Skip to main content
 

หน้าตึกหลังไม่ใหญ่โตนักในมหานคร ในบริเวณพื้นที่ก็ไม่กว้างใหญ่เท่าใดนัก มีต้นไม้อยู่ก็ไม่สักกี่ต้น ในจำนวนนั้นก็มีกล้วยอยู่กอหนึ่ง ที่กล้วยกำลังแก่พอจะเอามาบ่มได้แล้ว แล้วก็มีต้นเต่ารั้งอยู่กอหนึ่ง ช่วงนี้จึงเป็นที่สำราญของกระรอกน้อยสองตัว หรืออาจจะมากกว่าหรือเปล่า อันนี้เราไม่แน่ใจ อันที่จริงเราพบกระรอกสองตัวนี้หลายครั้งที่มาเยือนตึกนี้ ทุกเช้าเราจะพบเขาออกมาวิ่งเล่นตามกิ่งไม้ ช่วงไหนที่มีกล้วยที่ใกล้สุกอย่างนี้ ก็ดูเหมือนเขาทั้งสองจะสำราญเป็นพิเศษ ส่งเสียงร้องเจี๊ยวจ๊าวกัน แล้วก็วิ่งเลยกันจากต้นนั้นออกต้นนี้

เมื่อวานถึงเห็นนกหัวขวานอีกสองตัว ดูเหมือนว่าเขาทั้งสองนี้จะเป็นสมาชิกใหม่ของเรา เข้าใจว่าพึ่งมาอยู่ใหม่แต่ก็คงไม่มีปัญหาอะไร เพราะหลายคนที่พบเห็นก็รู้สึกตื่นเต้นยินดี อีกหน่อยถ้าเขาสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างที่พอจะมีความสุขอยู่บ้าง เขาก็คงอยู่กับเราไปอีกนาน เมื่อนั้น ต่อไปก็คงได้ยินเสียงนกหัวขวานเจาะไม้ดังโป๊กๆ ๆ ๆ ๆ พอได้ฟังเพลิน นั่นทำให้สมาชิกนกเพิ่มขึ้น จากที่แต่เดิมมีแต่นกกางเขนบ้างหลายตัวที่มาปักหลักทำมาหากินอยู่ในแถบถิ่นนี้

 

เคยได้ยินคนเฒ่าคนแก่ในแถบถิ่นชนบทบางที่บอกเอาไว้ว่า บ้าไหนมีรังผึ้งมาอยู่หน้าบ้าน แสดงว่าบ้านนั้นมีความร่มเย็น และให้ถือเป็นเรื่องดีงาม ที่ตึกนี้ก็เช่นกัน มีรังผึ้งเกาะอยู่บนกันสาดชั้นสองด้านหน้า อยู่มานาน แต่ก็ไม่เคยอาละวาดสร้างความเดือดร้อนแต่ประการใด

 

รวมความแล้วเล่าเรื่องสัตว์เล็กสัตว์น้อยเหล่านี้ ก็ด้วยความรู้สึกที่อยากเขียนถึงพวกเขาทั้งหลายบ้าง โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ๆ เช่นนี้ ว่าไปหากพูดแบบนักอนุรักษ์ เราเองไม่แน่ใจว่า นี่เป็นนิมิตหมายที่ดีหรือไม่ดีกันแน่ ที่มีนกป่าอย่างนกหัวขวานมาอยู่ในเมือง หรืออย่างกระรอกที่ปรกติอยู่ในป่า ก็มาอยู่ในเมือง แล้วมันมาได้อย่างไร ช่วงนี้มีคนพูดเรื่องโลกร้อนกันมาก และก็มีการรณรงค์กันต่างๆ นานา ก็ได้เห็นถึงความพยายามที่จะช่วยกันลดโลกร้อน นั่นก็ดี แม้เรื่องนี้ คนโบราณบอกเคยเตือนเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว เมื่อมาเริ่มทำเอาเมื่อมันไม่ทันการณ์เสียแล้ว ก็ไม่เป็นไรกระมัง ก็ถือเป็นกระบวนการเรียนรู้ไป

 

ว่ากันว่า เมื่อป่าไม้น้อยลงไปมาก สัตว์เริ่มไม่มีป่าให้อยู่ สัตว์ป่าก็จึงเริ่มย้ายมาอยู่เมือง ยึดพื้นที่ๆ พอมีต้นไม้อยู่บ้างได้เป็นที่พักอาศัย ดังเราจะพบว่า บัดนี้แม้ในชนบทที่ตรงไหนพอมีต้นไม้อยู่บ้างก็มักจะมีสัตว์เล็กสัตว์น้อยพวกกระรอกกระแตมาอยู่อาศัย รวมถึงนกหลายชนิดที่พอจะปรับตัวได้ สมัยก่อนเราจะพบว่า นกที่สามารถอยู่ในเมืองใหญ่ได้ก็มีเพียงนกกระจอกเท่านั้น นั่นก็ว่ากันว่า นกกระจอกสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้มากที่สุด นกป่าบางชนิดนั้นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับเมืองได้เลย แต่เราก็ยังเห็นนกเหล่านี้กลายเป็นสัตว์เลี้ยงในกรงใหญ่ๆ ดังเช่นนกเงือก เป็นต้น

 

เรื่องราวของโลกมนุษย์ในปัจจุบัน หรือไม่ว่าตากจากสัตว์ป่าเท่าใดนัก ผู้คนเริ่มอพยพกันบ้างแล้ว จากความล่มสลายของเมือง ของสังคม ของสภาพแวดล้อม ของโลก ว่ากันว่าบางแถบถิ่นของโลกเริ่มมีการย้ายทั้งประเทศกันแล้ว ในพื้นที่ๆ น้ำทะเลท่วมไปแล้ว ในเร็ววัน หรือในนานวันต่อไปจากนี้ เราไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีจะก้าวล้ำเพียงใด มนุษย์ก็คงต้องเผชิญกับสภาวะอันเดียวกันโดยมิได้แบ่งแยก ลองเทียบเคียงเล่นๆ กับสัตว์อื่นๆ หลายอย่าง อย่างที่เราเห็นอยู่อย่างกระรอก และนก พวกเขาจะลำบากเหมือนเราหรือเปล่า เมื่อพวกเขามีปีก มีเขี้ยวเล็บ มีวิธีการทำมาหาเลี้ยงชีวิตอยู่ได้ หรือจะอย่างไร พวกเขาก็เริ่มอพยพกันแล้วหรือเปล่า ขณะที่มนุษย์เรา ว่าไปแล้วก็เปราะบางเหลือเกิน ทั้งไม่สามารถดำรงชีวิตในธรรมชาติ ยิ่งในภาวะที่ขาดแคลนด้วยแล้วก็คงเป็นเรื่องหนักหนาเป็นอย่างยิ่ง

 

กระรอกสองตัวยังวิ่งเล่น และแวะมาเจาะกล้วยที่ยังห้อยอยู่บนต้น อย่างสนุกสนานและยังส่งเสียงเจี๊ยวจ๊าว อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะมาได้อย่างไร เขาก็เป็นสีสันหนึ่งของผู้คนในตึก ที่ดูเหมือนเวลาที่ต่างก็เหน็ดเหนื่อยจากการงาน เมื่อมองไปเห็นกระรอกวิ่งเล่นอยู่ พวกเขาก็ได้ผ่อนคลายลงบ้าง นี่คงเป็นคุณูปการที่ดีงามไม่น้อยนักกระมัง....

 

 

บล็อกของ นาโก๊ะลี

นาโก๊ะลี
จะเขียนทุ่งเขียนทางเขียนช้างม้า                  เขียนความคิดขานค่าจังหวะวิถี
นาโก๊ะลี
ทนายจำเลย ชูรถเมล์จำลอง แล้วถามพยานโจทย์ ซึ่งก็คือ Jacky ตำรวจที่จับกุมจำเลยนั้นได้นั่นเอง  ทนายจำเลยถามว่า รู้ได้ไงว่า จำเลยคือคนกระทำผิด Jacky บอกว่า ก็เขาเป็นคนไล่จับจำเลยมา แล้วจำเลยก็หนีขึ้นรถเมล์  ทนายชูรถจำลองนั้นแล้วถามว่า เมื่อคุณมองดูรถเมล์ คุณเห็นมันทั้งคันหรือเปล่า เขาก็บอกว่า เปล่า อีกข้างหนึ่งก็มองไม่เห็น  ทลายจำเลยก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่อาจบอกได้ว่า อีกฝั่งหนึ่งของรถเมล์เกิดอะไรขึ้น  การโต้เถียงประเด็นนี้ ทำให้ศาลพิพากษา ยกฟ้อง  แต่นี่เป็นเพียงเรื่องราวในหนังครับ วิ่งสู้ฟัดภาคแรก ของเฉินหลง  แต่เรื่องนี้ มันมีเรื่องน่าสนใจ....
นาโก๊ะลี
หากว่า ผืนแผ่นดินที่งดงาม สร้างคนให้งดงาม  แล้วผืนแผ่นดินที่ยากแค้นลำเค็ญเล่า จะสร้างคนมาแบบใด...ความจริงนี่ก็อาจเป็นคำถามที่ตอบได้ไม่ยากนัก  แต่ ความจริงจะเป็นเช่นนั้นหรือไม่...นี่ก็อาจต้องมองเข้าไปในรายละเอียดมากขึ้น...กระมัง  การเดินทางครั้งหนึ่งของชีวิต  ในซากปรักหักพัง ของภัยธรรมชาติอันได้คร่าชีวิตคนไปมากมาย  ในกลิ่นของความตายและความเศร้าโศก เราได้เห็นหน่ออ่อนของต้นหญ้าที่ผุดขึ้นมา ในความชื้น ภายใต้ซากปรักหักพังนั้น
นาโก๊ะลี
การสูญเสีย ดูจะเป็นเงื่อนไขใหญ่ที่ทำให้คนเราตกไปสู่สภาวะที่เรียกว่า “เสียศูนย์”  มีคนเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสามีตาย ภรรยาตกอยู่ในสภาวะเสียศูนย์ถึงยี่สิบปี ก่อนจะฆ่าตัวตายตาม  นี่เป็นเรื่องจริงหรือเรื่องโม้ก็ไม่อาจรู้ได้  แต่ความจริงที่เห็นโดยส่วนใหญ่ ความสูญเสียก็มักเป็นเรื่องที่กระทบกับหัวใจคนอย่างรุนแรง  เช่น อกหัก  หรือ คนที่เรารักตายไป  หรือความพ่ายแพ้  ซึ่งความพ่ายแพ้นี่ก็คือการเสียฟอร์ม มันก็คือการเสียศูนย์ความเป็นตัวตนนั่นเอง
นาโก๊ะลี
ชีวิตหลุดลอยไปในบางวาระ           ซึ่งในสถานะแห่งมนุษย์ กับการเดินทางอันไม่สิ้นสุด            บางคราวนั้นจึงสะดุด จึงทรุดโทรม พลาดหวังพังพ่ายสลายสิ้น             ทั่วผืนแผ่นดินทุกข์ท่วมถั่งโถม เสพย์สิ่งใดได้บ้างพอปลอบประโลม เมามายโง่โงมระทมร้าว ภาวะเช่นไรเหนี่ยวนำพา                เมื่อความปรารถนาที่บอกกล่าว ล้มเหลวไปในทางที่ทอดยาว     …
นาโก๊ะลี
คนสวนนักสะสมเมล็ดพันธุ์
นาโก๊ะลี
บ่อยไป หรือหลายครั้งหลายหนในการงานของชีวิต  ที่เราต้องทำงานบางอย่าง  บางอย่างที่ไม่ใช่หน้าที่  ไม่ใช่งานของเรา  เพียงแต่ว่า  นั่นคืองานที่มันเกี่ยวข้องกับเรา งานที่ต้องเกื้อหนุนงานของเรา  และเราก็มักจะไม่พอใจที่คนที่เขามีหน้าที่นั้น เขาทำไม่ได้อย่างที่เราต้องการ 
นาโก๊ะลี
ยามที่บางคนกล่าวคำว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” มันฟังดูคล้ายเขาจะบอกว่า สิ่งที่เขากำลังกล่าวถึงอยู่นั้นมันเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขา ไม่มีสิ่งใดจะสำคัญกว่านี้ไปอีกแล้ว.... และหลายครั้งที่เราจะพบว่า คนๆ เดียวกันนี้ก็กล่าวถึงสิ่งอื่นๆ ในเรื่องอื่นๆ ในวาระอื่นๆ ว่า “มันเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต” และด้วยท่าทีที่คล้ายว่า สิ่งนั้นเป็นที่สุดแห่งความสำคัญดั่งเดียวกับทุกๆ ครั้ง ทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา
นาโก๊ะลี
ถ้อยคำที่ประทับใจ แม่ทับเหวินไท่ บอกกับแม่ทัพ ฮัวมู่หลานว่า “เมื่อเจ้าสวมเกราะแม่ทัพ ชีวิตก็ไม่ใช่ของเจ้าคนเดียว” ในสมรภูมิหนึ่ง เมื่อกองทัพของฮัวมู่หลานถูกหักหลัง น้องชายลูกพี่ลูกน้องของฮัวมู่หลาน และทหารจำนวนหนึ่งถูกจับเป็นเชลย และถูกเอามาล่อให้ทหารออกไปช่วย ในสภาวะที่ไม่อาจทำอย่างไรได้ มีทหารคนหนึ่งบอกกับแม่ทัพว่า เราต้องออกไปช่วยพวกเขา “นั่นเสี่ยวหู่นะ เขาเป็นน้องชายท่านนะ” แม่ทัพบอกว่า “พวกเจ้าก็เป็นพี่น้องของข้าเช่นเดียวกัน”
นาโก๊ะลี
วัดเซนแห่งหนึ่ง พระเซนต่างก็ปฏิบัติภาวนาในวิถีแห่งเซน คราวหนึ่งในวัดเกิดเรื่องขึ้น มีของหายในวัด หลายครั้งหลายหน เกิดความเดือดร้อนไปทั้งวัด เมื่อทำการสืบสวน สอบสวนในที่สุดก็พบขโมย ซึ่งก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของวัด มีการเรียกประชุมสมาชิกทั้งวัด เหล่าพระเซนทั้งหลายต่างก็เรียกร้องให้ขับขโมยออกจากวัด ทั้งมีเสียงสนับสนุนมากมายต่อการลงโทษขั้นเด็ดขาดด้วยการขับออกจากวัดนั้น ในที่สุดเจ้าอาวาสก็กล่าวต่อคณะสงฆ์ และสมาชิกวัดทั้งหมดว่า “พวกเธอทั้งหลายผู้ได้เรียนรู้แล้วถึงความถูกต้องดีงาม พวกเธอสามารถใช้ชีวิตอย่างรู้ผิดชอบชั่วดี พวกเธอทั้งหลายจึงสมควรเป็นผู้ออกจากวัด แต่ผู้ที่เป็นขโมยนั้น…
นาโก๊ะลี
คนสวน ปลูกพืชผักธัญญาหาร เฝ้าดูกี่เติบโต จนถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต คนสวนบอกว่า เมื่อต้นไม้เริ่มงอกออกมา มันต้องการอาหาร ต้องการการบำรุงรักษา จนกว่ามันจะโตเต็มที่ เริ่มให้ดอกผล บางอย่างเก็บดอก บางอย่างเก็บใบ บางอย่างเก็บผล ก็ว่ากันไป แต่เมื่อมันให้ผลนั่นแล้ว มันก็จะค่อยๆ แห้งเหี่ยว ตายไป ระหว่างนี้มันไม่ต้องการอาหารมาก มันไม่ต้องการการบำรุงรักษามาก.......
นาโก๊ะลี
ในชีวิตของเรา มีความพยายามมากมายนัก พยายามที่จะทำบางสิ่ง พยายามที่จะไม่ทำบางสิ่ง พยายามที่จะรัก พยายามที่จะไม่รัก ดูเหมือนโลกไม่ได้จัดวางชีวิตเราให้เป็นไปตามความปรารถนา และหลายครั้งเราก็เชื่อได้ว่า ความสมบูรณ์พร้อมนั้น ไม่มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ แม้แต่คนที่เขาแสดงออกว่า ชีวิตเขาช่างพรั่งพร้อม ได้ทุกอย่างตามที่ตนปรารถนา นั่นก็เป็นเพียงการโม้โป้ปดเท่านั้นเองกระมัง เพราะที่สุดแล้วเขาอาจซ่อนบางสิ่งเอาไว้ บางสิ่งที่เขามิได้ประสบผลสำเร็จแต่อย่างใด