Skip to main content

 
\\/--break--\>

1.
 
ผมขออนุญาตเขียนถึงคุณ,นักเดินทางผู้แปลกเปลี่ยว
คุณบอกว่าหัวใจคุณกำลังแย่แล้ว
ข้างในกำลังว่างโหวงกลวงเปล่า
และรายล้อมตัวคุณนั้นดูมืดมัวสลัวราง
เสียงสะท้อนดังก้องอยู่ข้างใน
ผมเข้าใจความรู้สึกเช่นนั้น
นานหน่วงหนักกับบางสิ่งที่กดทับบนเส้นทางภาระแห่งชีวิต
คุณอาจรู้สึกปวดแปลบผ่านรูขุมขนเข้าไปข้างใน
แทรกซึมแฝงฝังปะปนอยู่ตามเส้นเลือดกระจายทั่วร่าง
กี่นาน- -ผ่านวันคืนที่ถ้อยคำสูญหายไปจากริมฝีปาก
สรรพสิ่งตกอยู่ในความเงียบงัน- -ไม่มีใครเอ่ยถ้อยคำใด
จิตสำนึกลอยละล่องปะปนอยู่ในอากาศครึ้มฟ้าครึ้มฝน
ทุกอย่างกลับแปลกเปลี่ยนไปไม่เหมือนแต่ก่อน
ค่ำคืนสว่าง กลางวันดำมืด
บทเพลงเปลี่ยนท่วงทำนอง ช่างวังเวงและว้างไหว
ชีวิตคว้าง หัวใจมิอาจสื่อสารกับโลกใดใดได้อีกต่อไป
คุณอาจรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่บนยอดเขาอันโดดเดี่ยว
เหมือนยืนอยู่ตรงริมขอบเหวของความสิ้นหวัง
ทว่าแท้จริงแล้ว วิถีคุณยังคงเดินวนในห้องสี่เหลี่ยมอยู่อย่างนั้น
วนวนกับอดีต ซ้ำซ้ำปัจจุบัน แต่มองไม่เห็นทาง- -อนาคต
 
2.
 
นั่น,ในความเงียบ ผมเห็นคุณกำลังตัดสินใจ
ใช่,คุณกำลังเหวี่ยงชีวิตออกมาจากประตูบ้านไปโดยไม่ล่ำลาผู้ใด
คุณพกพาความเงียบงันใส่เป้เดินดุ่มไปตามถนน
ผ่านตรอกซอกซอย ผ่านแมกไม้และฝูงชน
ก่อนพาร่างอันบอบบางนั้น
แทรกหายไปในความว่างเปล่า
..........................................................
 
 
3.
 
บางที ‘เฮอร์มาน เฮสเส’อาจกำลังเชื้อเชิญคุณร่วมท่องทางเสาะค้นบางหนแห่ง
ผมครุ่นคิดไปอย่างนั้น
หรือไม่จิตวิญญาณข้างในของคุณคงอยากปลดปล่อย
ให้ความเปลี่ยวเหงาได้ร่วมวงสนทนากับคุณบ้างสักช่วงหนึ่งของชีวิต
แล้วทำให้ผมต้องค้นบทกวีของคุณออกมาอ่านอยู่เงียบเงียบ...
 
‘…คุณโชคดี โลกของคุณอยู่ในกำมืออันไพศาลจริงๆ
คุณอาจรู้- -ไม่รู้ ว่าโลกห่อเหี่ยวเกินเยียวยาอยู่แล้ว
ความกล้าหาญที่ไม่มีใครมองเห็นและเข้าใจ
คนขลาดกลัวไม่เคยยอมปล่อยตัวเองให้เดินไปตามถนน
คนบ้าที่โลกไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย...
 
4.
 
ผมเข้าใจ,กับสิ่งที่คุณกำลังเลือกตัดสินใจและเผชิญอยู่
คุณไม่ใช่คนบ้า และคุณไม่ใช่นักบวช
แต่ผมเห็นคุณกำลังเดินทางไกล ไปพร้อมกับเสียงข้างใน
จาริกไปพร้อมความโดดเดี่ยวและแปลกแยก
ภูเขายืนสงบนิ่ง สายลมหยุดการเคลื่อนไหว
นกไม่ร้องขับขาน ดอกไม้ไม่ส่งกลิ่นหอม
มีเพียงแดดสายส่องกระทบไหล่หลังคุณเบาเบา
                             ในห้วงนั้น,ผมได้แต่เฝ้ามอง ความจริงส่ายหน้ากับความฝัน
ในความฝันคือความสุข ในความจริงมีความเจ็บปวด
จริงสิ, คงเหมือนกับที่คุณบอก
โลกกำลังห่อเหี่ยว โลกกำลังป่วยไข้ เราล้วนกำลังป่วยไข้
หัวใจหลายดวงนั้นนับวันจึงเริ่มแหว่งวิ่น
ผมเข้าใจ
การเดินทางเป็นเหมือนการบำบัดเยียวยาหัวใจ
ฟังสิ,
ฟังเสียงเพรียกจากข้างในกำลังบอกคุณ
ไปเถิด...โลกนี้มีที่ว่างให้กับหัวใจพเนจรอยู่เสมอ.
 
0000
 
๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๒
แด่...นักเดินทางผู้แปลกเปลี่ยวคนนั้น
ที่ท่องทางพเนจรไปบนหนแห่งอย่างไร้ร่องรอย

 

บล็อกของ ภู เชียงดาว

ภู เชียงดาว
  เมื่อนั่งอยู่ในความเงียบ ในสวนบนเนินเขายามเช้าตรู่ เพ่งดูหมอกขาวคลี่คลุมดงดอยอยู่เบื้องหน้า ทุ่งนาเบื้องล่างลิบๆ นั้นเริ่มแปรเปลี่ยนสี จากทุ่งข้าวสีเขียวสดกลายเป็นสีเหลืองทองรอการเก็บเกี่ยว ใช่, ใครต่อใครเมื่อเห็นภาพเหล่านี้ คงรู้สึกชื่นชมภาพอันสดชื่นรื่นรมย์กันแบบนี้ทุกคนทว่าจริงๆ แล้ว พอค้นให้ลึกลงไป ก็จะพบว่า ในความงามนั้นมีความทุกข์ซุกซ่อนอยู่ให้รับรู้สึก เมื่อนึกถึงภาพเก่าๆ ของหมู่บ้าน ผ่านไปไม่กี่สิบปี  จะมองเห็นได้เลยว่าหมู่บ้านเกิดของผมมีความแปลกเปลี่ยนไปอย่างเร็วและแรง อย่างไม่น่าเชื่อ“ตอนนี้ อะหยังๆ มันก่อเปลี่ยนไปหมดแล้ว...” เสียงใครคนหนึ่งบ่นเหมือนรำพึงจริงสิ,…
ภู เชียงดาว
ผมเริ่มค้นพบว่าตัวเองนั้นไม่เหมาะกับเมือง หลังจากที่ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่มานานหลายปี ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคิดเช่นนี้- -อาจเป็นเพราะระยะหลังรู้สึกว่าชีวิตตัวเองแปลกและป่วย บางครั้งคล้ายยินเสียงจากข้างในกำลังบอกอะไรบางอย่าง ราวกับจะบอกว่า... ‘ที่สุดแล้ว,ชีวิตต้องกลับคืนสู่เส้นทางที่จากมา’ แหละนั่น ทำให้ผมเริ่มวางแผนกลับไปใช้ชีวิตในสวนบนเนินเขาเหนือหมู่บ้านเกิดอีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้สวนรกร้างว่างเปล่ามานานเต็มทีจริงสิ, ผมปล่อยให้ต้นไม้ในสวนรกเรื้อและโตขึ้นตามลำพัง ไร้การดูแลเอาใจใส่ ไม่มีเวลารดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย คงเหมือนกับชีวิตตัวเองกระมัง ที่ต้องมาอยู่กับเมือง มัวแต่ไขว่คว้าบางสิ่ง…
ภู เชียงดาว
สิ่งดี ๆ ในชีวิต พ่อค้าแวะมาหาคนสวนที่เขากำลังพักผ่อนอยู่ตรงหน้ากระท่อม “สวัสดีครับคนสวน” พ่อค้าทักทาย “ผมมีข้อเสนอดีๆ มาให้ คุณคงสนใจเป็นแน่” และเมื่อเห็นทีท่าเฉยเมยของคนสวน พ่อค้าก็เริ่มพูดธุระที่เขาคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่าย ซึ่งคนสวนจะต้องขยายพื้นที่ปลูกกุหลาบเพิ่มขึ้นและพ่อค้าจะเป็นคนเอาไปขายในเมือง “คนสวน ด้วยความชำนาญของคุณ กุหลาบของเราจะสวยงามที่สุดในเมือง” พ่อค้าสรุปด้วยท่าทีกระหยิ่มยิ้มย่อง “ขอบคุณแต่เราไม่สนใจ” คนสวนตอบพร้อมยิ้มอย่างเคย “แต่คุณจะได้เงินเยอะ...” พ่อค้าว่า ท่าทางแปลกใจ “ผมไม่สนใจเงินทองหรอก” “ใครๆ ก็อยากได้เงินกันทั้งนั้น...” “แต่ไม่ใช่ผม…
ภู เชียงดาว
ความเรียบง่ายมีแรงดึงดูดที่ลี้ลับเพราะมันจะฉุดเราไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับทิศทางที่คนส่วนใหญ่ในโลกไปกันไปจากการทำตัวให้เด่น ไปจากการสะสมไปจากการทะนงหลงตนและจากการเป็นเป้าสายตาของสาธารณะไปสู่ชีวิตสงบ อ่อนน้อมถ่อมตน กระจ่างใสยิ่งกว่าสิ่งใดๆที่วัฒนธรรมบริโภคอย่างฉาบฉวยรู้จักกัน.                                                        …
ภู เชียงดาว
ที่มาภาพ  www.salweennews.orgที่มาภาพ www.sarakadee.comที่มาภาพ www.salweennews.orgกอดกับความเย็นเยียบอยู่อย่างนั้น, กลางป่าเปลี่ยวอ้อมอกอันบอบบางของเธอมิเคยอบอุ่นอยู่กับความมืดดำในความรู้สึกหวาดหวั่นพรั่นพรึง, ชีวิตความตายเหมือนมิเคยแยกจางห่างกันเลยโอ. เด็กๆ  ตามแนวชายแดนยามใดหนาวฤดูลมแล้งแห้งโหมพัดเข้ามาสู่,หัวใจเธอนั้นเหมือนจักรับรู้รสสัมผัสชีวิตวิถีที่จำต้องระเหเร่ร่อนนั่น,คือสัญญาณความขัดแย้งอันเลวร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ในหลืบเขารอการอุบัติเสียงแม่กระซิบบอกพวกเธอเบาๆเร็วเข้า,…
ภู เชียงดาว
  “การถอยออกไปจากสนามรบของชีวิตทำงานเงียบๆ ด้วยเป้าหมายที่สร้างสรรค์คือคำตอบหนึ่งต่อคำถามที่ว่าจะอยู่อย่างไรในสถานการณ์ที่ทุกอย่างกำลังพังทลาย”จากหนังสือ “ความเงียบ”จอห์น เลน เขียน, สดใส ขันติวรพงศ์ แปลผมไม่รู้ว่า สวนของผมนั้นกลายเป็นสวนผสมผสานตั้งแต่เมื่อไหร่...แต่ผมรู้ว่า พักหลังมานี่ เมื่อเดินทางกลับบ้านไปสวนทีไร ผมมักติดกล้าไม้เข้าไปในสวนเกือบทุกครั้ง ไม่อย่างก็สองอย่าง แวะซื้อมาจากกาดคำเที่ยง บ้างได้มาจากเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มอบให้มา พอไปถึง ก็ลงมือขุดหลุม เอาเศษฟางเศษหญ้าลงคลุกกับเนื้อดิน หย่อนต้นไม้ต้นเล็กลงไป กลบดิน รดน้ำให้ชุ่ม หรือรอให้น้ำฟ้าหล่นรดให้ฉ่ำชื้นเอง…
ภู เชียงดาว
    “...เมื่อมนุษย์จมอยู่กับฝูงชนที่ขาดความเป็นมนุษย์ ถูกผลักไปมาอย่างอัตโนมัติไปตามแรงเหวี่ยง บุคคลนั้นก็สูญเสียความเป็นมนุษย์ที่แท้ สูญเสียคุณธรรม หมดความสามารถที่จะรัก และศักยภาพที่จะกำหนดตนเอง เมื่อสังคมประกอบด้วยผู้คนที่ไม่รู้จักความวิเวกภายใน สังคมนั้นก็ไม่อาจรวมกันได้ด้วยความรัก แต่อยู่ได้ด้วยอำนาจครอบงำและความรุนแรง...” ถ้อยคำของ “โทมัส เมอร์ตัน” คัดมาจากหนังสือ “ความเงียบ” จอห์น เลน เขียน, สดใส ขันติวรพงศ์ แปล สวนบนเนินเขาเหนือหมู่บ้านเกิดของผม ตั้งอยู่ในเนื้อที่สี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความกว้างและยาวราวสี่ห้าไร่…