Skip to main content

 

หลายวันก่อนเขียนตอบเพื่อนในเฟซบุ๊คแล้วก็เปลี่ยนใจกลางอากาศไม่เอาลง เบื่อเรื่องสี ๆ เหมือนกัน คราวก่อนก็เรื่องสีผิวทีแล้ว วันนี้เห็นอารมณ์ของเพื่อนหลาย ๆ คนในเฟซบุ๊คก็บอกตัวเองว่า โพสเรื่องกิน ๆ นอน ๆ ไปวัน ๆ ดีกว่า ประชดชีวิต

 

เราคิดว่าการต่อสู้ในสังคมไทยครั้งนี้มีความซับซ้อน เหมือนการต่อสู้ของเด็ก ๆ กับลอร์ดโวลเดอร์มอร์ ในแฮรี่พอตเตอร์ ที่มีความน่ากลัว แม้แต่ชื่อยังไม่กล้าเอ่ยนาม ต้องเรียกว่า "คนที่คุณก็รู้ว่าใคร" แต่เด็ก ๆ ก็ยังมีวิชา มีอาวุธ

 

เมื่อมันอยู่ในสังคมซ้บซ้อนแบบไทย ๆ ก็เลยมีการต่อสู้แบบไทย ๆ มีการเลี่ยงบาลี เลี่ยงกฎหมาย ด้วยการนำคำเก่ามาใช้อย่างคำว่า "ไพร่" คำว่า "อำมาตย์" ที่แฝงนัยยะเปรียบเทียบ และประชดประชันอยู่ในที ที่น่าขำคือวันหนึ่งท่านนายกบอกว่า เกรงว่าลัทธิคอมมิวนิสต์จะกลับมา เพราะเห็นได้จากคำว่า ไพร่ หรือ อำมาตย์ ที่คนเสื้อแดงใช้กัน ตลกคือสหายคอมมิวนิสต์เขาไม่ใช้พวกนี้กันสักหน่อย เขาใช้คำว่า กระดุมพี คำว่าชนชั้น คำว่าไพร่และอำมาตย์เป็นคำเก่าที่มีและใช้กันมาก่อนมีลัทธิคอมมิวนิสต์เสียอีก  ท่านนายกคงอยู่เมืองนอกนานไปหน่อย

 

เรื่องภาษาในการต่อสู้ครั้งนี้มีพัฒนาการน่าศึกษายิ่งนัก ยังไม่นับการใช้สีเป็นสัญลักษณ์ในการต่อสู้ของคนสองสี การดูดเลือดคนละ 10 cc ซึ่งน้อยมากสำหรับคนหนึ่งคน แล้วนำมารวมกัน  และเลือดที่นำมารวมกันก็เอาไปใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ไม่ได้เพราะต่างกรุ๊บกัน แต่กลับนำไปใช้ประโยชน์ในทางการเมือง จิตวิทยา เห็นเลือดแดง ๆ นองพื้นแล้วเปิดตำราแทบไม่ทัน

 

บางทีก็เบื่อเหมือนกันนะ สภาพการณ์แบบนี้ เหมือนจะมีเสรีภาพ แต่ก็ไม่มี ท่ามกลางการต่อสู้ที่ดูเหมือนชัดเจนเหลืองแดง ทักษินสนธิ แต่ในความเป็นจริงอาจไม่ใช่อย่างที่เราเห็น พูดไปก็เหมือนเรื่องซับซ้อน แต่ในความซับซ้อนก็กลับเห็นเป้าหมายในการต่อสู้ที่ชัดเจนระหว่างคนสองกลุ่ม และยังมีภาพที่น่ารำคาญของคนอีกกลุ่มที่ไร้เดียงสาคิดว่าชาวบ้านไม่รู้อะไร ทักษินจ้างมา รับเงินเขามา

 

เรื่องแจกเงิน มันก็แจกกันทั้งนั้น ตอนพี่เหลืองปิดทำเนียบ แถวบ้านแม่เราช่วงแรก ๆ ก็สองพัน ชมรมผู้สูงอายุเพื่อน ๆ แม่ชวนกันนั่งรถตู้ไปแอ่วกรุงเทพ มีอาหารดี ดนตรีไพเราะ ได้เงินเที่ยวอีกต่างหาก ต่อมาเหลือ 500 แล้วรถที่เต็มออก เต็มออกนั้นใครจ่าย

 

แต่ขณะเดียวกันก็มีพวกที่เชื่อ ศรัทธา และเกลียดทักษิณ ด้วยใจบริสุทธิ์ ไปกันเอง บริจาคเงินให้หลาย ๆ แสน พวกนี้ก็มีเหมือนกัน และพวกนี้นี่แหละที่ไม่ยอมรับว่า เหลืองก็ซื้อ

 

มาถึงวันนี้เรื่องการใช้เงินกลับเป็นเรื่องรองไปเสียแล้ว ก็จะทำยังไง ไม่ว่ามาเหลืองหรือมาแดง จะให้คนเดินมาหรือไง ในม็อบถ้าไม่มีเงินจะขับเคลื่อนได้อย่างไร มาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองอย่างนั้น

 

สิ่งที่วาดหวังตอนนี้คือ ทำยังไงให้เราได้เห็นภาพของสงครามที่แท้จริง บ่อยครั้งที่ต้องถามตัวเองว่าเราเป็นอย่างคนที่เรามองเห็นอยู่หรือเปล่า ต่างฝ่ายต่างว่าอีกฝ่ายหนึ่งไม่รู้ คนเสื้อแดงก็บอกว่าคนเสื้อเหลืองไม่รู้อย่างที่พวกเขารู้ คนเสื้อเหลืองก็บอกว่าคนเสื้อแดงไม่รู้ว่าทักษิณเลวยังไง และเป็นมาด้วยเงินของทักษิณ เป็นขี้ข้าของทักษิณ

 

กว่าจะรู้ตัวว่าเป็นถั่วเหลืองถั่วแดงที่ถูกคั่วอยู่ในกระทะ ก็ถูกคนคั่วหัวเราะคิกคัก ตักใส่จานกินแกล้มเหล้าฉลองชัย เมื่อสายเสียแล้ว

 

 

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ได้มีโอกาสไปแอ่วเมืองน่านเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว หลังจากไม่ได้ไปมาเป็นสิบปี ไปคราวนี้คนที่ไปด้วยก็แทบไม่เคยไปเลย มีเราคนเดียวที่มาบ่อยที่สุด กระนั้นก็นับได้ประมาณสี่ครั้ง ความที่เมืองน่านเป็นเมืองที่จะว่าไกลก็ไกล จะว่าไม่ไกลก็ไม่ไกลนัก ขับรถจากเชียงใหม่ 5 ชั่วโมงรวมเวลาพักรถกินกาแฟที่เด่นชัย ขับรถเส้นทางนี้ขอแนะนำร้านกาแฟสดเด่นชัย ตรงริมแม่น้ำ เชิงสะพานทางไปลำปาง กาแฟเค้าดีจริงๆ หรือหากใครดื่มกาแฟไม่ได้ ถ้าได้ผ่านไปที่อ.ร้องกวาง จ.แพร่ แวะตลาดสด มีร้านหนึ่งขายเมี่ยง ใช้อมตอนขับรถง่วง ๆ ได้ผลดี เพราะเมี่ยงเป็นใบชาชนิดหนึ่งมีคาเฟอีนเหมือนกัน เราชอบกินเมี่ยงเพราะไม่ขับปัสสาวะเหมือนกาแฟ  
โอ ไม้จัตวา
  รูปนี้ก็ต้องจับกล้องนิ่ง ๆ เพราะถ่ายท้องฟ้าตอนเย็น
โอ ไม้จัตวา
 คำถามเดิม ถ่ายยังไงให้ดีให้สวย คำตอบแบบกำปั้นทุบกล้องเลยคือ มองให้เห็นความงาม ซึ่งตรงนี้ขอเน้นย้ำว่า “ความงามเป็นเรื่องปัจเจก” เป็นเรื่องของใครของมัน กล้องก็ของเรา เราถ่ายเราก็เอาไปดู และชื่นชมอย่างน้อยก็กับตัวเอง คนอื่นจะว่าอย่างไรก็ช่างไม่ต้องสนใจ ถ้าเราเห็นว่างาม...ถ่ายเลย
โอ ไม้จัตวา
  หลายคนถามว่าถ่ายรูปอย่างไรให้สวย ช่วยสอนหน่อยได้ไหม ความที่ไม่ได้ร่ำเรียนเรื่องการถ่ายภาพมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราว ทำให้เราสอนเป็นเรื่องเป็นราวไม่ได้เช่นกัน คำตอบที่บอกไปส่วนใหญ่จะบอกแบบโยนกล้องให้แล้วไปหาเอา
โอ ไม้จัตวา
  ไปกินปลาสะแงะมาแล้ว รสชาติและเนื้อคล้าย ๆ กับปลาคังน่ะ ร้านที่ไปกินเป็นร้านอาหารอร่อยด้วยรสมือคนปรุง ชื่อร้านน้องเบส ขอแนะนำ เป็นห้องแถวสองคูหา นอกจากปลาสะแงะที่น่าลิ้มรสแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้อีกเมนูหนึ่งของร้านนี้คือ เห็ดหอมทอดซีอิ้ว ที่มีน้ำจิ้มสีเขียวสูตรของร้านนี้โดยเฉพาะ อร่อยจริง ๆ
โอ ไม้จัตวา
ภาพจาก www.thailandoutdoor.com ไปปายคราวที่แล้ว ได้ยินชื่อปลาสะแงะในเมนูร้านอาหารร้านอร่อย (ร้านน้องเบส เห็ดหอมทอดอร่อยด้วยน้ำจิ้มสีเขียว) แต่ก็ไม่ได้กิน ถามใครก็ตอบไม่ได้ว่าเป็นปลาอะไร ดียังไง ทำไมต้องปลาสะแงะ จนกระทั่งมาเจอข้อเขียนของคุณ’รงค์  วงษ์สวรรค์ ที่เคยเขียนไว้ถึงปลาชนิดหนึ่งชื่อปลาไหลหูดำ “ปลาไหลหูดำ  โอว  หี่  เหมา  ปรุงรสน้ำแดงกับเห็ดหอมและผักบุ้ง--เอ้งฉ่าย   ปลานี้อิมพอร์ทเข้ามาจากฮ่องกงราคาแพงและมีกินในฤดูเดือนเท่านั้น แต่บางคนบอกความลับว่า  พรานปลาแถบลุ่มน้ำตาปีภาคใต้นำมาส่งอย่างไม่เปิดเผยเพื่อการผดุงราคาเหนือกว่าปลาอื่น…
โอ ไม้จัตวา
http://blog.palungjit.com/uploads/s/saochiangmai/3152.mp3 เพลงน้องน้อยแพนด้า สำหรับดาวน์โหลดค่ะ แพนด้าไม่ใช่หมี แพนด้าคือแพนด้า
โอ ไม้จัตวา
  ความที่ปายเป็นเมืองโรแมนติก เมืองที่อยู่สบาย ล้อมรอบด้วยภูเขา มีแม่น้ำเล็ก ๆ ไหลผ่าน เหมือนภาพในฝัน ในนิทานยังไงยังงั้น จึงมีผู้คนจำนวนหนึ่งย้ายนิวาสสถานมาอาศัยอยู่ที่ปาย บางคนมานอนอ่านหนังสือ พักผ่อน เช่าบ้านอยู่นาน ๆ เป็นจุดแวะพักในซอกมุมหนึ่งของโลก ก่อนจะออกเดินทางต่อไป  
โอ ไม้จัตวา
ดอกไม้ริมทาง ใครจะนึกบ้างว่าเมืองที่ “อะไรก็ปาย” ในพ.ศ.นี้ เคยเป็นดินแดนสำหรับเนรเทศผู้กระทำความผิดมาก่อน ย้อนหลังไปไกลเจ็ดร้อยกว่าปี เมื่อเริ่มสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นในพ.ศ. 1839 ในสมัยราชวงศ์มังรายปกครองเชียงใหม่นี้ ปายก็เป็นเมืองหน้าด่านเมืองหนึ่งของเชียงใหม่ ในชื่อว่า “เมืองน้อย” ซึ่งปัจจุบันบ้านเมืองน้อย (อยู่ระหว่างปายกับอ.เวียงแหง) เป็นหมู่บ้านของชาวปกากญอ อยู่ต้น ๆ ของแม่น้ำปาย
โอ ไม้จัตวา
  ได้เวลาพารถคันน้อย ๆ ไปออกกำลังกายอีกแล้ว คราวนี้ไปแบบไม่รู้อะไรเลย บ้านวัดจันทร์ ฉันรู้จักในนามป่าสนวัดจันทร์ ความที่ชอบต้นสนสองใบ สามใบ และไม่เคยแยกออกสักทีว่าอย่างไหนสองใบ หรือสามใบ แต่ที่ชอบคือใบฝอย ๆ เวลามองไกล ๆ แล้วดูเป็นฟู่ ๆ สวยดี ใบสนไม่มีน้ำ ยามหน้าแล้งจึงยังเขียวอยู่เนื่องจากมีน้ำมันอยู่ข้างใน
โอ ไม้จัตวา
คนปาย
โอ ไม้จัตวา
ตื่นเช้ามาด้วยอาการแฮ้งค์ดาวแดงอย่างสุดชีวิต ความที่เคมีในร่างการเริ่มปฏิเสธดาวดาวสีแดงดวงนี้ ทำให้ชีวิตฉันง่ายขึ้นเมื่อต้องชะตากับลีโอ จนเพื่อนร่วมทางบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงคนแรกที่กินลีโอ