Skip to main content

พันธกุมภา


ถึง มีนา


เมื่อฉบับที่แล้ว ผมได้กล่าวถึงโครงการ “ธรรมทานสู่โรงพยาบาล” ที่ผมและลูกปัดไข่มุก ร่วมกันทำในนามกลุ่ม “ธรรมะทำดี” – กลุ่มที่เราสองคนร่วมกันคิด ร่วมกันก่อร่างสร้างตัวขึ้นมา เพื่อการเผยแพร่ธรรมะที่เราได้พบและเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ทั้งวัยรุ่นและผู้ใหญ่


ที่ผ่านมา พวกเราสองคนต้องขอบคุณพี่ๆ หลายๆ ท่านที่ได้ส่งหนังสือมาให้นะครับ ตอนนี้มีคนที่มอบหนังสือมาหลายเล่ม ทั้งนิตยสาร และหนังสือธรรมะ และก็มีบางส่วนที่เราไปหาซื้อแถวจตุจักร จากเงินเก็บของเราที่มีอยู่

ตอนนี้เราสองคนวางแผนว่าช่วงปิดเทอมใหญ่ (ตอนนี้คนหนึ่งเปิดเทอมแล้ว และอีกคนหนึ่งก็ทำงานเยอะขึ้น) น่าจะพอมีเวลาที่จะไปทำกิจกรรมที่โรงพยาบาลได้เพราะตอนนี้เราได้ติดที่โรงพยาบาลเด็กไว้ ซึ่งเราเองก็คงต้องรอดูจำนวนหนังสือก่อนแล้วค่อยนำไปมอบให้กับโรงพยาบาล

....
ตอนนี้คงต้องรอไปเรื่อยๆ เพราะมีพี่ๆ หลายคนแจ้งความจำนงมาว่าจะบริจาคหนังสือเพิ่ม แต่ยังไม่ได้ส่งมาให้ เลยต้องรอไปเรื่อยๆ จนกว่าเวลาที่เราจะนำหนังสือไปมอบจะมาถึง ซึ่งก็คงประมาณเดือนเมษายนปีหน้านี้

ยังไงก็ตาม จากที่ได้คุยกับพี่ๆ ที่นำหนังสือมาบริจาค เขาบอกว่า การให้หนังสือธรรมะนี้เขารู้สึกเสียดายมาก เพราะบางเล่มเป็นเล่มที่หายากและอยากเก็บไว้เป็นของที่ระลึก แต่เมื่อเขาได้บริจาคก็รู้สึกว่าเป็นการแบ่งปัน และได้คลายความยึดมั่นว่าหนังสือเป็นของๆ เรา และไม่อยากให้ใคร แต่พอเมื่อได้ให้ไปแล้วเขาก็เห็นว่าจริงๆ แล้วการที่เราคิดว่า หนังสือเป็นของๆ เรานั้นมันเกิดความทุกข์ทางใจขึ้นมา

นอกจากนี้แล้วเมื่อมีหนังสือธรรมะดีๆ หลายเล่มส่งเข้ามา แล้วเราก็พบว่าเราไม่เคยเห็นหนังสือบางเล่มมาก่อน ตอนนั้นเราเห็นกิเลสเราชัดเจนมากว่า “อยากอ่าน” “อยากได้” มาอ่าน แต่พอเราหวนนึดถึงเจตนารมณ์ของคนที่บริจาคหนังสือมา เราก็พบว่าเขาต้องการมอบให้ใคร เราสองคนเป็นเพียงคนที่ส่งผ่านหนังสือ ไปให้คนปลายทางอีกคราเท่านั้นเอง


นอกจากนี้บางท่านก็เอาหนังสือแนวชีวจิตมาให้ด้วย เราก็ไปขนมาอีก ซึ่งเดิมทีเราก็คุยกันว่า เราต้องการหนังสือธรรมะ ไม่ใช่แนวชีวจิต แต่พอได้คุยกันอย่างดุเดือดเล็กน้อย เราก็พบว่า จริงๆ แล้วหนังสือธรรมะไม่ใช่เป็นเพียงหนังสือที่มี "หลักธรรม" เท่านั้น แต่บางเล่มก็อาจแฝงด้วยหลักในการดำเนินชีวิต ซึ่งเราก็มีการตีความกันว่าแบบไหนคือหนังสือธรรมะ แบบไหนไม่เข้าข่ายบ้าง

แต่ สุดท้าย ด้วยความเคารพในผู้มอบ เราจึงจะทำหน้าที่ส่งผ่านหนังสือทุกๆ เล่มที่เข้ามา ไปยังคนอื่นๆ ให้ได้ ดังที่เรามุ่งหวัง และตอนนี้ผมก็เก็บหนังสือไว้ที่ห้องทำงานของผม แล้วก็รอเวลาที่จะนำไปส่งมอบให้กับทางโรงพยาบาลต่อไป

พี่มีนาครับ .....หากใครที่มีหนังสือธรรมะดีๆ ที่อยากจะมอบ ยังมีเวลาเหลืออีกนานนะครับ เพราะโครงการนี้เริ่มต้นแต่ไม่มีที่สิ้นสุด ภารกิจของเรายังคงดำเนินการต่อไป.....ขอบคุณครับ


บล็อกของ พันธกุมภา

พันธกุมภา
ชีวิตนี้แสนสั้นและใจก็เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา เช้าสายบ่ายค่ำจิตใจไม่เหมือนเดิม กายก็มีทั้งสุขและทุกข์แปรปรวนไปตามธรรมดา ชีวิตแต่ละวันจึงแสนจะสั้นและดูแล้วไม่เที่ยงเอาเสียเลย จนบางครั้งรู้สึกกลัวว่าจะไม่ได้ทำอะไรก่อนที่ลมหายใจจะหมดไป จึงต้องใคร่ครวญคิดคำนึงอยู่เสมอๆ ว่าตั้งแต่เกิดมามีอะไรที่ตัวเองยังไม่ได้ทำบ้าง และก็ควรจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตนี้เพื่อลงมือทำสิ่งนั้นอย่างจริงจังไม่ใช่แค่คิดและปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ
พันธกุมภา
เร็วๆ นี้ผมและญาติธรรมกำลังร่วมกันดำเนินการจัดพิมพ์ธรรมใจไดอารี่ ฉบับธรรมทาน ซึ่งพี่ๆ ญาติธรรม ทุกๆ คน ที่ได้มาพบเจอ รู้จัก สนทนาธรรมกัน ได้ช่วยเหลือ เกื้อกูล ให้คำปรึกษา แนะนำต่างๆ มากมาย และเมื่อมีผู้เสนอให้ทำ ธรรมใจไดอารี่ขึ้น
พันธกุมภา
สำหรับผมกับแฟน เราทั้งสองคบกันด้วยเหตุแห่งความศรัทธาที่มีต่อกัน ในวันที่เราเจอกันครั้งแรก แม้ไม่ได้รู้สึกอยากจะได้มาครอบครองแต่ด้วยความที่เธอเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่สนใจในทางธรรม ทั้งการถือศีล และการปฏิบัติ ทำให้เราทั้งสองได้สนทนาและแบ่งปันการภาวนาของกันและกันและก็ได้คุยกันเรื่อยมา
พันธกุมภา
วันธรรมดาวันหนึ่ง ชีวิตประจำวันก็ผ่านไปด้วยเหตุปัจจัยเหมือนเดิม มีประชุม ทำค่าย อบรม เดินทางจัดกิจกรรมตามจังหวัดต่างๆ ได้เจอผู้คนมากหน้าหลายตา มีโอกาสได้สนทนากันตามเรื่องราวที่แตกต่างกันไป แต่ข้างในใจกลับเต็มไปด้วยความเฉื่อยชา เบื่อหน่าย ไม่ค่อยมีความสุขเท่าใดนัก
พันธกุมภา
การได้สังเกตจิตใจของตัวเองตามความเป็นจริงตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พบว่าจิตใจนี้มีธรรมชาติแปรเปลี่ยนไปมาตามเหตุปัจจัยเงื่อนไขชีวิต แล้วยังมีปกติไหลลงสู่ที่ต่ำ ไปสู่ความอยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น ความโกรธ ขุ่นเคือง หงุดหงิด ความไม่รู้เนื้อรู้ตัว ขาดสติ เผลอหลงใหลไปกับโลกของความคิดและสิ่งภายนอกใจ
พันธกุมภา
คำอวยพรจากเพื่อนๆ พี่น้อง หลายๆ คน ส่งมายังผมหลายฉบับ ทำให้เกิดความปีติยินดี ที่ได้รับคำอวยพรอย่างยิ่ง และผมก็ได้ตอบกลับไปยังเพื่อนๆ พี่น้อง ทั้งที่ส่งมาและไม่ได้ส่งมา อีกหลายๆ คน การให้พรจึงเสมือนเป็นการให้กำลังใจและบอกให้กันและกันรู้ว่ายังคงระลึกถึงกันอยู่เสมอ
พันธกุมภา
บ่อยครั้งที่การเจริญสติของใครหลายคนติดอยู่กับอารมณ์คือหลงไปแช่อยู่กับอารมณ์นานจึงทำให้เกิดการเผลอยึดมั่นในอารมณ์นั้น กลายเป็นติดหลุม เผลอลงไปแช่ จะรู้สึกมัวๆ หรือเผลอไปแทรกแซง จนยากยิ่งนักที่จะรู้สึกตัวทัน ทั้งนี้ครูบาอาจารย์ท่านแนะไว้ว่าอาจเป็นเพราะจิตยังไม่ถึงฐานหรือจิตยังไม่ตั้งมั่น
พันธกุมภา
  ในการภาวนาบ่อยครั้งนักที่ผมมักจะได้ยินคนอื่นๆ มาเล่าให้ฟังทำนองว่า สถานที่นี้ไม่ดีเลย ไม่เหมาะที่จะภาวนาเลย เสียงก็ดัง คนก็เยอะ ไม่มีที่ ไม่มีทางเดินจงกรมหรือนั่งปฏิบัติเลย เพราะมองว่าการที่จะภาวนาได้นั้นจะต้องไปในสถานที่ที่มีรูปแบบ เช่น มีทางให้เดินจงกรม มีเบาะให้นั่งภาวนา เป็นต้น
พันธกุมภา
ปลายเดือนตุลาคม 2552 นี้ ผมได้มีโอกาสไปภาวนากับพี่ๆ ญาติธรรมเชียงใหม่ ที่สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งพวกเราไปกัน 4 คน ได้แก่ พี่เอ้ พี่ยา พี่นา และผม ซึ่งผมรู้จักพี่ๆ ผ่านทางการสนทนาในอินเตอร์เน็ตและทุกๆ คนก็ภาวนาในแนวดูจิตเหมือนๆ กัน
พันธกุมภา
บ่อยครั้งที่รู้สึกตัว และอารมณ์ต่างๆ เกิดขึ้นภายในใจ มันยิ่งทำให้เห็นว่าเราสามารถตามรู้ ตามดูสภาวะต่างๆ ได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ด้านบวก หรืออารมณ์ด้านลบที่เกิดขึ้นภายในใจ สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีหน้าที่เหมือนกันคือ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ไม่สามารถควบคุมหรือบังคับบัญชาได้
พันธกุมภา
ในแต่ละวันชีวิตคนเราก็มีเวลา 24 ชั่วโมง เหมือนกัน ไม่มีใครมีเวลามากหรือน้อยไปกว่ากัน ทว่าอยู่ที่ว่าใครจะจัดสรรเวลาให้กับตัวเองมากน้อยเพียงใด ทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว และอื่นๆ อีกมายมาย ซึ่งการจัดระดับความสำคัญของภารกิจระหว่างวันแต่ลัอย่างนื้ถือเป็นเรื่องที่ช่วยให้วันแต่ละวันผ่านไปอย่างมีคุณประโยชน์
พันธกุมภา
โดยปกติแล้ว ผมมักจะเป็นคนที่ไม่ชอบอยู่กับที่ เป็นคนที่ชอบเคลื่อนไหวตัวเองไปๆ มาๆ ดังนั้นการเจริญสติด้วยการรู้สึกที่กายและใจเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงไปมานี้ จึงเป็นการภาวนาที่ทำให้ผมถนัดและสามารถรู้สึกตัวได้บ่อยที่สุด