Skip to main content

ตรุษจีนปีนี้ผมไม่ได้กลับบ้าน คงอยู่เงียบๆ เหมือนเคย แต่บรรยากาศของตรุษจีนของชาวจีนโพ้นทะเลไม่ว่าที่ไหนๆ ก็จะต้องมีเสียงของเติ้งน้อยเป็นเพลงประกอบราวกับเพลงบังคับของเทศกาล อดไม่ได้ที่จะหวนคิดถึงความเก่าความหลังที่ชีวิตวกวนพาไปเดินเล่นไกลถึงนิวยอร์ค

ต่อไปนี้คือเงาของความหลังจากบทนำวิภาษาฉบับที่ 22 

เติ้งลี่จวินสะกดผู้ฟังด้วยน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ เหมือนหัวร่อทั้งน้ำตา แฝงไปด้วยพลังที่เข้มแข็ง สามารถเข้าถึงและสะกดผู้ฟังได้อย่างตราตรึงใจ ว่ากันว่าที่ไหนมีคนจีนที่นั่นต้องมีเพลงของเติ้งลี่จวิน  ผลก็คือไม่ว่าที่ไหนก็จะได้ยินเสียงแว่วหวานของเธอเสมอ คงไม่กล่าวเกินเลยไปนักหากจะเชื่อตามที่กล่าวกันว่าน้ำเสียงของเธอมีความหวานอยู่เจ็ดส่วน และแฝงด้วยน้ำตาอีกสามส่วน สัดส่วนที่ลงตัวนี้ทำให้เพลงของเธอสะกดคนฟังได้แน่นิ่งและงดงาม

แม้จะประสบความสำเร็จในชีวิตนักร้องอย่างมาก แต่เติ้งลี่จวินจากไปด้วยอายุเพียง 42 ปี เธอเสียชีวิตอย่างเดียวดายที่โรงแรมแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ งานศพของเธอได้รับการจัดแบบรัฐพิธีสะท้อนความยิ่งใหญ่ของเติ้งน้อยคนนี้

ทุกวันนี้ร่างของเธอถูกฝังที่ไต้หวัน หลุมศพของเธอมีคีย์เปียโนไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถเหยียบและเล่นได้จริง มีแฟนเพลงไปเยี่ยมคารวะเธอทุกวัน ซึ่งผิดแผกไปจากธรรมเนียมการเยี่ยมเคารพหลุมศพของชาวจีนอย่างมาก

หนังเรื่องเถียนมีมี่ หรือ Comrades, Almost A Love Story (1996) ของปีเตอร์ ชาน (Peter Chan) เป็นหนังที่ออกฉายในปี ค.ศ. 1996 ก่อนฮ่องกงจะคืนกลับสู่จีนเพียงหนึ่งปี เถียนมีมี่หรือยิ้มน้อยๆ เป็นชื่อเพลงยอดนิยมเพลงหนึ่งของเติ้งลี่จวิน (รวมไปถึงเพลงพระจันทร์แทนใจ Moon Represents My Heart) เพลงนี้ถูกใช้สื่อความหมายมากมายในหนังเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคารวะยกย่องเติ้งลี่จวิน (ที่ผู้คนเรียกเธอว่าเสี่ยวเติ้งหรือเติ้งน้อย) หรือกล่าวถึงตัวละครเอกคือเสี่ยวจุน (หลี่หมิง) ที่อพยพมาหาชีวิตที่ดีกว่าในฮ่องกง เสี่ยวจุนได้พบกับอาเจียว (จางมั่นอวี้) ที่ฉวยโอกาสกับเขาได้บ่อยๆ ดูเหมือนเขาจะยอมอาเจียวไปเสียทุกอย่าง ความใกล้ชิดทำให้ทั้งคู่ตกหลุมรักกัน แต่เสี่ยวจุนก็มีคู่รักจากบ้านเกิดรอสมทบอยู่ ชีวิตของทั้งคู่เปลี่ยนไปตามความผันผวนทางเศรษฐกิจ อาเจียวต้องหนีไปนิวยอร์คกับคู่รักมาเฟีย ทิ้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไว้ข้างหลัง ขณะที่เสี่ยวจุนก็ต้องไปอยู่นิวยอร์คหลังชีวิตครอบครัวล่มสลาย

วันหนึ่งบนท้องถนนของนิวยอร์ค ร้านขายเครื่องไฟฟ้าย่านไชน่าทาวน์แพร่ภาพข่าวการเสียชีวิตของเติ้งลี่จวินและเปิดเพลงของเธอ ทั้งสองคนที่ถูกชะตากรรมเล่นตลกก็ถูกพัดพาก็ได้พบกันอีกครั้งหนึ่ง

หลายคนคงคิดไม่ถึงว่าการพบพานและพลัดพรากแบบละครจะเกิดขึ้นจริง แต่วิกฤติเศรษฐกิจใน ค.ศ. 1997 ก็สร้างความเสียหายและสะเทือนชีวิตคนในทุกระดับ และเกิดขึ้นในเวลาไล่เรี่ยกับพิธีการที่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่แผ่นดินแม่เป็นอารมณ์ที่ยากบรรยาย เพราะเติ้งเสี่ยวผิงผู้หวังจะเห็นฮ่องกงคืนสู่จีนถึงแก่อสัญกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนจะมีพิธีส่งมอบ

หนังเรื่องเถียนมีมี่ยังมีรายละเอียดที่ซ่อนลึกและเปิดทางให้คนได้คิดถึงความหลัง ไม่ว่าจะเป็นในชุมชนชาวจีนโพ้นทะเล ชาวจีนพลัดถิ่น กระทั่งเชื่อมโยงได้กับประสบการณ์ของคนรุ่นที่สองหรือสามของชาวจีนโพ้นทะเล เถียนมีมี่จึงได้รับความนิยมและรางวัลอย่างล้นหลาม

การพบพานและพลัดพรากจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่คนเล็กคนน้อยจะเผชิญ ดังที่ Nevzat Soguk เรียกโอกาสที่จะพบพานนี้ว่า transversality

ผมเปิดเพลงของเธอใน youtube หลายเพลง บางเพลงเป็นการแสดงสดตามที่ต่างๆ เมื่อเธอเดินผ่านผู้ฟังบางคนเพียงจับมือเธอ บางคนยืนและร้องไห้ เติ้งลี่จวินจับมือผู้ฟังสูงวัยท่านนั้นอย่างอ่อนโยนและปลอบขวัญด้วยน้ำเสียงของเธอ ช่างเป็นภาพที่งดงามมาก

ข้อมูลใน wikipedia บอกว่า “เติ้งเสี่ยวผิงปกครองจีนในยามกลางวัน แต่เติ้งน้อย (เติ้งลี่จวิน) ครองจีนในยามค่ำคืน”

อิทธิพลของ “หวานเจ็ดน้ำตาสาม” ในน้ำเสียงของเติ้งน้อยผู้นี้นับว่ายืนยาวจริงๆ

          (ข้อมูลบางส่วนจาก wikipedia และความจำของผม ผมจำได้ว่าคุณเรืองรอง รุ่งรัศมี เขียนบทความชุดเกี่ยวกับเติ้งลี่จวินและหนังเรื่องเถียนมีมี่ได้ลึกซึ้งมาก ท่านผู้อ่านอาจติดตามอ่านได้จากแหล่งอื่นๆ บทความนี้เป็นการรำลึกถึงคราวที่ได้ไปเดินบนท้องถนนในมหานครนิวยอร์คย่านไชน่าทาวน์เมื่อปีก่อน ในเวลาที่มาบรรจบหนึ่งปีเตือนให้คิดถึงอะไรมากมาย ไม่แพ้คราวที่ได้นั่งใกล้ๆ กับจางมั่นอวี้ในโรงหนังที่ฮาวายอิ ขอบอกว่าเธอสวยเด่นจริงๆ)

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนถามว่ารถไฟแบบเก่าไม่ดีตรงไหน คนเราเจริญแต่วัตถุ ควรให้ความสำคัญกับจิตใจ ตอบคำถามเพื่อนไปแล้วอยากแชร์กับท่านอื่นๆ นะครับ ขอโทษเพื่อนอีกทีถ้าทำให้กระอักกระอ่วนใจ แต่อยากจะเล่าแบ่งปันกับคนอื่นๆ ด้วย เรื่องรถไฟรางคู่ หรือความเร็วสูงนั้น ที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
(ข้อความต่อไปนี้มาจากรายงานวิจัยเรื่องชีวประวัติรัฐธรรมนูญและธรรมนูญแห่งรา
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
นัยสำคัญของการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งคือการปฏิเสธอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยด้วยเป็นการดึงดันต่อประกาศพระราชกฤษฎีกาในการเลือกตั้งเตรียมการถอยหลังย้อนทวนเข็มนาฬิกาของพรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งมาโดยตลอดเล่ห์กลตื้นๆ แบบนี้ อาจเป็นเส้นผมบังภูเขา เป็นหลุมพรางก่อนจะ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
คนดีไปไหนหนอ? ถ้ายังจำกันได้เมื่อ พ.ศ.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ขอทบทวน political literacy เกี่ยวกับศาลอาญาและศาลรัฐธรรมน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
หลายวันมานี้ผมหมกมุ่นกับเรื่องนิรโทษกรรมจนลืมไปว่าคนจำนวนมาก "ข้าม" เรื่องนิรโทษกรรมไป "ล้มรัฐบาล" กันแล้ว
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เวลานี้ใครไม่ออกมาพูดเรื่องนิรโทษกรรมก็จะกลายเป็นเชยล้าสมัย ผมอยากให้ลองดูประวัติศาสตร์นิดหน่อยครับไม่อยากพูดมากเลยเอารูปมาแปะเลยนะครับ ภาพเหล่านี้มาจากหนังสือเล่มนี้ครับ 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
สมัยที่ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจสอบความจริงกรณีเผากรุงเทพ 34 จุดนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารชั้นผู้ใหญ่หรือ กทม.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าเรื่องนิรโทษกรรมคืออะไร ผมต้องบอกว่าดีใจมากที่คนไทยสนใจการเมืองมาก ทั้งสองสีเสื้อ และน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
หลายวันก่อนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากหลายสถาบัน เราคุยกันถึงประเด็นที่ว่าแนวคิดบริหารรัฐกิจและการศึกษาที่หยิบเอาแนวทางการบริหารจากภาคเอกชนมาใช้ ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ ในบางแห่งบรรจุภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ไว้ในคณะวิทยาการจัดการ บางสถาบันยกระดับให้เป็น "คณะ" บางแห่งยกฐานะเท่าเทีย
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 มีข่าวว่าอดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 14 ตุลาคม 2516 ระดมกำลังตั้งกลุ่มกระทิงแดงและรวมตัวที่กองบัญชาการ 103 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.56 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความทรงจำอันพร่าเลือนของคนเหล่านี้จากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อเกือบ 40 ปีมาแล้ว