นานมาแล้วที่ผู้คนต่างเรียกร้องหาสันติภาพ หาเสรีภาพ แต่ความจริงที่ปรากฏก็คือ มีสักกี่วันในชีวิตมนุษย์คนหนึ่งที่ได้อยู่กับสันติ จวบจนยุคสมัยที่ว่ากันว่าอารยะมนุษย์ก้าวล้ำไปมาก ไม่ว่าทางสิ่งประดิษฐ์คิดค้น ข้าวของเครื่องใช้ที่สะดวกสบาย จนถึงกระบวนการเรียนรู้ของชีวิตมนุษย์ (หรือเปล่า...มั้ง) น่าดีใจไม่น้อยเมื่อผู้คนทั้งหลายเริ่มการเรียกร้องสินติภาพ ด้วยกระบวนการที่เรียกว่า สันติวิธี
สันติวิธี น่าจะเป็นเรื่องดีงามที่สุดอย่างหนึ่งที่มนุษย์คิดได้ แต่....ใช่หรือไม่ว่า สินติวิธียังไม่ค่อยจะได้เกิดขึ้นอย่างจริงจังในโลกมนุษย์ เราเชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริง และดำรงอยู่จริงในจิตในปัญญาของนักปราชญ์บัณฑิตมากมาย และแม้ท่านทั้งหลายจะพยายามนำเสนอต่อสังคม ในกระบวนการต่อสู้ทั้งหลาย แต่ก็ยังไม่เกิดขึ้นอย่างแท้จริง
ว่ามานี้เราเพียงจะบอกว่า สันติวิธี ย่อมมิใช่การเข้าถึงสันติโดยเพียงแต่ถ้อยคำที่กล่าวออกมา คำว่าสันติมิอาจเกิดขึ้นเพียงแค่ช่วยกันกล่าวประโคมออกมา คำว่าสันติมิอาจเกิดขึ้นในกระบวนการต่อสู้ที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเกลียดชิง สันติมิอาจเกิดขึ้นขณะที่ผู้คนมุ่งเอาแต่ได้ถ่ายเดียว
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร หากในใจเรามิได้สันติ หากเป็นเช่นนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับการยกดาบขึ้นเข่นฆ่า แล้วอ้างว่าเพื่อสันติสุข
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร ขณะที่เรายังเห็นแก่ได้ เรายังมีความโลภ มีความโกรธ และหลงมัวเมา
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร หากเรายังต้องการชัยชนะ และต้องการความยิ่งใหญ่ ความเป็นหนึ่ง
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร หากเรายังเห็นมนุษย์เป็นคนอื่น เป็นคนแปลกหน้า และไม่ใช่พวกเรา
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร เมื่อเรายังเบียดเบียนธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ด้วยความสะดวกสบายอย่างเห็นแก่ตัว
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร เมื่อเรายังผลักภาระให้กับสังคมโดยที่เราไม่ได้ลงมือทำอะไรเลยเพื่อความดีงามทั้งหลาย
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร เมื่อเราเอาแต่พล่ามพูดโดมิได้ใฝ่ฟังเสียงของผู้คนและโลก
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร เมื่อเรายังมิได้นำพาตัวเองเข้าสู่พื้นที่การเรียนรู้เพื่อจะได้ก้าวเดินในหนทางแห่งสันติอย่างแท้จริง
เราจะกล่าวอ้างทางแห่งสันติได้อย่างไร เมื่อเราเอาแต่พูดถึงสินติ สันติ สันติ และบางครั้งก็พูดอย่างโกรธ
ใช่แล้ว...โลกไม่มีทางที่จะมีสันติ หากสันติยังมิได้เกิดขึ้นในใจของคน......อย่างนั้นกระมัง