\\/--break--\>
ผ่านพ้นวัยเยาว์ เราก็พบเห็นชุมชนมากมาย บางชุมชน รักษาวิถีดังเดิมของตัวเองได้ค่อนข้างมาก จะเปลี่ยนแปลงก็เป็นไปเพียงตามธรรมดาเท่านั้น และเปลี่ยนอย่างเชื่องช้า นั่นก็อาจเป็นเพราะชุมชนนั้นไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจนัก บางชุมชน แทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม นั่นก็อาจเป็นเพราะชุมชน มีการเชื่อมโยงสัมพันธ์กับเมืองมาก หรือก็เป็นชุมชนที่มีคนให้ความสนใจมาก ว่าก็โดยเฉพาะชุมชนที่ผู้คนกล่าวขานถึงความงดงามทั้งทางธรรมชาติ และขนบธรรมเนียม และที่สุดบางชุมชนก็ไม่มีเค้าโครงเดิมเสียแล้ว แม้แต่ความเชื่อ วัฒนธรรมก็สลายหายในกับกาลเวลาที่เปลี่ยนไป
พร่ำเพ้อพรรณนามามากมาย สงที่อยากเล่าก็มีเพียงว่า ปรากฏการณ์หนึ่งที่เราพบเห็นในห้วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาก็คือ ผู้คนทั้งหลายไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เราต่างหายหาชุมชน หรือมิติความเป็นชุมชน และความหมายของชุมชนที่เรารับรู้ก็คือ มันไม่ใช่เพียงชุมชนเมือง หรือชุมชนชนบทแล้ว แต่ชุมชนมันยังรวมถึงกลุ่มคนที่ร่วมกัน ทำกิจกรรมบางอย่าง หรือกลุ่มคนที่รวมกันดำเนินชีวิตบางแง่มุมร่วมกันนั่นเอง และนั่นเองที่เห็นความพยายามของผู้คนมากมายที่จะสร้างชุมชนขึ้นมาใหม่
เราเห็นชุมชนมากมาย ที่ถูกสร้างขึ้นในยุคสมัยที่...บ้างก็ว่ากันว่า วิถีชุมชนล่มสลายไปเสียแล้ว พร้อมกับที่หลายที่หลายแห่ง ชุมชนก็ถูกแปรเปลี่ยนไปตามวิถีแห่งความล่มสบายต่อไป แล้วเราทั้งหลายก็มาสร้างชุมชนกันใหม่ สร้างวัฒนธรรมใหม่ สร้างกิจกรรมใหม่ สร้างประเพณีใหม่ สร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ ทุกสิ่งที่สร้างขึ้น ทั้งหมดสร้างจากความคิด ความเชื่อในมิติใหม่ และชุมชนมากมายนั้นดำรงอยู่ ต่างชุมชน ต่างวิถีของตัวเอง มีบ้างกระมังที่เชื่อมโยงเป็นเครือข่าย สานความสัมพันธ์เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน นั่นคงไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายนัก แต่สิ่งสำคัญที่พบก็คือ ที่สุดแล้วมนุษย์ต่างแสวงหาวิถีร่วม แสวงหาคนที่มีวิถีร่วมกับเรา เหมือนเรา นั่นเพื่อว่า เราจะยังมีชีวิต และวิถีที่เคลื่อนไปพร้อมกับผู้คนนั่นกระมัง นั่นเองที่มีความหมายว่า ที่สุดแล้ว ไม่ว่าเราจะเก่งกล้าสามารถ หรืออ่อนด้อยเพียงใด เราก็ยังต้องการชุมชน และอาจโดยเป้าหมาย หรือจุดประสงค์ที่มิได้มีเพียงหนึ่ง.....
แล้วที่สุด ชุมชนของเราจะเป็นเช่นไร...?