา เขาต้องเลี้ยงลูกเพียงลำพัง แต่เพราะ ลูกสาวปวดเป็นโรคปอดอันทำให้มักป่วยหนักเวลาฝนตก ส่งผลให้ต้องแยกกันอยู่กับลูกในที่สุด แม้ว่าจะได้โอกาสไปเยี่ยมลูกบ่อย ๆ แต่เขาเองก็กลุ้มใจกับการรักษาลูกคนนี้อยู่เสมอ

GKIDS - If you're riding in Natsumi's lane, you'd better...

เช่นเดียวกับ นัทสึมิ น้องสาวผู้แสนสวยของสุกะเองที่พึ่งเรียนจบใหม่ ๆ และ ยังหางานทำอยู่ แต่ก็ไม่มีที่ไหนรับเธอเสียที่ เหตุผลที่นัทสึมิบอกคือ พวกเขามองว่า เธอไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ แน่นอนละว่า ท่าทางของนัทสึมิเองก็เป็นหญิงสาวที่รักสนุก ชอบการผจญภัย โดยเฉพาะการขี่มอเตอร์ไซด์สีชมพูของเธอซิ่งหนีตำรวจเพื่อช่วยโคดากะยิ่งเห็นชัดว่า เธอมีความเป็นเด็กที่ยังไม่โตอย่างชัดเจน

นอกจากนี้เองตัวละครผู้ใหญ่ที่เราได้เห็นก็ได้แก่ ยากูซ่าที่ทำปืนหล่นเอาไว้ให้โคดากะเก็บ หรือ ตำรวจที่พยายามตามล่าโคดากะอย่างเอาเป็นเอาตาย ก็เป็นหนึ่งในภาพของผู้ใหญ่ที่ทิ้งความเป็นเด็กไปแล้ว และ มุ่งหน้าสู่กิเลสตัณหาและแน่นอนคือ ความเห็นแก่ตัว

สุกะคือ โคดากะในเวอร์ชั่นที่เลือกจะทิ้งฮินะไว้ และ ปล่อยให้เธอเป็นเครื่องสังเวยของเทพแห่งท้องฟ้า เพื่อให้ ฝนหยุดตก ภาพของสุกะที่พยายามให้โคดากะหยุดไปช่วยฮินะเพื่อจะให้ฝนหยุดตกและลูกสาวของเขาจะได้หายป่วย เป็นภาพของผู้ใหญ่ที่สารเลวที่เลือกเห็นแก่ตัวและให้ฮินะเสียสละเพื่อเมือง

มันคือ ภาพอันน่าสังเวชใจของชายที่เคยมีความฝัน ความหวังและถูกกลืนกินด้วยความเห็นแก่ตัว

แม้ว่าเจ้าตัวจะกลับลำได้ แต่มันก็ทำให้เรารู้สึกเศร้าใจแทน

ถ้าเราต้องโตไปแล้วต้องกลายเป็นคนที่เลวร้ายแบบนี้ด้วยเหรอ ?

ยิ่งมีคำถามว่า ถ้าผู้ใหญ่ทำให้เกิดความพินาศได้ขนาดนี้ แล้ว ทำไมเด็กอย่างพวกเราต้องก้มหน้ายอมรับกรรม ยอมรับสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำมาด้วยกันเล่า

ทำไมต้องเสียสละสังเวยเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเพื่อเพียงผู้ใหญ่และเมืองที่ไม่ได้มีใยดีกับพวกเขาเลยกันเล่า

จึงไม่แปลกว่า โฮดากะตัดสินใจเผชิญหน้ากับเมือง เผชิญหน้ากับทุกคนเพื่อพาตัวฮินะกลับมา

แม้ว่า มันจะทำให้เมืองโตเกียวต้องจมน้ำก็ตาม

DenZero - Tenki no Ko! Animu Moobie Review~ (kinda)... | Facebook

แน่ละว่า การกระทำของโฮดากะนั้นทำให้คนดูอนิเมชั่นหลายคนพากันส่ายหน้า บางคนถึงกับพูดด้วยความดูแคลนว่า โฮดากะติดผู้หญิงจนเลือกให้เมืองพินาศ

หลายคนพากันเทียบว่า ทาคิที่ช่วยคนทั้งหมู่บ้านเอาไว้ยังดีกว่า

ไม่แปลกหรอกครับที่หลายคนจะชอบทาคิมากกว่า เพียงแต่หลายคนคงลืมไปว่า มิทสึฮะและทาคิก็ต้องเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมเหมือนกัน

ณ ช่วงเวลาที่ทาคิได้ย้อนเวลามาในร่างของมิทสึฮะ เขาพยายามจะบอกให้ทุกคนหนีไปเพียงแต่ไม่มีใครเชื่อเลย เขาเผชิญหน้ากับพ่อของมิทสึฮะก็ไม่สามารถโน้มน้าวให้เขายอมเชื่อได้ จนกระทั่งตัวของมิทสึฮะได้รับมอบความกล้ามาจากทาคิที่จะเปลี่ยนชะตากรรมส่งผลให้เธอไปเผชิญหน้ากับพ่อของเธอ

และทำให้คนทั้งหมู่บ้านรอดจากดวงตกได้สำเร็จ

หากว่า มิทสึฮะและทาคิไม่ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับผู้ใหญ่และก้มหัวยอมรับชะตากรรมไป พวกเขาย่อมไม่สามารถเจอฉากจบที่สวยงามได้

  1. ไม่มีสิ่งใดจีรัง และ ทุกสิ่งย่อมมีการเปลี่ยนแปลง

“มันก็แค่กลับไปสู่สิ่งที่มันควรจะเป็นอีกครั้ง”

คงไม่แปลกใจหรอกว่า ภาพของเมืองโตเกียวที่ถูกน้ำท่วมคือ ผลจากทางเลือกของโฮดากะ ที่ช่วยเหลือฮินะเอาไว้จากการเป็นเครื่องสังเวยของท้องฟ้า นั้นทำให้เมืองโตเกียวถูกน้ำท่วมและผู้คนต้องสูญเสียบ้านเดิมและพื้นที่เกือบหมด กระนั้นเองผู้คนในโตเกียวก็ไม่มีใครตาย และ ที่สำคัญคือ พวกเขาปรับตัวกลับมันได้อย่างเหลือเชื่อ

แม้แต่คุณยายของทาคิที่รู้จักกับพวกโฮดากะเองก็บอกว่า ไม่มีปัญหาอะไร มันก็แค่เป็นไปตามที่มันควรเป็น

ขณะที่ผู้ใหญ่ยอมรับกับสภาพนี้ได้และมองมันด้วยสายตาจนใจ

เหมือนที่สุกะบอกว่า มันไม่ใช่ความผิดของโฮดากะเลย

พวกเขาปรับตัวได้ และ ทุกคนยังก้าวเดินต่อไป

ใช่แล้วไม่ต่างจากพวกคนจากเมืองเล็ก ๆ อย่าง โทโมริ ของมิตสึฮะที่สูญเสียหมู่บ้านจากดาวหาง และ อพยพเข้าสู่เมือง เข้าสู่การเป็นคนเมืองอย่างแท้จริง

ที่สำคัญพวกเขาปรับตัวได้เป็นที่เรียบร้อย

มิตสึฮะทำงานเป็นพนักงานขายจิลเวอรี่ เท็ตชี่กับแฟนก็ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน ยตสึฮะก็เรียนม.ปลายในเมืองหลวง แน่นอนว่า ทั้งนากิ นัทสึมิ ต่างมีชีวิตที่เปลี่ยนแปลง และ แน่นอนรับกับสภาพของช่วงเวลานี้ที่พวกเขาเปลี่ยนมันได้สำเร็จ

เหมือนคำพูดว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นมนุษย์ก็ต้องเดินต่อไป

ไม่มีสิ่งใดจีรัง

เช่นเดียวกับระบอบเก่า หมู่บ้าน เมืองที่พังทลาย ฝนที่ตกไม่หยุด ทุกอย่างเกิดขึ้นและสักวันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไป

ไม่มีใครอยู่ยั้งยืนยงตลอดไป

มีเพียงมนุษย์ที่ต้องก้าวเท้าเดินต่อ

  1. ทางเลือกของเด็ก และ เทพเจ้าไร้ความชอบธรรม

หนึ่งในสิ่งที่เป็นส่วนที่หลายคนสนใจคือ กฎหมายของญี่ปุ่นที่ไม่ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แยกตัวมาอยู่เพียงคนเดียว หรือ ทำงานเพียงลำพัง โดยไม่มีผู้ปกครอง หาก ผู้ปกครองเสียชีวิต พวกเขาจะต้องไปอยู่ที่สถานพินิจจนกว่าอายุจะครบเกณฑ์ หรือ อยู่กับญาติเป็นต้น ซึ่งตรงนี้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ทั้งโคดากะและฮินะต้องหนีตำรวจเกือบทั้งเรื่อง เพราะ พวกเขาอายุไม่ถึง 18 ปี และ แน่นอนว่า ฮินะเองก็โกหกเรื่องอายุจนโดนไล่ออกจากที่ทำงานพิเศษมาหลายครั้ง และ ต้องคอยเอาตัวรอดไปวัน ๆ ด้วยความรู้สึกว่า ต้องการพึ่งพาตัวเองไม่พึ่งผู้ใหญ่คนอื่น นัยยะคือ ผู้ใหญ่นั้นไว้ใจไม่ได้ในสายตาของฮินะ

Top 3 Tenki No Ko: Weathering With You Story Predictions (with ...

นี่คือ เหตุผลที่ว่า ฮินะ อยากจะโตเป็นผู้ใหญ่เร็ว ๆ จะได้ทำงานเลี้ยงดูน้องชายได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นากิ น้องของเธอบอกว่า มันน่าเศร้าที่ฮินะจะไม่ได้ใช้ชีวิตในฐานะวัยรุ่นเลย

“พี่น่ะทำทุกอย่างเพื่อผมจนไม่ได้มีความสุขของตัวเองเลย”

นากิฝากโฮดากะให้ดูแลฮินะ แม้จะไม่แน่ใจว่า เด็กหนุ่มหนีออกจากบ้านคนนี้จะรักและปกป้องพี่สาวของเขาได้แค่ไหน

โฮดากะเองก็เช่นกัน

เขามาเผชิญโชคที่เมืองโตเกียวนี้เพื่อหนีความน่าเบื่อจากบ้านตัวเอง เขาเองก็ต้องหลบหลีกการไล่ล่าของตำรวจไปพร้อมกัน แม้ว่า จะได้ที่พักของสุกะก็ตาม แต่ไม่นานนักเขาก็ถูกตำรวจไล่จับอยู่ดี เขาต้องระหกระเหินไปมาในเมืองนี้พร้อมกับปืนที่เก็บได้ แน่ละว่า เขาใช้มันเพื่อปกป้องฮินะจากยากูซ่า ขณะเดียวกันใช้มันเพื่อเอาตัวรอดด้วย

แน่ละว่า ปืนคือ นัยยะของอวัยวะเพศชาย การที่เด็กหนุ่มวัยยังไม่โตแบบโฮดากะครอบครองมันเอาไว้คือ สิ่งที่ผิดปกติ คล้ายกับการโหยหาความเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน ยิ่งเมื่อโดนจับได้และรู้ว่า ฮินะอายุน้อยกว่ามาตลอดเขายิ่งทำท่าเสียดายและพูดออกมาว่า

“อายุน้อยกว่าเราด้วยซ้ำ”

มันคือ ภาพของความเจ็บปวดว่า การที่พวกเขาจะมีสิทธิอิสระในการใช้ชีวิตของตัวเองนั้นต้องเป็นผู้ใหญ่ก่อนทั้งที่พวกเขาเชื่อว่า ตัวเองสามารถเลือกทางตัวเองได้ในเวลานี้

ทำไมพวกเขาถึงไม่มีอิสระละ ?

เรารู้กันดีว่า กฎหมายนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อปกป้องเด็ก และ ดูแลให้เด็ก ๆ โตขึ้นอย่างมีความสุขภายใต้การดูแลของครอบครัว ทว่า ตัวหนังก็บอกอยู่แล้วว่า ใช่ว่า ทุกคนจะมีความสุขกับครอบครัว และ ครอบครัวจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับพวกเขาเหมือที่มันบอกว่า คนแปลกหน้าอย่าง ฮินะ นากิ โคดากะ นัทสึมิ สุกะ ยังดูแลกันเป็นครอบครัวที่ห่วงใยกันและกันดีกว่าครอบครัวจริง ๆ เสียอีก

มันตอกย้ำภาพว่า ครอบครัวที่แท้จริง ๆ อาจจะไม่ใช่คนสายเลือดเดียวกัน แต่เป็น คนที่รักห่วงใยและดูแลกันและกันแบบที่ตัวละครในเรื่องนี้ทำก็ได้

เหมือนกับอนิเมชั่นของซาโตชิ คง อย่าง Tokyo Godfather ที่บอกเล่าเรื่องราวของคนไร้บ้านสามคนที่ต้องช่วยเหลือเด็กทารกเอาไว้ในคืนคริสต์มาสและได้ผจญภัยและเยียวยาหัวใจและความเจ็บปวดของพวกเขาไปพร้อม ๆ กัน ทำให้ Weathering With You มีนัยยะในการตั้งคำถามกับคำว่า ครอบครัว ผู้ใหญ่และกฎหมายได้อย่างน่าสนใจว่า ทำไมเราถึงไม่มีสิทธิที่จะเลือกทางของตัวเองทั้งที่เราสามารถทำให้มันดีกว่านี้ได้กันล่ะ

ยิ่งมันตอกย้ำด้วยการให้โฮดากะตัดสินใจช่วยฮินะจากการเป็นเครื่องสังเวยแก่ท้องฟ้า ทั้งที่ผู้ใหญ่พวกนั้นตั้งใจจะให้ฮินะเป็นเครื่องสังเวยโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ยิ่งสะท้อนภาพความเลวร้ายของระบบที่ผู้ใหญ่สร้างมา และ ตั้งคำถามว่า

ผู้ใหญ่พวกนั้นเอาสิทธิอะไรมาบังคับให้เด็กที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ต้องเสียสละเพื่อพวกเขาด้วย

ทั้งที่พวกเขาเอาแต่ออกคำสั่งด้วยความคิดว่า นี่เพื่อเด็ก ๆ เอง และ เพื่อทุกคนโดยไม่รู้ว่า มันกำลังทำลายชีวิตของเด็ก ๆ ลงโดยที่พวกเขาไม่ได้ยินยอมพร้อมใจเลย

ไม่แปลกที่ในเมื่อผู้ใหญ่และเมืองนี้ไม่ได้ให้อะไรกับพวกเขา

พวกเขาจะเสียสละไปทำไม ?

เช่นเดียวกับเทพเจ้าทั้งหลายที่ทั้งเอาแต่ใจ และ ไร้ซึ่งมนุษยธรรมเองก็เช่นกัน

การปฏิเสธจะสังเวยฮินะ และทำให้เมืองโดนน้ำท่วมก็เป็นอารยขัดขืนที่ทั้งสองคนเลือกแล้วและทำให้พวกผู้ใหญ่ในเรื่องรู้ดีว่า สิ่งที่พวกเขากะเกณฑ์มิอาจจะขวางกั่นเสรีภาพและทางเลือกของพวกเขาไปได้

เพราะ พวกเขาคือ อนาคต

  1. ความหวังคือเรื่องราวของอนาคต

คงไม่ต้องพูดว่า ประเด็นสำคัญของเรื่องนี้คือ ความหวังที่มีต่อสิ่งที่เรียกว่า อนาคต

Tenki no Ko (WEATHERING WITH YOU) [Best Review]

ภายใต้ความแฟนตาซี ภาพของเหล่าเทพเจ้าในความเชื่อของชินโตที่แฝงอยู่ในเรื่องราวทั้งสองเรื่องนี้ สิ่งที่หนังมันเน้นย้ำก็คือ จงเชื่อมั่นในความหวังและอนาคตที่มีต่อเด็ก ๆ ในเรื่องนี้

เด็ก ๆ ในเรื่องพากันต่อสู้กับชะตากรรมที่บีบคั้นพวกเขา ชะตากรรมแห่งความตาย ชะตากรรมแห่งความเจ็บปวด ทุกอย่างบีบคั้นอย่างหนักก่อนสุดท้ายทั้งหมดทั้งมวลจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายไปได้

มิตสึฮะกับทาคิได้แต่งงานกันในที่สุด ทั้งคู่ได้พบเจอกันอีกครั้ง ณ วันที่ฝนหยุดตก

ลูกสาวของสุกะแข็งแรงขึ้น และ แน่นอนว่า ทั้งนัทสึมิและ นากิ ต่างเป็นเพื่อนและดูแลเด็กสาวคนนี้อย่างดี

ผู้คนปรับตัวและเปลี่ยนการใช้ชีวิตจากรถไฟเป็นเรือ จากบ้านสู่คอนโดและตึกสูง การเขื่อนกั่นน้ำและอื่น ๆ เป็นภาพที่บอกว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นและ ทุกคนก็อยู่กับมันได้

เหมือนคำพูดที่โฮดากะบอกกับฮินะตอนเจอกันอีกครั้งว่า

“ฮินะซัง พวกเราน่ะ ไม่เป็นไรหรอก”

มันคือการบอกว่า ไม่ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ขอให้มีความหวังและเชื่อมั่นทุกอย่างย่อมเป็นไปได้เสมอ

การที่อนิเมชั่นให้เราได้เห็นบรรดาเด็ก ๆ เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่แบบที่ฮินะเคยหวังเอาไว้ว่า สักวันจะได้โตเป็นผู้ใหญ่และได้ใช้ชีวิตของตัวเอง แน่ละว่า มันบอกเราให้รู้ว่า จงเชื่อมั่นในตัวพวกเขา

เชื่อว่า สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงเริ่มต้นขึ้นจากเด็กเหล่านั้น

เหมือนคำกล่าวของเพลงที่ว่า

“Is There Still Anything That Love Can Do?”

Weathering with You | The Infinite Zenith

ยังมีอะไรที่รักทำได้หรือเปล่า ?

ใช่ไหมละ

คุณได้ยินเสียงของพวกเขาไหม ?

เหมือนที่ทาคิและมิตสึฮะทำสำเร็จมาแล้ว

เหมือนที่ฮินะและโฮดากะทำลงไปและมุ่งหน้าสู่อนาคตไปด้วยกัน

จงเชื่อมั่นว่าสักวันหนึ่งท้องฟ้าจะคลี่คลาย ฝนจะหยุดตก และ แสงสว่างจักมาถึง

ป.ล. ขอมอบบทความนี้แด่นักเรียน นักศึกษา ม๊อบทุกคนที่ออกมายืนหยัดต่อสู้กับเผด็จการทุกคน และ ขอให้การเปลี่ยนแปลงได้เกิดขึ้นในสักวันนะครับ

บล็อกของ Mister American

Mister American
คงไม่มีอะไรต้องพูดมากนอกจากนี่คือ ภาพยนตร์ซอมบี้ที่ดีที่สุดในรอบหลายปี และที่สำคัญนี่ไม่ใช่หนังที่สร้างโดยฮอลลีวู้ดแต่เป็นเกาหลีใต้ ประเทศที่มีอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเอเชียที่เรียกว่าเป็นเบอร์หนึ่งไปแล้วในด้านคุณภาพของหนังที่นอกจากฮอลลีวู้ดแล้วมีเพียงประเทศนี้ที่ทำหนังออกมาได้สากลและสนุกในแบบที่ทุก
Mister American
ยังคงเป็นช่วงเวลาเศรษฐกิจยังไม่มีวี่แววว่าจะ ฟื้นตัวเสียที ในช่วงปลายปี 2015 นี้ทุกอย่างยังคงมองไม่เห็นว่า อนาคตจะเป็นเช่นไร กระนั้นเองสำหรับงานหนังสือแห่งชาติ เดือนตุลาคมนี้ยังคงเป็นช่วงเวลาร้อนแรงของบรรดาค่ายไลท์โนเวลต่าง ๆ มากมายที่ต่างเตรียมกระสุนดินดำ หรือ ออกหนังสือมาเพื่อจูงใจนักอ่านทั้งหล
Mister American
           ความสำเร็จครั้งมโหฬารของภาคที่สี่ของแฟรนไชส์ Jurassic Park อย่าง Jurassic World นั้นเรียกได้ว่า เป็นการหักปากกานักสังเกตที่คาดเดาว่า ภาคต่อของไดโนเสาร์ภาคนี้อาจจะทำเงินได้ไม่มากนัก ทว่า การเปิดตัวในอเมริกากว่า 200 ล้านเหรียญในเวลาเพียงสามวันจนทำลานสถิติของ
Mister American
              ท่ามกลางความเงียบงันสถาวะเงินฝืดที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศไทยปีนี้มีสภาพเรียกว่า ย่ำแย่ที่สุดในหลายปี ผู้คนไม่ยอมจับจ่ายใช้สอยกันยกเว้นเพียงจำเป็นทำให้สถาวะของประเทศค่อนข้างเงียบ บริษัทหลายบริษัทต่างเจ็บตัวเข้าเนื้อกันไปตาม ๆ กันทำให้หลายคนคาดการณ์ว
Mister American
            “บางระจัน บางระจัน บางระจัน ไม่อาจยืนอยู่ทุกวันเพ็ญเดือนสิบสอง บางระจัน บางระจัน บางระจัน ไม่อาจยืนอยู่ถึงวันเพ็ญเดือนสิบสอง”
Mister American
                ถ้าให้พูดล่ะก็นี่ก็เป็นเวลาครบรอบสามปีแล้วกระมั้งครับนับจากการล่มสลายของค่าย Bliss publishing  ค่ายหนังสือยักษ์ใหญ่ที่ปิดตัวลงไปและทำให้กระแสหนังสือเล่มเล็กอย่างไลท์โนเวลนั้นกลายเป็นหนังสือกระแสหลักที่หลายค่ายพากันกระโจนเข้ามาร่วมสมรภูม
Mister American
            เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้นวงการภาพยนตร์ไทย ไม่สิ ต้องบอกว่า วงการภาพยนตร์เมอร์เชียลอาร์ตของโลกนั้นต้องสูญเสียปรมาจารย์ สุดยอดนักสู้ของโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ แม้ว่า ชื่อเสียงของชายคนนั้นจะแทบไม่เป็นที่สนใจของสื่อหรือคนไทยมากนัก หลายคนถึงกับงุนงงว่
Mister American
            ย้อนเวลากลับไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เราคงได้เห็นนโยบายคืนความสุขให้กับประชาชนของ คสช อย่างการเปิดโรงภาพยนตร์เมเจอร์ให้ชมภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคที่ 5 กันไปบ้างแล้ว  แน่ล่ะว่า หลายคนคงจดจำภาพของบรรดาผู้คนที่พากันยื้อแย่งก
Mister American
        ต้องบอกว่า นี่คือ อนิเมะที่มาแรงแซงทางโค้งที่สุดในซีซั่นที่ผ่านมาเลยทีเดียว ท่ามกลางกระแสอนิเมะฟอร์มยักษ์เรื่องอื่น ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมามากมายและหลายคนคาดว่า อนิเมะที่ถูกดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลชื่อเดียวกันของ ยู คามิยะ นักเขียนการ์ตูนที่อ
Mister American
              ท่ามกลางความวุ่นวายของการเมืองไทยที่ถึงจุดพลิกพันอีกครา หลังเกิดการัฐประหารขึ้นอีกครั้งได้ส่งผลกระทบต่อวงการภาพยนตร์โดยรวม แน่ล่ะว่าภาพยนตร์ไทยที่สามารถทำรายได้มหาศาลในตอนนี้นั้นคงไม่พ้นหนังอย่าง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาคที่ 5 ยุทธหัตถีที่กวาดร
Mister American
          ถ้าพูดถึงหนังซัมเมอร์บล็อกบัสเตอร์ในปีนี้ที่ผมอยากดูใจจะขาดชนิดว่า แทบคลั่งแบบรอไม่ไหวแล้วที่จะต้องไปดูให้ได้นั้นย่อมไม่มีหนังเรื่องไหนทำให้ผมเกิดอาการคลั่งได้มากพอ ๆ กับหนังเรื่อง ก็อตซิลล่า (Godzilla) ของ กาเรธ เอ็ดเวิร์ด ที่เป็นการนำก็อตซิลล่