Skip to main content
กระปุก หมาเพื่อนรักของลูกต้องกลับไปบ้านบัว เพราะพ่อพามันมาเยี่ยมลูกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น วันที่มันกลับไปกับพ่อ ลูกมองตามอย่างอาลัย แต่คงเข้าใจในความจำเป็น แม้จะรักมันมากแต่ลูกก็รู้ว่ามันต้องกลับไป เพราะที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของมัน
\\/--break--\>

ใกล้จะครบสองเดือนแล้วที่ลูกมาอยู่ที่วัด ร่างกายผอมบางลงมาก จนกระทั่งเวลานั่ง(ส่วนมากแม่จะประคองให้ลุกนั่ง)ยังต้องระมัดระวัง เนื่องจากกล้ามเนื้อช่วงสะโพกแห้งไปหมดแล้ว มีแต่กระดูกและผิวหนังที่บอบบางห่อหุ้มอยู่เท่านั้น

บันทึกของลูกในช่วงนี้ มีเรื่องราวใหม่ๆ คละเคล้าบรรยากาศสดชื่นของภูเขา ด้วยเรื่องของคนที่แวะเวียนมาเยี่ยม ซึ่งมีมากมาย ทั้งใกล้และไกล แต่ละคนล้วนห่วงใยในครอบครัวเรา

13/7/51

ครูเป้มาเยี่ยม พูดคุยให้กำลังใจกันหลายเรื่อง ครูเป้บอกว่าจะเอายาต้ม ยาพระอาจารย์ฝั้น ยานวดมาให้ ครูเป้ไปเอายา เวลา 14.35 น. กินฟักทอง 1 กลีบ มังคุด 4 ลูก ต้มจืดผัก ข้าวครูด งาคั่ว ครูเป้เอายามาให้ ครูเป้ทาน้ำมันให้

ครูเป้ของลูก คือครูเป้ สีน้ำ ที่เดินทางมาที่วัดเพื่อจะบวชและจำพรรษาที่นี่ ก่อนจะบวชครูเป้มาเยี่ยมให้กำลังใจลูกบ่อยๆ แม้กระทั่งตอนที่บวชแล้ว ก็ยังมา
"หลวงพี่เป้มาเอาขนมมาฝาก คงจะแอบมาเพราะว่าหลวงพ่อไม่ให้มา เพิ่งบวชใหม่ วันนี้หลวงพ่อไม่อยู่"

แม่ไม่รู้ว่าระหว่างลูกกับครูเป้ คุยอะไรกันบ้าง แต่ดูเหมือนว่าลูกมีสีหน้าที่สดใสทีเดียวเวลาคุยกัน อีกกิจกรรมหนึ่งที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ คือ การอ่านหนังสือ เมื่อหลวงพ่อกลับจากกรุงเทพฯ พร้อมกับหนังสือหลายเล่มสำหรับลูก ท่านบอกว่าอ่านจบแล้วช่วยสรุปให้หลวงพ่อฟังด้วยนะ ในบันทึก ลูกเขียนธรรมะสำคัญเอาไว้บ้าง แต่ส่วนใหญ่ลูกจะบอกกับหลวงพ่อโดยตรง แม่ไม่รู้ว่าลูกเล่าอะไรให้ท่านฟังบ้าง

แต่ในบันทึกบอกถึงความถี่ในการอ่านของแต่ละวัน เรียกได้ว่าสลับกับการกินยา กินอาหาร และการบันทึก เลยทีเดียว

ระยะหลังๆมานี้ ลูกจะนิ่งเงียบอยู่กับการอ่านหนังสือมากขึ้น เรื่องอาหารการกินดูจะเป็นปัญหาน้อยลง แต่ความห่วงใยยังส่งไปถึงคนอื่นๆตลอดเวลา เช่น พี่แจน ลูกน้านีที่ไม่สบาย ลูกจะเขียนจดหมายส่งกำลังใจไปให้ เขียนจดหมายถึงลุงยุทธฉบับที่สอง เมื่อรู้ว่าลุงยุทธขึ้นไปรักษาตัวที่วัดถ้ำพระฤาษีแล้ว หรือเวลาที่พ่อ หรือ แม่ ลงไปข้างล่าง ถ้ากลับมาผิดเวลา ลูกจะเขียนว่า รอแม่มา.....ยังไม่มา  หรือ พ่อมาช้า น้ำมันหมดหรือเปล่าไม่รู้ สิ่งเหล่านี้ทำให้แม่รู้ว่า ลูกไม่ได้คิดถึงแค่ความเจ็บป่วยของตัวเองเท่านั้น

ต่อมา ลูกบอกว่าอยากโกนผม อาจเป็นเพราะจิตของลูกแนบแน่นอยู่กับธรรมะของพระพุทธองค์แล้ว ดูจากการอธิษฐานจิตถวายผลไม้แก่พระสงฆ์  ลูกจะใช้เวลานานขึ้น และสงบนิ่งมากขึ้น

17/7/51

วันนี้เป็นวัน อาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันที่พระพุทธเจ้า ได้แสดงธรรมโอวาทปาติโมกข์ วันนี้เป็นวันที่เริ่มนับ 1 และจะโกนผม ปฏิบัติธรรมต่อไป

05.38 น. ตื่นนอน อากาศสดชื่น แจ่มใส
05.43 น. แม่ พ่อ ตื่น ฉี่ ถ่ายเหลืองเยอะ ไม่ค่อยย่อยเท่าไหร่
06.06 น. กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น
06.23 น. ออกมาด้านนอก กินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก
06.30 น. ลุงชัยเพื่อนพ่อมาเยี่ยม ลุงชัยถ่ายทอดพลังจิตให้ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ท่อง พุท-โธ พ่อชงกาแฟกิน
06.41 น. อ่านรากเหง้าของสังสารวัฏ
06.53 น. ป้าหมี น้าตู่ น้องแยม มาเยี่ยม น้าตู่กอด น้าตู่คงรักเด็กมาก ใจดี น่ารัก ให้กำลังใจหลายอย่าง
07.15 น. ตั้งจิตอธิษฐานภาวนาถวายกล้วยน้ำว้า 4 ลูก พ่อนำไปถวาย
07.54 น.พ่อ ป้าหมี น้าตู่ ไปทำบุญตักบาตร และจะอุทิศบุญให้ ทุกคนตั้งใจอุทิศบุญให้ ลุงพรกำลังวาดรูปให้ เริ่ม   หิวข้าวแล้ว
08.05 น. กินฟักทอง 2 กลีบ มังคุด 4 ลูก ต้มจืดผัก ข้าวครูด งาคั่ว ไข่ขาวใส่ซอส ธัญพืช 2 ชิ้น
08.46 น. พี่น้องชาวบ้านติ้วมาเยี่ยม พ่อไปเอากับข้าวผู้ใหญ่มากิน นอนหลับ
09.45 น. พ่อ แขกทุกคนกินข้าวกัน ตื่นนอน ฉี่ ถ่ายไม่ค่อยเยอะ เหลือง แม่เปิดเพลงธรรมะให้ฟัง พ่ออาบน้ำแล้วลงไปคุยกับแขก แม่ก็อาบน้ำต่อ ล้างถ้วย ชาม
11.02 น. ฉี่ ถ่ายเหลือง
11.18 น. กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น กินธัญพืช 3 ชิ้น แม่ชงกาแฟกิน
11.33 น. พ่อ แม่ นวดน้ำมันงา น้ำมันว่านให้
12.05 น. พี่น้องทางสกลฯมาเยี่ยม ตาผอง พ่อเสริม ป้ากึ้ม สาวเสริน ฉลอง สาวไก่ สาวเป้า ตาจึ อาติ๋ม อาดา อาวัช น้องเอิน หน่อนิ น้องเกมส์ มาเยี่ยม
12.40 น. กินฟักทอง 1 กลีบ มังคุด 4 ลุก ต้มจืดผัก หมกปลาขาว ข้าวเหนียว ยาเอมไซม์ตับอ่อน น้ำหนอน ล้างมือ ฉี่ แม่กินข้าวครูด งาคั่วที่เราไม่กิน
14.00 น. ทุกคนกินข้าว ปิ้งปลา ส้มตำ ทอดไข่ กับข้าวอย่างอื่นมากมาย แม่ล้างถ้วย ชาม ดูรูปที่พี่แจนวาด ส่งมาให้ 3 รูป สวยมาก จะเอาให้ลุงเปี๊ยกกับลุงชัยดู คงจะชมว่าสวยมากเหมือนกัน ทุกคนช่วยกันทำกับข้าว เตรียมให้แขกทางมุกดาหาร ที่กำลังเดินทางมา
14.15 น. โกนผม ทุกคนตัดผมให้ก่อน แล้วแม่ชีโกนผมให้ โกนเสร็จฝนก็ตก
15.13 น. แช่น้ำต้มสมุนไพร เปลี่ยนเสื้อผ้า เสียหลักล้มลงหัวโดนพื้น มึนหัวนิดหน่อย
15.36 น. กินยาธิเบต กินน้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น
15.42 น. พ่อชงกาแฟกิน
16.10 น. ป่าเฒ่า อาปลา มาเยี่ยม อาปลาบอกว่า จะเอาหนังสือธิเบตมาให้อ่าน กินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก
16.23 น. ปุ้ย อาแจ๋ว น้องก้อง อาเกริก ย่า มา อาฝนก็มา อาฝนไม่สบาย อาหนิง เฟิร์นก็มา
17.55 น. อาจารย์บุญสรวลมา สอนหลายเรื่อง
19.55 น. ตั้งจิตอธิษฐานภาวนาถวายจตุปัจจัยเป็นเงินพันกว่าบาท พ่อไปถวาย
19.20 น. กินมังคุด 2 ลุก ฟักทอง 1 กลีบ ต้มจืดผัก ข้าวครูด งาคั่ว ไข่ขาวใส่ซอส กินน้อย
19.43 น. ฉี่ ถ่ายดี เป็นก้อนเหลือง ย่อยดี
20.25 น. กินยาธิเบต น้ำอุ่น กินยาญี่ปุ่น
20.30 น. เข้ามาด้านใน ฝนตก พ่อ แม่ ปุ้ยกันข้าว
21.15 น. พ่อนวดน้ำมันงา น้ำมันว่านให้ แม่ล้างถ้วย ชาม
22.20 น. ฉี่ ถ่ายเยอะ ไม่ค่อยย่อย กินฟักทอง 1 กลีบ มังคุด 3 ลูก ต้มจืดผัก ข้าวครูด งาคั่ว ไข่ขาวกับซอส กินน้อย แม่เปลี่ยนกางเกงให้ กำหนดลมหายใจ เข้า-ออก ท่องพุท-โธ
00.17 น. ฉี่ ถ่ายเหลือง กินฟักทอง 1 กลีบ มังคุด 3 ลูก ปวดบริเวณใกล้ก้นกบด้านขวา พ่อนวดตรงที่ปวดให้ นวดหลัง ตั้งจิตอธิฐานภาวนา กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ท่องพุท-โธ
01.55 น. กินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก พ่อนวดบริเวณที่ปวดให้ กำหนดลมหายใจเข้า-ออก ท่องพุท-โธ
03.33 น. พ่อแม่นวดให้ พ่อแม่กลุ้มใจมาก ฝนตกทั้งคืน นอนไม่ค่อยหลับ

บันทึกของลูกเริ่มมีความละเอียดละออมากขึ้น ทั้งเรื่องระยะเวลาและกิจกรรม การที่ลูกโกนผมคงหมายถึงความตั้งใจปฏิบัติธรรมจริงๆ

เช้านั้น ลูกบอกแม่ว่า  "ป่านจะกินเฉพาะผลไม้แล้วนะแม่"

บล็อกของ เงาศิลป์

เงาศิลป์
  ภูเขาหัวโล้นลูกนี้ อยู่ในเทือกเดียวกับภูหลวง จังหวัดเลย "ถามจริงๆ เถอะ คนแบบเราๆ นี่ ถ้าไปเป็นคนทำสวนจะหาเลี้ยงตัวเองได้จริงหรือ"เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งถามฉัน ในวันที่ฉันยังไม่ได้มีอาชีพทำสวน คงเป็นคำถามเพื่อนำไปสู่การสนทนาเชิงวิเคราะห์ว่าความคิดที่จะพึ่งตนเองจากอาชีพนี้เป็นไปได้จริงหรือ และฉันจำได้ว่าคำตอบของตัวเอง คือ"ไม่ได้" "ไม่ได้อย่างแน่นอน ถ้าการพึ่งตนเองหมายถึงการตัดเส้นเลือดทางการเงินจากอาชีพอื่นโดยสิ้นเชิง สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นปลูกต้นไม้ในปีแรกๆ และไม่มีเงินเก็บ หรือไม่มีคนสนับสนุนทางการเงิน คงไปไม่รอด"ฉันตอบจากประสบการณ์ที่เห็นปัญญาชนหลายคนอยากจะเป็นชาวไร่…
เงาศิลป์
ยามค่ำคืนที่เหน็บหนาวออกปานนี้ หนาวจนต้องสวมเสื้อกันหนาวหนาๆ ถึงสองชั้น หวังทนทานต่อความแหลมคมของไอหนาวที่แทรกซอนเข้ามาบาดเนื้อ เสื้อผ้าอาจปกป้องร่างกายไว้ได้บ้าง แต่บางความหนาวที่แทรกซึมเข้ามาได้กลับกระพือความร้อนรุ่มภายในให้ลุกโชน  ภาพถ่ายสุดท้ายของเจ้าเก๋า ในวันก่อนจะจากไปเพียงไม่กี่วัน สิ้นสุดเสียทีอีกหนึ่งชีวิต ไม่ต้องทรมานอีกต่อไป เพราะพิษของสารเคมีที่เข้าไปทำลายตับไตไส้พุงจนหมดสิ้น ในเวลาสี่วัน วันสุดท้ายของมันกับความรู้สึกห่วงใยของฉัน มันคงรับรู้ได้ นาทีสุดท้าย มันจึงสะท้อนลมหายใจเฮือกใหญ่แล้วจึงทิ้งตัวลงบนตักฉัน แล้วจากไปนิรันดร์
เงาศิลป์
พวกมันพากันเลื้อยไปบนผิวดิน ในสภาวะอากาศอุ่นๆ คล้ายทุรนทุรายรีบร้อนที่จะไปที่ไหนสักที่ แต่กลับหลงทางวกวนจนขาดใจตายไปในที่สุด เพียงชั่วเวลาไม่ถึงชั่วโมงยามนี้ ไอแดดไม่ผ่าวร้อนอีกต่อไป ละไอหมอกที่ห่อหุ้มรอบๆตัว สร้างความมัวซัวทั้งแนวป่า มันจึงปกป้องผิวดินให้เย็นฉ่ำ และเก็บความชุ่มชื้นไว้ด้วยหยาดน้ำค้าง แต่ทำไมไส้เดือนผู้รักดินจึงคิดทิ้งถิ่นอาศัย ดิ้นรนไปสู่ความตายเช่นนี้ด้วยเล่าสำหรับฉัน รอยต่อของฤดูฝนชนฤดูหนาว ธรรมชาติมีของกำนัลที่น่ารักมามอบให้มากมาย โดยเฉพาะแม่นกทั้งหลายที่มีลูกน้อยและสั่งสอนลูกๆให้หัดบิน มีมาให้เห็นใกล้ๆอยู่บ่อยครั้ง เพราะนี่คือช่วงเวลาที่ดี สำหรับการหาอาหาร…
เงาศิลป์
ละไอหมอกลอยเรี่ยอาบยอดไม้ ยามแสงเช้าสาดส่องทั่วลานไร่ รอบๆ กายคล้ายความฝัน นานนับปีแล้ว ที่ฉันไม่ได้เดินทางไกล ฤดูกาลเช่นนี้ มักกระซิบเรียกหาให้โลดแล่นออกไปตามใจตน แต่คราวนี้งานหนักในไร่ยังคงเร่งเร้าอยู่ตรงหน้า ยิ่งยามต้นไม้โบกไหว สบัดเรียวใบชุ่มเขียวให้คลายสี แล้วปล่อยให้ลมแล้งแต้มสีเหลืองจางๆ ลงแทน ฉันยิ่งต้องเร่งทำงาน หยิบสมุดบันทึกออกมาอ่านอย่างไม่ตั้งใจ กลับพบบางอย่างที่ชวนขำ ฤดูหนาวของปีนั้น ฉันได้เร่ร่อนท่องเที่ยวไปท่ามกลางความขัดแย้งที่บานปลายไปจนถึงขั้นสู้รบฆ่าฟันกันรายวัน และได้เห็นภาพการประท้วงที่วุ่นวายบนท้องถนน เกือบทั่วทั้งประเทศ บนรถไฟ จากเมืองแคนดี้…
เงาศิลป์
“ทำไมพี่ไม่ใช้ตัวพ่วงท้ายที่ไถพรวนไปพร้อมๆ กับตัดหญ้าล่ะครับ ดินจะได้ไม่แข็ง” เป็นคำแนะนำของยุทธ ซึ่งแวะมาที่ไร่แต่เช้า เพื่อขอยืมพลั่วไปตักปุ๋ยขี้ไก่ ไว้หยอดใส่หลุมแตงโมที่เถาว์เริ่มเลื้อยยาว ขณะที่ฉันขับรถแทรกเตอร์ตัดหญ้าในสวน เจตนารมณ์ของการทำสวนที่คิดว่าจะเบียดเบียนชีวิตอื่นให้น้อยที่สุด และเพื่อประโยชน์ตนอันสูงสุด เท่าที่จะทำได้ ฉันจึงตั้งใจว่าจะไม่ไถพรวน แม้บางทฤษฎีของบางนักวิชาการจะบอกว่า ดินทรายต้องไถพรวน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปลายฤดูฝน เพราะการไถพรวนพลิกหน้าดิน จะช่วยลดการสูญเสียน้ำใต้ดินจากการดูดซึมของต้นหญ้า ใช่สิ ในภาคอีสานฉันเห็นการไถพรวนในเกือบทุกแปลงการเกษตร…
เงาศิลป์
นานๆ จึงจะมีเพื่อนบ้านแวะมาเยี่ยม ยิ่งยามนี้ยิ่งยากที่จะได้พบเจอคนผ่านทาง เพราะเส้นทางรถอีแต๊กถูกกระแสน้ำเชี่ยวลากพาดินทรายพัดหายไปทางลำธารข้างล่างโน่น จนกลายเป็นร่องน้ำลึกมีรากไม้ขนาดเล็กใหญ่พาดพันกันยุ่งเหยิง ส่วนพื้นที่ในไร่ ต้นไม้ยังเล็กนัก ร่องน้ำเล็กใหญ่เกิดขึ้นมากมาย แต่ที่ดินไม่พังทลายลงไปมาก เพราะผิวดินยังมีรากกอหญ้าสูงยึดดึงเอาไว้ ฉันหวังว่าปีต่อๆไป ผิวดินจะปลอดภัยมากกว่านี้ ถนนทางทิศตะวันออกของไร่กลายเป็นลำธาร จักรยานหรือมอเตอร์ไซค์เป็นสิ่งเกินจำเป็นไปในทันที ไม่ต้องพูดถึงรถยนต์ที่ฉันไม่มีใช้ รถอีแต๊กที่เคยผ่านเส้นทางนี้ทุกเช้า…
เงาศิลป์
ทุกชีวิตย่อมมีศักยภาพในการใช้ชีวิต หากยอมรับว่า “เกมการล่า” ว่าเป็นวิถีทางที่มีอยู่จริง และเราสามารถยอมรับความเจ็บปวดได้เมื่อตนเองถูกล่า ชีวิตฉันมักจะเป็นดั่งนี้… สิบกว่าปีที่แล้ว ณ ริมธาร “ห้วยแก้ว” เชียงใหม่ สายฝนที่ตกลงมาอย่างหน่วงหนักตลอดคืน ทำให้หลังคากระท่อมที่มุงด้วยใบหญ้าคา ทรุดฮวบลงมากองทับตัวฉันและกองหนังสือของฉันจนเปียกปอน ฉันได้แต่หัวเราะอย่างขำขื่น สาสมใจ วันนี้...ในหุบเขากว้าง บนแผ่นดินที่ราบสูง หลังจากฟ้าฝนกระหน่ำสายติดต่อกันหลายวันหลายคืน ฟ้าจึงบรรณาการแสงแดดอันอุ่นเอื้อมาให้ ต้นไม้ของฉันจึงได้หายใจบ้าง ต้นไม้ใหญ่ อาจพอมีเวลาต่อรอง…
เงาศิลป์
ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นตื่นตระหนกเบิกโพลงอยู่ในความมืดสลัวของกระสอบปุ๋ย ทันทีที่ฉันเปิดปากถุงพวกมันต่างเงยหน้าจ้องมองมาที่ฉัน ดวงตาอีกสี่คู่เป็นสีน้ำตาลกลมกลืนกับความมืดจึงไม่สะดุดใจเท่าดวงตาคู่ที่เป็นสีน้ำทะเลกระจ่างจ้าคู่นั้น“โถ ลูกหนอลูก” ฉันร้องครางอยู่ในใจ นั่นคือเหตุการณ์ในเวลาเช้าตรู่ ที่ฟ้าฝนกระหน่ำสายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กาลเช่นนี้ได้ลักพาความสดชื่นแห่งวันใหม่ไปซุกซ่อนไว้ในม่านเมฆฝนหนาทึบริมฟ้า ราวกับมันเป็นจำเลยที่ต้องโทษหนัก และเช่นกัน ฉันผู้เคยเสพสุขจึงต้องร่วมรับโทษทัณฑ์นั้นไปด้วย เพราะเวลาที่อึมครึมในแต่ละนาทีดูเหมือนเนิ่นช้าและหน่วงทับอารมณ์มากขึ้นและมากขึ้นทุกขณะ  …
เงาศิลป์
ฉันสำเหนียกถึงแรงสะเทือนที่ดิ้นสะท้านอยู่ภายในอก ยามที่เผลอใจไปยึดมั่นกับเรื่องราวความขัดแย้งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเราขณะนี้ ทั้งที่ฉันตั้งใจวางตัวเองไว้ตรงชายขอบของสังคม... ไม่ได้ตั้งใจปิดหูปิดตาตัวเอง แต่เพราะการสื่อสารทั้งหลายที่ไม่สะดวก ฉันจึงหลุดออกมานอกวงสนทนาของความขัดแย้งเกลียดชัง เพราะ...ถูกและผิด ใช่และไม่ใช่เป็นเรื่องซับซ้อน วันวาน...สภาพชีวิตของฉันเป็นเสมือนวัชพืชของสังคมวันนี้...ฉันเป็นผู้แผ้วถางวัชพืชตัวจริงอย่างสำนึกรู้ผิดบาป แม้จะเลือกใช้เครื่องมือที่ปลอดภัยที่สุดแล้วต่อชีวิตเล็กๆ แต่กระนั้นฉันก็ยังทำลายชีวิตบางชีวิตอยู่ดี
เงาศิลป์
“เมื่อวานนี้คนในหมู่บ้านถูกหวยกันหลายคน”ยายแดงเริ่มเรื่อง ขณะที่นั่งจุมปุ๊กบนพื้นหญ้าหน้าบ้าน พลางเอาเสียมปากแบนแซะหญ้าเล่น ใบหน้ายังแดงก่ำ หยาดเหงื่อยังเปียกชื้นที่ไรผม เพราะงานดายหญ้า“แล้วยายแดงไม่ถูกกะเขาด้วยเหรอ” ฉันนั่งบนที่พักเชิงบันได หลังจากจัดเรียงกล้าไม้ใกล้โอ่งน้ำเสร็จไปแล้วหนึ่งชุด“ไม่ได้ซื้อกับเขาหรอก ไม่ค่อยได้ซื้อหวย” นับว่าเป็นบุคคลที่น่ายกย่อง ฉันชื่นชมในใจ“แล้วชาวบ้านได้เลขมาจากไหนกันละยายแดง”“เขาว่าเป็นเลขผีบอก ผีจากวัดป่าบอกผ่านเจ้าอาวาสอีกที”“อืม....ไม่เลวแฮะ แสดงว่าผีมีจริง”....ฉันนึกถึงกุศโลบายของตัวเอง ที่บอกกับใครๆว่าทุกวันนี้อาศัยอยู่กับ “ผีโนนบ้านคึม…
เงาศิลป์
นั่งบนตอไม้เล็กๆ หลังพิงโอ่งน้ำขนาดเท่าช้างพังตั้งท้อง ในปากกำลังเคี้ยวมะม่วงแก้วที่สุกพอห่ามๆ รสชาดกำลังดีมีความเปรี้ยวนิดๆ ทั้ง “เจ้าเสือ” หมาหนุ่มคู่บารมี ยังนอนหมอบราบคาบแก้ว ทำท่าขอแบ่งกินอยู่ตรงเท้า ดูสิ..ฉันใช้ชีวิตราวกับพระราชาในเทพนิยาย  เพราะเบื้องหน้าไกลโพ้นโน่น ตรงขอบฟ้าเหนือดงไม้นั่น คือการแสดงพลังพิเศษของเหล่าสามัญมนุษย์ เพื่อสื่อสารกับเทวดาพญาแถน จนท้องฟ้าสั่นสะเทือน ม่านเมฆเคลื่อนอยู่ไปมาเนื่องจากบ้านไร่เป็นที่ๆ ห่างไกลชุมชนทั้งในระยะทาง และด้วยสายตา แต่ฉันก็สามารถมองเห็นที่ตั้งของทุกหมู่บ้านรายรอบได้เป็นอย่างดี ในวันเวลาเช่นนี้ ทุกทิศทางจะมีเสียงดังฟู่ยาวๆ…
เงาศิลป์
มันคงเป็นเรื่องเล่าที่ชวนพิศวง ฉันคงสงสัยว่ามันมีความจริงปนอยู่สักเท่าใด หากไม่ได้ถูกบันทึกไว้ด้วยมือของฉันเองภาพในอดีตเมื่อยี่สิบปีที่แล้วฉันเห็นตัวเองเกาะแน่นอยู่บนอานรถมอเตอร์ไซค์ที่ไต่ไปตามคันนาเล็กๆ คนขับชำนาญทางเป็นอย่างดี เพราะไม่เช่นนั้นอาจได้ลงไปนอนแช่น้ำในผืนนากันทั้งคู่“พี่หวาด” เป็นหมอยาพื้นบ้านและเป็นเพื่อนร่วมงานของฉัน แกทำหน้าที่เป็นสารถีรวมทั้งเป็นเนวิเกเตอร์ในการไปพบเจอกับแหล่งข้อมูล และนั่นคือที่มาของเรื่องราวที่เหลือเชื่อ ที่หลงเหลือไว้ให้ฉันหยิบจับขึ้นมาอ่านซ้ำอย่างประหลาดใจไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเคยพบเจอกับบุคคลที่มีบุคลิกพิเศษมากมาย ปัจจุบันเขาเหล่านั้นลาจากโลกนี้ไปแล้ว…