"พี่จ๋า" ออกเดินทางไกล ไปพ้นจากเผด็จการ
ในนามของความเรียบร้อย รัฐใช้อำนาจปรามประชาชนให้อยู่ในความสงบ
ชีวิตของคนธรรมดาที่ถูกภัยการเมืองทำให้ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า เหมือนประชาธิปไตยไทยที่นับสิบนับร้อยปี ก็วนอยู่กับที่ ไปไม่ถึงไหน
ในนามของความเรียบร้อย รัฐใช้อำนาจปรามประชาชนให้อยู่ในความสงบ
หากไม่มีสี...ไม่มีแผงเหล็กกั้น
เราจะคิดอย่างไรต่อกัน ?
ในความเป็นมนุษย์
แท้จริงเราเท่ากัน
แต่คนที่ถูกทำให้ตาย
แม้ตายไปแล้ว ก็ยังไม่เท่าใครเหล่านั้น
คนเป็น ส่งเสียงแทนคนตาย
แต่คนเป็น...แม้เสียงของตัวเองยังหดหาย
ยอดแชร์ข้อเขียนเกี่ยวกับ "พี่จ๋า" มากมายจนน่าดีใจ คงช่วยให้พี่จ๋าคงขายของได้เยอะขึ้น
I
ผมรู้จัก “พี่อึ่ง” น้อยมาก หรือแทบจะเรียกว่าไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ แต่หลายคนบอกว่าผมน่าจะได้คุยกับเธอ ซึ่งจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ได้คุยสักที
ผมได้ยินชื่อเธอบ่อย ๆ จากมิตรสหายท่านหนึ่งที่เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้แต่จินตนาการรูปร่างหน้าตาว่าคงจะตัวเล็ก ๆ น่ารัก โดยเฉพาะเมื่ออาจารย์ท่านั้นมีน้ำเสียงเป็นห่วงเป็นใยเธอมาก
เป็นครั้งที่สองที่ผมได้คุยกับ “พี่จ๋า”
เธอดูซูบผอมลงมากจากที่เราเจอกันครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาที่ผ่านมา วันนั้นโดยไม่ทันตั้งตัว
มีคนแนะนำ “นี่พี่จ๋า ที่โดนคดีผู้หญิงยิง ฮ. ไงครับ”
ผมรู้จัก “จ่านิว” ผ่านสื่อต่าง ๆ ในฐานะนักกิจกรรมคนหนึ่ง
จำไม่ได้แล้วว่าเขาทำวีรกรรมอะไรต่ออะไรบ้าง ผมเห็นเขาห่าง ๆ ในงานสัมมนาวิชาการหลายครั้ง
"ประชาไท" เคยเขียนแซวว่าเขาเป็น “นักกินฟรีในตำนาน” และเป็นนักศึกษาที่ไม่ค่อยเข้าเรียน